“ทำไมเ้าถึงได้มีสภาพแบบนี้ล่ะ?”
ตอนที่โอวหยางเต้าอวี่เข้าใกล้ซูอี้หราน เขาก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติในทันที
ซูอี้หรานถูกเผาจนตัวดำไหม้เกรียม เมื่อครู่เขาจึงหยิบชุดสีขาวออกมาจากแหวนเก็บของแล้วจะสวมใส่ทันที แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ถ้าใส่ชุดสีขาวจะทำให้หัวดำๆ ของเขาเด่นชัดมากขึ้นอีก เลยเปลี่ยนไปเอาชุดสีดำออกมาใส่แทน
ซึ่งมันก็ทำให้ซูอี้หรานมีสีที่เข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะสมบูรณ์แบบ ทั้งๆ ที่เป็ชุดสีดำที่ดูสง่างาม แต่พอมาสวมอยู่บนตัวเขามันกลับรู้สึกดำทมิฬมาก
“ข้า ... ข้าได้รับาเ็น่ะ” เสียงของซูอี้หรานสั่น
“ใครทำร้ายเ้า?” โอวหยางเต้าอวี่ขมวดคิ้วแน่น
ซูอี้หรานรีบส่ายหน้าทันที เขารู้สึกใจไม่ดีจนต้องหันไปมองลั่วอิงที่นั่งอสูรสัตว์ปีกอยู่ข้างๆ แล้วหันกลับมาพูดว่า “ไม่ใช่คน แต่เป็โลมาตัวหนึ่งในทะเลทรายมันพ่น ... ”
“อย่างนั้นหรือ ไข่ัล่ะ? ขโมยไข่ัได้แล้วใช่ไหม”
โอวหยางเต้าอวี่เองก็ไม่ได้สนใจว่าคำพูดของซูอี้หรานนั้นมันสมเหตุสมผลไหม ตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดคือไข่ของัทะเลทราย เขารีบพูดว่า “เมื่อครู่ข้าเห็นเ้าัทะเลทรายมันไล่ล่าเงาคนคนหนึ่งอย่างบ้าคลั่ง คิดว่าเขาน่าจะได้ไข่ัไปแล้ว เงานั่นมันเลือนรางมาก ข้าก็เห็นไม่ชัด ศิษย์ของเราทั้งสองสายใครเป็คนได้ไปหรือ?”
พอพูดถึงตรงนี้ ซูอี้หรานก็แทบควบคุมความโกรธในใจไม่ได้เลย!
เขาโกรธไม่พูดไม่จา
“มีอะไรน่าโกรธกัน”
โอวหยางเต้าอวี่หมดคำพูด “จะให้ข้าพูดอะไรกับเ้าดี เกียรติยศในครั้งนี้มันก็เป็ของเราทั้งสองสายนั่นแหละ ไม่ว่าใครได้ไข่ัไปเราก็แบ่งรางวัลกันอย่างยุติธรรมอยู่ดี ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เ้าจะมาแสดงความเป็วีรบุรุษคนเดียวนะ เ้าต้องแยกแยะให้ออก”
เห็นหน้าดำๆ ของซูอี้หรานโกรธมาก โอวหยางเต้าอวี่ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ น้องชายของเขาคนนี้เมื่อไหร่จะโตสักทีนะ?
แต่ระหว่างที่โอวหยางเต้าอวี่ถอนหายใจ ซูอี้หรานก็คุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เขายกมือชี้หน้าโอวหยางเต้าอวี่แล้วตะคอกกลับไปว่า “ ... เ้าเลิกพูดได้แล้ว หุบปากไปเลย! น่ารำคาญชะมัด!”
“ทำไมเ้าถึงได้พูดจากับข้าแบบนี้?”
โอวหยางเต้าอวี่จ้องไปที่ซูอี้หรานด้วยความโมโห หากไม่ใช่เพราะยังมีศิษย์ชั้นยอดคนอื่นกับลั่วอิงอยู่ล่ะก็ เขาคงตบสั่งสอนน้องชายไปแล้ว
ซูอี้หรานกลับหันหน้าหนี กัดฟันแล้วก็หายใจหอบแรงด้วยความโกรธ ท่าทางดูน้อยเนื้อต่ำใจสุดๆ ดูแล้วน่าสงสาร
“เอาล่ะ เต้าอวี่ เ้าก็พอได้แล้ว เพราะ ... ”
ลั่วอิงที่อยู่ข้างๆ ถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วก็หยุดพูดไป
“เ้าว่า ข้าไม่โกรธได้หรือ” โอวหยางเต้าอวี่รับมือตามสถานการณ์ เขาจ้องไปที่ลั่วอิง รวบรวมสติ แล้วรอคำตอบจากนาง
ในเวลานี้ลั่วอิงนั้นรู้สึกจนใจอย่างมาก เดิมนางคิดว่าออกไปจากสนามรบร้างโบราณก่อนแล้วค่อยพูดเื่นี้ แต่ตอนนี้เห็นโอวหยางเต้าอวี่ใช้สายตาบีบคั้น นางก็ไม่อาจปกปิดต่อไปได้อีกเลยพูดออกมาตามความเป็จริงว่า “คนที่ชิงไข่ัไปเมื่อครู่ ไม่ใช่คนของเราทั้งสองสาย ... ”
“ ... เ้าว่าอะไรนะ!”
โอวหยางเต้าอวี่ตะคอกกลับ ทำให้ลั่วอิงใอย่างมาก
สายตาของเขาจ้องมาที่ลั่วอิงด้วยความไม่เข้าใจ จากนั้นก็หันไปมองซูอี้หราน แล้วก็กวาดสายตาไปที่ศิษย์ชั้นยอดทุกคน หลังจากที่ได้เห็นสีหน้าแต่ละคนรู้สึกผิด โอวหยางเต้าอวี่ก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เขาแทบจะะเิ
ดูจากสีหน้าท่าทางของทุกคนแล้ว คนของทั้งสองสายไม่ได้ขโมยไข่ัไป ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็ศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียนที่ขโมยไข่ัไปได้!
“ทำไมถึงกลายเป็คนของสายเลี่ยนเหยียนไปได้ล่ะ?”
โอวหยางเต้าอวี่ไม่เข้าใจอย่างมาก พวกเขาออกเดินทางมาก่อน มาถึงทะเลทรายดูดนี่ก่อนคนของสายเลี่ยนเหยียนแน่นอน ไม่ว่าอย่างไรคนของสายเลี่ยนเหยียนก็ไม่น่ามีทางขโมยไข่ัไปได้
ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยยิ่งไม่เข้าใจ โอวหยางเต้าอวี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เ็าว่า “ได้ ไหนบอกข้ามาสิ ใคร ใครใจกล้าถึงขนาดมาขโมยไข่ัใต้จมูกของข้าแบบนี้”
“ิ ... ิอวี่” ลั่วอิงพูดชื่อนี้ออกมาอย่างยากลำบาก
“อะไรนะ?”
โอวหยางเต้าอวี่อึ้งไปเลย ชื่อนี้เหมือนคุ้นหูมาก เขารีบค้นหาในสารบบความทรงจำของตนเอง ไม่กี่อึดใจเขาก็นึกออก ิอวี่คือคนที่ทำร้ายซูอี้หรานไม่ใช่หรือ?
ทันทีทันใดนั้น เืดวงตะวันของโอวหยางเต้าอวี่ก็เดือดพล่านขึ้นมา สีหน้าของเขาแดงเดือด เขาโกรธสุดขีด!
ิอวี่ ...
คนคนนี้ทำให้ทั้งสองสายไม่อาจทำภารกิจฆ่าคนได้สำเร็จ ซ้ำยังทำร้ายน้องชายของเขาจนได้รับาเ็สาหัส แล้วยังทำให้ทุกคนต้องกลับไปมือเปล่าแบบใจสลายเพราะไม่ได้ไข่ัไปอีก?
เมื่อครู่โอวหยางเต้าอวี่ลงทุนลงแรงในการต่อสู้ไปไม่รู้เท่าไร เขาสู้เกือบตายเพื่อยื้อเวลาให้กับพวกซูอี้หราน รู้สึกว่าตนเองนั้นเป็วีรบุรุษผู้ไร้เทียมทานที่สุด แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าทุกอย่างมันไร้สาระสิ้นดี ที่เขามายืนอยู่ตรงนี้ด้วยาแท่วมตัวก็เหมือนหมาโง่ๆ ตัวหนึ่ง!
ก่อนหน้านี้โอวหยางเต้าอวี่ยังวิเคราะห์ให้ซูอี้หรานฟังอย่างมั่นใจ บอกว่าิอวี่นั้นไม่น่าจะอยู่ในสนามรบร้างโบราณแล้ว แต่ตอนนี้ิอวี่กลับขโมยไข่ัไปใต้จมูกเขานี่เอง ...
มันเหมือนเขาถูกตบหน้าเข้าให้อย่างจัง อย่างไร้ความปรานี
พอนึกถึงการวิเคราะห์ที่มีเหตุมีผลมากก่อนหน้านี้แล้ว เวลานี้เขารู้สึกว่ามันน่าขำมาก ...
โอวหยางเต้าอวี่กำหมัดแน่น สายตาดูเหี้ยมโหดอย่างมาก ลมปราณเกือบจะะเิออกมาจากภายในของเขาจนหมดสิ้น!
สายเลี่ยนเหยียนที่ควรจะถอนตัวออกไปั้แ่แรก บวกกับการกระทำของิอวี่ มันกระตุ้นความคิดที่อยากจะต่อสู้ของโอวหยางเต้าอวี่ขึ้นมา
เพื่อปกป้องความถูกต้องในใจ จะต้องเร่งทำลายสายเลี่ยนเหยียน ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ เขาก็จะไม่ปฏิเสธเลย
หลังจากที่กลับไปยังสายหรงเหยียนในครั้งนี้ แผนการทำลายสายเลี่ยนเหยียนก็จะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็ทางการ!
ถึงแม้ภารกิจจะล้มเหลว แต่โอวหยางเต้าอวี่กำลังจะมีอายุเต็มสิบแปด สายเืดวงตะวันกำลังจะสมบูรณ์แบบในวัยนี้ พร์ปีศาจก็จะถูกเปิดออก มีรังสีดวงอาทิตย์ฉายอยู่ด้านหลังที่เหมือนสุริยเทพจุติ!
พูดกันตามตรง โอวหยางเต้าอวี่ไม่รู้เลยว่าตัวเขานั้นจะสามารถพัฒนาก้าวหน้าไปได้น่ากลัวแค่ไหน
ขอบเขตอมฤตขั้นที่สี่ หรือว่าขอบเขตอมฤตขั้นที่ห้า?
หรือว่าถึงเวลานั้น พร์และความสามารถของเขาอาจจะเทียบเท่ากับผู้กล้าที่มีพร์ของสามสายกลางได้ เผชิญหน้ากับัทะเลทรายได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัว!
ถึงเวลานั้น เขาก็จะอาศัยความสามารถของตนเข้าเป็ศิษย์ชั้นยอดขั้นสูง หลังจากนั้นอีกครึ่งปีก็เป็ตัวแทนของสายหรงเหยียนเข้าร่วมงานประลองจวินอิง แล้วก็จะเอาชนะคนของสายเลี่ยนเหยียนจนทำให้พวกเขาหมดอำนาจลงไป
การแข่งขันในครั้งนั้น ผู้บริหารระดับสูงของสำนักเทพอัคคีให้ความสำคัญมาก หากสายเลี่ยนเหยียนพ่ายแพ้ยับเยิน ถ้าอย่างนั้นการส่งเื่ไปถึงผู้บริหารชั้นสูง เื่การยุบสายเลี่ยนเหยียนก็จะเริ่มต้นขึ้นทันที!
ภารกิจสนามรบร้างโบราณในครั้งนี้ถึงแม้จะไม่ได้ระบุว่าศิษย์ชั้นยอดขั้นสูงเข้าร่วมด้วย แต่แผนการสังหารศิษย์ชั้นยอดก็สามารถลดทอนกำลังของสายเลี่ยนเหยียนลงได้ และมันทำให้พวกเขาได้เปรียบในงานอีกครึ่งปีข้างหน้า
ซึ่งก็แน่นอนแล้วว่า แผนการในครั้งนี้มันไม่เป็อย่างที่คิด แผนนี้ไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อทั้งสองสายมาก เพราะเทพทะเลาะกัน คนธรรมดาก็ยุ่งไม่ได้อยู่ดี
ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้สายเลี่ยนเหยียนจะดิ้นรนมากแค่ไหนก็เป็แค่การหายใจรวยรินก่อนตายเท่านั้นเอง
ด้วยพลังฝีมือของิอวี่ในตอนนี้ ให้เวลาเขาอีกสองปีก็ไม่มีทางเลื่อนไปเป็ศิษย์ชั้นยอดขั้นสูงของสายเลี่ยนเหยียนได้ หลังจากนี้อีกครึ่งปีกว่า เขาก็จะต้องยืนมองสายเลี่ยนเหยียนดับสูญไปต่อหน้าต่อตา! ดังนั้น ครั้งนี้ิอวี่ดูเหมือนจะคลี่คลายสถานการณ์อันตรายไปได้ แต่ที่จริงแล้วอันตรายต่างๆ มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น แค่ิอวี่ยังไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง
“ข้าจะทำให้เ้ามาคุกเข่าตัวสั่นต่อหน้าข้า”
คำพูดของโอวหยางเต้าอวี่แทบจะเป็การกัดฟันพูดออกมา เขาหยิบหยกออกมาแล้วออกแรงบีบมันจนแตก
......
ภายในช่องทางมิติ เนื่องจากมีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกอย่างโดยรอบมันบิดเบี้ยวไปหมด
เ้าวิหคัปีกมืดพยายามรักษาความสมดุลของร่างกายเอาไว้ ใช้แรงต้านการทะลุทะลวงมิติอย่างเต็มที่ ในเวลาไม่ถึงห้านาที มันก็พาิอวี่กับเิหยูเยียนกลับมาสู่โลกปัจจุบันได้แล้ว
ผู้ดูแลหลายคนเฝ้าอยู่ด้านนอกตลอดหลายวันที่ผ่านมา ขอแค่ิอวี่ทะลุออกมา แล้วเอาไข่ัมาวางเอาไว้ตรงหน้าของผู้ดูแล พวกเขาก็จะตัดสินให้สายเลี่ยนเหยียนชนะในภารกิจครั้งนี้ทันที
ในห้านาทีก่อนหน้านี้ ไข่ัที่อยู่ด้านหลังของเ้าวิหคัปีกมืดกลับส่องแสงออกมา มันกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างคาดไม่ถึง
ิอวี่สำรวจไข่ัที่อยู่ตรงหน้าอย่างเงียบๆ ก่อนที่ไข่ัจะเปลี่ยนแปลงเสร็จสมบูรณ์ เขาไม่กล้าไปแตะต้องอะไรมันเลยแม้แต่นิดเดียว
ลายเส้นอักขระสีดำแผ่กระจายไปทั่วทุกมุมของเปลือกไข่ัและห่อหุ้มมันเอาไว้จนหมด ลายเส้นอักขระพวกนั้นดูเหมือนมีชีวิตและกำลังเลื้อยพันไปทั่วไข่ั มันดูเป็ลวดลายเหมือนท้องถนน แต่ละเส้นนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
ิอวี่ััได้อย่างชัดเจนว่า ลมปราณบริสุทธิ์สีขาวของอสูรด้านในมันกำลังถูกลายเส้นอักขระสีดำดูดแนบติด!
จากนั้นลายเส้นอักขระสีดำมันก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็สีขาว!
เหตุการณ์ประหลาดแบบนี้ เิหยูเยียนที่อยู่ด้านหลังของิอวี่นั้นก็มองเห็นทุกอย่าง นางยื่นหัวออกมาดู เห็นไข่ัตรงหน้าแปลกๆ ก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
“ิอวี่ นี่มัน ... ”
“จุ๊จุ๊ ... ”
ิอวี่ทำมือให้เบาๆ แล้วพูดว่า “ข้าหวังว่าเ้าจะไม่เอาสิ่งที่เ้าเห็นไปบอกใครนะ”
ิอวี่หันมามองเิหยูเยียน สายตาแสดงความจริงใจออกมาอย่างมาก หากเื่นี้ผู้บริหารระดับสูงของสำนักเทพอัคคีรู้เข้า เขาก็จะไม่สามารถดูดซับลมปราณตัวอ่อนอสูรได้ ถึงเวลานั้นเขาก็จะไม่สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการต่อสู้กับพวกซูอี้หรานที่จะมาแก้แค้นได้
แต่เขาเชื่อใจเิหยูเยียน เพราะคลุกคลีกันมานานขนาดนี้แล้ว เขารู้สึกว่าท่าทีของนางเปลี่ยนไปมาก ไม่เอาแต่ใจ ไม่เ็าแล้ว ิอวี่ยังรู้สึกว่านางเชื่อฟังเขามากด้วย
ถ้าเช่นนั้น ิอวี่ก็มีเหตุผลมากพอที่จะเชื่อว่าเิหยูเยียนจะฟังที่เขาพูด
เิหยูเยียนเบะปาก แล้วมองไปที่ไข่ัที่แปลกประหลาดด้วยความสงสัย นางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “หากผู้าุโใหญ่รู้ว่าเ้าทำอะไรกับไข่ั ถ้าอย่างนั้น ... ”
“ไม่หรอก” ิอวี่ส่ายหน้า แล้วพูดอย่างมั่นใจ
“ ... อือ”
เิหยูเยียนรู้สึกว่าิอวี่ลึกลับมากขึ้น นางมองไม่ออกเลยว่าเขามีไพ่ไม้ตายอะไรอยู่เื้ั เขาเหมือนปริศนาที่เดาไม่ออก เหมือนกระแสน้ำวนที่ดึงดูดให้นางสนใจ
“ข้าจะไม่พูด แต่เ้าต้องให้ข้าได้เห็นว่ามันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรนะ”
มือที่เิหยูเยียนกอดิอวี่นั้นยังไม่ได้ปล่อย นางเอาคางเล็กๆ ของนางก่ายเอาไว้บนหัวไหล่ของิอวี่ แล้วมองดูไข่ัที่อยู่ด้านหน้าอย่างตื่นเต้น
ในเวลานี้เอง การเปลี่ยนแปลงของไข่ัมันเริ่มเด่นชัดมากขึ้น ลายเส้นอักขระสีดำค่อยๆ กลายเป็สีขาว จากนั้นลายเส้นอักขระสีขาวทั้งหมดก็หดตัวและเริ่มรวมตัวกัน
