เป็เวลาหลายวันติดต่อกัน ที่สวี่ชิวเยวี่ยตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ ยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมติ่มซำที่ฮูหยินเยี่ยนโปรดปรานที่สุดเป็อาหารเช้าให้นาง ในความเอาใจใส่นั้น น้อยคนนักที่จะทำได้ เดิมทีฮูหยินเยี่ยนก็รู้สึกชอบและชื่นชมสวี่ชิวเยวี่ยอยู่เล็กน้อย เมื่อเห็นสวี่ชิวเยวี่ยเอาใจใส่เช่นนี้แล้ว จึงยิ่งหวงแหนนางยิ่งขึ้นไปอีก
ชัดเจนว่าสวี่ชิวเยวี่ยนั้นสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในท่าทีของฮูหยินเยี่ยน และได้รับความเชื่อใจเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย เพื่อทำให้ตำแหน่งของตนในใจของฮูหยินเยี่ยนมั่นคง สวี่ชิวเยวี่ยจึงผลักความคิดที่อยากจะไปทำนั่นทำนี่กับเยี่ยนอวิ๋นเฟยออกไป แล้วทำตัวให้เป็คนว่าง่ายน่าเอ็นดูและเข้าอกเข้าใจผู้อื่น
สวี่ชิวเยวี่ยค่อยๆ กลายเป็คนโปรดข้างกายของฮูหยินเยี่ยนอีกครั้ง ความรู้สึกดีที่ฮูหยินเยี่ยนเคยมีต่อสวี่ชิวเยวี่ยก็กลับไปสู่ระดับเดิมเช่นก่อนหน้านี้
แต่สำหรับฮูหยินเยี่ยนแล้ว ‘เยวี่ยเยียนหราน’ ในตอนนี้ก็เหมือนว่าจะไม่ได้น่าชิงชังสักเท่าไร โดยเฉพาะหลังจากที่ ‘เยวี่ยเยียนหราน’ ช่วยแก้ไขความบาดหมางระหว่างอาจารย์อวี้กับเยี่ยนอวิ๋นหลิ่ว ฮูหยินเยี่ยนนับวันก็ยิ่งรู้สึกว่า ‘เยวี่ยเยียนหราน’ ผู้นี้ ก็มีความสามารถอยู่บ้าง
เื่นั้นสำหรับสวี่ชิวเยวี่ยนับว่าเป็ภยันตรายอันใหญ่หลวง ในจวนเยี่ยนมีบุรุษเพียงคนเดียวคือเยี่ยนอวิ๋นเฟย และข้ากายเยี่ยนอวิ๋นเฟยก็มีสตรีเพียงสวี่ชิวเยวี่ยและเยวี่ยเยียนหรานสองคน ดังที่ว่า ‘สิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งก็มอดดับ’ ที่ยืนในใจฮูหยินเยี่ยน หากเพิ่มเยวี่ยเยียนหรานเข้ามา เช่นนั้นที่ของสวี่ชิวเยวี่ยก็จะลดลงตามไปด้วย
เดิมเยวี่ยเยียนหรานก็ได้พื้นที่ในหัวใจเยี่ยนอวิ๋นเฟยไปแล้ว จะให้นางได้รับความโปรดปรานของฮูหยินเยี่ยนได้อย่างไร? นั่นเป็เื่ที่สวี่ชิวเยวี่ยไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด... ดังนั้น สวี่ชิวเยวี่ยจึงต้องลงมือทำอะไรกับเยวี่ยเยียนหรานบ้างแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้ยินฮูหยินเยี่ยนชมเชยเยวี่ยเยียนหรานไปหลายครั้งหลายครา จนสวี่ชิวเยวี่ยแทบนั่งไม่ติด
าระหว่างผู้หญิงนั้นไร้ควันดินปืน ทว่าแม้มองดูคล้ายกับไร้ความรุนแรง แต่มันกลับมักจะเคล้าคาวเือยู่เสมอ
พวกนางใช้เล่ห์เหลี่ยมแทงข้างหลังและกลั่นแกล้งให้ลำบาก ในเงามืดนั้นวางยาพิษอีกฝ่ายอย่างไร พูดจาให้ร้ายกันเพียงใด นั่นเป็สิ่งที่เหล่าบุรุษไม่อาจจินตนาการได้เลย
และสวี่ชิวเยวี่ยก็นับว่าเป็มือฉมังเลยทีเดียว สวี่ชิวเยวี่ยใช้ประโยชน์จากการอยู่ข้างกายฮูหยินเยี่ยนทุกวัน พูดถึงความผิดพลาดของเยวี่ยเยียนหรานอ้อมๆ และทุกครั้งมันก็ตรงใจ จนทำให้ความรู้สึกดีที่มีต่อเยวี่ยเยียนหรานของฮูหยินเยี่ยนลดลงไปเรื่อยๆ
“ได้ยินว่า ่นี้พี่อวิ๋นเฟยมักจะมาสายตลอด...”
สวี่ชิวเยวี่ยในมือถือสะดึง ค่อยๆ ปักร้อยลวดลายบนผ้าทีละเข็ม พลางแสร้งทำเป็เอ่ยหัวข้อสนทนาขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ แม้ฮูหยินเยี่ยนไม่ได้คาดหวังอะไรเป็พิเศษในเื่การเรียนของเยี่ยนอวิ๋นหลิ่ว แต่อย่างไรก็ต้องไว้หน้าอาจารย์อวี้บ้าง ไม่แตกต่างจากที่คาดการณ์ เมื่อได้ยินสวี่ชิวเยวี่ยพูดถึงเื่ที่เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วเข้าเรียนสาย ฮูหยินเยี่ยนก็หยุดการปักเย็บในมือลง
“เกิดอะไรขึ้น?” คิ้วของฮูหยินเยี่ยนขมวดมุ่น วางของในมือลง
“ไอ้หยา ก็คงไม่มีอะไรมากหรอกเ้าค่ะ... ข้าเองก็ฟังคนใช้พวกนั้นนินทาลับหลังมาเหมือนกัน คิดดูแล้วก็คงเป็คำพูดเหลวไหลไร้มูลเหตุ...”
สวี่ชิวเยวี่ยรู้ว่าคำพูดของตนดึงดูดความสนใจของฮูหยินเยี่ยนได้สำเร็จแล้ว ย่อมต้องเติมน้ำมันใส่กองเพลิง นางเอ่ยต่อไป แต่เพื่อปฏิบัติตาม ‘กฎของดอกบัวขาว’ ที่ไม่แปรเปลี่ยน จึงยังต้องวางท่าทีทำเป็ปฏิเสธเล่นตัว
“แต่ว่า พี่อวิ๋นเฟยกับพี่สะใภ้ก็เป็คู่แต่งงานใหม่ หากจะใช้เวลาร่วมกันมากสักหน่อย ก็น่าจะสมควรอยู่นะเ้าคะ?”
หญิงสาวก้มหน้า มือที่ขยับปักผ้าก็ไม่ได้หยุดลง ยามปลายเข็มดึงเส้นด้ายลอดผ่าน ก็ฉุดลากคำติฉินนินทาออกมา แทรกเข้าไปในหูและจิตใจของฮูหยินเยี่ยน
เพียงได้ยินฮูหยินเยี่ยนก็แค่นเสียงเฮอะ แล้วเอ่ยอย่างเ็า “สตรีทำให้เสียงานเสียการ คำพูดนี้ว่าไว้ไม่ผิด!”
ใช่แล้ว โดยเฉพาะสตรีอย่างเยวี่ยเยียนหราน ช่างทำให้เื่ราวยุ่งเหยิงเสียจริง ดังนั้นคนฉลาดอย่างสวี่ชิวเยวี่ย จะนั่งเฉยมองสตรีผู้นี้ทำลายแผนการ ขัดขวางเส้นทางที่จะปีนป่ายขึ้นที่สูงของตนได้อย่างไรกันเล่า?
สวี่ชิวเยวี่ยสงบนิ่ง แต่กลับเงยหน้าลอบเหลือบมองฮูหยินเยี่ยนเล็กน้อย แสร้งทำเป็พูดโน้มน้าวโดยไม่หันไปมอง “ท่านป้าอย่าขุ่นเคืองไปเลย นั่นอาจไม่ใช่ความผิดของพี่สะใภ้ก็ได้ บางทีอาจเป็เพราะพี่อวิ๋นเฟยชอบพูดคุยกับพี่สะใภ้เท่านั้นเอง...”
แต่ในใจของฮูหยินเยี่ยนนั้นรู้ดี เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วไม่ใช่เยี่ยนอวิ๋นเฟย นางเป็สตรี จะถูกเยวี่ยเยียนหรานที่เป็สตรีเช่นเดียวกันดึงดูดได้อย่างไร? เว้นเสียแต่ว่ารสนิยมทางเพศของลูกสาวตนนั้นไม่ปกติ!
“เฮ้อ เป็ไปได้อย่างไร อวิ๋น... อวิ๋นเฟยเขาไม่ใช่คนเช่นนั้น”
ฮูหยินเยี่ยนอดกลั้นอารมณ์ชั่ววูบที่จะพลั้งปากเรียกชื่อเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วเอาไว้ แล้วจึงเอ่ยเช่นนั้น
ดังนั้น นางจึงตัดสินว่าผู้ที่เป็ฝ่ายผิดของเื่นี้ก็คือเยวี่ยเยียนหรานที่ไม่น่าอภิรมย์ผู้นั้น! ความเกลียดชังในใจที่มีต่อเยวี่ยเยียนหรานเองก็เพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย
สวี่ชิวเยวี่ยปิดปากเงียบ ไม่เอ่ยอะไรมากความอีก นางเพียงแค่ก้มหน้าลงอีกครั้ง สายตาจ้องมองไปที่สะดึงของตนอย่างจริงจัง แล้วจึงตั้งใจปักลวดลายยวนยางคู่ [2] ลงบนผ้าอีกครั้ง
ในยามที่ไม่มีใครมองเห็น ริมฝีปากของสวี่ชิวเยวี่ยกลับปรากฏรอยยิ้มโค้งออกมาอย่างพอดิบพอดี ราวกับชื่นชมการกระทำอันชาญฉลาดและเลื่อมใสในการหยั่งรู้ที่แม่นยำของตนอย่างไรอย่างนั้น...
บทสนทนาถูกตัดจบไปเช่นนั้น แต่ความริษยาและการประทุษร้ายต่อเยวี่ยเยียนหรานของสวี่ชิวเยวี่ยกลับไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้นลง
ด้วยเหตุผลที่เยวี่ยเจาหรานเป็ ‘ภรรยาเอก’ ทุกวันที่หนึ่งและสิบห้าของเดือน จะต้องไปทานอาหารกับแม่ทัพเยี่ยนและฮูหยินเยี่ยนที่เรือนหลักพร้อมกับเยี่ยนอวิ๋นหลิ่ว เนื่องจากเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วยุ่งอยู่กับการเรียนหนังสือกับอาจารย์อวี้ ดังนั้นจึงมีเื่มากมายที่ไม่อาจดูแลได้ และภาระนั้นก็ได้แต่ตกลงบนไหล่ของเยวี่ยเจาหราน
เยวี่ยเจาหรานนั้นต่อให้ภายในใจจะไม่ยินยอม ก็ไม่อาจบ่ายเบี่ยงได้ ทุกครั้งจึงได้แต่ให้คนในครัวเล็กทำอาหารให้ตน แล้วโกหกว่าเป็ของที่ตนทำ จากนั้นก็นำไปให้ฮูหยินเยี่ยน
สวี่ชิวเยวี่ยนั้นจับช่องโหว่นี้ได้ จึงส่งคนไปเพิ่มส่วนผสมในอาหารที่เยวี่ยเจาหรานเตรียมให้ฮูหยินเยี่ยน จุดพลิกผันมาถึง แต่ก็นับว่าเป็ตาต่อตาฟันต่อฟัน
เยวี่ยเจาหรานที่ถูกคิดบัญชีนั้นไม่รู้อะไรเลยแม้แต่น้อย เขายังคงนำอาหารตรงไปยังเรือนของฮูหยินเยี่ยน บังเอิญว่าแม่ทัพเยี่ยนไม่ได้อยู่ด้วย เยวี่ยเจาหรานจึงถูกทิ้งเอาไว้ หากเรียกให้ไพเราะก็คือการสนทนาภายในครอบครัวระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ ทว่าหนังตาของเยวี่ยเจาหรานกลับกระตุกขึ้นมากะทันหัน ราวกับจะร้องเตือนตนว่าทุกอย่างไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เห็น
“พวกเ้าสามีภรรยาเป็คู่แต่งงานใหม่ มีความสัมพันธ์ดี ข้าในฐานะแม่ก็รู้สึกยินดี...” ฮูหยินเยี่ยนหยิบติ่มซำชิ้นหนึ่งใส่เข้าปาก แล้วดื่มชาอีกจิบหนึ่ง จึงเอ่ยต่อ “แต่ตอนนี้อวิ๋นเฟยมีอาจารย์สอนหนังสือ ทั้งเป็คนที่ฝ่าาเลือกมาด้วยพระองค์เอง แม้แต่ข้าและท่านพ่อของพวกเ้าก็ยังต้องไว้หน้า ไม่อาจไม่ให้เกียรติ”
ระหว่างที่เอ่ยก็ได้เผยความรู้สึกภายในออกมาไม่น้อย “ความหมายของข้า เ้าคงจะเข้าใจใช่หรือไม่?”
แม้เยวี่ยเจาหรานจะฟังด้วยความงุนงง แต่ถึงอย่างไรก็เป็ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์กับฮองเฮามาแล้ว ย่อมสามารถคาดเดาได้ว่า นี่เป็เพราะมีใครบางคนเป่าหูฮูหยินเยี่ยนอยู่เื้ั จึงรีบพยักหน้า แล้วเอ่ยอย่างราบเรียบ “ข้าเข้าใจเ้าค่ะ ยามนี้อวิ๋นเฟยควรให้ความสำคัญกับการเรียน ข้าจะไม่ทำอะไรให้กระทบต่อเขาเ้าค่ะ”
“อืม... เ้าเข้าใจก็ดีแล้ว” ฮูหยินเยี่ยนเห็นนางเข้าใจอะไรง่าย ก็ไม่อยากจะเอ่ยอะไรให้มากความไปกว่านี้ นางจึงหยุดอยู่แค่นั้น และยอมปล่อยเขาไปก่อน
สวี่ชิวเยวี่ยที่ยืนนิ่งเงียบอยู่ข้างกายฮูหยินเยี่ยนมองเงาหลังที่ไกลออกไปของเยวี่ยเจาหราน แล้วมองจานขนมที่ฮูหยินเยี่ยนกินไปแล้วสองชิ้นอีกครั้ง ในใจมีรอยยิ้มเย็นเยือกล่องลอยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้...
เชิงอรรถ
[1] ยวนยาง (鸳鸯) เป็ดแมนดาริน (เป็ดแมนดารินคือสัญลักษณ์แห่งรักแท้ และเป็สัตว์มงคลของชาวจีน)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้