เมื่อห้อยเหรียญผู้กล้าเอาไว้ที่อกแล้วเย่เทียนเซี่ยก็ทรุดตัวลงใช้ทักษะเก็บรวบรวมกับซากพยัคฆ์าอเมทิสต์
“ติ๊ง! ท่านได้เก็บรวบรวมหนังพยัคฆ์าอเมทิสต์ 1 แผ่น”
“ติ๊ง! ท่านได้เก็บรวบรวมเนื้อพยัคฆ์าอเมทิสต์ 7 ชิ้น”
“ติ๊ง! ท่านได้เก็บรวบรวมไอเทมพิเศษ ‘เศษแร่อเมทิสต์’”
“เอ๋?” เย่เทียนเซี่ยใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้คีบหินก้อนเล็กๆก้อนหนึ่งที่ทอแสงสีม่วงสว่างจ้าขึ้นมา เขารู้สึกได้ถึงการกัดกร่อนและการไหลของกระแสไฟฟ้าจากนิ้วทั้งสอง ใยสายฟ้าที่ปกคลุ่มหินก้อนนั้นเป็ชั้นๆขยับไหวไปมา เกิดเป็เสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าแปลบปลาบ
เศษแร่อเมทิสต์ : เดิมทีแล้วเป็หยกชิ้นหนึ่งที่มีอายุเป็พันปี ต่อมาได้รับพลังโจมตีด้วยธาตุสายฟ้าที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากการต่อสู้ระหว่างปราชญ์ทั้งสิบสองแห่งทวีปที่หายสาบสูญและาาปีศาจทั้งแปด ั้แ่นั้นมาก็ได้เก็บรวบรวมพลังสายฟ้าแรงสูงเอาไว้ภายใน จนกระทั่งาาเสือกลืนมันเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ และกลายเป็พยัคฆ์าอเมทิสต์ระดับขุนนางเลเวล 20 ที่มีพลังสายฟ้า เนื่องจากพยัคฆ์าอเมทิสต์กลืนแร่อเมทิสต์เข้าไปเป็เวลาสั้นๆ จึงยังไม่สามารถดูดซับพลังงานได้ทั้งหมด ทำให้ในร่างกายยังเหลือเศษแร่อเมทิสต์ก้อนเล็กๆก้อนสุดท้ายอยู่
ผลลัพธ์ของไอเทม : หลังใช้ไอเทมนี้แล้วคุณสมบัติความต้านทานไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นถาวร 5% และสร้างความเสียหายจากเวทย์ไฟฟ้าได้มากขึ้น 1%
เห็นดังนั้นเย่เทียนเซี่ยก็กลืนเศษแร่อเมทิสต์ลงท้องไปอย่างไม่ลังเล ไอเทมที่เพิ่มคุณสมบัติได้อย่างถาวร ความเป็ไปได้ที่สิ่งนี้จะปรากฏออกมาน้อยซะยิ่งกว่าน้อย มูลค่าของมันสูงมากจนเกือบจะประเมินค่าไม่ได้ ถือได้ว่านี่เป็สมบัติล้ำค่าที่แท้จริง
“ติ๊ง! ท่านได้ใช้ ‘เศษแร่อเมทิสต์’ ไปแล้ว ความต้านทานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถาวร 5% เมื่อใช้เวทย์ไฟฟ้าจะสามารถสร้างความเสียหายได้มากขึ้น 1%”
ซากของพยัคฆ์าอเมทิสต์ที่ถูกเก็บเกี่ยวไปจนเกลี้ยงหายไปจากพื้น เย่เทียนเซี่ยยืนขึ้นแล้วมองไปด้านหน้า ไกลออกไปเขามองเห็นประตูหินที่เคยถูกปิดเอาไว้ได้ถูกเปิดออกแล้ว เขายิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะเดินตรงไปทางนั้น...... เมื่อก้าวเข้าไปในประตูบานนั้นหูของเขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นเบาๆ ภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนเป็สีขาวสว่าง แล้วความว่างเปล่าโดยรอบก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเขาก็กลับมายืนอยู่ที่ด้านนอกเมืองเริ่มต้น เขาถือ ‘ใบรับรองผ่านการทดสอบระดับนรก’ เอาไว้ในมือและก้าวเข้าไปด้านในเมืองเริ่มต้น ตรงไปหาเ้าเมืองเริ่มต้นทันที
“ท่านเ้าเมือง ผมกลับมาแล้วครับ” เย่เทียนเซี่ยทักทายเ้าเมืองเริ่มต้นอย่างเป็มิตร เมื่อเ้าเมืองเริ่มต้นมองเห็นเขาก็เบิกตาโตเหมือนก่อนหน้านี้แต่กลับไม่พูดอะไรออกมาซักคำ เขาเพียงแค่มองเย่เทียนเซี่ยั้แ่หัวจรดเท้าก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดต่อไป
“ไม่เลว เ้าออกมาช้ากว่าที่ข้าคิดไว้มากทีเดียว ฮ่าๆๆๆๆๆ ตอนนี้เ้าคงเข้าใจแล้วสินะ การทดสอบระดับนรกมันเป็การทดสอบที่ไม่มีทางผ่านไปได้จริงๆ ไม่เป็ไร เ้าสามารถยืนหยัดได้นานขนาดนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว.......” คำพูดของเ้าเมืองเริ่มขาดหายไปกลางประโยค สองตาของเขาเบิกกว้างจนแทบถลนจ้องมองมาที่หน้าอกของเย่เทียนเซี่ย เขานิ่งค้างไปอยู่นานก่อนจะพูดออกมาตะกุกตะกัก “ห......ห........เหรียญผู้กล้า....... จะ.......เ้าผ่านการทอสอบระดับนรกงั้นรึ น.....น......นี่....นี่....”
NPC จะไม่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบใน World of Fate ดังนั้นเ้าเมืองเริ่มต้นจึงไม่รู้ว่าเย่เทียนเซี่ยผ่านการทดสอบระดับนรกเรียบร้อยแล้ว เ้าเมืองคิดไม่ถึงเลยจริงๆ การทดสอบระดับนรกแท้จริงแล้วยากแค่ไหนไม่มีใครรู้ดีไปมากกว่าเขา แม้แต่การทดสอบขั้นสุดท้ายที่เป็พยัคฆ์าอเมทิสต์ที่ไม่อาจเอาชนะได้เขาก็รู้จักมันดี ความแข็งแกร่งที่ทั้งเมืองเริ่มต้นไม่อาจเทียบได้ ไม่ต้องพูดถึงคนแค่ 12 คน ไม่ว่าจะเป็สิบคนร้อยคนก็ไม่มีทางโค่นมันลงได้........ นอกจากนี้เย่เทียนเซี่ยยังผ่านมาได้ด้วยตัวคนเดียว แม้ว่าก่อนหน้านี้เ้าเมืองจะคอยเป็กำลังใจให้เย่เทียนเซี่ยและยังพยายามให้ความช่วยเหลือแก่เขา แต่ทว่าในความรู้สึกประทับใจที่มีต่อเย่เทียนเซี่ย เ้าเมืองก็ทำได้แค่เป็กำลังใจและพยายามช่วยเหลือเขาเท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายแล้วเย่เทียนเซี่ยจะผ่านการทดสอบระดับนรกจริงๆ....... เพราะคนที่จะได้รับเหรียญผู้กล้ามีเพียงผู้ที่ผ่านการทดสอบระดับนรกเท่านั้น!
“ครับ นี่ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของท่านเ้าเมืองมากจริงๆ ไม่อย่างนั้นเดิมทีความสามารถของผมคนเดียวคงไม่มีทางผ่านมาได้” เย่เทียนเซี่ยบอกไปยิ้มๆ มันเป็เื่จริง ถ้าไม่มีน้ำยาฟื้นฟูพิเศษ 20 ขวดและจดหมายแนะนำเขาให้กับหยวนเชว่ที่ท่านเ้าเมืองให้มาอันนำไปสู่ไปเทมพิเศษพวกนั้น แม้ว่าเขาจะสามารถผ่านด่านแรกๆไปได้ แต่ก็คงแทบจะไม่มีความหวังที่จะเอาชนะพยัคฆ์าอเมทิสต์ได้เลย
เ้าเมืองมองเย่เทียนเซี่ยอย่างตกตะลึงเป็เวลานาน ในที่สุดใบหน้าตื่นตะลึงของเ้าเมืองเริ่มต้นก็กลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง เขาเผยรอยยิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดออกไปอย่างตั้งใจ “ไม่หรอก ตาแก่หยวนนั่นมีของอะไรบ้างข้าเองล้วนรู้ดี ต่อให้เ้าซื้อมันไปทั้งหมดแต่ถ้าเ้าไม่มีความสามารถอันน่าสะพรึงกลัวล่ะก็ เ้าก็คงไม่มีทางโค่นล้มศัตรูอันแข็งแกร่งของการทดสอบระดับนรกได้หรอก” เขาเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาอย่างขมขื่น
“แม้ว่าข้าจะเชื่อมาโดยตลอดว่าเ้าจะต้องกลายเป็ผู้กล้าที่ยอดเยี่ยมแน่นอน แต่ข้าก็ยังประเมินเ้าต่ำไป....... หลายปีมานี้มีเ้าเป็คนที่สองที่ได้รับเหรียญผู้กล้า เมื่อข้าได้มีโอกาสเป็สักขีพยานในการเกิดปาฏิหาริย์ด้วยตัวเองแบบนี้ ข้าก็รู้สึกยินดีจริงๆ ข้าหวังว่าจะได้เห็นเ้าได้รับเหรียญเทพาและเหรียญวีรบุรุษในตำนานแล้วก้าวเข้าสู่หอคอยแห่งโชคชะตาอันลึกลับในซักวัน”
“เหรียญวีรบุรุษ....... เหรียญเทพา.......หอคอยแห่งโชคชะตา?” เย่เทียนเซี่ยแสดงความสงสัยออกมา มองไปยังเ้าเมืองเริ่มต้นเหมือนอยากจะถามบางอย่าง
เ้าเมืองเริ่มต้นแหงนหน้าหวนนึกถึงความทรงจำอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา “เมื่อเ้าสามารถเอาเหรียญแห่งผู้กล้ามาได้ เ้าก็มีคุณสมบัติที่จะรับรู้เื่ราวเหล่านี้ เฮ้อ... ตอนนั้นาาปีศาจทั้งแปดที่นำภัยพิบัติมาสู่ทวีปที่สาบสูญได้ต่อสู้กับปราชญ์ทั้งสิบสอง จนในที่สุดพวกมันก็ถูกปราชญ์ทั้งสิบสองใช้ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาผนึกเอาไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตา หอคอยแห่งโชคชะตามีทั้งหมด 111 ชั้น ที่แห่งนั้นคุมขังและผนึกสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนเอาไว้ พวกนั้นล้วนเป็มอนสเตอร์ปีศาจดุร้ายทั้งสิ้น ยิ่งหอคอยสูงขึ้นเท่าไรพลังผนึกของหอคอยแห่งโชคชะตาก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น ยิ่งสูงขึ้นไปมอนสเตอร์ที่ถูกผนึกไว้ในหอคอยก็จะยิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้นตามไปด้วย ขณะเดียวกันตำแหน่งของหอคอยแห่งโชคชะตาก็ตั้งอยู่ใจกลางทวีปที่สาบสูญ พลังที่คอยค้ำจุนมันและคอยรักษาผนึกไว้ก็คือ ‘ห้วงเวลาแห่งโชคชะตานิรันดร์’ ซึ่งเป็พลังหลักของทวีปทั้งทวีป แต่ทว่าเมื่อสามปีก่อนห้วงเวลาแห่งโชคชะตากลับหายสาบสูญไปจากยอดหอคอยแห่งโชคชะตาอย่างไร้ร่องรอย การหายสาบสูญของมันทำให้พลังของผนึกที่ควบคุมหอคอยแห่งโชคชะตาอยู่อ่อนแอลงทุกวันๆ ในที่สุดวันหนึ่งไอปีศาจจำนวนมหาศาลก็ทะลักออกมาจากยอดหอคอยแห่งโชคชะตา มันคือไอปีศาจอันแข็งแกร่งของาาปีศาจทั้งแปดที่ถูกผนึกอยู่ในนั้น ต่อมาไม่นานพวกมันก็หนีออกมาจากหอคอยแห่งโชคะตาได้สำเร็จ และหายไปอย่างไร้ร่องรอย”
เ้าเมืองเริ่มต้นถอนหายใจยาวแล้วจึงพูดต่อ “ในตอนที่ต่อสู้กับาาปีศาจทั้งแปดอยู่นั้นปราชญ์ทั้งสิบสองตายไปถึงห้าคน ส่วนปราชญ์ทั้งเจ็ดที่เหลืออยู่หลังจากาครั้งนั้นก็ไม่รู้ว่าหายตัวไปที่ใด ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาหายไปไหน....... และถ้าขาดพลังงานหลักไป ทวีปที่สาบสูญก็จะยิ่งถูกอัดแน่นไปด้วยไอปีศาจที่เข้มข้นขึ้น และจะยิ่งเกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติบ่อยขึ้นด้วย ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังตามหาห้วงเวลาแห่งโชคชะตานิรันดร์ไปทุกที่ และพวกเขาก็ยิ่งอยากรู้ว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้นกับหอคอยแห่งโชคชะตา ดังนั้นผู้กล้าจำนวนมากจึงเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา....... แต่หลังจากเข้าไปแล้วก็ไม่มีใครรอดชีวิตกลับมาได้เลยแม้แต่คนเดียว ั้แ่นั้นมาหอคอยแห่งโชคชะตาก็ถูกปิดล้อมไว้ทั้งหมด และไม่อนุญาตให้คนธรรมดาเข้าไปที่นั่นอีก ที่แห่งนั้นจึงได้กลายเป็สถานที่ต้องห้ามอย่างแท้จริง”
“.......” เย่เทียนเซี่ย
“หาก้าจะเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา จะต้องได้รับเหรียญผู้กล้า เหรียญวีรบุรุษและเหรียญเทพาจึงจะมีคุณสมบัติที่จะเข้าไปที่นั่นได้ ไม่อย่างนั้นก็เท่ากับส่งพวกเขาไปตาย ต่อมาในที่สุดก็มีผู้กล้าคนหนึ่งได้รับเหรียญทั้งสามหลังผ่านการทดสอบระดับนรกและเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา แต่....... เขาก็ยังคงไม่สามรถไปถึงยอดหอคอยได้ และเกือบจะถูกฆ่าตายที่ชั้นแปดของหอคอย สุดท้ายจึงได้กลับมาด้วยความเสียใจ คนคนนั้นก็คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งคนปัจจุบันของทวีปที่สาบสูญผู้มีนามว่า ‘อู๋ิ’ ความสามารถของเขานั้นเทียบได้กับปราชญ์คนที่สิบสองในกาลก่อนเลยทีเดียว”