“หอคอยแห่งโชคชะตาเป็สถานที่ที่น่ากลัว แม้ว่าาาปีศาจทั้งแปดจะไม่อยู่ที่นั่นแล้ว แต่ก็ยังมีปีศาจดุร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกผนึกไว้ในนั้นกว่าหมื่นปี อีกทั้งยังแข็งแกร่งขึ้นทุกชั้นด้วย เพราะฉะนั้นจึงมีเพียงผู้กล้าที่แท้จริงเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปในนั้นได้ กว่าจะได้รับเหรียญผู้กล้ามายากเย็นขนาดไหนเ้าก็ผ่านมาแล้ว และถ้าอยากได้เหรียญวีรบุรุษและเหรียญเทพาด้วยล่ะก็ มันจะยิ่งยากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ความโหดร้ายของการทดสอบเ่าั้ทำให้ผู้คนสิ้นหวังได้อย่างง่ายดาย แต่มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่ผ่านการทดสอบอันสิ้นหวังเหล่านี้เท่านั้นถึงจะเป็ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง”
เย่เทียนเซี่ยฟังต่อไปเงียบๆ ในใจของเขาค่อยๆวาดภาพหอคอยแห่งโชคชะตาออกมา เ้าเมืองเริ่มต้นตรงหน้าคงคาดไม่ถึงว่าห้วงเวลาแห่งโชคชะตานิรันดร์ที่หายสาบสูญไปจะอยู่ในมือเขานี่เอง อีกทั้งมันยังกลายเป็อาวุธของเขาไปแล้ว ภายใต้การแสดงออกอันสงบนิ่งของเย่เทียนเซี่ย หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นมาอีกครั้งโดยอัตโนมัติ........ พลังงานหลักของโลกใบนี้ ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาที่ผนึกปีศาจนับไม่ถ้วนเอาไว้ ทำไมมันถึงมาปรากฏอยู่ในมือของเขา อีกทั้งยังปรากฏอยู่ในโลกจริงและยังเป็สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นทิ้งไว้อีก
ทำไมกัน!?
“อุวะฮ่าๆ! ข้าได้ยินแล้ว........หอคอยแห่งโชคชะตา หอคอยแห่งโชคชะตา.......นายท่าน นายท่านต้องไปยังหอคอยแห่งโชคชะตาให้ได้นะเ้าคะ”
เสียงของกั่วกัวจู่ๆก็ดังขึ้นข้างหูของเย่เทียนเซี่ย ตอนแรกก็เป็แค่เสียง ต่อมาร่างเล็กๆของเธอก็ปรากฏตัวออกมาแล้วนั่งลงบนไหล่ของเย่เทียนเซี่ย เธออ้าปากหาวน้อยๆและบิดี้เีเหมือนยังตื่นไม่เต็มตา
“ทำไมล่ะ?” เย่เทียนเซี่ยถามออกไปอย่างเบาที่สุด
“เพราะ........... ตอนที่ได้ยินชื่อของหอคอยแห่งโชคชะตาข้าก็นึกขึ้นมาได้ว่าพลังแห่งโชคชะตาสีม่วงของห้วงเวลาแห่งโชคชะตายังถูกทิ้งเอาไว้บนยอดหอคอยน่ะสิเ้าคะ......เอ๋? แปลกจริง ทำไมข้าถึงรู้เื่นี้ล่ะ...... ทำไมล่ะเ้าคะ?” กั่วกัวกัดนิ้วเล็กของเธอแล้วพองลงจนแก้มป่อง กระพริบตาปริบๆพยายามคิดถึงคำตอบเ่าั้ แต่คำตอบของคำถามนั้น....แม้แต่พระเ้าก็คงไม่อาจตอบเธอได้...... ใครจะไปรู้ว่าเธอรู้เื่พวกนี้ได้ยังไง
“นายท่าน....... ยังมีแอปเปิ้ลอีกไหมเ้าคะ?” กั่วกัวยังคิดคำตอบไม่ออกก็เบนความสนใจไปที่เื่อื่นซะแล้ว เธอหมุนตัวลอยมาอยู่ตรงหน้าเย่เทียนเซี่ย สองมือเล็กกำชายกระโปรงแน่นและถามออกมาอย่างน่าสงสาร ท่าทางราวกับว่าถ้าไม่ให้แอปเปิ้ลเธอกินเธอจะร้องไห้ออกมาทันที
การโจมตีด้วยน้ำตาของยัยตัวเล็กมีพลังทำลายล้างมากพอจะฆ่าเขาได้ เย่เทียนเซี่ยไม่กล้าทำอะไรต่ออีก ได้แต่หยิบแอปเปิ้ลออกมาจากกระเป๋าแล้ววางไว้ในอ้อมแขนของเธออย่างหมดหนทาง กั่วกัวสูดสมหายใจเข้าลึก เธอกอดแอปเปิ้ลผลใหญ่บินกลับมาอยู่ข้างๆไหล่เย่เทียนเซี่ยอีกครั้งก่อนจะกัดกินมันด้วยความพึงพอใจ
เ้าเมืองเริ่มต้นพูดต่อไปด้วยด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึก “เ้าหนุ่มผู้กล้า บางที.......ไม่สิ ข้าเชื่อว่าในที่สุดวันหนึ่งเ้าจะมีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตาได้ แต่ตอนนี้เ้านำใบรับรองผ่านการทดสอบระดับนรกออกมาเช่นนี้แล้ว เ้า้าให้ข้าส่งเ้าไปยังทวีปที่สาบสูญตอนนี้เลยหรือไม่ ณ ที่แห่งนั้นการเดินทางแห่งโชคชะตาของเ้าในโลกใบนี้จะเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง สถานที่แห่งนั้นเป็ดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาล งดงาม อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยความลึกลับและอันตรายนับไม่ถ้วน ก่อนอื่นเ้าจะถูกส่งไปที่เมืองเทียนเฉินซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทวีปที่สาบสูญ มันเป็หนึ่งในห้าเมืองหลักของทวีปที่สาบสูญ และก็เป็จุดเริ่มต้นที่แท้จริงที่นักผจญภัยจากต่างแดนอย่างพวกเ้าทุกคนจะต้องไปให้ถึงซะก่อน เ้าตัดสินใจแล้วใช่หรือไม่......... ถ้าจากไปแล้วเ้าจะไม่มีทางกลับมาที่นี่ได้อีกตลอดไป”
“กลับมาไม่ได้อีกตลอดไป? ต่อให้ระดับลดลงจนต่ำกว่าเลเวล 10 ก็กลับมาไม่ได้อีกอย่างนั้นเหรอครับ?” เย่เทียนเซี่ยเลิกคิ้วถามออกไปอย่างสงสัย
“ไม่ได้!” เ้าเมืองส่ายหน้า “ถ้าจากไปแล้วพวกเ้าจะไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้อีกตลอดไป แม้ว่าระดับของพวกเ้าเหล่ามนุษย์ผู้มาจากต่างแดนจะกลับไปอยู่ที่เลเวล 0 อีกครั้งก็ไม่สามารถกลับมาได้อยู่ดี ทวีปที่สาบสูญอันลึกลับแห่งนั้นพวกเ้าต้องใช้ทั้งชีวิตจึงจะเพียงพอที่จะเรียนรู้มันได้หมด บางทีเ้าอาจจะเดินทางไปจนทั่วทุกตารางนิ้วของทวีปที่สาบสูญ หรืออาจจะสามารถเดินทางไปยังดินแดนอันกว้างใหญ่ยิ่งกว่าทวีปที่สาบสูญได้ แต่พวกเ้าจะไม่มีทางกลับมายังจุดเริ่มต้นจุดแรกได้อีกแล้ว มันคือกฎของโลกใบนี้ ใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกฎข้อนี้ได้......... นอกจากเ้าจะมีความสามารถบางอย่างที่จะสามารถฉีกกฎข้อนี้ได้”
ไม่สามารถกลับมาได้ตลอดไป.......... ในหัวของเย่เทียนเซี่ยมีแต่ภาพของภารกิจลับอันแปลกประหลาดที่เขารับมาโดยไม่ได้ตั้งใจจากร้านช่างตีเหล็กหวังลอยเข้ามาไม่หยุด และภารกิจรวบรวมดวงตาหมาป่าหมื่นดวงของหญิงชราที่่ล่างถูกผนึกไว้อีก แม้ว่ารางวัลของภารกิจทั้งสามรอบก่อนหน้านี้จะน้อยนิดอย่างน่าสงสาร จนแทบทำให้ผู้เล่นอยากจะหยิบมีดไปสับร่างของหญิงชราคนนั้นให้เป็ชิ้นๆ และรอบนี้ก็ยังทำให้เขาแทบอยากเอามีดฟันเธอให้ขาดเป็สองท่อนเหมือนกัน แต่ในใจลึกๆแล้วเขาเชื่อว่าระบบไม่น่าจะสร้างภารกิจที่เป็เหมือนกับดักอย่างนี้แน่ แต่ถ้าไม่ทำภารกิจนี้ให้ถึงตอนจบ ใครก็ไม่อาจสรุปได้ว่าตอนจบที่พวกเขากำลังเดินเข้าไปหานั้นคืออะไร
แต่..... ถ้ากำหนดให้ไม่มีทางกลับมาที่เมืองเริ่มต้นได้อีก ภารกิจพวกนั้นก็จะกลายเป็ภารกิจที่ไม่มีทางทำสำเร็จอย่างแท้จริง
“เ้าเมืองครับ ที่นี่มีเครื่องมือหรือวิธีการที่จะสามารถขยายความจุของกระเป๋าเก็บของได้ไหมครับ” เย่เทียนเซี่ยคิดอยู่สักพักก่อนจะถามออกไป
“เมืองเทียนเฉินอันงดงามน่าจะมีสิ่งที่เ้า้านะ แต่ที่นี่........เฮ้อ ไม่มีหรอก” เ้าเมืองเริ่มต้นส่ายหน้าปฏิเสธ
ในใจของเย่เทียนเซี่ยร้อนรนขึ้นมา เข้าพูดออกไปอย่างอับจนหนทาง “เ้าเมืองครับ ผมคงยังไม่ไปเมืองเทียนเฉินก่อนซักพักนะครับ ผมยังมีเื่ที่ยังทำไม่สำเร็จต้องไปจัดการก่อน”
เ้าเมืองพยักหน้า ก่อนจะพูดต่อ “นี่เป็เื่ที่ถูกต้องแล้ว ถ้าจากไปแล้วก็ไม่มีทางกลับมาได้อีก คิดให้ดีเถิดว่ายังมีสิ่งใดขาดหายไปหรือไม่ ใช่แล้วล่ะ......” จู่ๆเ้าเมืองก็นึกเื่นึงขึ้นมาได้ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เขารีบพูดออกมาอย่างรีบร้อน “ทางที่ดีที่สุดเ้าลองไปหาตาแก่หยวนเชว่ดูสิ ถ้าเขาเห็นเหรียญผู้กล้า บางที.......เขาอาจจะทำให้เ้าประหลาดใจก็ได้”
หยวนเชว่.......... ตาแก่ที่ดูแปลกไปหมดทุกอย่างคนนั้น..........
“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ” เย่เทียนเซี่ยพยักหน้าแล้วหมุนตัวเดินตรงไปทางร้านขายยา
“อา.......พี่หยวนเชว่ ผมกลับมาแล้ว เ้าเมืองให้ผมมาหาพี่ครับ” เย่เทียนเซี่ยเปิดประตูเข้ามาก็เห็นเป้าหมายที่ทำให้เขาต้องมาที่นี่ ขณะนั้นเขาจงใจยืดอกเดินเข้าไปด้านใน พยายามทำให้ชายชราที่แม้แต่จะลืมตาก็ยังี้เีคนนั้นสามารถสังเกตเห็นเหรียญผู้กล้าบนอกเขาได้
ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าเหรียญผู้กล้าที่เข้าได้รับหลังจากผ่านการทดสอบะเืฟ้าดินแล้วนั้นไม่ได้เป็แค่เครื่องหมายแสดงคุณสมบัติง่ายๆ ศักยภาพของมันเริ่มทำให้เย่เทียนเซี่ยตื่นเต้นและใ
“น้องชาย........” หยวนเชว่ลืมตาขึ้นมาครึ่งหนึ่ง พูดออกมาได้เพียงไม่กี่คำก็ชะงักไปทันที ร่างของเขาเด้งขึ้นมาเหมือนสปริง “เหรียญผู้กล้า....... นี่เ้า..........”
เย่เทียนเซี่ยพยักหน้ารับเื่เหรียญผู้กล้าบนหน้าอก แล้วพูดออกมาด้วยใบหน้าไร้เดียงสา “ผมผ่านการทดสอบมาได้แบบสบายๆเลยล่ะ หลังจากนั้นก็ได้รับสิ่งนี้มา...... แล้วท่านเ้าเมืองก็ให้ผมมาหาท่านเพื่อพูดคุยกันซักหน่อยนี่ล่ะครับ”
แม้ว่าปฏิกิริยาตอบกลับของหยวนเชว่จะดูโอเวอร์มากกว่าเ้าเมืองอยู่บ้าง แต่ความเร็วในการสงบจิตสงบใจของเขาก็ถือได้ว่ารวดเร็วพอสมควร แล้วเขาก็กลับไปนั่งลงอย่างช้าๆ จับจมูกไปมาแล้วเงยหน้าขึ้นก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้เย่เทียนเซี่ยรู้สึกจุก “จริงๆแล้ว พี่ชายก็คือยอดฝีมือคนหนึ่ง”
เย่เทียนเซี่ยอดกลั้นต่อแรงกระตุ้นที่พุ่งขึ้นมาบนใบหน้าของเขาและอดทนรอให้ชายชราพูดต่อไป
“เฮ้อ........หรือว่าเ้าเมืองนั่นจะเข้าใจข้า จริงๆแล้วข้ารอคอยคนที่มีความสามารถมากพอที่จะพิชิตเหรียญผู้กล้าอย่างเ้ามาโดยตลอด”
“พี่ชาย......คือยอดฝีมือคนหนึ่งจริงๆ” สีหน้าของหยวนเชว่หนักอึ้ง ดวงตาของเขาดูเหมือนคนผ่านโลกมาอย่างโชกโชน น้ำเสียงลากยาวแ่เบา คำพูดที่พูดออกมาของเขาก็ทำให้เย่เทียนเซี่ยยิ่งเ็ป