จรรยาบรรณของแพทย์ปะทุขึ้นทันที ซ่งอวี้อดไม่ได้ที่จะเดินไปที่เตียงของเขา
ชายหนุ่มเห็นนางเดินเข้ามาใกล้ ก็ถอยร่นไปด้านหลังทันที ท่าทีระมัดระวังเป็อย่างยิ่ง
ซ่งอวี้รีบพูดขึ้น “ดูเหมือนว่าท่านจะป่วย ข้าพอจะมีความรู้ด้านการแพทย์อยู่บ้าง หากท่านเชื่อใจข้า ให้ข้าตรวจดูอาการของท่าน ดีหรือไม่เ้าคะ?”
ชายหนุ่มลังเลเล็กน้อย มองนางครู่หนึ่งก่อนจะถกขากางเกงขึ้นช้าๆ
ซ่งอวี้เห็นน่องข้างซ้ายของเขามีาแรูปร่างแปลกๆ ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ทายาบนแผลแล้ว แต่ดูเหมือนจะยังไม่ดีขึ้น ในทางตรงกันข้ามาแทั้งแดงและบวม คล้ายกำลังจะเน่าเสีย
พอโน้มตัวลงดมยาบนาแดีๆ ก็เข้าใจได้ทันที นางมองไปที่ชายหนุ่ม “แม้ยาที่ทาบนาแของท่านจะช่วยห้ามเืได้เร็ว แต่หากไม่ได้ใช้ยาอื่นเข้ามาช่วยหยุดพิษของยา เช่นนั้นก็จะมีฤทธิ์ทำให้าแเน่าได้เช่นเดียวกันเ้าค่ะ”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเป็ปม และไม่ได้ตอบกลับอันใด
ซ่งอวี้ส่งยิ้มให้เขา “หากท่านเชื่อใจข้า ให้ข้ารักษาาแให้ท่านดีหรือไม่? เมื่อครู่ข้าเก็บสมุนไพรมาได้บางส่วน ประจวบเหมาะสามารถรักษาาแเช่นนี้ของท่านได้พอดี”
นางพูดพร้อมกับหยิบสมุนไพรออกมาจากตะกร้าให้ชายหนุ่มดู
ครั้งนี้ชายหนุ่มลังเลไม่นาน “เช่นนั้นก็ต้องรบกวนแม่นางแล้ว”
ซ่งอวี้ยิ้มบางๆ คัดสมุนไพรออกมาสองสามชนิดแล้วนำมาบด จากนั้นก็นำมาพอกบนแผลของชายหนุ่มตามลำดับ ก่อนจะเอ่ยถามเขา “รู้สึกเช่นไรบ้างเ้าคะ?”
ชายหนุ่มพยักหน้า “รู้สึกเย็นเล็กน้อย ไม่เจ็บแผลมากถึงเพียงนั้นแล้ว”
“เช่นนั้นก็ถูกต้องแล้ว” ซ่งอวี้พูดแล้วหยิบผ้าขาวที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมา “ต้องพอกยานี้สิบสองชั่วยามแล้วค่อยเปลี่ยนยา ข้าพันขาให้เ้าดีหรือไม่? เช่นนี้ยาก็ไม่หกเลอะง่ายๆ แล้ว”
รอชายหนุ่มอนุญาต นางก็ขยับมือพันขาให้เขาด้วยท่าทางคล่องแคล่วว่องไว
ขณะที่กำลังพันขาอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีชายร่างใหญ่เดินสาวเท้าเข้ามา เมื่อเขาเห็นซ่งอวี้ ก็หยุดชะงัก ก่อนจะมีเสียงดัง ‘ชิ้ง’ ขึ้น ชายหนุ่มคว้าดาบข้างเอวก่อนจะพุ่งตัวทะยานเข้ามาทันที
“เยี่ยสุย อย่า!” ชายหนุ่มบนเตียงเห็นคนที่เดินเข้าหมายจะฟันซ่งอวี้ จึงรีบร้องปราม
ชายที่นามว่าเยี่ยสุยหยุดการกระทำของตน แต่ก็กระชากซ่งอวี้ให้ออกห่าง ในมือถือดาบยืนป้องกันหน้าชายคนที่าเ็
“นางเป็ชาวบ้านในหมู่บ้าน มาหลบฝนที่นี่ มีความรู้ด้านการแพทย์เล็กน้อย ตอนนี้กำลังรักษาาแให้ข้า เ้าขยับไปหน่อย ให้นางพันขาข้าให้เรียบร้อยเถิด” ชายคนที่าเ็พูดเสียงเรียบ ถึงแม้เสียงของเขาจะไม่ดังมาก ทว่ากลับเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขามที่ยากจะอธิบาย
เยี่ยสุยจึงเดินไปยืนข้างๆ หลีกทางให้ซ่งอวี้ แต่ในมือยังคงถือดาบเอาไว้แน่น
ทางด้านซ่งอวี้ไม่ได้สนใจเขา หลังจากช่วยชายาเ็พันแผลด้วยความตั้งใจจนเสร็จแล้ว นางก็ยื่นหน้าออกไปมองด้านนอก พอเห็นฝนหยุดตก จึงพูดกับชายที่าเ็ว่า “ฝนหยุดตกแล้ว ข้าควรกลับแล้ว”
เพิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียง ‘จ๊อกๆ’ ดังขึ้น ดวงแก้มของซ่งอวี้แดงระเรื่อขึ้นมาทันที นี่คือเสียงท้องร้องของนาง ผลไม้ป่าที่กินไปก่อนหน้านี้ย่อยไปจนหมดแล้ว และตอนนี้นางก็หิวเป็อย่างยิ่ง
ชายคนที่าเ็เองก็ได้ยินเสียงท้องร้องของนางเช่นกัน เขาคลี่ยิ้มบางๆ แล้วหันไปพูดกับเยี่ยสุยว่า “เ้าซื้อของกินมาไม่ใช่หรือ? แบ่งให้แม่นางคนนี้สักหน่อยเถิด”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น เยี่ยสุยก็ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เขาหยิบถุงกระดาษผิวมันที่อุ้มอยู่ออกมา เปิดถุง ด้านในคือขนมเปี๊ยะสดหอมกรุ่นสองสามชิ้น
ซ่งอวี้กลืนน้ำลาย ท้องของนางส่งเสียงดังยิ่งกว่าเดิม
เยี่ยสุยยื่นขนมเปี๊ยะสดให้ซ่งอวี้หนึ่งชิ้น นางเองก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธเช่นกัน หญิงสาวรับขนมมาแล้วกินอย่างตะกรุมตะกราม เพียงไม่กี่คำก็กินหมด หลังจากกินเสร็จนางเช็ดริมฝีปากด้วยความกระอักกระอ่วน “ขอบคุณสำหรับขนมเปี๊ยะสดของพวกท่าน ข้าขอตัวก่อน ข้าทิ้งสมุนไพรบางส่วนเอาไว้ให้ เมื่อถึงเวลาให้ผู้ติดตามของท่านเปลี่ยนยาให้ท่านดีหรือไม่เ้าคะ?”
ซ่งอวี้พูดแล้วหยิบสมุนไพรในตะกร้าออกมา อธิบายให้เยี่ยสุยฟัง “ยาเหล่านี้ต้องบดและพอกตามลำดับ ลำดับการบดและลำดับการพอกแตกต่างกัน ข้าจะอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดนะเ้าคะ”
นางอธิบายให้เยี่ยสุยฟังอย่างละเอียดหนึ่งรอบ เมื่อฟังจบสีหน้าของเยี่ยสุยก็ดูสับสนมึนงง
ซ่งอวี้รู้ดีว่าเขาจำไม่ได้ จึงอธิบายอีกรอบด้วยความใจเย็น ทว่าคิดไม่ถึงว่านางพูดทวนซ้ำถึงสามรอบ สุดท้ายเขาก็จำไม่ได้ ซ่งอวี้ทอดถอนใจ ถามด้วยความฉงน “เ้ามิได้มีความเข้าใจด้านสมุนไพรหรือ?”
ใบหน้าของเยี่ยสุยแดงระเรื่อ “สมุนไพรที่ใช้ก่อนหน้านี้ข้าลงเขาไปซื้อ บดแล้วพอกาแโดยตรง ข้า...ไม่มีความเข้าใจในด้านนี้”
ซ่งอวี้เพิ่งจะเข้าใจ นางพยักหน้า “หากเ้าไม่เข้าใจ เช่นนั้นก็ไม่อาจโทษเ้าได้ เพราะสมุนไพรเหล่านี้หน้าตาคล้ายกัน ชื่อก็เรียกยาก คนไม่รู้ยากที่จะจำได้ในระยะเวลาสั้นๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดของนาง ชายผู้าเ็จึงพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ดูท่าวันพรุ่งนี้ต้องรบกวนแม่นางมาเปลี่ยนยาให้ข้าอีกครั้งแล้ว วางใจเถอะ ข้าจะไม่ให้แม่นางต้องเหนื่อยเปล่า ข้าจะให้เงินตอบแทน”
เขาพูดแล้วส่งสายตาไปให้เยี่ยสุข เยี่ยสุยจึงรีบยื่นเงินให้ซ่งอวี้
พอเห็นเงินตรงหน้า ดวงตาของซ่งอวี้ก็เปล่งประกาย นางย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสในการทำงานเช่นนี้หลุดมืออย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึงรับเงินอย่างรวดเร็ว แล้วสะพายตะกร้าสมุนไพรขึ้น “เ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาเปลี่ยนยาให้ท่าน”
นางพูดจบก็หมุนตัวหันหลังเดินออกไปจากกระท่อม
รอให้แผ่นหลังของนางลาลับจากประตู เยี่ยสุยจึงพูดกับชายผู้าเ็ด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “นายท่าน ให้ข้าไปสืบเื่ของนางดีหรือไม่ขอรับ?”
ชายาเ็มองไปที่ประตู พูดเสียงเรียบ “ระวังตัวด้วย อย่าทิ้งร่องรอย”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้