เมื่อหลินจวงได้สติกลับคืนมาก็ร้องไห้เป็บ้าเป็หลัง พร้อมกับวิ่งโร่ไปแจ้งหัวหน้าหมู่บ้านในทันที เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านทราบเื่แล้ว จึงเรียกตัวไป๋เยว่ซินและไป๋เซียงไปที่ศาลาว่าการในทันที
นับว่าโชคเข้าข้างหลินจวงยิ่งนัก เพราะวันนี้นายอำเภอเจี่ยงก็มาเยี่ยมราษฎรที่นี่พอดี นายอำเภอเจี่ยงเป็สหายรักกับเสนาบดีหลิน หลินจวงจึงยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ว่าตนต้องเป็ฝ่ายชนะ
ไป๋เซียงร้อนใจยิ่งนัก แต่เมื่อหันไปมองน้องสาวตนกลับพบว่าไป๋เยว่ซินไม่ได้มีท่าทีทุกข์ร้อนเลยแม้แต่น้อย นางคว้าจับมือน้องสาวตนไว้ ก่อนจะเอ่ย
"น้องเล็ก เื่นี้มีนายอำเภอเจี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อไปถึงเ้าก็ปฏิเสธไปว่าเ้าไม่ได้ลงมือ เป็ข้าเองที่ทำร้ายนาง พี่รองจะรับผิดแทนเ้าเอง!"
ไป๋เยว่ซินหันไปมองพี่สาวของตน ก่อนจะเอ่ยตอบ
"พี่รอง ผู้คนเห็นกันทั่วว่าข้าต่างหากที่เป็คนลงมือ ท่านยังจะโยนให้เป็ความผิดของตนเองอีก ท่านคิดว่าหัวหน้าหมู่บ้านกับนายอำเภอเจี่ยงนั่นเป็คนโง่หรือ ท่านไม่ต้องกลัว เื่นี้ปล่อยให้เป็หน้าที่ข้าก็พอ"
"แต่ว่า.."
"ฟังข้า!"
ไป๋เยว่ซินเอ่ยจบก็จับมือไป๋เซียงเอาไว้แน่น
เมื่อมาถึงศาลาว่าการก็พบว่าตอนนี้หลินจวงกำลังนั่งร้องไห้และร้องขอความเป็ธรรมกับนายอำเภอเจี่ยงอยู่ ยามที่นางอ้าปากร้องไห้จะมองเห็นว่าฟันหน้าสองซี่หายไป ช่างน่าตลกขบขันในสายตาคนทั่วไปยิ่งนัก ข้างกันนั้นคือคหบดีหลิน และสามีของนาง โจวหลางซื่อ ไป๋เซียงที่ได้พบหน้าโจวหลางซื่ออีกครั้ง หัวใจก็บีบรัดแน่นขึ้นมา ไป๋เยว่ซินมีหรือจะดูไม่ออกถึงท่าทางที่แปลกไปของพี่สาว แต่นางไม่ได้เอ่ยอันใด
เมื่อเห็นว่าสองพี่น้องตระกูลไป๋มาถึงแล้ว หลินจวงก็ชี้หน้าด่าทอพวกนางทันที
"นายอำเภอเจี่ยง หัวหน้าหมู่บ้านเ้าคะ เป็พวกนางสองคนที่รังแกข้าเ้าค่ะ เป็พวกนางที่ทุบตีข้าจนมีสภาพเช่นนี้ ฮือ!"
หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกว่าเสียงร้องไห้ของหลินจวงช่างแสบแก้วหูยิ่งนักจึงบอกให้นางหยุดร้อง
แต่ไหนแต่ไรเขาเองก็ไม่กล้าล่วงเกินตระกูลหลินที่มีหน้ามีตา อีกทั้งยังรู้จักคนมีอำนาจมากมาย วันนี้นายอำเภอเจี่ยงก็อยู่ด้วย เขาที่เป็เพียงหัวหน้าหมู่บ้านจึงค่อนข้างประหม่าไม่น้อยเลย
เขาลอบชำเลืองมองนายอำเภอเจี่ยงคราหนึ่ง เมื่อเห็นว่าคนไม่เอ่ยอันใด หัวหน้าหมู่บ้านจึงออกปากแทน
"พวกเ้าสองคนรู้ความผิดตนหรือไม่ การทุบตีผู้อื่นอย่างป่าเถื่อนนับว่ามีความผิด ต้องชดใช้เป็เงินและจับขังคุกเพื่อสำนึกตน ไป๋เซียงไป๋เยว่ซิน เ้ายอมรับผิดหรือๆไม่"
ไป๋เซียงสะดุ้งเฮือก แต่ไป๋เยว่ซินกลับยิ้มเยาะ คนพวกนี้ก็ดีแต่วางอำนาจกับราษฎรที่มีฐานะต่ำต้อยกว่าตน แต่ยามที่อยู่ต่อหน้าเชื้อพระวงศ์หรือคนที่ตำแหน่งสูงกว่าตนล้วนประจบเอาใจจนแทบจะแลบลิ้นเลียเท้า นางมองเพียงปราดเดียวก็คาดเดาได้แล้วว่านายอำเภอเจี่ยงและคหบดีหลินจะต้องเป็พวกเดียวกันแน่นอน
ไป๋เยว่ซินเงยหน้าไปมองนายอำเภอเจี่ยงด้วยแววตาที่เรียบเฉย นางไม่สนใจหัวหน้าหมู่บ้านที่วางท่าคนนั้นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย เพราะอย่างไรสุดท้ายแล้ว คนที่จะตัดสินความผิดนี้ได้ก็คือนายอำเภอเจี่ยงเท่านั้น
นายอำเภอเจี่ยงรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมาของไป๋เยว่ซิน จึงหันมามองนางด้วยความสนใจ
แววตาที่นิ่งสงบของนางมันทำให้ใจของนายอำเภอเจี่ยงพลันวูบไหวคราหนึ่ง
ไป๋เยว่ซินที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยอย่างไม่หวาดหวั่น
"ข้าไม่ยอมรับเ้าค่ะ ข้ากับพี่สาวไม่ได้ทำอันใดผิด และอีกอย่างข้าก็มีข้อโต้แย้งเช่นเดียวกัน!"
ผู้คนที่ได้ยินไป๋เยว่ซินเอ่ยเช่นนั้นต่างมองหน้ากันไปมา พลางคิดว่าไป๋เยว่ซินคงเป็บ้าไปแล้วที่ไม่เกรงกลัวนายอำเภอเจี่ยงเช่นนี้
นายอำเภอเจี่ยงมองไป๋เยว่ซินคราหนึ่ง ก่อนหน้านี้เสนาบดีหลินมาหาเขา และมอบเงินสินบนให้เขาไม่น้อย อีกทั้งยังกำชับว่าอย่างไรวันนี้่ย่อมต้องตัดสินให้สองพี่น้องตระกูลไป๋เป็คนผิดให้ได้
"ว่ามาสิ"
แต่ถึงอย่างไรย่อมต้องให้โอกาศคนชี้แจ้ง เขาจึงเอ่ยอนุญาต ไป๋เยว่ซินพยักหน้า และเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"ข้าไม่ผิดเ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ข้าและพี่สาวไปเดินจับจ่ายซื้อของที่ตลาด แต่ทว่าต่อมาสตรีนามว่าหลินจวงนางนี้กลับเข้ามาหาเื่พวกข้านางยกเอาวาจาโสมมมากมายมากดข่มพี่สาวข้า บอกว่าบ้านพวกเรายากจน มิสู้ให้พี่สาวข้าไปขายตัวเป็นางคณิกาในหอนางโลมนำเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว วาจาเช่นนี้ไม่สมควรเอ่ยออกมาจากปากของสตรีที่บอกว่าตนเองสูงส่งเลยด้วยซ้ำ คนเราทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีเป็ของตนเอง ถึงจะจนก็ไม่สมควรถูกเยียบย่ำ และนางยังข่มขู่ว่าจะทุบตีพี่สาวข้าก่อน ข้าจึงลงมือเพื่อปกป้องคนของข้า เช่นนี้ก็นับว่าผิดด้วยหรือเ้าคะ?"
วาจาที่นางกล่าวโต้เถียงนั้นทั้งหนักแน่นและไม่เกรงกลัว ทำเอานายอำเภอเจี่ยงถึงกับชะงักไปชั่วขณะ เขาหันไปมองสบตากับคหบดีหลินคราหนึ่ง ก่อนจะหันมาเอ่ยกับไป๋เยว่ซิน
"แต่ถึงอย่างไร เ้าก็ไม่ควรลงมือทำร้ายผู้อื่น มันผิดกฎหมาย"
"เอะอะก็ยกเอากฎหมายขึ้นมาอ้างทั้งที่เื่ราวมันมีช่องโหว่อยู่เต็มไปหมด แม้แต่ผีที่คลานขึ้นมาจากหลุมฝังยังมองข้อพิพาทนี้ออกเลย เช่นนั้นข้าขอถามท่าน ข้าทำผิดข้ายอมรับ แต่สตรีที่ข่มเหงรังแกชาวบ้านแล้วยังเชิดหน้าชูตาอยู่ได้เพียงเพราะบิดาตนมีเงินและรู้จักคนมีอำนาจ เช่นนี้ควรลงโทษให้หลาบจำหรือไม่?"
นายอำเภอเจี่ยงยกยิ้มมุมปาก สตรีน้อยนางนี้ดูเหมือนจะรับมือยากอยู่ไม่น้อยเลย
ด้านไป๋เยว่ซินเองก็ยังไม่หยุด นางยังคงเอ่ยวาจาต่อไป
"แต่ไหนแต่ไรข้าได้ยินว่านายอำเภอเจี่ยงตัดสินคดีมากมายได้เที่ยงตรงและยุติธรรม แต่เห็นทีวันนี้ข้าคงได้เปิดหูเปิดตาแล้ว หากให้ข้าคาดเดา ข้าขอเดาว่าคหบดีหลิน จะต้องยัดเงินสินบนให้นายอำเภอเจี่ยงไม่น้อยเพื่อพลิกคดีนี้จากขาวเป็ดำ ข้าพูดถูกหรือไม่?"
นายอำเภอเจี่ยงมองไป๋เยว่ซินด้วยแววตาเย็นเยียบ
จะอวดรู้มากเกินไปแล้ว!
"บัดซบ เ้ากล้ากล่าวหาข้าหรือ ข้าสามารถโบยเ้าให้ตายได้เ้ารู้หรือไม่!"
"ข้าไม่ได้กล่าวหา ข้าเพียงเอ่ยไปตามความเป็จริง ข้ามองเพียงปราดเดียวก็ดูออกแล้วว่าท่านและคหบดีหลินเป็คนประเภทเดียวกัน เขาย่อมต้องมาขอให้ท่านออกหน้าอยู่แล้ว และข้าเชื่อว่าเงินจำนวนนั้นก็ยังอยู่กับตัวท่าน หากท่านไม่อยากตกเป็ขี้ปากคน ก็พิสูจน์ให้พวกเราเห็นสิ ว่าท่านไม่ได้รับสินบนมาจากคหบดีหลิน"
เหล่าชาวบ้านเมื่อได้ยินต่างเริ่มคลางแคลงใจแต่กลับไม่กล้าเอ่ยวาจาใด นายอำเภอเจี่ยงถึงกับกัดฟันกรอด
ไป๋เยว่ซินยกยิ้มมุมปาก เื่ที่ขุนนางชอบติดสินบนนั้นมีให้เห็นไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่พวกคนมีเงินนอกเมืองหลวง ในเมื่ออยากโบยนาง นางก็ไม่กลัว แต่นางจะทำให้เขาได้รับความแคลงใจและหมดความไว้เนื้อเชื่อใจจากราษฎรเช่นเดียวกัน
นายอำเภอเจี่ยงที่เห็นว่าเื่ราวพลิกผันกลายเป็ตนเองที่เสียเปรียบ ก็รู้สึกไม่พอใจคหบดีหลินที่หาเื่รับมือยากมาให้ตนเช่นนี้ อีกทั้งยังโมโหไป๋เยว่ซินจนเืขึ้นหน้า
"นังเด็กชั้นต่ำ ตระกูลต่ำต้อยเช่นเ้า กล้าหาเื่คนอย่างข้าหรือ ทหาร ลากมันไปโบยให้ตาย!"
"ใครกล้าโบยนาง ข้าจะฆ่ามันทิ้งให้หมด!"
อยู่ๆก็มีเสียงทรงอำนาจของคนผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมา เสียงนั้นทำเอาไป๋เยว่ซินชะงัก หญิงสาวๆค่อยๆหันกลับไปมอง ก่อนจะพบว่ายามนี้มีบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาช้าๆ เขาสวมชุดสีขาว บนศีรษะสวมหมวกงอบเพื่อปิดบังใบหน้าเอาไว้ เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ใจของนางก็พลันบีบรัดขึ้นมาชั่วขณะ
ผู้คนต่างหันไปมองชายหนุ่มที่สูงส่งราวเทพเซียนคนนั้นเป็ตาเดียว นายอำเภอเจี่ยงขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ
"ผู้ใดกันที่กล้าเข้ามาขัดขวางการตัดสินคดีของข้า!"
ชายหนุ่มชุดสีขาวส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะถอดหมวกงอบที่ปิดบังใบหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาชวนมองของเขา แม้ท่าทีของชายหนุ่มจะดูอ่อนโยนสุภาพ แต่กลับแผ่กลิ่นอายสังหารอกมาจนผู้คนรอบข้างรู้สึกเย็นะเื
เมื่อได้เห็นหน้าผู้มาเยือนอย่างชัดเจน นายอำเภอเจี่ยงก็ถึงกับเข่าอ่อน
"นายท่าน!"
หยางซีมองนายอำเภอเจี่ยงด้วยแววตาที่เ็า ก่อนจะเอ่ย
"เจี่ยงเฉา เป็นายอำเภอดีดีเ้าไม่ชอบ แต่กลับมาทำเื่น่าขายหน้าอยู่ที่นี่ วันนี้หากข้าไม่จัดการเ้าและสหายชั่ว อย่ามาเรียกข้าว่านายท่าน!"
“ฮือ นายท่านข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยเพียงหน้ามืดไปชั่วขณะ นายท่าน!”
นายอำเภอเจี่ยงถึงกับร้องไห้ขอชีวิต คหบดีหลินเองก็หน้าซีดเผือด เขารีบเข้าไปหานายอำเภอเจี่ยงถามว่าคนผู้นี้คือใคร แต่กลับถูกนายอำเภอเจี่ยงกระทืบจนสลบไป
เหล่าชาวบ้านต่างเอ่ยวาจาใดไม่ออก เอาแต่มองชายหนุ่มผู้มาใหม่ที่แม้กระทั่งนายอำเภอเจี่ยงยังต้องเกรงกลัวด้วยความหวาดหวั่น
“จับตัวนายอำเภอเจี่ยงไป ข้าจะลงโทษเขาเอง ส่วนคนตระกูลหลินก็สั่งโบยคนละสามสิบไม้เพื่อไม่ให้เป็เยี่ยงอย่างและสร้างความเดือดร้อน และให้พวกเขาชดใช้ค่าเสียหายเป็ตั๋วเงินสามร้อยตำลึงให้กับแม่นางทั้งสองคนด้วย”
คหบดีหลินเมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็เข่าอ่อนทรุดฮวบลงไปกับพื้น หลินจวงคิดจะเอ่ยโต้แย้งแต่กลับถูกบิดาตบจนสลบไป ด้านโจวหลางซื่อก็ก้มหน้างุดไม่กล้าเอ่ยวาจาใดออกมาแม้เพียงครึ่งคำ
เมื่อจัดการคนเรียบร้อยแล้ว เขาจึงหันมามองไป๋เยว่ซินคราหนึ่ง แววตาของชายหนุ่มเ็าเป็อย่างมาก คล้ายว่าจะเจือไปด้วยโทสะเสียด้วยซ้ำ ไป๋เซียงที่เห็นเช่นนั้น จึงรีบโขกศีรษะคำนับเขาทันที
"ใต้เท้า ข้าน้อยและน้องสาวขอบคุณท่านที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเ้าค่ะ!"
เอ่ยจบก็บังคับให้ไป๋เยว่ซินคำนับหยางซีด้วย ไป๋เยว่ซินเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้สถาณการณ์ไม่เหมือนแต่ก่อน นางไม่ได้สูงส่งอยู่เหนือเขาอีกแล้ว หญิงสาวลอบถอนหายใจคราหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆก้มหัวลงหมายจะโขกศีรษะ แต่หยางซีกลับเอ่ยปรามด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน
"ช่างเถอะ ไม่ใช่เื่ใหญ่อันใด ข้าช่วยเพราะคนของข้าทำให้พวกเ้าเดือดร้อน"
ไป๋เยว่ซินขมวดคิ้วพลางมองดูเขาอย่างพินิจพิเคราะห์
นายอำเภอเจี่ยงคือคนของหยางซีอย่างนั้นหรือ?
เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง นางลืมไปได้อย่างไรว่าเขาคือคุณชายหยาง หลานชายของหยางฮองเฮาผู้สูงส่งที่มีคนชั่วคอยรับใช้ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่เต็มไปหมด
แม้แต่สถานที่ชนบทเช่นนี้ก็ยังมีคนของตระกูลหยางอยู่เต็มไปหมด
ความคิดในหัวของไป๋เยว่ซินสับสนไปมา
หยางซีมาทำอันใดที่เมืองห่างไกลเช่นนี้ นางจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขาออกรบที่ชายแดนและได้รับชัยชนะ จากนั้นก็กลับไปเสวยสุขที่นครหลวง และไปทำศพให้นาง แล้วเหตุใดจึงมาโผล่ที่อำเภอเซียงถงได้รวดเร็วถึงเพียงนี้เล่า
นางสงสัยไปพลางลอบมองเขาไปพลาง คล้ายว่าเขาจะดูองอาจกว่าแต่ก่อนเป็อย่างมาก
หยางซีรับรู้ได้ว่าสตรีน้อยตรงหน้ากำลังมองเขาด้วยแววตาที่สงสัย จึงเอ่ยกับนางทันที
"จะมองอีกนานหรือไม่ เกิดมาไม่เคยเห็นบุรุษหรือ?"
ไป๋เยว่ซินลอบเบ้ปาก นางลุกขึ้นยืน ก่อนจะเอ่ยกับเขา
"ขอบคุณแม่ทัพใหญ่หยางที่ช่วยผดุงความยุติธรรม ข้าน้อยซาบซึ้งใจยิ่ง"
หยางซีจ้องมองไป๋เยว่ซินอย่างไม่ลดละ ก่อนจะเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงเจือความสงสัยสายหนึ่ง
"เ้ารู้ได้เช่นไรว่าข้าคือแม่ทัพใหญ่หยาง?"
ไป๋เยว่ซินพลันชะงักไปในทันที นางเม้มริมฝีปากแน่น จริงด้วย นางในตอนนี้เป็เพียงสตรีชาวบ้าน และยังเพิ่งเคยพบเจอกันกับเขาเป็ครั้งแรก จะรู้สถานะของเขาได้อย่างไรกัน
นางลอบกำมือตน ก่อนจะเอ่ยตอบเขาโดยไร้พิรุธ
“ท่วงท่าของท่านงดงามองอาจ เหมือนท่านแม่ทัพใหญ่ ข้าจึงคาดเดาส่งเดช ขออภัยด้วยหากล่วงเกินท่าน”
หยางซียกยิ้มมุมปาก พลางเอ่ยตอบ
“รู้ดีนักนะ รู้ดีจริงๆ”
ไป๋เยว่ซินเมื่อได้ฟังก็ไม่ชอบใจเท่าใดนัก นี่เขากำลังตำหนินางหรือ หญิงสาวพยายามกดข่มกลั้นโทสะไม่ให้ด่าเขา อยางไรเขาก็เป็คนช่วยสลักป้ายชื่อหน้าหลุมศพให้นาง แม้ไม่รู้ว่าที่เขาทำไปมีจุดประสงค์ใดก็ตาม แต่อย่างไรนางก็รู้สึกขอบคุณเขาจากใจจริง
"อย่างไรก็ขอบคุณท่านมากที่ช่วยผู้น้อยเช่นข้า"
"ไม่ต้องหรอก ที่ข้าทำไปเพราะคิดถึงสหายเก่าของข้าก็เท่านั้น ในตอนนั้น สหายของข้าก็ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมเช่นเดียวกันกับเ้า"
เอ่ยจบเขาก็จากไปทันที ปล่อยให้ไป๋เยว่ซินยืนกำมือแน่น หัวใจเต้นถี่ระรัวอย่างบ้าคลั่ง
สหายผู้นั้นของเขาคือองค์หญิงใหญ่ิจู แต่องค์หญิงใหญ่ิจูตายไปแล้ว บนโลกใบนี้ไม่มีองค์หญิงใหญ่ิจูอีกต่อไปแล้ว!