‘พี่รามว่าไงนะคะ??’ ฉันที่เหมือนได้ยินคนตัวโตพึมพำอะไรบางอย่าง ก็ได้เอ่ยถามด้วยความสงสัย
‘หะ...ห๊ะ...ปะ...เปล่า...มะ...ไม่มีอะไร’ พี่รามถึงกับรีบตอบปฏิเสธตะกุกตะกักทันควัน แต่ก็ยังเต็มไปด้วยท่าทีที่มีพิรุธ
ส่วนป้านีที่ได้แต่ยืนขำให้กับท่าทางเงอะ ๆ งะ ๆ ของหลานชายตัวเอง ที่ดูท่าว่าวันนี้น่าจะเสียอาการพอดู
จากนั้นพี่รามที่พยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้ออกไปจากการโจมตีด้วยคำพูดของป้านี ก็ได้เอ่ยถามฉันขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
‘นะ...น้องลินจะถ่ายรูปอีกไหมครับเดี๋ยวพี่ถ่ายให้’
‘ได้เลยค่ะ รบกวนด้วยนะคะพี่ราม ป้านีค่ะ...วันนี้มาถ่ายรูปกับลินเยอะ ๆ เลยนะคะ’ (^-^) ฉันบอกผู้ใหญ่ที่ฉันรักเพียงคนเดียวในตอนนี้ด้วยใบหน้าแช่มชื่น
แต่ป้านีที่แม้ว่าใจจะสู้ แต่ทว่า...สังขารนั้นกลับไม่ไหวแล้ว ก็ได้เอ่ยตอบปฏิเสธหญิงสาวไป พร้อมกับเปิดทางให้หลานชายตัวเองอย่างรู้งาน
‘หนุ่มสาวไปถ่ายด้วยกันเถอะ ป้าแก่แล้วเดินไม่ไหวขอนั่งหลบแดดตรงนี้ก่อนแล้วกัน’
ป้านีที่แม้ว่าใจจะอยากเดินไปถ่ายรูปด้วยแต่ก็เลือกที่จะปฏิเสธออกไป นั่นก็เพราะไม่ใช่แค่แกที่รู้สึกเวียนหัวให้กับผู้คนมากมายที่อยู่ในงานรับปริญญาเท่านั้น แต่แกที่รู้ดีว่าหลานชายของตนคนนี้นั้นคิดยังไงกับหญิงสาวที่แกเองก็รักและเอ็นดูเหมือนหลานสาวเช่นกัน และด้วยความรู้สึกที่แกทั้งรักและเอ็นดูเด็กทั้งสองนั้น แกจึงไม่รู้สึกขัดข้องอะไรถ้าเด็กทั้งสองจะตกลงปลงใจคบกัน
‘ว๊าาาา...แต่ลินอยากให้ป้านีไปถ่ายรูปด้วยกันจังเลยค่ะ ถ้างั้นเอาอย่างนี้แล้วกันนะคะ ลินให้ป้านีพักก่อนเดี๋ยวลินไปถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวก่อนเรากลับบ้านเราค่อยมาถ่ายด้วยกันอีกรอบนะคะ’ (^-^) ฉันยิ้มหวานโชว์ฟันขาวเรียงสวยให้กับผู้ใหญ่ที่ฉันรักตรงหน้า พร้อมกับเสนอความคิดเห็นออกไป เพราะถึงแม้จะรู้สึกเสียดายเพราะอยากถ่ายรูปกับป้านีเยอะ ๆ แต่ด้วยอายุและร่างกายของท่านฉันเองก็ไม่อาจบังคับฝืนได้
'เอาตามนั้นก็ได้จ้ะหนูลิน' ป้านียิ้มละมุนส่งมาให้ พร้อมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของฉัน
‘งั้นเดี๋ยวพี่ไปเป็ตากล้องให้นะครับ’ พี่รามยิ้มกว้างขันอาสา
‘แต่พี่รามมาเหนื่อย ๆ จะนั่งพักกับป้านีก่อนก็ได้นะคะ ลินเกรงใจ’ ฉันรีบแสดงความเป็ห่วงจากใจให้กับบุคคลอีกคนที่ฉันเคารพรักไม่ต่างกันกับป้านี นั่นก็เพราะฉันรู้มาจากป้านีว่าทั้ง ๆ ที่พี่เขางานยุ่งมาแค่ไหนแต่ก็ยังหาเวลาลางานเพื่อมางานรับปริญญาของฉัน ด้วยเหตุนั้นฉันจึงรู้สึกเกรงใจเขามากจริง ๆ
‘ไม่เหนื่อยเลยครับ พี่ยินดี’ (^//-//^) พี่รามตอบกลับอย่างเร็ว ด้วยใบหน้าที่ระบายเต็มไปด้วยเืฝาด
‘แน่นะคะ ดูซิหน้าแดงก่ำเชียว ไม่ใช่ถ่ายรูปไปแล้วเป็ลมล้มลงไป ลินแบกพี่รามไม่ไหวหรอกน๊าาาา ~~’ ฉันที่รู้สึกเป็ห่วงเขาจริง ๆ แต่ก็อดเย้าเขาเล่นไม่ได้
ส่วนคนที่ถูกหญิงสาวเย้าจนเสียอาการ กลับยิ่งหน้าร้อนผ่าวเืฝาดแดงลามไปถึงกกหู
และในขณะที่ฉันกำลังเป็ห่วงคนตรงหน้าด้วยกลัวว่าเขาจะเป็ลมแดดไป เนื่องจากสภาพของพี่ชายข้างบ้านที่ตอนนี้ใบหน้าของเขาแดงแปร๊ดซะขนาดนั้น ก็ดันเป็จังหวะเดียวกันกับที่เพื่อนร่วมคณะได้มาเรียกฉันให้ไปถ่ายรูปด้วยกัน อีกทั้งยังมีพวกบรรดาช่างภาพหนุ่ม ๆ จากต่างคณะที่พากันมายืนรอต่อคิวเพื่อที่จะขอถ่ายรูปฉัน นั่นจึงทำให้ฉันจำต้องผละเดินออกไปจากคนร่างโตกลับเข้าไปหาฝูงชน...
--- ราม Talk ---
ผมมองตามร่างของหญิงสาวที่ตอนนี้สวยสะพรั่งด้วยหัวใจที่พองโตเต็มไปด้วยความชื่นชมผสมกับความรู้สึกไม่พอใจระคนกันไป เนื่องจากผมไม่ค่อยพอใจที่ความสวยหวานของเธอนั้นได้ดึงดูดให้เหล่าภมรตัวเล็กตัวน้อยเข้ามารุมล้อมกันเต็มไปหมด จนแอบเผลอคิดว่าสักวันเธออาจจะไกลเกินเอื้อมถ้าหากผมยังไม่ยอมเดินหน้าทำอะไร
และในจังหวะที่ผมกำลังยืนจับจ้องเธอด้วยความเหม่อลอยและเต็มไปด้วยความคิดอยู่นั้น ก็เป็จังหวะเดียวกันกับที่ได้มีมือของใครบางคนแตะสะกิดลงมาที่บนหัวไหล่ จนทำให้ผมถึงกับสะดุ้งสุดตัว
‘จะจีบก็รีบจีบนะ หนูลินสวยขนาดนี้ป้าว่าอีกไม่นานหนูลินต้องมีแฟนแน่ ๆ’ ป้านีที่รู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของหลานชายตัวเองดี ได้ทีก็ยุยงเติมเชื้อไฟความกล้าเข้าให้สักหน่อย
‘อะไร ใครจะจีบใครครับ ไม่มี ~~’ ส่วนผมที่ถูกจับไต๋ได้แต่ยังทำปากแข็งไม่ยอมรับรีบตอบปัดป้าตัวเองกลับด้วยสีหน้าท่าทีเลิ่กลั่กชนิดที่เรียกว่าเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่
‘โธ่...ถ้าเสียงจะสูงขนาดนั้นนะพ่อคู๊ณณณณ...ฮ่าๆๆ~~’ ป้านีที่ยังไม่ยอมลดละเอ่ยแซวผมไม่เลิก อีกทั้งยังหัวเราะร่วนใส่ด้วยความชอบใจ
ส่วนผมที่ได้แต่ทำเป็แสดงอาการฮึดฮัดไม่พอใจเพราะอยากกลบเกลื่อนสีหน้าที่ถูกจับทางได้ แต่กลับกลายเป็ว่ายิ่งผมพยายามที่จะกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเองมากเท่าไร ก็ดูเหมือนว่าจะยิ่งทำให้คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างป้านีมองออกมากขึ้นเท่านั้น
โดยเฉพาะเมื่อไอ้สายตาเ้ากรรมที่มันยังคงจับจ้องไปยังร่างหญิงสาวที่กำลังเปล่งประกายอยู่ท่ามกลางฝูงชนไม่หยุด จนเปิดทางให้คนเป็ป้าเอ่ยปากแซวอีกครั้ง
‘สวยไหมล่ะ’ ป้านีกระซิบเบา ๆ พร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม
แต่จะด้วยเพราะความเคลิบเคลิ้มจากภาพที่ตราตรึงใจจากความสวยของหญิงสาวตรงหน้า หรืออาจจะเป็เพราะว่าด้วยความรู้สึกข้างในมันชัดเจนมากอยู่แล้วก็ตาม นั่นจึงทำให้คำถามที่ถูกถามจากญาติผู้ใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง ทำให้ผมเผลอตอบความในใจออกไปอย่างลืมตัว
‘สวยซิ...สวยมากด้วย...~~’ น้ำเสียงหวานที่ตอบออกไปพร้อมด้วยใบหน้าที่เหม่อมองอย่างเคลิบเคลิ้ม เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากคนด้านข้างได้เป็อย่างดี และกว่าที่ผมจะทันได้รู้ตัวผมก็ตกหลุมพรางเ้าเล่ห์ของป้าตัวเองไปแล้ว
‘เห้ยยยย...ป้าเล่นทีเผลอแบบนี้ผมก็แย่หมดซิ...’ ผมถึงกับหน้าเหวอโวยวายใส่ป้าตัวเองพร้อมกับใบหน้าที่แดงสุกเป็ลูกตำลึง
‘ฮ่าๆๆๆ ชอบก็บอกว่าชอบ จีบก็บอกว่าจีบ ให้มันสมกับเป็ลูกผู้ชายหน่อยสิ...เ้าราม’ และป้าแท้ ๆ ของผมก็ได้แต่ยืนหัวเราะเยาะผมด้วยความชอบใจ อีกทั้งยังพูดแซวผมซะจนหน้าชา
ส่วนผมที่ทำอะไรไม่ถูกเพราะเหมือนยิ่งยืนอยู่ตรงนี้ก็เหมือนยิ่งปล่อยไก่ให้ป้าตัวเองได้หยิบเอามาเอ่ยแซว ก็ได้รีบพาขายาว ๆ ก้าวเดินไปหาหญิงสาวตรงหน้าคนที่มักจะทำให้ผมใจเต้นไม่เป็จังหวะทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เธอ...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้