จิตใจของหนานกงเลี่ยเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม ทว่าเขารู้ว่า หากอีหลานยังไม่ตาย ตระกูลหนานกงเองก็ไร้ข้อต่อรองที่จะบังคับให้ฮ่องเต้หยวนเต๋อยอมประนีประนอม ยามนี้เขาทำได้เพียงเบิกตามองตำแหน่งนั้นลอยผ่านหน้าตระกูลหนานกงไป
แต่จะต้องปล่อยให้คนของจิ้นอ๋องครองตำแหน่งแม่ทัพหลวงไปหรือ?
ไม่ ไม่มีทางเป็ไปได้
ความหมายของมารดา หนานกงเลี่ยเข้าใจสถานการณ์ยามนี้ดี ระหว่างเฝ้ามองให้จิ้นอ๋องมีอำนาจมากขึ้น มิสู้ถอยกลับไปเป็พันธมิตรกับฉางไทเฮาเสียดีกว่า!
“ขุนนางหนานกง เ้ากล่าวต่อสิ” ฮ่องเต้หยวนเต๋อตรัสเสียงดังกังวาน
ร่างกายขอหนานกงเลี่ยชะงักงันเล็กน้อย ดวงตาแน่วแน่ “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตระกูลหนานกงได้รับเกียรติศักดิ์สูงส่งจากฝ่าา สำหรับการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมในตำแหน่งแม่ทัพหลวงในครานี้ เพื่อฝ่าา ตระกูลหนานกงจึงเลือกสรรอย่างละเอียดรอบคอบ และแนะนำอย่างตั้งใจ กระหม่อมคิดว่า ไม่ว่าจะมองจากที่ใด หลีอ๋องจ้าวเยี่ยนเป็ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”
หลีอ๋องจ้าวเยี่ยน?
ฮองเฮาอวี่เหวินขมวดคิ้วแน่น ฮ่องเต้หยวนเต๋อเองก็หรี่ดวงเนตรไปชั่วขณะเช่นกัน แม้แต่องค์หญิงใหญ่ชิงเหอยังอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองจ้าวเยี่ยน
ท้ายที่สุด บุคคลที่ตระกูลหนานกงเสนอคือ หลีอ๋องจ้าวเยี่ยนจริงหรือ?
แทบทุกคนที่ได้ยินถ้อยคำเ่าั้ ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนล้วนตกตะลึงไปครู่ใหญ่
หลีอ๋องไม่เคยเข้าร่วมว่าราชกิจ รูปลักษณ์เรียบง่ายสง่างามในเสื้อผ้าสีขาว กลายเป็สัญลักษณ์ของการไร้ซึ่งความปรารถนา ไร้การแก่งแย่ง่ชิง หากเขาเข้าร่วมว่าราชกิจในท้องพระโรง...
ผู้คนหันไปมองบุรุษชุดขาวซึ่งประทับอยู่บนพระที่นั่งอย่างสงบเงียบ ไม่ว่าอย่างไรก็จินตนาการไม่ออก ท่านอ๋องหลีผู้มีท่าทีดั่งเทพเซียนผู้นี้ เมื่ออยู่ในท้องพระโรงจะมีท่าทีอย่างไร
“นี่...”
ครั้นได้รับสายตาของทุกคน คิ้วงามของจ้าวเยี่ยนขมวดมุ่นเล็กน้อย เขาลุกยืนอย่างสงบ ความสง่างามและกิริยาท่าทางนั้นทำให้ผู้คนอัศจรรย์ใจ เขาก้าวเดินมาตรงหน้าฮ่องเต้และฮองเฮาอย่างจริงใจด้วยท่าทีอ่อนน้อม “ทูลฝ่าา หลานชายขอบคุณที่ใต้เท้าหนานกงให้ความกรุณาและสนับสนุน ทว่าหลานชายไม่เข้าใจเื่ราชกิจ จึงคิดว่ามิอาจรับภาระอันหนักอึ้งนี้ได้พ่ะย่ะค่ะ”
ในทุกถ้อยคำของจ้าวเยี่ยน ฉายชัดเจนอย่างยิ่งถึงความคิดที่จะปฏิเสธ
ทุกคนประหลาดใจ เขาไม่้าแย่งชิงตำแหน่งแม่ทัพหลวงที่ผู้คนหมายปองจริงหรือ?
อย่างที่คิด ท่านอ๋องหลีผู้นี้เป็ดั่งคำเล่าลือ ตัวตนอยู่เหนือใต้หล้า ทว่าจิตใจกลับมิ้าแก่งแย่ง แตกต่างจากผู้อื่น
ทันใดนั้น ความระแวดระวังในพระทัยของฮ่องเต้หยวนเต๋อพลันลดฮวบ แม้มุมพระโอษฐ์ของฮองเฮาอวี่เหวินกำลังยกแย้มเล็กน้อย ทว่าภายในพระทัยกลับไม่ลดการป้องกันลงแม้แต่น้อย
การปฏิเสธของจ้าวเยี่ยนทำให้จิตใจของเหนียนยวี่รู้สึกเย้ยหยันอย่างไม่ปิดบัง งิ้วของบุรุษผู้นี้แสดงดีเช่นนี้มาโดยตลอด รับภาระอันหนักอึ้งไม่ไหวงั้นหรือ?
หึ เขาแทบอยากจะขึ้นครองบัลลังก์ และก้มมองสรรพสิ่งจาก้า เขามุ่งมาดปรารถนาแรงกล้า สิ่งที่้าสำหรับเขาคือ ทั่วทั้งผืนแผ่นดินชื่ออวี่ ไหนเลยจะไม่สามารถแบกรับหน้าที่อันหนักอึ้งของแม่ทัพหลวงได้?!
จ้าวเยี่ยน เขากำลังถอยเพื่อรุก[1]!
ส่วนฉางไทเฮา...
สายตาของเหนียนยวี่หันมองสตรีในชุดเรียบง่ายผู้นั้น ในยามนี้คิ้วของนางขมวดมุ่นเล็กน้อย ดูเหมือนตื่นตระหนก ทว่าเหนียนยวี่มองเห็นแสงสว่างพาดผ่านดวงตาคู่นั้น แสงสว่างเยี่ยงนั้น นางเคยเห็นในตัวจ้าวเยี่ยนมานับครั้งไม่ถ้วนในชาติก่อน ความมุ่งมาดทะเยอทะยานอันส่องสว่างลุกโชน สองแม่ลูกมีเหมือนกันทุกประการ!
สองแม่ลูกคู่นี้มุ่งมาดปรารถนาตำแหน่งแม่ทัพหลวงมาั้แ่แรกอย่างที่คิดจริงๆ!
ชาติก่อน นางรู้จักบุรุษผู้นี้ดีแจ่มแจ้ง เมื่อเขา้าให้ได้มาซึ่งสิ่งใดอย่างแน่วแน่ เขาจะเตรียมการทุกสิ่งมาอย่างดี
เหนียนยวี่ครุ่นคิดถึงเื่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ตระกูลหนานกง...คงจะเป็การเตรียมการของเขาด้วยเช่นกัน!
ช่างน่าเสียดาย...
ครุ่นคิดอะไรขึ้นได้ ดวงตาของเหนียนยวี่พลันฉายแววเ็า
นางอยากจะดูเสียหน่อยว่า สองแม่ลูกคู่นี้จะรับตำแหน่งแม่ทัพหลวงเข้ามาอย่างง่ายดายอย่างไร!
“ท่านอ๋องหลีถ่อมตัวเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ไม่มีผู้ใดเหมาะสมไปกว่าท่านอ๋องหลีแล้วพ่ะย่ะค่ะ” หนานกงเลี่ยกล่าวเสียงดัง
“ฮ่าๆ เปิ่นกงเองก็คิดว่า ไม่มีผู้ใดเหมาะสมไปกว่าเยี่ยนเอ๋อร์เช่นกัน”
เสียงของสตรีดังขึ้น น้ำเสียงนั้นแฝงความสดใสผ่อนคลาย ผู้คนหันไปมองบุคคลที่เอ่ยปาก คาดไม่ถึงว่าจะเป็ฮองเฮาอวี่เหวิน
ฮองเฮาอวี่เหวินเองก็สนับสนุนให้หลีอ๋องจ้าวเยี่ยนรับ่ต่อตำแหน่งแม่ทัพหลวง!
ไม่เพียงแต่เหนียนยวี่เท่านั้น ฮ่องเต้หยวนเต๋อกับองค์หญิงใหญ่ชิงเหอเองก็ประหลาดใจ มีเพียงฉางไทเฮาผู้เดียวที่มิได้คิดในแง่ดีเพียงนั้น พระหัตถ์ที่กำลังนับลูกประคำหยุดชะงักเล็กน้อย
อย่างที่คิด...
ฮองเฮาอวี่เหวินหยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวต่อไปว่า
“แม่ทัพหลวงดูแลอำนาจยิ่งใหญ่ทางการทหารและการปกครอง ทั้งยังต้องบัญชาการเหล่าทหารราชองครักษ์ของกำแพงวัง สิ่งที่สำคัญอื่นใด มันเกี่ยวข้องกับการปกครองแว่นแคว้น ความสามารถของฉู่ชิงเหนือกว่าผู้ใด ทั้งยังภักดีต่อฝ่าา ดังนั้นการที่ฉู่ชิงอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพหลวง ทำให้แผ่นดินสงบสุข ฝ่าาจึงสามารถบรรทมได้อย่างสงบ เปิ่นกงคิดว่า ในยามนี้ยังไม่มีผู้ใดสามารถเข้ามาแทนที่ฉู่ชิงได้ ทว่ามันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ตำแหน่งแม่ทัพหลวงมิอาจปล่อยว่าง ตัวบุคคลก็ดูเหมือนจะสำคัญ เปิ่นกงคิดว่า ถึงความสามารถจะเป็รอง ความเข้าใจในราชกิจเองก็เป็รองหรือไม่นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือหัวใจ หัวใจที่ภักดีต่อฝ่าา เยี่ยนเอ๋อร์เป็พระโอรสของฮ่องเต้พระองค์ก่อน มีเืเนื้อเชื้อไขสกุลจ้าวไหลเวียนในร่างกาย ให้เขามารับผิดชอบดูแลอำนาจกิจการทางทหาร บัญชาการราชองครักษ์นั้นเหมาะสมอย่างยิ่งแล้ว”
ทุกคำพูดของฮองเฮาอวี่เหวินล้วนเป็การยอมรับจ้าวเยี่ยน
ทว่าเื้ัในแต่ละถ้อยคำ เมื่อดังเข้าโสตประสาทของคนฉลาดกลับกลายเป็สภาพการณ์อื่น
เืของสกุลจ้าวไหลเวียนอยู่ในกายของจ้าวเยี่ยนนั่นไม่ผิด เขาเป็คนในราชวงศ์ ทว่ามิใช่พระโอรสโดยกำเนิดของฮ่องเต้หยวนเต๋อ สำหรับฮ่องเต้หยวนเต๋อ ถึงเขาจะเป็หลานชายที่ทรงรักใคร่เอ็นดูที่สุด ทว่าสุดท้ายก็ยังเป็คนนอก
หากวันหนึ่ง เขาคิดจะแทนที่ข้า...
ฮ่องเต้หยวนเต๋อขมวดคิ้ว ไม่ว่าจ้าวเยี่ยนจะมีความทะเยอทะยานหรือไม่ จะเห็นแก่ตัวหรือไม่ หากเขาลงเดิมพัน และพ่ายแพ้ คงมิอาจจินตนาการถึงราคาที่ต้องจ่าย!
คำพูดที่ฮองเฮาอวี่เหวินกล่าว ทำให้ฮ่องเต้หยวนเต๋อถึงขั้นกลับมาระแวดระวังอีกครั้ง
ฉางไทเฮายังคงเฉยเมยและสงบนิ่ง ทว่าภายในพระทัยกลับตื่นตระหนก ถ้อยคำวิพากษ์วิจารณ์ของฮองเฮาอวี่เหวินฉกาจฉกรรจ์เกินไป ทั้งยังโจมตีพวกเขาอย่างรุนแรง!
ความคลางแคลงของฮ่องเต้หยวนเต๋อเป็อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดบนเส้นทางของพวกเขา!
ทว่าฉางไทเฮาไหนเลยจะยินยอม?
ตัวขัดขวางอย่างฮองเฮาอวี่เหวินอยู่ในความคาดหมายของนางมาั้แ่แรก นางเองก็เตรียมการมาแล้วอย่างดีเช่นกัน
“ฝ่าา ฮองเฮา ข้าขอกล่าวสักประโยคได้หรือไม่?”
สายลมอ้อยอิ่งในสวนยวี่ฮวา ท่ามกลางความเงียบงัน ในที่สุดฉางไทเฮาก็เอ่ยปาก เสียงอ่อนหวานนุ่มนวลยังคงสดชื่นยิ่งกว่าสายลม
ผู้คนหันไปมองสตรีเรียบง่ายทว่างดงาม ฮ่องเต้หยวนเต๋อตรัสขึ้นอย่างเคารพว่า “เชิญไทเฮากล่าว”
“ฝ่าากับฮองเฮาดูแลเยี่ยนเอ๋อร์มาอย่างดี ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจสุดจะคณา สำหรับข้า ข้าไม่อยากให้ตัวตนของเยี่ยนเอ๋อร์อยู่ในท้องพระโรงเลยจริงๆ เยี่ยนเอ๋อร์อย่างไรก็เป็พระโอรสของฮ่องเต้พระองค์ก่อน แม้เขาจะซื่อสัตย์ต่อฝ่าา ทว่าคงมิอาจต้านทานการพูดคุยของผู้คนที่ปล่อยข่าวลือมากมาย ทั้งจริงเท็จปะปนกัน จนสร้างความคลางแคลงใจ มิเป็ผลดีต่อความสัมพันธ์ของพระองค์กับเหล่าขุนนาง ดังนั้นจึงอยากขอให้ฝ่าาอย่าได้พิจารณาจ้าวเยี่ยนต่อตำแหน่งแม่ทัพหลวงเลยเพคะ ปล่อยให้เขาเป็ท่านอ๋องผู้ไร้แก่นสารของเขาไปเถิด เขาจะได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นคงเช่นนี้ไปทั้งชีวิต แต่งภรรยาให้กำเนิดทายาท แก่ชราและสิ้นลมไปอย่างสงบ ข้าเองก็สบายใจแล้ว ดวงิญญาของฮ่องเต้พระองค์ก่อนก็คงปรารถนาเช่นนี้นะเพคะ”
ถ้อยคำของฉางไทเฮาดูจริงใจ ทุกคนคาดไม่ถึงว่า นางจะกล่าวถึงฐานะเดิมของหลีอ๋องต่อหน้าผู้คน
เหนียนยวี่อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฉางไทเฮา สตรีผู้นี้ช่างมีเล่ห์เหลี่ยมเสียจริง เมื่อเป็เช่นนี้กลับกันจะดูเหมือนว่านางกับหลีอ๋องเป็คนซื่อสัตย์สุจริต ความคลางแคลงใจทั้งหมดล้วนเป็สิ่งที่ผู้อื่นยั่วยุและป้ายสี
[1] ถอยเพื่อรุก หมายถึง แสร้งทำเป็ไม่สนใจ หรือล่าถอยหลังก่อน เพื่อโจมตีทีเดียว