สายตาของเซียวเฉินแน่วแน่ เขาต้องไปแคว้นกู่ให้ได้ มีเพียงฝึกประสบการณ์อย่างต่อเนื่องเท่านั้นจึงจะทำให้เขายกระดับความสามารถได้ เขาไม่มีทางลืมความอัปยศในวันนั้น
เขาต้องสังหารฮ่องเต้ นำเกียรติยศกลับคืนมา!
เขาคิดถึงตรงนี้ แววตาก็ลึกล้ำ เหมือนมีความรู้สึกหนึ่งวาบขึ้น เื่นี้ทำให้เซียวเฉินรู้สึกประหลาดใจ เพราะใน่เวลาสั้นๆ นี้มักจะมีเงาร่างสายหนึ่งปรากฏขึ้นตรงเบื้องหน้าของเขา งดงามจนทำให้คนหวั่นไหว แต่กลับเ็าจนน่าแปลกใจ
นางหรือ...
เซียวเฉินอดคิดไม่ได้ สุดท้ายยิ้มบางๆ
จากนั้นก็ฝึกวิชาต่อ
วิ้ง วิ้ง!
แสงเสวียนชักนำดารา แสงงดงามร่วงหล่น พลังแห่งดวงดาวอันไร้ขีดจำกัดปกคลุมเซียวเฉิน ดุจมาจากาอันไกลโพ้น ดั่งมาจากกลียุค่กำเนิดโลก รู้สึกได้ว่าการชักนำอันแข็งแกร่งร่วงสู่ร่างของเซียวเฉิน
ตูม!
ชั่วขณะนี้ เซียวเฉินร่างสั่นเทา
สุดท้ายเขาก็มีรอยยิ้มบนใบหน้า
เขาย่างสู่ขั้นเสวียนเต๋าสามชั้นฟ้าแล้ว!
เช่นนั้น ต่อไปก็ได้เวลาฝึกเคล็ดวิชาขั้นฟ้า ตอนนี้เซียวเฉินฝึกคัมภีร์กระบี่ทัณฑ์์ถึงระดับสูงสุด การรู้แจ้งเจตจำนงกระบี่ก็ถึงระดับขั้นหนึ่ง เทพปิศาจเก้าแปรเปลี่ยนก็เริ่มการแปรเปลี่ยนที่หนึ่ง รวมถึงเผิงทองแปรเปลี่ยน และเคล็ดวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
แต่เขายังแสวงหาระดับขั้นที่สูงขึ้น
เซียวเฉินพลิกฝ่ามือ ปลดปล่อยพลังเสวียนมหาศาล จากนั้นทะเลเพลิงผลาญนภาก็แข็งค้าง ยิงประทับทองออกมาจากในนั้น อานุภาพไร้เทียมทาน
ประทับจักรพรรดิทองผลาญนภา เคล็ดวิชาขั้นดิน!
เคล็ดวิชาขั้นดินที่ฮ่องเต้มอบให้เขาในวันนั้น
เซียวเฉินพลิกฝ่ามืออย่างต่อเนื่อง ทะเลเพลิงม้วนตลบ กวาดเรียบโดยไร้ผู้ต่อต้าน จู่โจมด้วยประทับทองไม่ขาดสาย ก่อให้เกิดเสียงตูมดังติดต่อกัน แผ่นดินะเืตามหลัง เห็นได้ถึงอานุภาพอันแข็งแกร่ง!
เซียวเฉินมีสายตาดุร้าย ยามนี้เขาเหมือนกระบี่คมกริบที่พุ่งไปข้างหน้า เจอเทพสังหารเทพ เจอพุทธะสังหารพุทธะ ไม่มีสิ่งใดขัดขวางได้
เจตนารมณ์อันแหลมคมทะยานสู่ฟากฟ้า!
วิ้ง วิ้ง!
เซียวเฉินปลดปล่อยแสงเสวียนบนร่างอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาคู่นั้นหมุนวนดุจสามารถปิดผนึกมิติเวลาได้ เป็เคล็ดวิชาหยุดเวลาขั้นฟ้าอันแกร่งกร้าว
“เนตรทวน์!”
เสียงของเซียวเฉินดังช้าๆ “ผนึก!”
ฟุ่บ!
ทั้งมิติเหมือนถูกกักขังในพริบตา ควบคุมกระทั่งการไหลเวียนของอากาศ ไม่มีทางหลุดพ้นออกไป ร่างของเซียวเฉินยังเปล่งแสงจรัสอย่างต่อเนื่องดุจมีดาราห่มกาย
“เวลา หยุดนิ่ง”
ดวงตาของเซียวเฉินเปล่งแสงงดงามทันที ดวงตาดุจจักรวาลที่หมุนวน พลังเสวียนอันกล้าแข็งทะลุนภากาศ ะเืฟ้าดิน ชั่วขณะนี้ เขารู้สึกได้ว่าเวลาสั่นไหวเพราะเหตุนี้ แม้เพียงสามวินาที แต่ก็เพียงพอให้เซียวเฉินกระทำเื่มากมาย
เซียวเฉินมีสีหน้าลิงโลดยินดี
สามารถหยุดเวลาได้ เป็เคล็ดวิชาที่ทรงพลังมาก
เวลาที่นี่ผ่านไปสามสิบวันเป็เวลาที่โลกภายนอกสิบวัน เซียวเฉินตัดสินใจออกไป แต่ในเวลานี้เอง มีเงาร่างสายหนึ่งลอยมา เซียวเฉินใช้สองมืออุ้มไว้
เป็ไข่เ้าเนื้อ!
“ข้าต้องออกไปสักระยะ ไว้จะมาเยี่ยมเ้าอีก”
ไข่เ้าเนื้อสั่นไหวแผ่ซ่านความรู้สึกอาวรณ์ ทำให้ในใจของเซียวเฉินเกิดความรู้สึกอ่อนโยน ท่าทางเ้านี่จะเห็นเขาเป็ญาติแล้วกระมัง
เซียวเฉินลูบมันเบาๆ แล้วเอ่ย “ข้ามีเื่สำคัญต้องออกไปทำ เ้าอยู่ที่นี่ดีๆ รอเ้าถือกำเนิดแล้วข้าค่อยพาเ้าไปด้วย ดีหรือไม่?”
ไข่เ้าเนื้อสั่นไหว กลิ้งออกจากอ้อมอกของเซียวเฉินกลับไปอยู่ข้างต้นไม้โบราณ สุดท้ายไม่ขยับเขยื้อน
เซียวเฉินยิ้ม หันกายจากไป
ณ โลกภายนอก ตอนเซียวเฉินออกมาเป็เวลากลางคืน ฝึกวิชาติดต่อกันสามสิบวัน เซียวเฉินรู้สึกเหนื่อยล้าสุดขีดไม่ว่าด้านจิตใจหรือร่างกาย ดังนั้น หัวถึงหมอนก็นอนหลับทันที เมื่อเขาตื่นขึ้นอีกครั้งก็เป็เวลาเที่ยงของวันถัดมา
เขาเพิ่งเดินออกจากห้องก็เจอฉู่หยวนและฉู่เยียนหรานเข้ามารับหน้า
“พี่ใหญ่เฉิน ท่านนอนเก่งเกินไปแล้ว ถึงกับนอนตั้งหนึ่งวัน ยังเกียจคร้านกว่าข้าอีก” ฉู่เยียนหรานที่อุ้มจิ้งจอกน้อยเอ่ยด้วยรอยยิ้มแฉ่ง ฉู่หยวนอดเคาะศีรษะน้อยๆ ของนางเบาๆ ไม่ได้
“เ้ายังรู้”
ฉู่เยียนหรานแลบลิ้นไม่เอ่ยวาจา
เซียวเฉินยิ้มกล่าว “หลายวันนี้ฝึกวิชาค่อนข้างเหนื่อยล้า ข้าจึงตื่นสาย พวกเ้ามาหาข้าน่าจะมีเื่อะไรสินะ”
ฉู่หยวนยิ้มกล่าว “อืม ข้าตัดสินใจให้เ้าไปดินแดนลึกลับแห่งแคว้นกู่ด้วย ไม่รู้ว่าเ้าคิดเห็นเช่นไร?”
คำพูดของฉู่หยวนทำให้เซียวเฉินอึ้งนิดๆ
จากนั้น เขาผงกศีรษะ
“ได้”
เวลาผ่านไปห้าวันอย่างรวดเร็ว วันนี้คือวันเปิดดินแดนลึกลับแห่งแคว้นกู่ที่จัดขึ้นทุกสิบปีของแคว้นเยี่ย ผู้มีพร์ทั้งเบื้องบนเบื้องล่างของแคว้นเยี่ยต่างมารวมตัวกันที่นี่ ทำให้เมืองเทียนหลงมีผู้คนหลั่งไหลมาไม่ขาดสายอีกครั้ง เต็มไปด้วยผู้มีพร์จากพื้นที่ต่างๆ ในแคว้นเยี่ย
พวกเขาเดินทางครั้งนี้เพื่อแสวงหาโชควาสนาในแคว้นกู่
นำความสำเร็จมาสู่ตนและวงศ์ตระกูล
วันนี้ เซียวเฉิน ฉู่เยียนหราน และฉู่หยวนสามคนเดินทางด้วยกัน ในจำนวนนั้นมีผู้มีพร์ของตระกูลฉู่อีกสองคน เป็ลูกชายของท่านลุงที่อายุมากกว่าฉู่หยวน มีความสามารถเหนือกว่าฉู่หยวนและเป็ผู้มีชื่อเสียงบนผังบุตร์แคว้นเยี่ย
คนทั้งห้าเดินทางไปเมืองหลวงด้วยกัน
รอคอยการเปิดของดินแดนลึกลับแห่งแคว้นกู่!
วันนี้มีผู้คนคลาคล่ำ เชื้อพระวงศ์แคว้นเยี่ย ชินอ๋อง สำนักก้งเฟิ่ง และบุคคลระดับประมุขของตระกูลใหญ่ต่างมาร่วมงานและมองผู้มีพร์ของแคว้นเยี่ยจาก้าหอเหนือประตูเมือง
ผู้นำคือฮ่องเต้แห่งแคว้นเยี่ย
เยี่ยเทียนหนาน ผู้เข้มแข็งขั้นยุทธ์์!
ผู้าุโสำนักก้งเฟิ่งที่อยู่ด้านหลังล้วนอยู่ขั้นเสวียนเต๋าระดับสูงสุด วินาทีที่ฮ่องเต้แห่งแคว้นเยี่ยปรากฏพระองค์ ผู้คนนับหมื่นต่างพากันถวายบังคม มิมีผู้ใดกล้าไม่ปฏิบัติตาม
“ถวายบังคมฮ่องเต้”
ใบหน้าของเยี่ยเทียนหนานมีรอยยิ้ม “ไม่ต้องมากพิธี ทุกคนเป็บุตรแห่ง์ของแคว้นเยี่ย เป็เสาหลักของแคว้นในอนาคต วันนี้เป็วันเปิดแคว้นกู่ที่ทุกสิบปีมีหนึ่งครั้ง ข้าไม่อยากพูดให้มากความ หวังว่าทุกคนจะปีนขึ้นสู่จุดสูงสุดในแคว้นกู่ได้อีกครั้ง”
“ขอบพระทัยฮ่องเต้!”
ทุกคนที่อยู่ด้านล่างหอต่างร้องะโ เยี่ยเทียนหนานอมยิ้ม มีแววปลาบปลื้ม จากนั้นร่วมมือกับผู้าุโทุกคนของสำนักก้งเฟิ่งยิงแสงเสวียนขึ้นสู่ฟ้า ะเืเวิ้งนภา
มีหลุมดำแห่งหนึ่งที่แปลงมาจากฟ้าพร่างดาวปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของทุกคนและแผ่กลิ่นอายเก่าแก่ออกมา ทุกคนพากันเข้าไปด้วยสีหน้ากระตือรือร้น
สายตาของเซียวเฉินเปล่งประกาย
“นี่คือทางเข้าดินแดนลึกลับแห่งแคว้นกู่หรือ...”
เยี่ยเทียนหนานเอ่ย “แคว้นกู่เปิดออกแล้ว ในนั้นมีทั้งเคราะห์และโชค ทุกคนถนอมตัวด้วย”
คำพูดของฮ่องเต้มีทั้งความห่วงใยและความคาดหวัง
มีคนหนึ่งก้าวออกมาอย่างองอาจห้าวหาญท่ามกลางผู้คน เป็บุคคลระดับบุตร์ เขายิ้มและกล่าวกับทุกคน “ทุกท่าน ข้าขอล่วงหน้าไปก่อนก้าวหนึ่ง” จากนั้นก็ก้าวเข้าสู่แคว้นกู่และหายวับไป
ทุกคนทยอยกันเข้าไปในนั้น
เซียวเฉินยิ้ม “ฉู่หยวน เยียนหราน พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
คนทั้งสามเดินทางเข้าสู่ความว่างเปล่าพร้อมกัน
หลังจากรอให้ทุกคนเข้าไปหมดแล้ว หลุมดำก็ค่อยๆ ปิดเข้าหากันและหายไป ส่วนฮ่องเต้เยี่ยเทียนหนานและผู้เข้มแข็งทุกคนที่อยู่บนหอเหนือประตูเมืองต่างมองดินแดนลึกลับแห่งแคว้นกู่ที่เพิ่งหายไปเมื่อครู่พลางถอนหายใจเบาๆ
“หวังว่าจะมีคนเปิดความลับของแคว้นกู่ได้”
จากนั้น ทุกคนก็พากันจากไป
ดินแดนลึกลับแห่งแคว้นกู่เป็ห้วงมิติอันสับสนผืนหนึ่ง ฟ้าพร่างดาวอยู่ใต้เท้า เหนือศีรษะเป็กลียุคครั้งสร้างโลก ผืนแผ่นดินที่ตกตะกอนมาหลายพันปีปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของทุกคน ทุกแห่งหนมีกลิ่นอายา แต่เป็แผ่นดินที่แตกระแหง เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง
ทิวทัศน์อยู่ในสภาพทรุดโทรม โดดเดี่ยวและรกร้างอย่างเห็นได้ชัด...