เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เซียวหลิงอวิ๋นและคนอื่นๆ อยู่ที่ริมทะเลสาบน้ำแข็งแห่งนี้มาได้เป็เวลาถึงสิบห้าวันแล้ว
ใน่สิบห้าวันนี้ สามวันแรกฉินหรูเยียนไม่ได้เคลื่อนไหวหรือฝึกวิชาเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่คนอื่นๆ แม้ว่าจะไม่ได้เคลื่อนไหว แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ในท่านั่งสมาธิเพื่อฝึกวิชาอย่างเต็มที่
ั้แ่วันที่สี่เป็ต้นมา ฉินหรูเยียนก็ลุกขึ้นยืนและเริ่มฝึกวิชาอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากเข้าสู่ดินแดนลับธารน้ำแข็ง พลังของทุกคนก็เพิ่มขึ้นในระดับที่ต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉินหรูเยียน พลังกายของนางเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งทุกวัน ก่อนที่จะมาถึงทะเลสาบน้ำแข็ง ขดพลังิญญาที่ห้าของนางใกล้จะเต็มแล้ว ซึ่งหลังจากที่เซียวหลิงอวิ๋นกับคนอื่นๆ เข้าไปในวังน้ำแข็งเป็เวลาสองวันเศษๆ ขดพลังิญญาที่หกก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์
ฉินหรูเยียนจึงฝึกวิชาอย่างบ้าคลั่งใน่นี้
ทำให้ระดับบำเพ็ญเพียรของนางบรรลุอย่างรวดเร็วมากจนทำให้ทุกคนต้องใอีกครั้ง!
ในวันที่หกพลังิญญาในอากาศก็มารวมตัวกันอย่างบ้าคลั่ง ฉินหรูเยียนประสบความสำเร็จในการรวบรวมขดพลังิญญาขดที่หก
วันที่แปด เฉียนหม่านควงรวบรวมขดพลังิญญาขดที่ห้าได้
วันที่สิบหยวนอิ่งก็ไล่ตามอย่างกระชั้นชิด เปิดขดพลังิญญาขดที่ห้าได้เช่นกัน
ั้แ่เข้ามาในดินแดนลับธารน้ำแข็ง นอกจากพวกหม่าิฮุ่ยที่เดิมทีเปิดขดพลังิญญาได้เก้าขดและเป็ผู้ใช้พลังิญญาขั้นสูง คนอื่นๆ นอกจากเซียวหลิงอวิ๋น ทุกคนล้วนเปิดขดพลังิญญาเพิ่มได้พลังยุทธ์เพิ่มขึ้นสูงไปอีกขั้น
แล้วทำไมคนๆ นี้ถึงยังไม่บรรลุเสียทีนะ? ตอนนี้ผ่านมาเป็เวลาสิบกว่าวันแล้ว ฉินหรูเยียนก้าวออกมาจากความโศกเศร้าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่หยวนอิ่งบรรลุแล้ว นางก็เบิกดวงตาสีดำดุจอัญมณีสีดำงดงามและมองไปที่เซียวหลิงอวิ๋นด้วยความสงสัย
แม้แต่เฉียนหม่านควง ถังเซียว หม่าิฮุ่ย และคนอื่นๆ ก็ยังรู้สึกสงสัยขึ้นมา มองไปที่เซียวหลิงอวิ๋นด้วยสายตาแปลกๆ
ตอนแรกเซียวหลิงอวิ๋นก็รู้สึกเขินหน่อยๆ และเกาจมูกของเขาแก้เขิน แต่ต่อมาเมื่อเห็นบ่อยๆ เข้าก็เลิกสนใจ ตัวเขาเองก็ย่อมรู้ดีว่าสถานการณ์ของตัวเขานั้นพิเศษมาก การฝึกเคล็ดวิชามหาเทพโกลาหล ใน่แรกของขั้นผู้ใช้พลังิญญา ปรมาจารย์ิญญา และมหาปรมาจารย์ิญญา ถึงจะบรรลุช้าสักหน่อยก็ไม่เป็ไร เพราะเมื่อตัวเขาบรรลุก็จะบรรลุทีเดียวสามขั้น ซึ่งต่างจากคนอื่นๆ ที่จะเปิดขดพลังิญญาได้ทีละขด แต่ตัวเขาจะเปิดวังปราณได้ทีละสามชั้น
นอกจากนี้เซียวหลิงอวิ๋นเองก็รู้ดีว่าตัวเขาไม่ไกลจากการบรรลุครั้งต่อไปแล้ว
ฉินหรูเยียนยืนอยู่ที่ริมทะเลสาบ มองไปที่วังน้ำแข็งที่อยู่กลางทะเลสาบด้วยสายตาที่ซับซ้อน ไม่รู้ว่าทำไมนางถึงได้รู้สึกว่าวังน้ำแข็งแห่งนี้ในสองวันนี้ดูเหมือนจะแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย
ฉินหรูเยียนยืนอยู่ริมทะเลสาบและกล่าวคำอำลากับจ้าวหนีอิ่ง
“อิ่งเอ๋อ นี่ก็ผ่านมาสิบห้าวันแล้ว ไม่รู้ว่าเ้าสบายดีหรือไม่? แต่พี่สาวจะต้องไปแล้ว พวกเราทุกคนยังอยู่ที่นี่ ต่างก็รอคอยเ้าอยู่ที่นี่ แต่ในเวลานี้...”
แต่ทันใดนั้นเอง!
น้ำในทะเลสาบสีฟ้าใสพวยพุ่งขึ้นมาด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง
“อูวๆ!” สัตว์อสูรงูสองตัวโผล่ขึ้นมาจากน้ำ พุ่งเข้ามาหาฉินหรูเยียน
ดวงตาของฉินหรูเยียนเผยความเย็นะเืออกมา
มือเล็กๆ สีขาวราวหยกคว่ำลง โบกพัดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีเปลวไฟพวยพุ่งออกมาจากมือขวาของนางอย่างรุนแรง กลายเป็ฝ่ามือเปลวเพลิงขนาดั์ ซัดไปที่สัตว์อสูรงูสองตัวที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำ!
“ฟู่ๆ”
พร้อมด้วยเสียงดังเบาๆ สองเสียง
สัตว์อสูรงูสองตัวส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนาพร้อมกัน ก่อนจะตกลงไปในทะเลสาบอีกครั้งพร้อมกับเปลวไฟบนหัวของพวกมัน ทำให้น้ำสีฟ้าสดใสสาดกระเซ็นขึ้นมาสองลูก
‘ฝ่ามือเพลิงอาทิตย์เดือด’ วิชาฝ่ามือิญญาระดับเหลืองขั้นต้น
“ฟิ่วๆๆ!” ปลาประหลาดที่มีหนามแหลมคมที่อาศัยอยู่บนหลังสัตว์อสูรงูก็ะโขึ้นจากน้ำและพากันขึ้นฝั่ง
ในเวลานี้หม่าิฮุ่ย อูเสี่ยวหมิน และคนอื่นๆ เมื่อเห็นเช่นนี้ก็พากันลุกขึ้นเตรียมตามไปล่า แต่จู่ๆ หัวใจของเซียวหลิงอวิ๋นก็เต้นแรงขึ้น
ะโออกไปเสียงดัง “ทุกคนรีบหนีออกจากทะเลสาบเร็ว”
ฉินหรูเยียนยกมือซ้ายขึ้นปล่อยหมัดพลังิญญาขนาดั์ออกไป ชกปลาประหลาดสามตัวจนตายกลางอากาศ และเตรียมที่จะใช้ฝ่ามือเพลิงอาทิตย์เดือดอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงของเซียวหลิงอวิ๋นนางก็รีบเหยียดยันพื้นและพุ่งถอยหลังออกไปอย่างรวดเร็ว
ทางด้านหม่าิฮุ่ย หยวนอิ่ง และคนอื่นๆ ต่างก็ใช้วิชาตัวเบาเพื่อถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
เหล่าปลาประหลาดและสัตว์อสูรงูที่ะโขึ้นฝั่งก็ไม่ได้สนใจพวกเซียวหลิงอวิ๋นเลย เมื่อขึ้นฝั่งได้ก็พากันะโหนี บิดตัวไปมาพากันหนีไปราวกับจะมีสัตว์อสูรขนาดั์ปรากฏตัวที่ทะเลสาบ
เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว ทุกคนต่างก็หน้าถอดสีและวิ่งหนีไปเร็วกว่าเดิม
หลังจากที่ทุกคนหนีออกไปอย่างรวดเร็วได้ประมาณหนึ่งพันสามร้อยถึงหนึ่งพันแปดร้อยหมี่
“ตูม!” เสียงดังสนั่นกึกก้อง
หมอกควันสีฟ้าพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับูเาไฟกำลังจะะเิ!
“ฟ่อ...” เสียงคำรามดังออกมาจากในหมอกควันนั้น
จากนั้นในอากาศก็มีคลื่นระลอกแผ่กระจายออกไปเป็วงแหวนโดยรอบราวกับคลื่นน้ำ
“ปุ้งๆๆ!” ปลาประหลาดหลายตัวที่เพิ่งะโขึ้นจากฝั่งและยังไม่ทันได้หนีออกไปไกลถึงร้อยหมี่ะเิตัวมันเองพร้อมกันภายใต้การสั่นะเืของคลื่นเสียงนี้ กลายเป็ก้อนเืหลายก้อนโปรยปรายลงมา
“ปุ้งๆๆ!” ปลาประหลาดตัวแล้วตัวเล่าะเิด้วยความเร็วที่น่าใ
ถังเซียวที่อยู่ด้านหลังได้ยินเสียงดังปุ้งๆ มาจากด้านหลัง เมื่อหันกลับมามอง ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาก็ต้องซีดเผือดในทันที พลังิญญาในกายก็ทำงานอย่างบ้าคลั่ง วิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต
“เปรี้ยง!” แต่แล้วหลังก็เหมือนถูกกระแทกอย่างแรง
ร่างของถังเซียวล้มลงไปข้างหน้า “อุ่ฟ!” ก่อนจะกระอักเืออกมา
“อุ่ฟๆๆ!” หยวนอิ่ง เจียงอิ่ง และโจวจวิ้นที่อยู่ห่างออกไปสิบกว่าหมี่ก็เซถลาพร้อมกันและกระอักเืออกมา!
“อั่กๆ อุ่ฟๆ” หม่าิฮุ่ย และอูเสี่ยวหมินต่างก็ร้องออกมาพร้อมกัน เืหยดออกมาจากมุมปาก ในขณะที่เฉียนหม่านควงและหลินอิ๋งต่างก็อ้าปากและพ่นเืออกมา
คลื่นระลอกที่มองไม่เห็นนี้พาดผ่านร่างของฉินหรูเยียนกับเซียวหลิงอวิ๋นไป
ร่างของทั้งคู่สั่นเครือเล็กน้อย! หลังจากออกวิ่งไปได้หลายสิบหมี่ เซียวหลิงอวิ๋นก็หยุดวิ่ง หันไปมองที่ผิวน้ำที่อยู่ห่างออกไปเกือบสองพันหมี่
หมอกสีน้ำเงินจางลงไปแล้ว มองเห็นงูั์สีดำที่เลื้อยไปมาอยู่ภายในหมอกได้อย่างเลือนราง
แย่แล้ว!
แม้ว่าจะเห็นเพียงโครงร่างคร่าวๆ แต่เซียวหลิงอวิ๋นก็จำได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายคืออะไร
หน้าพลันถอดสีทันที
มันคือาาอสรพิษเกล็ดดำ สัตว์อสูรระดับสี่ขั้นล่าง!
สัตว์อสูรระดับสี่ แม้ว่าจะเป็ระดับสี่ขั้นล่างที่ต่ำที่สุดก็ตาม แต่ก็ยังเทียบได้กับระดับบรรพชนขั้นต้นในเผ่าพันธุ์มนุษย์
ลำพังเสียงคำรามเพียงอย่างเดียว คลื่นเสียงของมันก็ทำให้ผู้ที่หนีออกไปในระยะหนึ่งพันห้าร้อยหมี่ได้รับาเ็ไปกว่าครึ่งได้แล้ว
ผู้แข็งแกร่งระดับบรรพชนขั้นต้นสามารถสังหารผู้ใช้พลังิญญาจำนวนมากได้แค่เพียงสะบัดมือเท่านั้น ความแข็งแกร่งแตกต่างกันมากจนเกินไป
การต่อสู้ครั้งนี้แทบไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะได้เลย
ในขณะที่กำลังจะะโให้ทุกคนแยกย้ายพากันหนี
“แกร๊ง!” เสียงดาบดังขึ้นมา และในชั่วขณะต่อมา เจตจำนงดาบอันน่าสะพรึงกลัวที่ทำให้จิตใจของผู้คนสั่นไหวก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ฟ่อ!” าาอสรพิษเกล็ดดำที่อยู่ในทะเลสาบน้ำแข็งคำรามออกมาด้วยความโกรธ
เกิดเป็คลื่นระลอกที่มองไม่เห็นก็แผ่กระจายออกไปด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง
“อุ่ฟๆๆ” ทางด้านหลินอิ๋ง เฉียนหม่านควง และคนอื่นๆ หนีไปและอยู่ห่างจากเซียวหลิงอวิ๋นแค่ร้อยกว่าหมี่แล้วเชียว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยคลื่นเสียงของสัตว์อสูรระดับสี่อีกครั้ง พวกเขาต่างก็ต้องกระอักเืออกมา
ตอนแรกเมื่อทุกคนเห็นเซียวหลิงอวิ๋นหยุดวิ่ง ทุกคนต่างก็โล่งใจและวิ่งช้าลง แต่ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าที่จะชะล่าใจ ไม่สนใจเืที่ไหลเวียนอยู่ในหน้าอกและท้อง รีบใช้วิชาตัวเบาอย่างเต็มที่ วิ่งหนีแซงเซียวหลิงอวิ๋นไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน หลินอิ๋งกับเฉียนหม่านควงต้องกระอักเืออกมาอีกหน
“เ้าสัตว์เดรัจฉาน บังอาจนักนะ!” เสียงะโดังก้อง ร่างกายที่ดูบอบบางพุ่งทะยานขึ้นไป ดาบขนาดั์ที่สามารถตัดขอบฟ้าได้ฟาดฟันลงมาพร้อมกับเสียงดังสนั่น
เซียวหลิงอวิ๋นที่อยู่ห่างออกไปถึงสองพันหมี่ตาเบิกกว้างทันที
สายตาของเขาสามารถมองออกได้ในทันทีว่าดาบั์ยาวสิบสองหมี่นี้แฝงด้วยเจตจำนงดาบสายลมอันน่าทึ่งอยู่
