วันต่อมาท้องฟ้าแจ่มใส เมื่อคืนเหยาเชียนเชียนครุ่นคิดทั้งคืนว่าจะพาเด็กน้อยคนนี้หนีไปจนสุดหล้าฟ้าเขียวได้อย่างไร ในขณะที่กำลังนอนหลับลึกอยู่นั้นก็รู้สึกคันจมูกจนต้องจามออกมา ทำให้ปะทะเข้ากับใบหน้าเล็กไร้พิษภัยของอาเหยียนเข้าพอดี
“เ้า!”
นางลุกขึ้นนั่งพร้อมมองไปยังเด็กน้อยอย่างตกตะลึง “เ้ากลับร่างเดิมแล้ว!”
“ท่านแม่ ข้าหิว...”
อาเหยียนลูบท้องตัวเองพลางโน้มตัวเข้าหาอกของนางก่อนจะถูไถศีรษะไปมา ท่าทางออดอ้อนชัดเจน
เหยาเชียนเชียนมีความสุขได้ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกข้างนอก ดูเหมือนว่าจะมีเื่ร้ายแรงเกิดขึ้น หวังเฟยผู้ไม่เป็ที่โปรดปรานอย่างนาง แม้แต่คนเข้ามาส่งเสียงทักทายสักแอะยังไม่มี สำรับเช้าก็ไม่มีผู้ใดมาส่งให้เช่นกัน
ต่อให้นางจะหิวเพียงใดแต่ก็ปล่อยให้เด็กน้อยหิวไม่ได้ เหยาเชียนเชียนลูบศีรษะเล็กของเขาพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “อาเหยียนรอก่อนนะ แม่จะไปหาอะไรให้เ้ากิน”
เด็กน้อยพยักหน้ารับ จากนั้นก็รวบเอาผ้าห่มมาห่อตัว และกลิ้งหลุนๆ มุดเข้าไปในผ้าปูเตียง
ชิงผิงอ๋องสารเลวนั่น้าปล่อยให้นางอดตายจริงๆ เหยาเชียนเชียนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไม่ให้น้ำ ไม่ให้อาหาร นอกจากแม่นมแล้วก็ไม่มีผู้ใดมาดูนางเลยแม้แต่คนเดียว อาจเป็เพราะหากฆ่านางทิ้งทันทีคงไม่เหมาะสม ดังนั้นจึง้าปล่อยให้นางค่อยๆ อดตายไปเอง
เมื่อนึกถึงเด็กน้อยที่ยังร้องหิวอยู่ในห้อง เหยาเชียนเชียนก็นึกปลงตกที่ตนเบิกบานใจมากจนยอมรับได้พร้อมกับคิดเื่ไปห้องเครื่องเพื่อขโมยอาหารกลับมาอีกครั้ง
เมื่อคืนพวกนางออกมาโดยที่ยังไม่ทันได้เก็บกวาด และดูเหมือนว่าจะไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นเนื้อไก่ที่ถูกกินไปครึ่งหนึ่ง แต่กลางวันและกลางคืนย่อมไม่เหมือนกัน ภายในห้องเครื่องตอนกลางวันล้วนเต็มไปด้วยผู้คน ไม่มีโอกาสให้นางได้ลงมือเลยสักนิด
เ้าลูกแมวยังหิวอยู่ นางจะกลับไปมือเปล่าไม่ได้ เหยาเชียนเชียนอาศัยจังหวะในขณะที่บ่าวส่งอาหารไม่ทันสังเกต เดินย่องเข้าไปขโมยกล่องสำรับอาหารมา
ข้างในมีทั้งถังเปา [1] ผักเคียง และฮวาเจวี่ยน [2] แต่เพียงพอสำหรับหนึ่งคนรับประทานเท่านั้น
“ช่างเถิด ข้ากินน้อยหน่อย อาเหยียนจะได้กินอิ่ม”
นางถือกล่องสำรับอาหารกลับไปอย่างพอใจ ทว่าบังเอิญพบกับสาวใช้สองคนเข้า
แม้ว่าสาวใช้ทั้งสองจะไม่เคยเห็นหน้านาง แต่ก็ไม่มีทางที่จะจำชุดวิวาห์ที่นางสวมอยู่ไม่ได้ หวังเฟยช่างน่าทึ่งจริงๆ คืนอภิเษกสมรสเกือบบีบคอเสี่ยวซื่อจื่อตายจนถูกท่านอ๋องคุมขังไว้ในเรือนหอถึงสองวัน คาดไม่ถึงเลยว่านางจะออกมาเดินเตร่เองได้
“ถวายบังคมเพคะหวังเฟย”
เหยาเชียนเชียนโบกมือเบาๆ นางไม่อยากพูดคุยกับพวกสาวใช้มากนัก แค่อยากรีบกลับห้องเท่านั้น
สาวใช้ทั้งสองคนสบตากันเมื่อเห็นว่าในมือของหวังเฟยผู้นี้ถือกล่องสำรับอาหารอยู่ พวกนางดักขาเหยาเชียนเชียนโดยไม่คาดคิด ทำให้เหยาเชียนเชียนที่ตั้งตัวไม่ทันล้มลงอย่างแรง กล่องสำรับอาหารหกคว่ำจนอาหารข้างในไม่สามารถทานได้อีกต่อไป
“พวกเ้า!”
เหยาเชียนเชียนแผดเสียงด้วยความโมโห ทว่าสาวใช้สองคนกลับหัวเราะออกมา
“หวังเฟยโปรดอย่าถือโทษเลยเพคะ นี่เป็คำสั่งของท่านอ๋อง ไม่มีผู้ใดกล้าขัดคำสั่งหรอกเพคะ หากให้พระองค์เสวยอาหารแม้แต่คำเดียว พวกเราก็จะต้องอดอาหารสามวัน”
สาวใช้ทั้งสองคนมองมายังเหยาเชียนเชียนพลางหัวเราะคิกคัก ไร้ซึ่งวี่แววความรู้สึกผิดและอาการตื่นตระหนก พวกนางค่อยๆ เหยียบซาลาเปาและเตะออกไปไกลอย่างเหยียดหยาม
ซาลาเปาที่กลิ้งหลุนๆ ออกไปไกลก็เหมือนกับหัวใจของเหยาเชียนเชียนที่ถูกเหยียบย่ำไม่เหลือชิ้นดีไปตามๆ กัน สายตาของนางวางอยู่ที่กล่องสำรับอาหารในมือของทั้งสองคน เรียวคิ้วค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน
“นี่เป็สำรับอาหารเช้าของหลิ่วอี๋เหนียง [3]” สาวใช้ยิ้มเย็น “หวังเฟยเสวยไม่ได้เพคะ”
หลิ่วอี๋เหนียง?
เหยาเชียนเชียนเลิกคิ้วสูง ที่แท้จวนแห่งนี้ก็ยังมีอี๋เหนียงอีกคน คิดดูแล้วก็ถูก ไม่เช่นนั้นจะมีอาเหยียนได้อย่างไร
“ก็แค่ของของอี๋เหนียง เ้าจะบอกว่าหวังเฟยเสวยไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”
สาวใช้มองนางกลับอย่างเย้ยหยัน ั้แ่วันที่เหยาเชียนเชียนเข้ามายังจวนแห่งนี้ก็ถูกท่านอ๋องปฏิบัติด้วยไม่ดี คงไม่อาจเป็ที่โปรดปรานได้อย่างแน่นอน
แต่หลิ่วอี๋เหนียงนั้นแตกต่าง นางติดตามท่านอ๋องมานาน แม้ฐานะต่ำต้อย แต่ก็ย่อมดีกว่าหวังเฟยที่โเี้ผู้นี้ ไม่ต้องพูดก็เป็ที่รู้กันดีว่าท่านอ๋องจะเอนเอียงไปทางผู้ใด
“หากหวังเฟย้าเสวยสิ่งใดก็เชิญเสด็จไปนำมาด้วยพระองค์เองเถิดเพคะ” สาวใช้เชิดหน้าขึ้นพลางกุมหูจับไว้แน่นไม่ยอมคลายมือ “ของของหลิ่วอี๋เหนียงคนนอกห้ามแตะต้อง หวังเฟยได้โปรดอย่าทำให้พวกหม่อมฉันลำบากใจเลยเพคะ”
นางพูดอย่างเกรงใจ ทว่าแรงจับที่มือกลับไม่คลายลงแม้แต่น้อย เหยาเชียนเชียนลอบด่าชิงผิงอ๋องในใจเป็รอบที่แปดร้อย นางที่เป็หวังเฟยยังมีศักดิ์ศรีไม่เท่าหลิ่วอี๋เหนียง จะกินอะไรสักเล็กน้อยก็ต้องลงมือแย่งชิงด้วยตัวเอง
สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้างอาศัยจังหวะที่รอบข้างไม่มีคนตรงเข้าไปเตะน่องของเหยาเชียนเชียน เป็การบังคับให้นางปล่อยมือโดยทันที
เห็นเหยาเชียนเชียนขมวดคิ้วร้องโอดโอยด้วยความเ็ป สภาพน่าเวทนาเช่นนี้ทำให้สาวใช้ทั้งสองสะใจเป็อย่างยิ่ง
เป็หวังเฟยแล้วอย่างไร เป็หวังเฟยแต่ถูกพวกนางรังแกเสียจนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ การอาศัยอยู่ในจวนอ๋องแห่งนี้ หากไม่เป็ที่โปรดปรานของท่านอ๋อง ชีวิตของนางก็ย่ำแย่เสียยิ่งกว่าสุนัขเฝ้าประตู
“หวังเฟยรีบเสด็จกลับไปที่ห้องเครื่องเถิดเพคะ หากช้ากว่านี้เกรงว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เสวยแล้วนะเพคะ”
เชิงอรรถ
[1] ถังเปา หมายถึง ซาลาเปาไส้ซุป
[2] ฮวาเจวี่ยน หมายถึง หมั่นโถวชนิดหนึ่งที่ทำเป็รูปดอกไม้ มีทั้งไส้ผักและเนื้อสัตว์เหมือนกับซาลาเปา
[3] อี๋เหนียง เป็คำที่ใช้เรียกอนุภรรยา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้