หานอวิ๋นซีนำใบสั่งยามาให้ฮ่องเต้เทียนฮุย และพูดถึงความสำคัญของยาเซิงเสวี่ยตาน
นางแอบคิดว่า ไม่ว่าฮ่องเต้เทียนฮุยจะไปขอยาด้วยวิธีใดก็ต้องใช้เวลาถึงสิบเดือนครึ่ง ใน่เวลานี้ นางก็สามารถกลับไปที่จวนฉินอ๋องและอยู่ได้อย่างปลอดภัย นางที่มีภาระอันหนักอึ้งเช่นนี้ ดูสิว่าอี้ไท่เฟยกับมู่หรงหว่านหรูจะกล้ามาทำอะไรนางอีกหรือไม่! ยิ่งไปกว่านั้น นางสามารถเข้าออกโรงหมอหลวงได้อย่างอิสระเพื่อที่จะปรึกษากับหมอหลวงกู้
โรงหมอหลวงมีตำราทางการแพทย์มากมาย วัสดุยาก็มากมาย ที่นี่เป็เหมือนโกดังเถาเป่าขนาดใหญ่สำหรับนาง!
หลังจากส่งใบสั่งยา หานอวิ๋นซีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ใครจะรู้...
ฮ่องเต้เทียนฮุยวางใบสั่งยาลงและมองไปที่หลงเฟยเยี่ย “ฉินอ๋อง หุบเขายาผีไม่ใช่สถานที่ธรรมดา เ้าควรไปที่นั่นด้วยตัวเอง”
แม้ว่าจะเป็การสนทนา แต่ทุกคนต่างรู้ว่านี่คือคำสั่งของฮ่องเต้
หลงเฟยเยี่ยพยักหน้าด้วยใบหน้าเ็าเหมือนเดิม “ทราบแล้ว”
หานอวิ๋นซีชำเลืองมองเขาและอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างมีความสุข เ้าก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่ เ้าที่ยืนดูอยู่เฉยๆ ก็กลับถูกปลาในบ่อทำร้ายเสียได้
ยาเซิงเสวี่ยตานไม่ใช่เื่ง่ายที่จะซื้อมาได้!
หากซื้อไม่ได้ โทษจะตกอยู่ที่ท่านทั้งหมด!
“ฝ่าา ยาอื่นๆ ทั้งหมดในใบสั่งยานี้มีอยู่ในโรงหมอหลวง อวิ๋นซีและหมอหลวงกู้จะเตรียมให้โดยเร็วที่สุด เมื่อได้ยาเซิงเสวี่ยตานมา จะได้รักษาได้ในทันที” หานอวิ๋นซีพูดอย่างจริงจัง
ฮ่องเต้เทียนฮุยพยักหน้า “เช่นนั้นก็รอข่าวดีจากฉินอ๋องได้เลย”
ในตอนนี้ ทุกคนต่างแยกย้ายกันไป หานอวิ๋นซีขอตัวไปจ่ายยากับหมอหลวงกู้ และไม่ได้กลับไปพร้อมกับหลงเฟยเยี่ย หลงเฟยเยี่ยเองก็ไม่สนใจนางอีกเลย
ฮองเฮาที่เดินไปกับไท่เฮาตลอดทาง ในใจก็เต็มไปด้วยความกังวล “หมู่เฟย เอ่อ...หม่อมฉันสับสนเหลือเกิน สรุปแล้วหานอวิ๋นซีไว้ใจได้หรือไม่!”
ในใจของไท่เฮาเองก็รู้สึกสับสนเช่นกัน ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจ “หากครั้งนี้สตรีผู้นี้สามารถรักษาเทียนโม่ได้ ตระกูลข้าก็จะต้องเป็หนี้นางอีกครั้งแน่นอน!”
ในตอนนั้นที่ฮูหยินเทียนซินช่วยชีวิตไท่เฮาไว้ ไท่เฮาก็ได้แนะนำหานอวิ๋นซีให้กับฉินอ๋อง แต่ในความเป็จริงแล้วนางคิดจะให้หานอวิ๋นซีแฝงตัวเป็สายลับอยู่ข้างกายฉินอ๋อง แต่ใครจะรู้ว่าหานอวิ๋นซีกลับเติบโตเป็หญิงสาวอัปลักษณ์ที่ไร้ประโยชน์ และหานฉงอันก็ยังไม่สามารถรักษาไท่จื่อได้อีก
ฮองเฮาพยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก
หานอวิ๋นซีที่กว่าจะมาถึงจวนฉินอ๋องก็ดึกแล้ว ทันทีที่เข้าประตูก็ถูกอี้ไท่เฟยพาตัวไป
อี้ไท่เฟยและมู่หรงหว่านหรูอยู่ไม่สุขตลอดทั้งวันเพื่อรอข่าว การที่หานอวิ๋นซีสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย มันหมายความว่าอย่างไร?
“อาการของไท่จื่อเป็อย่างไรบ้าง? รักษาได้หรือไม่?” อี้ไท่เฟยเริ่มเปิดประเด็น
หานอวิ๋นซีสงสัยอยู่ในใจว่าหลงเฟยเยี่ยออกมาก่อนไม่ใช่หรือไร? หรือว่าเขายังไม่กลับมากันนะ?
นางไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เมื่อเห็นอี้ไท่เฟยและมู่หรงหว่านหรูมองด้วยสายตาคาดหวัง สายตาดูถูกเหยียดหยามฉายแววในตาของนาง แสร้งทำเป็ถอนหายใจและลังเลที่จะพูด
“พี่สะใภ้ เกิดอะไรขึ้น หมู่เฟยกับข้ากังวลมาทั้งวันแล้ว” มู่หรงหว่านหรูถามอย่างกระวนกระวาย
“ก็ไม่ได้เป็อะไร เป็เช่นนั้นนั่นแหละ” หานอวิ๋นซีพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เช่นนั้นเป็เช่นไรล่ะ?” อี้ไท่เฟยที่อดทนไม่ได้อีกต่อไป
“ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ข้ามีวิธีรักษา” หานอวิ๋นซีพูดออกมา
นางเห็นความประหลาดใจในสายตาของอี้ไท่เฟย และเห็นความอิจฉาริษยาในแววตาของมู่หรงหว่านหรูเช่นกัน
ผู้ที่้าจะดูเื่ตลกของนาง แต่กลับถูกนางหัวเราะเยาะกลับ!
“พูดเช่นนี้ เ้ารักษาไท่จื่อได้อย่างนั้นหรือ?” มู่หรงหว่านหรูถามอย่างกระวนกระวายใจ
“เหลือยาเพียงแค่ตัวเดียว มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แล้ว เพียงแต่ ยาชนิดนั้นหาได้ยากมาก หากจะซื้อก็ต้องไปซื้อที่หุบเขายาผี” หานอวิ๋นซีตอบตามความเป็จริง
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา อี้ไท่เฟยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ริมฝีปากของมู่หรงหว่านหรูก็โค้งขึ้นอย่างดูถูกและพูดว่า “ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับหุบเขายาผี เ้าของหุบเขาชื่อว่าใต้เท้าเหยากุ่ย เขาเป็คนแปลกที่เข้าใจยากสุดๆ ผู้ที่ไปซื้อยาเก้าในสิบคนจะกลับมามือเปล่า บางคนถึงกระทั่งเดิมพันชีวิตที่นั่นเพื่อซื้อยา”
อี้ไท่เฟยที่เดิมทีประหม่าก็สงบลง “เช่นนี้นี่เอง การรักษาไท่จื่อคงเป็เื่ลำบากน่าดู”
หานอวิ๋นซีเห็นด้วยอย่างมาก พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “แน่นอน มันลำบากสุดๆ ไปเลย!”
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็เปลี่ยนเื่และพูดว่า “อย่างไรก็ตาม ฮ่องเต้ได้ส่งฉินอ๋องไปขอยา จากที่ข้าดูแล้วเื่นี้ก็คงไม่ยากใช่หรือไม่?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา อี้ไท่เฟยและมู่หรงหว่านหรูต่างใ
ทันใดนั้น อี้ไท่เฟยก็ตะคอกด้วยความโกรธ “อะไรนะ? ให้ฉินอ๋องไปที่หุบเขายาผีงั้นหรือ?”
การแสดงออกของหานอวิ๋นซีไร้เดียงสาและจริงจังมาก นางพยักหน้า “ฉินอ๋องไป ต้องได้ยามาแน่นอน การตัดสินใจของฮ่องเต้ไม่มีทางผิดพลาด”
หัวใจของอี้ไท่เฟยกระตุก กำหมัดแน่นและเกือบจะตบสักฉาด
อย่างไรก็ตาม ประโยคสุดท้ายของหานอวิ๋นซี “การตัดสินใจของฮ่องเต้” บังคับให้นางต้องกลืนลมหายใจนี้
มู่หรงหว่านหรูที่อยู่ด้านข้างก็ตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์แบบ
ทุกคนรู้ว่าหุบเขายาผีไม่ใช่สถานที่ที่ดี นับประสาอะไรกับการซื้อยา ถ้าฉินอ๋องไปที่นั่นแล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ? หากเขาไม่สามารถซื้อยามาได้ ฉินอ๋องจะต้องรับผิดชอบต่อความผิดทั้งหมดในเื่นี้หรือเปล่า?
เหตุใดความผิดของหานอวิ๋นซีถึงได้มาตกอยู่ที่ฉินอ๋องล่ะ?
หากรู้ว่าเื่จะกลายเป็เช่นนี้ นางคงไม่แพร่ข่าวลือเพื่อฆ่าหานอวิ๋นซีหรอก มู่หรงหว่านหรูไม่เพียงเสียใจเท่านั้น ใบหน้าของนางเองก็มืดมนเช่นกัน
หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน หานอวิ๋นซีรู้สึกสดชื่นและลืมความเมื่อยล้าทั้งหมดเมื่อกลับมาพบสองแม่ลูกที่เป็ใบ้จนพูดไม่ออกแบบนี้
“หมู่เฟย ฮ่องเต้รับสั่งให้ข้าพักผ่อนให้ดีในสองสามวันนี้ เพื่อที่จะได้เตรียมการรักษาที่ดีที่สุดให้กับไท่จื่อ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ข้าขอตัวลาไปก่อน” นางกล่าวคำนับด้วยความเคารพ จากนั้นก็หันกลับและเดินออกจากไป
อี้ไท่เฟยโกรธมากจนแทบจะะเิได้ทุกเมื่อ เส้นเืปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของนางที่กำแน่น นางไม่สามารถทำอะไรกับหานอวิ๋นซีได้เลย
ฮ่องเต้ ไม่ใช่สิ่งที่อี้ไท่เฟยจะกล้ายั่วโมโหง่ายๆ
“สรุปเป็ใครกันแน่ที่เป็คนปล่อยข่าวลือนี้ บ้าจริง!” อี้ไท่เฟยพูดอย่างโกรธเคือง
มู่หรงหว่านหรูกลัวมากจนไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
ฝีเท้าของหานอวิ๋นซีเร็วอย่างมาก นี่เป็ครั้งแรกในโลกของอำนาจของฮ่องเต้ นางได้ค้นพบแล้วว่าอำนาจของฮ่องเต้เป็สิ่งที่ดีจริงๆ!
เมื่อมาถึงลานดอกบัว หานอวิ๋นซีก็อดไม่ได้ที่จะหยุดเมื่อเห็นห้องนอนของหลงเฟยเยี่ยมืดสนิท
ชายผู้นั้นยังไม่กลับมา เขาหายไปไหน?
เป็ไปได้หรือไม่ว่าเขารีบตรงไปที่หุบเขายาผี? แต่นี่มันไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือ?
นางกัดริมฝีปาก พลางคิดในใจว่าวิทยายุทธ์ของชายผู้นั้นดีมาก คงไม่ตกอยู่ในอันตรายหากไปที่หุบเขายาผี อีกอย่างชื่อเสียงของเขาใหญ่โตขนาดนี้ บางทีกู่ชีชาอาจเห็นแก่หน้าเขาก็เป็ได้
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หานอวิ๋นซีก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น และหันหลังกลับอย่างสง่างามเพื่อไปที่ตำหนักหยุนเซียนของนาง
ตำหนักหยุนเซียนสว่างไสว หานอวิ๋นซีคิดว่าเฉินเซียงต้องเป็ห่วงนางแน่นอน จุดไฟรอนางกลับมา แม้ว่าเฉินเซียงจะเป็สาวใช้ แต่นางก็ยังรู้สึกอบอุ่นที่มีใครบางคนรออยู่ที่บ้านให้นางกลับมา
“เสี่ยวเฉินเซียง...”
หานอวิ๋นซีะโเรียกก่อนที่จะเข้าประตู นางหิวสุดๆ ้าที่จะสั่งให้เสี่ยวเฉินเซียงหาอะไรให้นางกิน
“เสี่ยวเฉินเซียง เ้า...”
แต่ใครจะรู้เมื่อมาถึงประตูห้องใต้หลังคา นางก็เห็นเฉินเซียงยืนอยู่ข้างประตูและก้มหน้าลง บนโต๊ะน้ำชาในห้องก็มีใครบางคนกำลังชงชา จากมุมมองของหานอวิ๋นซี ควันชากำลังขดตัวเหมือนภาพวาด
เหมือนจะจริง...แต่ก็เหมือนจะไม่จริงเช่นกัน
“หลงเฟยเยี่ย...” หานอวิ๋นซีพึมพำอย่างช่วยไม่ได้
คนในห้องไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉินอ๋องหลงเฟยเยี่ย ดูจากท่าทางเช่นนั้นแล้ว ดูเหมือนว่าเขากำลังรอนางอยู่
“นายหญิง...ฉินอ๋องมารอท่านนานแล้ว”
เสี่ยวเฉินเซียงเตือนนางเบาๆ หานอวิ๋นซีก็สงบสติอารมณ์อีกครั้ง รอนานแล้วอย่างนั้นหรือ? เป็ไปได้หรือไม่ว่าเขาจะมาหานางหลังจากออกจากวังไปแล้ว?
หานอวิ๋นซีรีบเดินเข้าไป “ถวายบังคมฉินอ๋อง”
หลงเฟยเยี่ยรินชาโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองและพูดอย่างใจเย็นว่า “ยาเสร็จแล้วหรือ?”
“อืม” หานอวิ๋นซีตอบ หัวใจของนางเต้นแรงและไม่เข้าใจว่าทำไมชายผู้นี้ถึงมาที่นี่ นางรู้ว่าชายผู้นี้ฉลาดกว่าฮ่องเต้ แต่เขาก็คงไม่เห็นข้อบกพร่องในอาการป่วยของไท่จื่อหรอกใช่หรือไม่
เขามาที่นี่ทำไมกัน?
หลงเฟยเยี่ยลุกขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไปเก็บของ แล้วไปที่หุบเขายาผีกับข้า”
“อะไรนะ?” หานอวิ๋นซีใ
หลงเฟยยี่ยเลิกคิ้วและมองนาง “มีปัญหาอะไรหรือไม่?”
มี! ปัญหาใหญ่ด้วย!
ในเมื่อมันไม่ใช่สถานที่ที่ดี ทำไมนางต้องไปล่ะ?
หานอวิ๋นซีที่ตอบในใจไปแล้ว เพียงแต่สีหน้าของนางกลับเผยความลำบากใจออกมา และพูดอย่างไร้ปัญญาว่า “ฉินอ๋อง ข้าไม่รู้จักผียานั่น ดังนั้นข้าคงช่วยไม่ได้ กลัวว่าจะไปเป็ตัวถ่วงให้ท่าน”
“ข้าไม่กลัวว่าเ้าจะเป็ตัวถ่วงอยู่แล้ว” หลงเฟยเยี่ยพูดอย่างเ็า
หานอวิ๋นซีถอนหายใจเบาๆ และพูดอีกครั้งว่า “อย่างไรก็ตาม ข้ายังคงต้องหารือเกี่ยวกับรายละเอียดการรักษากับหมอหลวงกู้อย่างละเอียด เกรงว่า...”
“ไท่จื่อประชวรมาเจ็ดปีแล้ว ยังไม่สายเกินไปที่จะกลับมาหารือเกี่ยวกับเื่นี้” หลงเฟยเยี่ยพูดอีกครั้ง
“ท่านอ๋อง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับข้าระหว่างทาง ฮ่องเต้เองก็คงไม่รู้ว่าจะมอบหมายหน้าที่ของข้าให้ผู้ใด” หานอวิ๋นซีขู่อย่างกล้าหาญ
น่าเสียดายที่สิ่งนี้สามารถข่มขู่อี้ไท่เฟยได้ แต่ไม่ใช่กับหลงเฟยเยี่ย เขาพูดอย่างเอาแต่ใจว่า “ไม่มีเื่อะไรเกิดขึ้นหรอก”
หานอวิ๋นซีรู้สึกหดหู่ใจเหลือเกิน น่าเสียดายที่สมองฝ่อและไม่สามารถคิดหาเหตุผลที่จะปฏิเสธเขาได้ ดังนั้นนางจึงถามแทนว่า “ท่านอ๋อง ทำไมจู่ๆ ถึงอยากให้ข้าไปด้วย?”
ถามว่าทำไม แต่ก็ไม่เป็ไรได้เสมอ
โดยไม่คาดคิด หลงเฟยเยี่ยไม่ได้ตอบโดยตรง น้ำเสียงเ็าและมีพลังพูดว่า “ข้าให้เวลาเ้าเตรียมตัวจนกว่าชาถ้วยนี้จะหมด ข้าจะรอเ้าอยู่ที่ประตูหลัง”
หลังจากพูดจบ ก็หันหลังกลับและเดินออกไป หานอวิ๋นซียืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยใบหน้าที่งุนงง
หลงเฟยเยี่ย ท่านช่างโหดร้าย!
เวลาแค่ชาถ้วยเดียว มันจะไปพอให้หานอวิ๋นซีเก็บของได้อย่างไร แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเฉินเซียงได้เตรียมไว้ให้นางแล้ว รวมถึงขนมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสนองความหิวของนางด้วย
โดยไม่ต้องสงสัย นี่คือสิ่งที่หลงเฟยเยี่ยบอกให้เฉินเซียงเตรียมไว้ เขาตั้งใจที่จะพานางไปที่นั่น
หานอวิ๋นซีอยากจะร้องไห้ แต่เฉินเซียงกลับมีความสุข “นายหญิง หม่อมฉันได้ยินมาจากพวกเขาว่าท่านอ๋องไม่เคยพาสตรีผู้ใดออกไป และไม่เคยใช้สตรีผู้ใดด้วย ท่านเป็คนแรก”
มุมปากของหานอวิ๋นซีกระตุก นางคิดว่านางคงเป็สตรีผู้เดียวในโลกที่ว่าการออกไปกับฉินอ๋องไม่ใช่เื่ที่ดีเสียเท่าไร
“นายหญิง หุบเขายาผีนั่นอยู่ที่ไหนหรือ พวกเขาจะทำอะไร? แล้วต้องไปนานแค่ไหน?”
ขณะที่ส่งหานอวิ๋นซีออกไป เฉินเซียงก็ถามด้วยความสงสัย
หานอวิ๋นซีกลอกตา “ตื่นเต้นขนาดนี้ เ้าไปด้วยไหมล่ะ?”
เฉินเซียงใอย่างมาก รีบกลับเข้าไปในห้องทันที ส่ายหัวแรงๆ และยิ้มบางๆ “หม่อมฉันไป พวกท่านก็ไม่สะดวกสิเพคะ!”
หานอวิ๋นซีจ้องมองท้องฟ้าโดยไม่พูดอะไร เฉินเซียงเองก็ยังเด็กอย่างมาก คิดว่าพวกเขากำลังไปฮันนีมูนหรือไร?
นางส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ี้เีเกินกว่าจะอธิบาย โบกมือให้เฉินเซียงแล้วจากไป
ที่ประตูหลัง หานอวิ๋นซีเห็นรถม้าจอดอยู่
เอ๋ คราวนี้ชายผู้นี้จะไม่พานางเหาะไปหรือ? ดูเหมือนว่านางจะชอบความรู้สึกตอนที่เหาะมากกว่า
คิดอะไรกันนะ?
หานอวิ๋นซีส่ายหัวและเข้าไปในรถม้า เห็นแค่เพียงหลงเฟยเยี่ยเอนศีรษะพิงอย่างเกียจคร้าน
นางเห็นที่ด้านข้างที่หนึ่ง เลยเอนกายลงอย่างเฉื่อยชา พลางคิดในใจว่า ใครจะไปกลัวกัน? ไม่ว่าอย่างไร ท่านต้องรับผิดชอบในการส่งข้ากลับมาอย่างปลอดภัย
หลงเฟยเยี่ยเงยหน้าขึ้นมองนาง และพูดอย่างเ็าว่า “ทางลัด ไปที่หุบเขางูก่อน”
หุบเขางู?
หานอวิ๋นซีรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดี...