แต่ซางจื่อรีบแสดงปฏิกิริยาออกมาทันทีรีบคำนับทำความเคารพไปยังอากาศ “บ่าวน้อมพบท่านอ๋องเก้าพันปีเ้าค่ะ”
“นังหนูใช่ถูกหลี่ชิ่งเหยียนไอ้เฒ่านั้นข่มขู่จนแตกตื่นไปแล้วหรือ?” เสียงอ้อยอิ่งนุ่มนวล ของอวี้เสวียนจีดังมาเพียงได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นตัว
หลี่ชิ่งเหยียน? เ้าบ้านตระกูลหลี่?
หรือว่าที่อวี้เสวียนจีมาโดยเฉพาะเพราะกลัวนางถูกหลี่ชิ่งเหยียนข่มขู่จนแตกตื่นไปแล้ว?
คนคนนี้สนใจหรือไม่ได้สนใจนางกันแน่!
ซูเฟยซื่อมองไปรอบด้านทั่วสารทิศอย่างพิจารณาแล้วรอบหนึ่งไม่พบร่องรอยใดๆ จึงยอมแพ้ “ไม่ถึงกับถูกข่มขู่จนแตกตื่นเ้าค่ะ ไม่ทราบว่าท่านอ๋องเก้าพันปีรู้จักเขามากน้อยแค่ไหนเ้าคะ?”
“เ้าอยากรู้อะไร?” อวี้เสวียนจีลอยลงมาจากท้องฟ้าอย่างสง่างาม พริบตาเดียวก็ยืนสง่างามอยู่ตรงหน้าซูเฟยซื่อยิ้มอย่างน่าหลงใหลหากแต่ชั่วร้าย
“เมื่อครู่ท่านซ่อนอยู่ที่ใดกัน?”ซูเฟยซื่อจ้องด้วยความประหลาดใจ เมื่อสักครู่นางไม่ได้เห็นเขาชัดๆ
อวี้เสวียนจีเลิกคิ้วคราหนึ่งอย่างภูมิใจแต่ไม่ตอบคำถามของซูเฟยซื่อ ยังพูดจาต่อจากเมื่อครู่“แม้ว่าหลี่ชิ่งเหยียนบอกว่าไม่อยากเห็นหลี่ฉีแต่ที่ผ่านมาไม่ได้ไล่เขาออกจากบ้านตระกูลหลี่เพราะหลี่ฉีเป็ลูกเพียงคนเดียวของหลี่อู่ ถ้าหลี่ฉีตายแล้ว สายเืนี้ของหลี่อู่ก็ขาดสะบั้นตอนนี้เ้าถึงกับบีบคั้นให้เขาสละรถศึกรักษาแม่ทัพไว้ สังหารหลี่ฉีกับนางแซ่โหยวเขาไม่ปล่อยเ้าแน่”
ซูเฟยซื่อมองท่าทีภูมิใจของอวี้เสวียนจี คิดอยากตบเขาให้ตายในฉาดเดียวแต่ในใจกลับสงสัยอย่างอดไม่ได้ “สังหารหลี่ฉีกับนางแซ่โหยว? หลี่ฉีฆ่าคนตายชดใช้ด้วยชีวิตนั่นต้องตายแน่นอนแต่นางแซ่โหยวอย่างมากที่สุดนับเป็ผู้สมรู้ร่วมคิดก่ออาชญากรรมคนหนึ่งโทษไม่ควรถึงขั้นตายนี่?”
“หลี่ฉีกับนางแซ่โหยวเพิ่งออกไปจากจวนอัครมหาเสนาบดีก็กินยาพิษฆ่าตัวตายแล้ว”อวี้เสวียนจีกล่าวอย่างเ็า
“เป็ไปได้อย่างไร? ขณะที่หลี่ฉีกับนางแซ่โหยวถูกลากออกไปยังดิ้นรนขอความเมตตาไม่คิดอยากตายทั้งสิ้น” เป็ไปไม่ได้ที่ออกพ้นจากประตูใหญ่ของจวนอัครมหาเสนาบดีก็เปลี่ยนใจไปมากขนาดนั้น
เพียงเห็นอวี้เสวียนจียิ้มอย่างดูถูกทันที“พวกเขาเป็เพียงเด็กที่ถูกตระกูลหลี่ทอดทิ้ง เพื่อปกป้องนางแซ่หลี่กับซูจิ้งโหยวพวกเขาจึงต้องตาย”
ที่แท้เป็เช่นนี้ หลี่ฉีกับนางแซ่โหยวไม่ใช่กินยาพิษฆ่าตัวตายแต่ถูกหลี่ชิ่งเหยียนบีบคั้นจนตาย
เพื่อไม่ให้หลี่ฉีกับนางแซ่โหยวพูดเื่ที่ไม่ดีต่อนางแซ่หลี่ออกมาทั้งนี้ เื่นี้เป็นางแซ่หลี่ยุยง
“หลี่ชิ่งเหยียนยังเป็คนอำมหิตโหดร้ายจริงๆ” ซูเฟยซื่อขมวดคิ้วแน่น
“ดังนั้น ในเมื่อเ้าล่วงเกินเขาแล้ววันข้างหน้าก็สร้างบุญกุศลให้มากขึ้นเถิด” อวี้เสวียนจียิ้มสวยดุจดอกไม้งามดูเหมือนกำลังรอคอยละครสนุกที่ใกล้จะเริ่มแสดงขึ้น
มุมปากซูเฟยซื่อกระตุกอย่างช่วยไม่ได้นี่เขามาที่นี่เพื่อเตือนให้นางรู้ว่ามีอันตราย หรือมาเพื่อเยาะเย้ยนางกันแน่?
“ไม่บังอาจให้ท่านอ๋องเก้าพันปีกังวลใจข้าต้องปกป้องชีวิตน้อยๆ ของข้าเองได้” ซูเฟยซื่อกล่าวพลางเบ้ปาก
“ไอ้หยา นังหนู ดูท่าทีเ้าแบบนี้ใช่ไม่พอใจข้าอุปราชหรือ?” อวี้เสวียนจีชอบดูท่าทีของนางที่รู้ทั้งรู้ว่าตนเองถูกรังแกแต่กลับทำอะไรเขาไม่ได้แบบนี้จริงๆ
น่ารักยิ่งนัก
รู้ว่าอวี้เสวียนจีสนุกขึ้นมาแล้วซูเฟยซื่อรีบส่ายหน้าเหมือนประจบ “มิกล้า ท่านอ๋องเก้าพันปีฉลาดปราดเปรื่อง วิทยายุทธ์ล้ำเลิศสง่างามดุจไม้แกร่งต้องพายุ มีใครที่ไหนกล้าที่จะไม่พอใจท่านได้เ้าคะ”
นับว่าซูเฟยซื่อเข้าใจอารมณ์ด้านนี้ของอวี้เสวียนจีอย่างแม่นยำ
ยิ่งเ้าเผชิญหน้าต่อกรกับเขา เขาก็ยิ่งไม่ปล่อยเ้าในทางกลับกัน ถ้าเขารู้สึกว่าไม่น่าสนใจย่อมจากไปเอง
ไม่คิดว่าอวี้เสวียนจีไม่เพียงไม่หงุดหงิดแต่ในดวงตากลับมีแววสนุกสนานพาดผ่านไป“เห็นแก่เ้าที่พยายามประจบข้าอุปราชอย่างสุดแรงขนาดนี้ ข้าอุปราชจะบอกเ้าอีกเื่หนึ่งวันสมภพของพระสนมหวินใกล้มาถึงแล้ว ตอนนี้พระสนมหวินกับซูจิ้งโหยวปะทะกันจนมิอาจคบหากันได้ย่อมไม่ปล่อยโอกาสที่จะออกลวดลายนี้ให้ผ่านไป ต้องมีการจัดงานเลี้ยงฉลองวันสมภพอย่างมิอาจเลี่ยงได้ตามที่ข้าอุปราชเดา บัตรเชิญต้องส่งมาถึงในไม่กี่วัน”
หรือว่าเมื่อเร็วๆ นี้ที่ซูจิ้งโหยวไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆที่แท้ก็เป็เพราะรบกับหยางเซียงหวินจนปลีกตัวไม่ได้
เดี๋ยวก่อน ไม่ถูกต้อง ทำไมนางรู้สึกว่าวาจาของอวี้เสวียนจีเมื่อครู่มีบางอย่างผิดปกติ
อะไรเรียกว่าพยายามประจบอย่างสุดแรง วาจานั้นของนางเมื่อครู่ เห็นชัดว่าคิดจะส่งเขาไปแต่ทำไมกลับถูกเขาว่าเป็ประจบสอพลอไปได้!
เห็นสีหน้าของซูเฟยซื่อกลายเป็สีตับหมูไปเรียบร้อยแล้วอวี้เสวียนจีจึงออกจากสวนปี้หวินอย่างพึงพอใจ
“อวี้เสวียนจี!” ซูเฟยซื่อแค้นจนตอนนี้แทบอยากฟาดเ้าปีศาจตนนี้ให้สลบ ลากออกไปใช้ดาบสับสักสองชั่วยาม
อวี้เสวียนจีเพิ่งไปได้ไม่นาน สาวรับใช้ของนางแซ่หลี่ก็มาแล้ว
“บ่าวน้อมพบคุณหนูสาม” สาวรับใช้คำนับด้วยความเคารพ
“เกิดเื่อะไรขึ้น?” ได้รับการเตือนจากอวี้เสวียนจีเมื่อครู่ ซางจื่อได้เห็นสาวใช้ของนางแซ่หลี่ปุ๊บก็กันนางไว้ที่นอกประตูอย่างตื่นตัว
สาวรับใช้ถูกปฏิกิริยาของซางจื่อทำให้ใรีบส่งกล่องในมือออกมาทันที “ครึ่งเดือนหลังจากนี้ จะเป็การเลี้ยงฉลองวันสมภพของพระสนมหวินพระสนมหวินจะจัดงานเลี้ยงในพระราชวัง เชิญขุนนางทั้งหมดนายท่านชี้ว่าต้องพาท่านไปด้วยแน่นอน นายหญิงกลัววว่าท่านไม่มีเสื้อผ้าสมฐานะ เลยให้บ่าวนำเสื้อผ้ามาให้ท่านสวมใส่ในวันงานเลี้ยงฉลองเ้าค่ะ”
ซางจื่อขมวดคิ้วแล้ว จึงหันไปมองซูเฟยซื่อ
ความหมายในแววตานี้ เห็นชัดว่ากำลังบอกว่า นางแซ่หลี่ดีขนาดนั้น? ยังส่งเสื้อผ้ามาให้?
ซูเฟยซื่อไม่รู้ว่านางแซ่หลี่กำลังเล่นลูกไม้อะไร โบกมือทันที“เสื้อผ้าข้ารับไว้ เ้ากลับไปเถิด”
“เ้าค่ะ” สาวรับใช้อยากกลับไปจะแย่อยู่แล้ว ทันทีที่ได้ยินคำเหล่านี้ก็วิ่งไปจนไร้เงาแล้ว
ซางจื่อรับกล่องมาวางอยู่ตรงหน้าซูเฟยซื่อ “คุณหนูในเสื้อผ้าชุดนี้คงไม่ซ่อนพิษไว้หรอกนะเ้าคะ? เหมือนกระเป๋าเงินใบนั้นเ้าค่ะ”
ซูเฟยซื่อส่ายหน้าแล้ว เปิดกล่องออกดู ครานี้อดไม่ได้ที่จะแปลกใจบ้าง
เพียงเห็นข้างในวางไว้ด้วยกระโปรงยาวสีชมพูตัวหนึ่งฝีมือของงานกับเนื้อวัสดุล้วนเป็ของชั้นหนึ่ง
ไม่ต้องพูดถึง เปรียบกับเสื้อผ้าเ่าั้ในวันปกติของนาง เมื่อเทียบกับของซูจิ้งเถียนของซูจิ้งเถียนทั้งหมดต่างด้อยไปขั้นหนึ่ง
เสื้อผ้าดีแบบนี้ นางแซ่หลี่ไม่เก็บไว้ให้ซูจิ้งเถียนเต็มใจสละให้นาง?
“ซางจื่อ ตรวจดูชุดนี้ให้ดี” เปลี่ยนเป็ผู้หญิงปกติเห็นเสื้อผ้าที่ดูดีขนาดนี้แล้วก็ดีใจจนแทบมิอาจปล่อยมือซูเฟยซื่อกลับรับเสื้อผ้าโยนเข้าไปในมือของซางจื่อโดยตรง เหมือนโยนขยะอะไรแบบนั้น
“เ้าค่ะ” ซางจื่อหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาทั้งดมทั้งดูดึงทึ้งไปแล้วค่อนวัน จึงส่ายศีรษะอย่างสับสน
ไม่มีปัญหา? หรือว่านางแซ่หลี่คิดใช้เสื้อผ้าชุดนี้มาประจบนางกับซูเต๋อเหยียน?
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตรวจไม่พบปัญหาของเสื้อผ้า วันเลี้ยงฉลองงานสมภพของพระสนมหวินได้มาถึงแล้ว
ซูเฟยซื่อนั่งอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งให้ซางจื่อแต่งตัวเพียงได้ยินเสียงที่เป็กังวลของซางจื่อดังมา “คุณหนูวันนี้ท่านจะสวมใส่เสื้อผ้าที่นางแซ่หลี่ส่งมาให้ชุดนั้นจริงหรือเ้าคะ? ั้แ่ต้นจนจบบ่าวไม่เชื่อว่านางแซ่หลี่จะใจดีแบบนั้นถ้าบังเอิญเกิดมีปัญหา จะทำอย่างไรล่ะเ้าคะ?”
“ถ้ามีปัญหา เราก็ได้ตรวจสอบมาแต่เนิ่นๆ แล้วแต่ผ่านมาหลายวันขนาดนั้น ทว่าไม่มีร่องรอยที่อาจเป็ไปได้สักนิด ถ้าข้าไม่ใส่ไม่เพียงแต่จะให้นางแซ่หลี่มีเหตุผลเอาข้าไปว่าลับหลังยังมิอาจรู้ได้ว่าที่แท้นางคิดจะทำอะไร” ซูเฟยซื่อกล่าววิเคราะห์อย่างเ็า
แม้ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วหลี่ชิ่งเหยียนกล่าวอะไรกับนางแซ่หลี่ในวันนั้น
แต่นางเชื่อว่ามีคำแนะนำของหลี่ชิ่งเหยียน นางแซ่หลี่ไม่ควรโง่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
วิธีการวางยาพิษที่เห็นได้ชัดเจนแบบนั้น ไม่ควรนำมาใช้อีก
ดังนั้นนางยิ่งต้องใส่ชุดกระโปรงนี้ไปทดสอบเจตนาของนางแซ่หลี่มีเพียงรู้ว่าแท้จริงแล้วนางแซ่หลี่คิดจะทำอะไร นางจึงสามารถหาวิธีที่จะโต้กลับออกมาได้
“ไม่ทราบว่าพี่สามแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยังเ้าคะ?”เวลานี้ จู่ๆ เสียงของซูจิ้งเถียนก็ดังมาจากข้างนอก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้