“ไม่จริงเลยสักนิด… ในสายตาของข้าท่านแม่ยังสาวยังสวยมาก ถ้าท่านแม่บอกกับข้าว่าอายุยี่สิบห้าข้าก็เชื่อ… ”
เฟยหลงไม่ได้กล่าวเกินเลยไปจากความเป็จริง เพราะว่าผู้หญิงที่มีผิวพรรณเปล่งปลั่งขาวเนียนและทรวดทรงดีอย่างแม่ยายคนนี้ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนใจ
ถ้าลี่หลินคิดจะแต่งงานใหม่ก็เดาได้เลยว่าจะต้องมีผู้ชายมากมายมาต่อคิวขอเป็สามีของนาง
“เ้าช่างปากหวานเยินยอข้า… ”
คนถูกชมกล่าว นางแอบอมยิ้มเป็ธรรมดาของสตรีเมื่อมีบุรุษเอ่ยชมความงาม
“ข้าพูดจริง… เอ่อ… ที่ข้าถามก็เพราะสงสัยว่าทำไมท่านแม่ไม่แต่งงานใหม่ อยู่คนเดียวมันเหงาและว้าเหว่ ท่านแม่ก็ยังสาวยังสวยและข้าเชื่อว่าท่านแม่ยังมีความ้าในเื่บนเตียง… ”
เฟยหลงกล้าที่จะพูดออกมาตรงๆ โดยไม่กลัวว่าคนที่ถูกถามจะตำหนิว่าเสียมารยาท
และดูเหมือนว่าลี่หลินก็รู้ทัน…
นางอ่านใจลูกเขยออกว่ากำลังคิดอะไร จึงได้ใช้คำถามสอดรู้สอดเห็นเกี่ยวกับเื่ส่วนตัวของนางที่ควรจะเก็บเป็ความลับ
คิดว่าเฟยหลงคงสงสัยว่าผู้หญิงวัยสามสิบห้าปีอย่างนางนั้นหมดความ้าทางเพศไปแล้วหรือไร จึงได้อยู่คนเดียวมาตลอดสามปีหลังจากสามีตายจากไป
“ถ้าเ้าสงสัยเื่ความ้าทางเพศสำหรับข้ามันคงหมดไปแล้วจริงๆ ถ้าเป็เมื่อตอนวัยสาวนั้นอาจจะมีมากแต่ตอนนี้ข้ารู้สึกเฉยๆ ไปแล้วกับเื่แบบนี้… ”
เมื่อลูกเขยกล้าถามแบบเจาะใจตรงประเด็น แม่ยายอย่างลี่หลินก็กล้าตอบอย่างไม่อ้อมค้อมเช่นกัน
และประโยคที่ว่า ‘ถ้าเป็เมื่อตอนวัยสาวนั้นอาจจะมีมาก’ สะดุดหูของเฟยหลงเข้าอย่างจัง
เพราะว่าเท่าที่แอบสังเกตอยู่เงียบๆ มาหลายวัน จากการที่ได้พูดคุยสนทนา ได้ใกล้ชิด ได้มองตา
ทำให้เฟยหลงเชื่อว่าสตรีผู้มีทรวดทรงเย้ายวนใจบุรุษเพศอย่างลี่หลินคนนี้จะต้องมีอารมณ์อันร้อนแรงอย่างแน่นอน เพียงแต่นางเก็บซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครรู้
“แล้วตอนนี้ล่ะ… ตอนนี้ข้ากำลังนวดอยู่นี้ท่านแม่ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ… ”
เฟยหลงหรี่ตามองสะโพกกลมกลึง ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าเอ่ยถามประโยคห่ามๆ เช่นนี้ออกมา
หากแต่ที่ตัดสินใจถามก็เพราะไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่ยังดูสาวสวย ผิวพรรณยังเต่งตึงไปด้วยเืเนื้อราวกับสาวแรกรุ่นและมีทรวดทรงสุดเย้ายวนใจบุรุษเพศอย่างแม่ยายคนนี้จะหมดความ้าทางเพศไปแล้ว
“ไม่… ข้าไม่รู้สึกอะไรเลย… ”
คนปากแข็งไม่ยอมรับความจริงว่าตลอดสามปีที่เป็ม่าย ความ้าทางเพศไม่เคยหายไป…
และดูเหมือนว่านับวันมันยิ่งทวีความ้ารุนแรงขึ้นกว่าเก่า
ใครจะรู้บ้างว่าแต่ละคืนวันที่ผ่านพ้นไปนางต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนเพื่อข่มกลั้นความอยากที่บอกใครไม่ได้
“ข้าไม่เชื่อว่าท่านแม่ไม่มีความ้า… ”
เฟยหลงค้าน…
น้ำเสียงแสดงอาการรู้ทัน ดวงตาลุกวาวไปด้วยความใคร่ที่พยายามข่มกลั้นเอาไว้ และเมื่อมีโอกาสได้อยู่กับแม่ยายสองต่อสองทำให้ตบะของเฟยหลงใกล้จะแตก
จากนั้นลี่หลินก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับความบ้าระห่ำของเขยหื่นที่สอดมือเข้ามาใต้ชายผ้าคลุมอยู่ที่ต้นขา
มือหยาบใหญ่ไล้ลูบขึ้นมาชิดต้นขาด้านในแล้วตะปบกลีบสวาทของนางที่โค้งนูนขึ้นมาเหมือนหลังเต่าประกบกับอุ้งมือพอดี
“อุ๊ย… ว้าย… เ้าอย่าทำบ้าๆ นะเฟยหลง… ”
ลี่หลินร้องอุทานเสียงสั่น…
นางใมาก ไม่คิดว่าเฟยหลงจะกล้าทำสิ่งน่าละอายเช่นนี้
ทว่าทุกอย่างก็เกิดขึ้นรวดเร็วมาก นางมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ลำนิ้วแข็งของเขยหื่นกำลังเสียดสีอยู่กลางร่อง ตวัดรัวๆ จนสองกลีบอวบอูมแยกออกจากกัน ทำให้น้ำคาวสวาทที่อัดอั้นอยู่ในสองกลีบกะปริบออกมาชุ่มลำนิ้วแข็ง กระแทกเข้ามาจนสุดโคน
ซ่วบ… ซ่วบ… ซ่วบ… ซ่วบ… ซ่วบ…
“อ๊ะ… อ๊อย… ”
ลี่หลินครางเสียว…
นางบิดตัวไปมา เสียงหายใจกระเส่า ใบหน้าบิดเบ้เหยเกไปชั่วขณะ
ภาพที่เห็นยิ่งทำให้เฟยหลงได้ใจ เพราะรู้ว่าถ้าแม่ยายไม่มีอารมณ์ น้ำคาวสวาทของนางก็คงไม่หลั่งไหลออกมาชุ่มกลีบ
“เฟยหลง… เ้าจะทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้… ”
ลี่หลินพยายามดิ้น…
ทำให้ลำนิ้วของเฟยหลงหลุดออกมาจากสองกลีบที่โดนนิ้วกระตุ้นจนน้ำเยิ้ม
เมื่อรูสวาทของนางเป็อิสระจากดุ้นนิ้วของเขยหื่นที่ตั้งหน้าตั้งตาทะลวงเข้าใส่อยู่อึดใจใหญ่ๆ หลังจากสอดใส่เข้ามาได้ ลี่หลินพยายามกระถดสะโพกหนี
“รูเยิ้มขนาดนี้แล้วท่านแม่ยังจะปากแข็งว่าไม่มีอารมณ์… ”