อันดายิ้มบางๆ อย่างไม่ถือสา “ดึกแล้วค่ะ ฉันขอกลับก่อนนะ บ้านฉันอยู่ซอยห้า ห่างจาก สน. ไปเกือบสองกิโล ถ้าวันไหนคุณอยากให้ฉันช่วย ก็แวะไปได้นะคะ บ้านฉันอยู่หลังสุดท้ายในซอยเลยค่ะ”
ชนกันต์พยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ ก่อนเอ่ยถามเมื่อเห็นเธอหมุนตัวเตรียมเดินจากไป
“นี่คุณจะเดินกลับบ้านเหรอ?” ดูจากสภาพแล้ว ดึกขนาดนี้ สถานที่เปลี่ยวขนาดนี้ คงไม่มีรถนั่งกลับเข้าไปหรอก
“ค่ะ เดี๋ยวฉันโทรหาน้องชาย ให้เขาออกมารับ เราคงเจอกันแถวๆ หน้าปากซอยพอดี”
“ดึกขนาดนี้ ทางก็เปลี่ยว… คุณยังคิดจะเดินกลับอีกเหรอ? เพิ่งผ่านเื่อันตรายมา ไม่นึกกลัวบ้างเลยเหรอ”
“ไม่เป็ไรหรอกค่ะ ตรงนี้ไม่เปลี่ยวเหมือนตรงที่เกิดเหตุแล้ว” เธอยิ้ม “จริงๆ ถ้ามีโจรมาคนเดียว ฉันก็พอจะสู้ไหวนะคะ”
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจเบาๆ แม้จะเห็นท่าทางต่อสู้ของเธอมากับตา แต่ถึงอย่างไร... ในเมื่อลงมือช่วยแล้ว เขาก็ควรช่วยให้ถึงที่สุด
“ยังไงคุณก็เป็ผู้หญิง อีกอย่าง... ผมก็เสียเวลาไปแล้ว ถ้าคุณเป็อะไรขึ้นมา ผมคงเสียดายเวลาที่ช่วยไว้ ขึ้นรถมาเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง” เขาเอ่ยเรียบๆ ก่อนจะเปิดประตูขึ้นรถ
อันดาอดขำไม่ได้
แม้จะพูดจาขวานผ่าซากไปนิด แต่เขาก็เป็คนใจดี และดูเป็สุภาพบุรุษ เธอจึงเดินตามขึ้นรถไปอย่างว่าง่าย
ไม่นานนัก เสียงของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“คุณไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น?”
ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนที่อยากรู้เื่ใคร แต่กับเธอ... ไม่รู้ทำไม ถึงอดสงสัยไม่ได้
“ฉัน…” เธอเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาเจือเศร้า “ฉันไปหาเก็บขวดค่ะ เอาไปขาย”
“เก็บขยะ?” เขาขมวดคิ้ว
เธอพยักหน้าช้าๆ “ใช่ค่ะ”
“ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเหรอ? หน้าตาก็พอมีดี ทำไมไม่หางานอื่นทำล่ะ”
อันดายิ้มจืด เธอเคยได้ยินคำพูดแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
“คนจนไม่ได้มีทางเลือกมากนักหรอกค่ะ ยิ่งไม่มีต้นทุนชีวิต ก็ยิ่งถูกกดขี่ ขาดโอกาส ฉันพยายามแล้ว... แต่โลกนี้ไม่ได้เมตตาคนที่พยายามเสมอไป” น้ำเสียงเธอเริ่มสั่นเครือ “ฉันเพิ่งถูกไล่ออกจากร้านกาแฟ ทั้งๆ ที่ฉันตั้งใจทำงานเต็มที่... แต่กลับถูกกลั่นแกล้ง เพราะไปขวางหูขวางตาลูกเ้าของร้าน”
“อย่าเอาความจนมาเป็ข้ออ้าง”
เธอชะงัก ก่อนจะเงยหน้ามองเขา แม้คำพูดจะดูไม่อ่อนโยน แต่กลับััได้ถึงเจตนาดีที่แฝงอยู่
“ฉันไม่ได้ใช้ความจนเป็ข้ออ้างหรอกค่ะ... ฉันแค่เล่าความจริง” เสียงเธอสั่น ก่อนจะพรั่งพรูออกมา “ย่าฉันป่วย นอนติดเตียง น้องต้องเรียน ทุกวันมีค่าใช้จ่าย ฉันไม่มีแม้แต่เวลาจะฟูมฟาย ยิ่งถ้าวันไหนไม่มีรายได้ ทั้งครอบครัวก็ไม่มีอะไรกิน…”
น้ำตาไหลพรากโดยไม่รู้ตัว เสียงสะอื้นแ่เบาดังขึ้นในรถเงียบ
ชนกันต์ถอนหายใจเบาๆ คิ้วขมวดแน่น แล้วก็เหมือนอะไรบางอย่างในหัวสมองเชื่อมโยงเข้ากันได้
เขานึกออกแล้ว…
ผู้หญิงคนนี้ คือคนที่ถูกตะเพิดออกจากร้านกาแฟเมื่อตอนเที่ยง
ตอนนั้นเขาแอบนึกเยาะเย้ยในใจด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ กลับได้ยินอีกแง่มุมหนึ่งของเธอ
เขาหยิบทิชชูจากคอนโซลแล้วยื่นให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ…” เธอรับมาพลางสั่งน้ำมูกเสียงดังอย่างลืมตัว
ชนกันต์เหลือบมองเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
เกิดมายังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าเลย… ไม่คิดจะรักษาภาพลักษณ์สวยหวานเลยหรือไง
“ขออีกค่ะ” เธอพูดพร้อมยื่นมือ
เขาถอนหายใจเบาๆ อีกครั้ง ก่อนจะหยิบให้เธออีกแผ่น
“บ้านฉันอยู่ซอยข้างหน้านี่เองค่ะ” เธอบอกคนขับ พร้อมกับพับกระดาษทิชชูแล้วยัดใส่กระเป๋า
รถเคลื่อนตัวมาถึงจุดหมายปลายทาง ชนกันต์มองภาพบ้านเก่า ๆ เบื้องหน้า ตัวบ้านอยู่ต่ำกว่าถนน คล้ายถูกสร้างมาก่อนที่ถนนเส้นนี้จะตัดผ่าน
"นี่บ้านฉันเองค่ะ มีอะไรให้ช่วยก็มาหาฉันที่นี่ได้เลยนะคะ" เธอหันมายิ้มบางให้ ขณะรถจอดสนิท
ชนกันต์มองตัวบ้านอย่างพินิจ ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเรียบ "บ้านคุณก็ไม่ได้ดูดีอะไร แต่ก็คงไม่ถึงกับไม่มีเงินเลยใช่ไหม... ทำเลแถวนี้ ราคาที่ดินก็ค่อนข้างสูง"
เขาไม่ได้พูดเพราะระแวง แต่อาจเพราะเป็คนที่ไม่ค่อยเชื่อใครง่าย ๆ โดยเฉพาะหลังเคยพบเจอผู้หญิงมาหลายรูปแบบ ทั้งจริงใจ และที่ใช้เล่ห์กลจนเขาแทบแยกไม่ออก
"บ้านหลังนี้ปู่กับย่าสร้างกันไว้ค่ะ ถ้าพ่อยังอยู่ก็คงไม่ต้องลำบากเื่เงินแบบนี้" น้ำเสียงเธออ่อนลงเล็กน้อย "โชคร้าย... ท่านเสียไปเมื่อสองปีก่อน จากอุบัติเหตุ ตอนไปตามแม่ฉันที่หอบเงินหนีไปกับผู้ชายคนใหม่"
หญิงสาวกลั้นใจเล่าต่อ ทั้งที่ไม่อยากย้อนกลับไปนึกถึง
"ฉันเลยต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย มาทำงานหาเงิน ส่งน้องชายที่กำลังเรียน และดูแลคุณย่าที่กำลังป่วย..." เธอถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะกลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเองด้วยรอยยิ้มฝืน "เอาเป็ว่า อย่าสนใจฉันเลยนะคะ แค่เครียดนิดหน่อย เลยพลั้งพูดออกไป ขอบคุณมากสำหรับวันนี้ค่ะ"
พูดจบ เธอก็เปิดประตูลงจากรถด้วยท่าทีเรียบง่าย แต่ในใจกลับรู้สึกดีอย่างน่าประหลาดที่ได้เล่าความเครียดในใจออกไปให้กับคนแปลกหน้า
ชนกันต์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา แล้วหยิบนามบัตรใบหนึ่งยื่นให้เธอ
"นี่ นามบัตรของเลขาผม ถ้าอยากทำงาน ลองติดต่อบริษัทนี้ดู ติดต่อคุณนาวิน เขาจะจัดการให้... รับรองได้งานแน่"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้