เมื่อเย่เฟิงและฉินเยียนหรานเดินเข้าร้านก็มีหญิงสาวผู้หนึ่งเดินมาต้อนรับทันที “คุณชายคุณหนูเชิญด้านในเ้าค่ะ ยินดีต้อนรับสู่หอพันศัสตรา ท่านทั้งสอง้าอาวุธชนิดไหน ข้าโยวเฟิ่งจะช่วยแนะนำให้ท่านทั้งสองเ้าค่ะ”
“ข้า้าดาบที่เหมาะสำหรับผู้หญิง” เย่เฟิงกล่าว นี่เป็ครั้งแรกของเขาที่มาเยือนร้านค้าอาวุธ และการที่มีคนคอยแนะนำก็ช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ
“ดาบสามเล่มตรงหน้าท่านเหมาะสำหรับผู้หญิงมากเ้าค่ะ” หญิงสาวนามว่าโยวเฟิ่งผู้นั้นกล่าวแนะนำพลางยิ้มให้เย่เฟิง
“ดาบหลวนเฟิ่ง ดาบหงส์คราม ดาบธารามรกต!”
อาวุธทุกชิ้นในหอพันศัสตราล้วนติดฉลากสินค้าไว้ทั้งหมด บนนั้นบอกข้อมูลของอาวุธไว้อย่างละเอียด
เย่เฟิงหยิบดาบหลวนเฟิ่งเล่มนั้นมาไว้ในมือ แม้จะอยู่ห่างจากมัน แต่เย่เฟิงก็ััได้ถึงปราณอันแหลมคมที่แผ่ออกมาจากดาบ
“หากโยวเฟิ่งเดาไม่ผิด คุณหนูท่านนี้น่าจะฝึกเคล็ดวิชาธาตุไฟ เพราะฉะนั้นดาบหลวนเฟิ่งเหมาะกับคุณหนูมาก ๆ เ้าค่ะ มันเป็อาวุธเหลืองระดับสูง ในนั้นแฝงด้วยพลังธาตุไฟ หากผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 5 ทั่วไปเป็ผู้ใช้ เมื่อกวัดแกว่งดาบ พลังโจมตีจะเทียบเท่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 7 สำแดงเ้าค่ะ” โยวเฟิ่งกล่าวแนะนำ
“ดาบหลวนเฟิ่งราคา 2,000 หินหยวนระดับล่าง แพงจัง!” ฉินเหยียนหรานเห็นราคาของดาบหลวนเฟิ่งพลันขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะดึงชายเสื้อเย่เฟิงแล้วกล่าวว่า “ดูเหมือนอาวุธในร้านนี้จะไม่เหมาะกับข้า พวกเราไปดูร้านอื่นกันเถอะ!”
เย่เฟิงได้ยินก็ตบบ่าฉินเยียนหรานเบา ๆ ก่อนจะกล่าวว่า “เยียนหราน เ้าไม่ต้องห่วง ข้ามีความรู้เกี่ยวกับอาวุธในระดับหนึ่ง ดาบของเ้าให้ข้าช่วยเลือกเถอะ”
เย่เฟิงรู้ว่าฉินเยียนหรานเห็นราคาอาวุธในร้านนี้แพง จึงอยากเปลี่ยนร้าน แม้ฉินเยียนหรานอยู่ที่สำนักยุทธ์เทียนเสวียนจะมีฐานะพิเศษ แต่นางไม่เคยพึ่งพาบิดานาง ไม่ว่าจะเป็ทรัพยากรในการบำเพ็ญตนหรือหินหยวนที่เอาไว้ใช้จ่าย นางก็ล้วนเป็คนหาเองทั้งหมด ดังนั้นหินหยวนระดับล่าง 2,000 ก้อนถือเป็สมบัติเกือบทั้งหมดของนาง นางมิอาจใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตนมาซื้อดาบเล่มหนึ่งได้
“ดาบหลวนเฟิ่งไม่เหมาะกับนาง เช่นนั้นเ้าเก็บไปก่อนเถิด!” เย่เฟิงกล่าวกับโยวเฟิ่ง จากนั้นส่งดาบหลวนเฟิ่งไปให้โยวเฟิ่ง ทว่าการกระทำของเขาทำให้หลาย ๆ คนในหอพันศัสตรามองเขาด้วยสายตาดูแคลน ทั้งยังก่นด่าเย่เฟิงในใจไม่รู้กี่ครั้ง สาวงามเช่นนี้ แต่ชายผู้นี้กลับซื้อดาบหลวนเฟิ่งที่มีราคา 2,000 หินหยวนระดับล่างให้ไม่ได้ หากเปลี่ยนเป็พวกเขาและมีสาวงามเคียงกายเช่นนี้ อย่าว่าแต่ 2,000 แม้แต่ 3,000 หรือ 5,000 พวกเขาก็ยอมจ่าย
“ไม่มีน้ำใจเสียเลย!” จู่ ๆ ผู้ฝึกยุทธ์หญิงคนหนึ่งกล่าวกับฉินเยียนหรานว่า “แม่นาง ชายผู้นี้ตระหนี่ถี่เหนียว ทางที่ดีเ้าอย่าให้เขาหลอกเอาได้ รีบหนีไปเสีย คนประเภทนี้ไม่คู่ควรกับเ้า”
“ใช่ คนเห็นแก่ตัวแบบนี้ไม่คู่ควรอยู่ข้างกายเ้า!”
เมื่อเห็นผู้ฝึกยุทธ์หญิงคนนั้นดูเป็เดือดเป็ร้อนแทนฉินเยียนหราน คนอื่น ๆ ก็พูดเสริมขึ้นมาทันที แม้แต่โยวเฟิ่งยังเหลือบมองเย่เฟิงด้วยสายตาดูแคลน แต่มีเพียงฉินเยียนหรานที่ยังคงนิ่งเฉย เพราะนางรู้จักเย่เฟิงดีที่สุด
เย่เฟิงคร้านที่จะสนใจคำวิจารณ์ของคนเหล่านี้ จากนั้นเขาหันไปมองดาบเล่มหนึ่งที่แขวนอยู่บนผนังข้างหลังโยวเฟิ่ง ดาบเล่มนี้ยาวประมาณ 3 ฉื่อ ภายนอกดูงดงามและละเอียดอ่อน ทั้งยังมีสีแดงเพลิง ส่วนตัวดาบมีรอยตราหงส์แดงสลักอยู่บนนั้น แม้จะอยู่ไกล ๆ แต่ก็รับรู้ได้ถึงพลังธาตุไฟที่แผ่ออกมาจากตัวดาบ เพียงแต่ดาบเล่มนี้ไม่มีฉลากติดไว้ ทำให้ไม่ทราบข้อมูลของดาบเล่มนี้ ดังนั้นเย่เฟิงจึงเอ่ยปากถามขึ้นว่า “ดาบเล่มนี้มีชื่อว่าอะไร? เหตุใดไม่เห็นแนะนำดาบเล่มนี้?”
“ดาบเล่มนี้มีชื่อว่าดาบหงส์แดงเป็อาวุธปฐีระดับกลาง เป็หนึ่งในสมบัติล้ำค่าของหอพันศัสตรา ตามกฎแล้วดาบหงส์แดงเล่มนี้ไม่มีไว้ขาย เชิญคุณชายเลือกอาวุธชิ้นอื่นเถิดเ้าค่ะ!” โยวเฟิ่งกล่าว
“อาวุธปฐีระดับกลาง หอพันศัสตราสมกับเป็หนึ่งในสิบธุรกิจแห่งตลาดตระกูลมู่ แม้แต่อาวุธปฐีระดับกลางก็มี” ลูกค้าคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดของโยวเฟิ่งต่างก็ใ ซึ่งอาวุธนั้นแบ่งเป็เจ็ดขั้น มีดังนี้ อาวุธธรรมดา อาวุธิญญา อาวุธเหลือง อาวุธปฐี อาวุธ์ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ และอาวุธเทพ แต่ทุกขั้นจะแบ่งเป็สามระดับ นั่นคือระดับล่าง กลาง และสูง
โดยทั่วไปแล้ว อาวุธธรรมดาสามารถพบเห็นได้ทุกหนแห่ง อาวุธิญญาส่วนใหญ่จะเป็อาวุธสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาหรือขั้นรวมชี่ระดับล่าง ส่วนอาวุธเหลืองถือเป็ของล้ำค่า แม้แต่อาวุธที่วางขายตามหน้าร้านก็ยังพบเห็นอาวุธเหลืองระดับสูงน้อยครั้ง
ตามเมืองเล็ก ๆ ในอาณาจักรจ้าวค่อนข้างหาซื้อได้ยาก มีเพียงตลาดในเมืองที่มีชื่อเสียงไม่กี่แห่งในอาณาจักรจ้าว จึงจะมีอาวุธเหลืองระดับสูง แต่ถึงอย่างนั้นอาวุธปฐีก็หายากยิ่งกว่า อีกทั้งยังหาซื้อตามตลาดทั่วไปไม่ได้ มีเพียงตามงานประมูลระดับสูง ๆ เท่านั้นจึงจะปรากฏอาวุธปฐี แต่ไม่นึกว่าในหอพันศัสตราจะมีอาวุธปฐีระดับกลาง นี่ช่างน่าใยิ่งนัก
“แม้แต่ดาบหลวนเฟิ่งยังซื้อไม่ได้ ไม่นึกว่าชายผู้นี้จะสนใจอาวุธปฐี ช่างไม่เจียมตัวเสียเลย!”
“นั่นสิ อาวุธปฐีระดับกลางหาใช่คนอย่างเขาซื้อได้ไม่” ผู้คนไม่น้อยวิพากษ์วิจารณ์เย่เฟิง ทั้งยังมองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูก
“กฎเกณฑ์ล้วนเป็สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ดาบหงส์แดงเล่มนี้เหมาะกับสหายข้ามาก เ้าขายดาบเล่มนี้ให้ข้าได้หรือไม่?” เย่เฟิงเอ่ยถามโดยไม่สนใจคำวิจารณ์ของคนรอบข้าง
“นี่ไม่ใช่เื่ที่ข้าจะตัดสินใจได้ แต่ถ้าคุณชายมีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อดาบเล่มนี้จริง ๆ โยวเฟิ่งจะไปถามเถ้าแก่ให้ แต่โยวเฟิ่งอยากเตือนท่าน อาวุธปฐีระดับกลางไม่ใช่ใครจะซื้อก็ได้ คุณชายต้องพิจารณาให้รอบคอบ” โยวเฟิ่งยังคงกล่าวอย่างนอบน้อม แต่ถ้อยคำของนางกลับเป็การเตือนเย่เฟิง ดาบหงส์แดงนั้นมีราคาแพง หรือกล่าวได้ว่าหากเย่เฟิงไม่มีกำลังทรัพย์มากพอ ก็อย่าสร้างปัญหาให้วุ่นวาย
“ตกลง เช่นนั้นรบกวนแม่นางแล้ว!” เย่เฟิงกล่าวพลางพยักหน้าให้โยวเฟิ่ง
โยวเฟิ่งเหลือบมองเย่เฟิงแวบหนึ่ง ในใจนางไม่เชื่อว่าชายผู้นี้จะมีกำลังทรัพย์มากพอที่จะซื้อดาบหงส์แดงเล่มนี้ได้ แต่จากนั้นนางก็เดินเข้าห้องที่อยู่ภายในหอพันศัสตรา
บรรดาลูกค้าในหอพันศัสตราต่างเผยสีหน้าสนใจ เตรียมรอดูจุดจบของเย่เฟิง ส่วนผู้ฝึกยุทธ์หญิงคนนั้นที่เตือนฉินเยียนหรานเมื่อครู่เผยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม นางคิดว่าเย่เฟิงทนคำวิจารณ์ของพวกเขาไม่ได้ จึงแสร้งทำเป็ซื้อแล้วเรียกเถ้าแก่ออกมา นางอยากเห็นนักว่าเขาจะมีจุดจบเช่นไร
“เย่เฟิง อาวุธปฐีระดับกลางจะต้องแพงมากแน่ ๆ ข้าใช้อะไรก็เหมือนกันหมด เราไปเลือกอาวุธที่ถูกกว่านี้เถอะ!” ฉินเยียนหรานกล่าว
“มีเพียงดาบหงส์แดงเล่มนี้ที่เหมาะกับเ้า” เย่เฟิงกล่าวพลางมือลูบศีรษะฉินเยียนหราน จากนั้นเห็นโยวเฟิ่งเดินออกจากห้อง พร้อมกับชายวัยกลางคนร่างอ้วนท้วมเดินตามออกมา ทั้งสองคนเดินมาที่ด้านหน้าเย่เฟิง โยวเฟิ่งกล่าวว่า “คุณชาย ท่านนี้คือเ้าของหอพันศัสตรา ท่าน้าได้สิ่งใดเชิญบอกเขาได้เลย”
“พ่อหนุ่ม ข้าได้ยินมาว่าเ้าสนใจดาบหงส์แดงของหอพันศัสตราข้า ใช่ไหม?” เถ้าแก่มองสำรวจเย่เฟิงรอบหนึ่ง เมื่อเขาเห็นว่าอายุยังน้อยก็เผยสีหน้าดูแคลน
“ใช่ขอรับ เชิญเถ้าแก่เสนอราคามาได้เลย!” เย่เฟิงกล่าว
“ดาบหงส์แดงคืออาวุธปฐีระดับกลาง ราคาหาใช่คนธรรมดาจับต้องได้ไม่ พ่อหนุ่มมีความมุ่งมั่น แต่การวางตัวก็ควรมีมารยาท อย่าทำให้ตัวเองต้องอับอายขายหน้า” เถ้าแก่ไม่คอยคำถามของเย่เฟิง แต่เปลี่ยนไปสั่งสอนแทน ราวกับคิดว่าเย่เฟิงไม่มีปัญญาซื้อดาบหงส์แดง
“เสนอราคามาเถอะ!” เย่เฟิงพูดอีกครั้ง เขาเพียงแค่อยากซื้อดาบหนึ่งเล่ม แต่เหตุใดผู้คนต้องดูถูกเขาด้วย?
“คนหนุ่มสาวใครบ้างจะไม่ใจร้อน เ้านี่สิไม่เจียมตัวเองเสียเลย แต่ช่างเถอะ ข้าบอกเ้าก็ได้” เถ้าแก่เห็นเย่เฟิงซักถามไม่หยุด สุดท้ายก็ทนไม่ได้ และกล่าวต่อว่า “หนึ่งแสนหินหยวนระดับล่าง หากเ้ามีกำลังทรัพย์มากพอ ดาบหงส์แดงเล่มนี้จะเป็ของเ้าทันที!”
“อะไรนะ?” เหล่าผู้คนที่เตรียมเยาะเย้ยเย่เฟิงต่างต้องใเมื่อได้ยินราคาของดาบหงส์แดง
หินหยวนระดับล่างหนึ่งแสนก้อน ช่างเป็จำนวนที่น่าใยิ่งนัก แม้จะเป็อาวุธปฐีระดับกลาง แต่ก็ไม่ควรมีราคาแพงขนาดนี้ ต้องทราบก่อนว่าหินหยวนระดับล่างหนึ่งแสงก้อนเทียบเท่ากับค่าใช้จ่ายของสำนักเล็ก ๆ ในหนึ่งปี จินตนาการได้เลยว่าจำนวนเลขนี้น่าสะพรึงกลัวเพียงใด
ชายผู้นี้ดูแล้วอายุประมาณ 16 ปี เขาจะมีหินหยวนจำนวนนี้ได้อย่างไร?
หลาย ๆ คนต่างคิดในใจเช่นนี้ และคิดว่าเย่เฟิงไม่มีทางมีหินหยวนจำนวนมากเท่านี้ แม้แต่ฉินเยียนหรานก็ยังใ เห็นชัดว่าเถ้าแก่ผู้นี้ไม่คิดจะขายดาบหงส์แดงให้เย่เฟิง จึงจงใจเสนอราคาสูงเช่นนี้เพื่อคิดอยากให้เย่เฟิงถอยออกไป
จากนั้นฉินเยียนหรานส่งข้อความไปหาเย่เฟิงผ่านจิต แต่เย่เฟิงกลับบอกว่าไม่ต้องห่วง ก่อนจะเห็นเย่เฟิงมองเถ้าแก่ด้วยสีหน้านิ่งเรียบแล้วกล่าวว่า “หนึ่งแสนหินหยวนระดับล่าง ดาบหงส์แดงเล่มนี้ข้าซื้อแล้ว!”
เมื่อเย่เฟิงพูดเช่นนี้ออกไป ผู้คนรอบข้าง ฉินเยียนหราน และเถ้าแก่ต่างต้องตื่นใ และมองเย่เฟิงด้วยสายตาเหลือเชื่อ
“เ้าแน่ใจหรือ?” เถ้าแก่เอ่ยถามเสียงสั่น เขาเพียงบอกราคาสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ไม่คิดว่าชายผู้นี้จะตอบตกลงโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเชื่อเย่เฟิง
“นี่คือหินหยวนระดับล่างหนึ่งแสงก้อนที่ท่านอยากได้ รับไปเสีย นับจากนี้ไปดาบหงส์แดงเป็ของข้า” เย่เฟิงกล่าว จากนั้นเห็นแสงกะพริบที่ด้านหน้าเขา ก่อนจะปรากฏถุงเงินใบหนึ่ง เขาเตรียมส่งไปให้เถ้าแก่ แต่กลับมีเสียงหนึ่งดังมาจากทางเข้าหอพันศัสตรา
“ดาบหงส์แดงเป็ของข้า ข้าก็จ่ายหินหยวนระดับล่างหนึ่งแสนก้อนได้เช่นกัน!”
นาทีต่อมามีสองเงาร่างปรากฏตัวในสายตาของผู้คน ไม่นานทั้งสองก็มาถึงด้านหน้าเย่เฟิง ก่อนหนึ่งในนั้นซึ่งเป็ชายอายุ 20 ปีจะคว้าจับดาบหงส์แดง แล้วส่งไปให้หญิงสาวที่มาด้วยกันอย่างไม่เกรงใจ และกล่าวต่อว่า “ศิษย์น้อง เห็นคราวก่อนเ้าสนใจดาบหงส์แดง ครั้งนี้ศิษย์พี่ทำความปรารถนาของเ้าให้เป็จริง เ้าพอใจหรือไม่?”
ชายผู้นั้นสวมอาภรณ์หรูหรา หน้าตาหล่อเหลา มีท่วงท่าสง่าผ่าเผย ทั้งถ้อยคำและการกระทำล้วนเปี่ยมด้วยความมั่นใจ มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนธรรมดา
หญิงสาวผู้นั้นรับดาบหงส์แดงมาด้วยรอยยิ้มพอใจ “พอใจมาก ขอบคุณศิษย์พี่!”
พวกเขาสองคนพูดคุยโดยไม่สนใจการมีอยู่ของเย่เฟิงและฉินเยียนหรานแม้แต่นิดเดียว และยิ่งไม่รู้จักคำว่าใครมาก่อนได้ก่อน ราวกับว่าดาบหงส์แดงเป็ของพวกเขาแต่แรก
“นั่นคือเจียงเซิ่งหลิงและหลิวถิงถิง ไม่นึกว่าพวกเขาจะมาที่หอพันศัสตราด้วย อีกอย่างหลิวถิงถิงยังสนใจดาบหงส์แดงเล่มเดียวกับชายผู้นั้น ชักจะน่าสนใจแล้วสิ!” มีลูกค้าคนหนึ่งจำผู้มาสองคนนี้ได้ทันทีจึงรู้สึกใเล็กน้อย
