พลังวัตรของอู๋เหวินเสียงบรรลุถึงชั้นเบิกนภาขั้นสองได้ย่อมต้องฝึกฝนวิชาปราณชั้นนิลขั้นต้นมาแล้ว
วิชาปราณชั้นนิลขั้นต้นวิชาหนึ่งสร้างตระกูลขั้นเก้าตระกูลหนึ่งขึ้นมาได้ทำให้ผู้ฝึกฝนที่มีพร์บรรลุถึงชั้นเบิกนภาขั้นสาม
อู๋เหวินเสียงเวลานี้อายุห้าสิบปีชีวิตผ่านมาครึ่งหนึ่งแล้ว โอกาสที่พลังวัตรจะเลื่อนชั้นแทบเป็ศูนย์เห็นได้ชัดว่าพร์ไม่สูงนัก
ถึงแม้ว่าพร์จะไม่สูง แต่ว่าอู๋เหวินเสียงก็เป็ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสองอีกทั้งยังฝึกฝนวิชาปราณชั้นนิลขั้นต้น พร้อมกับวิทยายุทธ์ชั้นนิลขั้นต้นกับวิชาตัวเบาชั้นนิลขั้นต้นที่สืบทอดกันมาในตระกูล
ไม่ว่าจะเป็วิทยายุทธ์หรือวิชาตัวเบาอู่เหวินเสียงล้วนฝึกถึงชั้นบรรลุบางส่วน ความสามารถเมื่อเทียบกับหนิวจื้อเฉียงจางเจ๋อเทา เฉิงจิ้งเฟิงเด็กหนุ่มทั้งสามที่อยู่ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งแล้วแข็งแกร่งกว่าอยู่ไม่น้อย
วิชาตัวเบาชั้นนิลขั้นต้นเร็วอย่างที่สุด ประมาณยี่สิบลมหายใจอู๋เหวินเสียงก็มาถึงยี่สิบเมตรตรงหน้าเสวียนเทียนแล้ว
เมื่อเห็นว่าเสวียนเทียนยังไม่หนีอู่เหวินเสียงก็หัวเราะขึ้นมา เอ่ยว่า “ไอ้ลูกหมา บนเวทีประลองผยองได้ใจ ตั้งใจทำร้ายคนวันนี้ข้าจะทำให้เ้ารู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็เช่นไร ฮึๆๆ ฮ่าๆๆๆ!”
เสวียนเทียนสีหน้าราบเรียบอารมณ์นิ่งจิตผ่อนคลาย มองอู๋เหวินเสียงอย่างไม่ลนลานสักนิด เอ่ยว่า “เ้าสุนัขเฒ่าบนเวทีการประลองเ้าเข้าข้างตระกูลหนิว เฉิง จางสามตระกูลข้ายังไม่ได้ไปหาเ้าคิดบัญชี เ้ากลับส่งตัวเองมาให้ถึงที่เชียว”
อู๋เหวินเสียงโกรธจัด “ไอ้ลูกหมา กล้ามากนักนะเ้าเรียกข้าว่าอะไร!”
เสวียนเทียนยังคงสีหน้าราบเรียบไม่สะทกสะท้านยิ้มนิดหน่อยก่อนตอบว่า “เห็นแก่หน้าเ้าแค่เรียกว่าเ้าสุนัขเฒ่า ไม่เห็นแก่หน้าเ้า ข้าคงเรียกไอ้หมาแก่ไปแล้ว”
“ไอ้ลูกหมา เ้าหาที่ตาย!”
อู๋เหวินเสียงโกรธจนเดือด ะโก้องว่า “วันนี้ข้าจะป่นกระดูกเ้าเป็ผงปาดคอเอาเืเ้า ไอ้ลูกหมา เ้าตายแน่!” พูดจบร่างของอู๋เหวินเสียงก็วิ่งเข้ามา มือกางเป็กรงเล็บตะปบมาทางเสวียนเทียน
กรงเล็บของอู๋เหวินเสียงยังมาไม่ถึง เงากรงเล็บสายหนึ่งก็แผ่พุ่งออกมาจากฝ่ามือก่อนแล้วดุจประกายแสงวิ่งผ่าน ตะปบมาทางเสวียนเทียน ปราณแท้เปลี่ยนเป็รัศมี รัศมีกรงเล็บคล้ายรัศมีกระบี่เป็การโจมตีที่แทบจะเหมือนของจริง หากถูกตะปบเข้า ต่อให้เป็หินแกร่งก็คงถูกตีแตกเป็เศษเล็กเศษน้อยจินตนาการได้เลยว่าถ้าร่างกายของผู้ฝึกยุทธ์โดนโจมตีเข้า จุดจบจะเป็เช่นไร?
ไม่เพียงถูกปราณแท้ของชั้นเบิกนภากระแทกโจมตีเกรงว่าเืเนื้อก็คงถูกควักออกไปเป็ก้อน ทำให้ร่างกายาเ็หนัก อีกทั้ง หากถูกรัศมีกรงเล็บโจมตีนอกจากร่างกายจะาเ็ การโจมตีที่ตามมาติดๆ ข้างหลังก็ย่อมมาถึงกรงเล็บด้านหลังไม่ใช่รัศมีกรงเล็บที่เกือบจะเหมือนของจริงแล้ว แต่เป็กรงเล็บของจริง
พริบตาที่ร่างกายได้รับาเ็พลังที่จะต่อต้านย่อมลดลงฮวบฮาบ กรงเล็บของจริงที่โจมตีตามมาถึงร่างจึงจะเป็กระบวนท่าสังหารที่แท้จริงผู้ที่ถูกโจมตีหากไม่ตายก็ต้องเจ็บหนัก
อู๋เหวินเสียงเริ่มลงมือก็ใช้วิทยายุทธ์ชั้นนิลขั้นต้นประจำตระกูล ‘กรงเล็บพญาเหยี่ยว’
กรงเล็บเหยี่ยวแหลมคม รวดเร็ว ‘กรงเล็บพญาเหยี่ยว’ เป็วิทยายุทธ์ชั้นนิลขั้นต้นที่ค่อนข้างร้ายกาจ
‘กรงเล็บพญาเหยี่ยว’ เป็วิทยายุทธ์ชั้นนิลขั้นต้นอย่างเดียวที่อู๋เหวินเสียงใช้ได้เมื่อลงมือก็ใช้ท่าไม้ตายออกมา เห็นได้ชัดว่าอู๋เหวินเสียงเกลียดเสวียนเทียนเข้ากระดูกอย่างแท้จริงอยากสังหารเขาให้สาแก่ใจเต็มที
เสวียนเทียนยังคงนิ่งสงบ ท่าทีสบายๆต่อหน้าการโจมตีอันรุนแรงของหนึ่งกรงเล็บของอู๋เหวินเสียงนี้เขาเหมือนกำลังนั่งเล่นอยู่ สีหน้าราบเรียบไม่สะทกสะท้าน เอ่ยขึ้นว่า “เ้าสุนัขเฒ่าเ้ามีพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสอง ความสามารถมีเพียงเท่านี้หรือ?”
ระหว่างที่พูดเงาร่างของเสวียนเทียนก็ขยับเหลือเพียงเงาเลือนรางสายหนึ่ง ‘ก้าวย่างัพยัคฆ์’ วิชาตัวเบาชั้นนิลขั้นต้นที่ฝึกจนถึงชั้นบรรลุส่วนใหญ่แล้วถูกใช้ออกมาหลบการโจมตีของอู๋เหวินเสียงอย่างง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ
รัศมีกรงเล็บของอู่เหวินเสียงโจมตีโดนเงาติดตาซึ่งเป็ความว่างเปล่าทะลุผ่านไป ตะปบลงที่พื้นดินผืนดินถูกรัศมีกรงเล็บตะปบครั้งหนึ่งเกิดเป็หลุมใหญ่ลึกหนึ่งฝ่ามือ
ในใจของอู๋เหวินเสียงเกิดความหนาวเหน็บขึ้นมาเงาร่างของเสวียนเทียนพอขยับครั้งหนึ่ง พลังอันแข็งแกร่งสายหนึ่งก็แผ่พุ่งออกมาราวกับั ดุจดังพยัคฆ์ พลังอำนาจรุนแรงข่มขวัญผู้คนถึงขนาดทำให้อู๋เหวินเสียงจิตใจหวาดผวา สันหลังเย็นเยียบ
“เหยี่ยวดำจับกระต่าย!”
“เหยี่ยวโฉบฟ้ากว้าง!”
อู๋เหวินเสียงะโลั่นขึ้นมาติดกันสองครั้งกรงเล็บเปลี่ยนรูปอย่างรวดเร็ว ใช้สองกระบวนท่าของ ‘กรงเล็บพญาเหยี่ยว’ ออกมาต่อเนื่อง
รัศมีกรงเล็บสองสายทะยานมาอย่างรวดเร็วคล้ายแสงกับเงาเร็วจนถึงขีดสุด ตะปบมาทางเสวียนเทียน
แต่ความเร็วของเสวียนเทียนก็ยังเร็วกว่าเขาเป็ดังัเหาะเหิน ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาอย่างอู๋เหวินเสียงเห็นเพียงเงาติดตาสายหนึ่งเท่านั้นแทบจะบอกไม่ได้ว่าร่างของเสวียนเทียนอยู่ที่ใด ชั่วขณะนั้นไม่มีทางแยกแยะออกได้
เสียงดังสนั่นสองครั้งดังขึ้น รัศมีกรงเล็บทั้งสองพลาดเป้าตะปบลงที่พื้นดินอีกครั้ง
“เ้าสุนัขเฒ่าเ้ามีความสามารถเท่านี้หรือ?”
เสียงของเสวียนเทียนฉับพลันก็ดังขั้นมา
อู๋เหวินเสียงใจเย็นเยียบไปทั้งดวง หน้าถอดสีเสียงของเสวียนเทียนอยู่ข้างหลังเขา
วิชาท่าร่างชั้นนิลขั้นต้น...ท่าเท้าเหยี่ยวไวว่อง
วิกฤติใหญ่หลวงมาเยือนอู๋เหวินเสียงความเร็วของเสวียนเทียนเร็วถึงขนาดนี้ไร้ร่องรอยดุจภูตผีโผล่มาข้างหลังอู่เหวินเสียง ทำอู่เหวินเสียงขวัญหายความกล้าหดรู้สึกราวกับด้านหลังตนมีพยัคฆ์ร้ายอยู่ตัวหนึ่ง เพื่อรักษาชีวิต อู๋เหวินเสียงใช้วิชาท่าร่างชั้นนิลขั้นต้น ‘ท่าเท้าเหยี่ยวไวว่อง’ ออกมาทันที
พร้อมกันนั้นก็หมุนตัวอย่างรวดเร็วมือขวากางกรงเล็บ โจมตีออกไปดั่งสายฟ้า
แครก! รัศมีกรงเล็บปรากฏขึ้น เสียงแตกดังมาให้ได้ยินราวกับว่าความว่างเปล่าก็ยังถูกกรงเล็บนี้โจมตีแตกทลายพลังของกรงเล็บนี้เหนือกว่ากรงเล็บใดที่อู๋เหวินเสียงใช้ออกมาก่อนหน้า
กรงเล็บแหวกวาโย...ท่าไม้ตายท่าสังหารอันรุนแรงท่าหนึ่งของวิชากรงเล็บพญาเหยี่ยว
ร่างเงาของเสวียนเทียนราวกับัท่องเก้าชั้นนภาเหินผ่านไม่อาจขวาง ราวกับพยัคฆ์วิ่งในพนา ทรงพลังไม่อาจต้าน
ในตอนที่อู๋เหวินเสียงใช้ ‘กรงเล็บแหวกวาโย’ นั้นเอง ร่างเงาของเสวียนเทียนก็กลายเป็เงาติดตาสายหนึ่งพริบตาเคลื่อนผ่านไปหลายก้าว รัศมีกรงเล็บของ ‘กรงเล็บแหวกวาโย’ แทบจะเฉียดผ่านเสื้อของเสวียนเทียน ะเิถูกบริเวณที่ว่างเปล่า
ดูเหมือนเฉียดอันตราย แต่ที่จริงแล้วเป็เสวียนเทียนควบคุมความเร็วได้อย่างยอดเยี่ยมถึงขั้นให้ห่างเพียงเส้นผมหลบการโจมตีของ ‘กรงเล็บแหวกวาโย’ ได้พอดี
“จบได้แล้ว!”
พร้อมกับที่เสวียนเทียนหลบ เสียง ‘ชิ้ง’ ก็ดังขึ้น กระบี่หิมะเหมันต์พริบตาก็ออกจากฝักรัศมีกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกมาพร้อมกับตอนที่ชักกระบี่สะบั้นแขนข้างที่ยื่นกรงเล็บออกมาของอู๋เหวินเสียง
กระบี่หิมะเหมันต์เป็กระบี่มีชื่อคมกริบผิดธรรมดา ทั้งยังมีปราณในร่างของเสวียนเทียนช่วยเสริมยิ่งคมกริบเหนือสิ่งใด ไม่มีสิ่งใดตัดไม่ขาดแม้ว่าอู๋เหวินเสียงจะมีปราณแท้ชั้นเบิกนภาคุ้มกันร่างแต่ก็ไม่อาจขวางรัศมีกระบี่ที่ส่งออกมาจากกระบี่หิมะเหมันต์ได้
ราวกับตัดกิ่งไม้กิ่งหนึ่งแขนของอู๋เหวินเสียงั้แ่ข้อศอกลงมาก็ขาดเป็สองส่วน กรงเล็บเสื่อมรัศมีกระเด็นตกไปไกล
ร่างกายของอู๋เหวินเสียงถอยกรูดราวสายฟ้าเวลาเดียวกัน ปากก็ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา
กระบี่ของเสวียนเทียนเมื่อออกจากฝักต้องได้เืชักกระบี่เป็เพียงจุดเริ่มต้น
กระบวนท่าสังหารที่แท้จริง อยู่ทีหลัง
เพลงกระบี่ดับเงา...สะบั้นร่าง!
ร่างเงาของเสวียนเทียนฉับพลันก็พุ่งมาข้างหน้าเคลื่อนผ่านกลายเป็เงาติดตาสายหนึ่ง พริบตาก็ตามมาทันร่างกายที่ถอยกรูดไปของอู๋เหวินเสียง
กระบี่หิมะเหมันต์ในมือะเิแสงสว่างขึ้นส่องแสงรัศมีบาดตาออกมา ทว่าพร้อมกับที่ร่างกายของเสวียนเทียนขยับกระบี่หิมะเหมันต์ที่เจิดจ้าบาดตานั้นพลันหายไป ไม่เห็นแม้กระทั่งเงาหรือแสงสักนิด
เมื่อความเร็วพุ่งจนถึงขีดสุดเมื่อนั้นแม้กระทั่งเงาก็ยังไม่เห็น นี่คือ ‘ดับเงา’!
ท่า ‘สะบั้นร่าง’ เป็กระบวนท่าสังหารรุนแรงท่าหนึ่งของ ‘เพลงกระบี่ดับเงา’ ความเร็วสุดยอดพลังโจมตีรุนแรงอย่างที่สุด!
พริบตาที่เสวียนเทียนไล่ตามอู๋เหวินเสียงทันรัศมีกระบี่บาดตาสายหนึ่งฉับพลันก็ปรากฏออกมาที่เหนือศีรษะของอู๋เหวินเสียงฟันลงมาอย่างรวดเร็ว
อู๋เหวินเสียงแทบจะไม่ทันได้ออกท่าป้องกันรัศมีกระบี่เจิดจ้าบาดตาก็ฟันลงมาจากอากาศเหนือศีรษะของเขาจรดฝ่าเท้าบนพื้นดินแล้ว
รัศมีแสงของกระบี่หิมะเหมันต์สลายไป ร่างกายของอู๋เหวินเสียงขยับถอยหลังแล้วพลันหยุดลงใบหน้าเผยสีหน้าหวาดกลัวสุดประมาณ ดวงตาทั้งสองมีเพียงความหวาดกลัวและตะลึงงัน
ชิ้ง!
เสวียนเทียนเก็บกระบี่เข้าฝัก ไม่แม้แต่จะเหลือบแลอู๋เหวินเสียงอีกมุ่งหน้าขึ้นเหนือลึกเข้าไปในเทือกเขาดงอสูร
อู่เหวินเสียงราวกับกลายเป็รูปสลักรูปหนึ่งแน่นิ่งไม่ขยับอยู่ตรงนั้น สองตาถึงแม้จะหวาดกลัวแต่ไร้แววชีวิตปลิดปลิวไปเสียแล้ว
ไม่นานเืสายหนึ่งก็ซึมออกมาจากหน้าผากของอู๋เหวินเสียง กลายเป็รอยเืสีแดงสดรอยเืสีแดงลากยาวลงไปยังเบื้องล่าง จากหน้าผากมายังจมูก มาถึงริมฝีปากไปจนถึงลำคอ...
ผ่านไปไม่นานผู้ฝึกยุทธ์ที่ไล่ตามเข้ามาในเทือกเขาดงอสูรเช่นเดียวกันกับอู๋เหวินเสียงก็ตามมาถึงจุดที่เสวียนเทียนสู้กับอู๋เหวินเสียงเมื่อครู่
บนพื้นมีศีรษะหมูขนาดใหญ่ั์หัวหนึ่ง แล้วยังมีศพหมูป่าขนน้ำตาลขนาดมหึมาที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งด้านข้างไม่ไกลอู๋เหวินเสียงยืนนิ่งสนิทอยู่ แขนท่อนล่างข้างซ้ายขาดด้วนท่อนแขนตกอยู่อีกข้างหนึ่ง สายตาฉายความหวาดกลัวและตะลึงงันมองไปยังส่วนลึกของเทือกเขาดงอสูร
จากศีรษะจรดลำคอ รอยเืสีแดงสดสายหนึ่งสะดุดตาชวนขวัญผวาไม่นานก็มีเืสดผุดซึมออกมา
ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนมายืนด้านหน้าของอู๋เหวินเสียงมองอู๋เหวินเสียงอย่างหวาดกลัวอยู่บ้าง ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งคนหนึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็หัวหน้าของบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ ยกเท้าก้าวอย่างระวังไปข้างหน้าสองสามเก้ามาจนถึงหน้าของอู่เหวินส่งเสียงเรียกขึ้น “ผู้นำตระกูลอู๋!”
อู๋เหวินเสียงไม่ขยับแม้แต่นิดสีหน้าก็ไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย ไม่ตอบสนองกับเสียงเรียกของคนผู้นี้แม้แต่นิด!
“ผู้นำตระกูลอู๋!” หัวหน้าผู้ฝึกยุทธ์ผู้นั้นกล้าๆ กลัวๆ ะโเรียกขึ้นมาอีกหนึ่งคำ
อู๋เหวินเสียงก็ยังไม่ตอบสนอง!
“หรือว่าตายแล้ว?” ในใจเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ต่างคิดขึ้นมาแต่ว่ายืนนึ่งไม่ขยับมีเพียงรอยทางเื ท่าตายแบบนี้ก็ดูประหลาดพิกลเกินไปหน่อย
“ผู้นำตระกูลอู๋?”
หัวหน้าผู้ฝึกยุทธ์ผู้นั้นร้องเรียกเป็ครั้งที่สามเห็นอู๋เหวินเสียงยังไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ ก็รวบรวมความกล้ายื่นมือขึ้นมาผลักอู่เหวินเสียงหนึ่งที
พรวด!
อู๋เหวินเสียงล้มลงไปตามแรงผลักร่างทั้งร่างั้แ่หว่างคิ้ว จมูก ลากยาวไปตามแนวรอยเืพลันแยกออกเป็สองซีก
เืแดงฉานมากมายพวยพุ่งออกมาสาดเต็มหน้าหัวหน้าผู้ฝึกยุทธ์คนนั้น
“อ๊าก!”
สภาพที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนั้นทำให้หัวหน้าผู้ฝึกยุทธ์ใจนขวัญกระเจิง ส่งเสียงร้องแหลมขึ้นมาร่างกายถอยกรูดไปทันที ขนทั่วร่างลุกชัน ราวกับแมวที่โดนเหยียบหาง ใไม่เบา
บรรดาผู้ฝึกยุทธ์ที่เหลือก็สั่นไปทั้งร่างพลันก้าวถอยไปก้าวใหญ่ ความหวาดกลัวแล่นไปตามไขสันหลัง ชั่วพริบตาก็แล่นลามจากสันหลังขึ้นไปถึงกระหม่อมทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกราวกับร่วงหล่นมาจากที่สูง ดวงิญญาหลุดจากร่างใหนักหนาไม่ต่างกัน
ตระกูลอู๋เป็ตระกูลชื่อดังของอำเภอเป่ยโม่อู๋เหวินเสียงผู้นำตระกูลมีพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสองในเทือกเขาดงอสูรกลับถูกคนฟันร่างแยกเป็สองซีก ได้ยินแล้วชวนให้สะพรึงยิ่งนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้