หลินหวั่นชิวผู้รนหาที่ตายขุดหลุมฝังศพด้วยมือตัวเองสำเร็จ
สตรีที่มีความรักชอบหาเื่ใส่ตัว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรับผลที่ตามมาไหว
จุดเริ่มต้นของความผิดพลาดคือการตอบตกลงให้ชายฉกรรจ์มาอาบน้ำในห้อง
ชายฉกรรจ์แก้ผ้าต่อหน้านางและยังเดินไปเดินมา คิดจะให้นางเป็ตากุ้งยิงชัดๆ ไม่ต่างกระไรกับนกยูงตัวผู้ในสวนสัตว์ที่รำแพงหางสุดชีวิตต่อหน้าตัวเมีย
แต่ยอมรับว่ารูปร่างชายฉกรรจ์ดีมาก มีกล้ามเนื้อแบบพอดีๆ เต็มไปด้วยพละกำลังและลายกล้ามเนื้อสวย
แผลเป็บนร่างพวกนั้นช่วยเพิ่มความดิบเถื่อนให้เขา
ไหล่กว้าง เอวสอบ บั้นท้ายกลม ขาเรียวยาวมีพลัง…รูปร่างจะดีเกินไปแล้ว
ชายฉกรรจ์ที่เปิดเผยต้นทุนจนพอใจค่อยๆ ก้าวเท้าลงในอ่าง จากนั้นบ่นว่าคันหลัง ให้หลินหวั่นชิวช่วยถู
เมื่อช่วยถูก็จบสิ้นแล้ว
นางถูกชายฉกรรจ์ดึงลงน้ำ จากนั้นทำอย่างโน้นอย่างนี้ในอ่าง
ชายฉกรรจ์ที่ตัดสินใจว่าจะไม่ทนอีกต่อไปแล้วแทบไม่ต่างกระไรกับสัตว์ร้าย หลินหวั่นชิวพยายามดิ้นรนออกจากอ่างแต่ก็ไม่สำเร็จ ทั้งที่หนีออกไปได้ครึ่งร่างแล้วแต่กลับถูกชายฉกรรจ์ลากกลับลงน้ำใหม่จากด้านหลัง
โชคดีที่อ่างอาบน้ำอยู่ห่างจากเตียงค่อนข้างไกลและห้องนอนมีขนาดใหญ่พอ มิเช่นนั้นน้ำที่กระเซ็นคงทำฟูกเตียงเปียกเสียหมด
หลังจากที่น้ำในอ่างกระเซ็นลงพื้นไปเกือบครึ่ง ชายฉกรรจ์ก็อุ้มภรรยาตัวน้อยที่เปียกเป็บะหมี่ไปที่เตียง
เมื่อหลินหวั่นชิวตื่นขึ้นในตอนเช้า นางคิดกับตัวเองว่าโชคดีที่เตียงแข็งแรง…
รุ่งเช้า เจียงหงหย่วนตื่นด้วยความพึงพอใจ จูบหลินหวั่นชิวที่หลับลึกเบาๆ
กอดรัดฟัดเหวี่ยงทั้งคืน มีเพียงประตูเมืองที่ยังไม่แตก ส่วนภูมิประเทศอื่นเขาได้นำมาทำการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วน
รวมถึงทุ่งน้ำแข็งที่ทำให้เขาเืกำเดาไหลและคะนึงหามาหลายวัน
ร่างกายภรรยาตัวน้อยนิ่มมาก ผิวพรรณก็เนียนละเอียด
ไม่ว่าจุดไหนก็ยากจะลืมเลือน
ในห้องมีกลิ่นน่าอายอบอวล เจียงหงหย่วนหอมแก้มหลินหวั่นชิวแล้วลุกขึ้นสวมเสื้อผ้า
เขาไปจุดถ่านในห้องตัวเองก่อน จากนั้นหยิบเสื้อผ้าหลินหวั่นชิวไปไว้ห้องตัวเอง
เมื่ออุณหภูมิในห้องอุ่นได้ที่ก็ใช้ผ้าห่มห่อตัวภรรยาตัวน้อยและอุ้มไปนอน
วางภรรยาตัวน้อยลงบนเตียง เปลี่ยนผ้าห่มผ้าผืนใหม่ หลินหวั่นชิวส่งเสียงงัวเงียเหมือนยุงแล้วมุ่ยปากหลับต่อ
เจียงหงหย่วนอดใจไม่ไหว จูบปากนางอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้แค่ให้ริมฝีปากัักัน ไม่กล้าทำกระไรนางอีก
ภรรยาตัวน้อยเหนื่อยแย่
เขานำผ้าห่มที่ห่อตัวหลินหวั่นชิวมาออกไป ถอดปลอกผ้าห่มและผ้าปูที่นอนมาซัก เปิดหน้าต่างระบายอากาศ
ยายสวีเห็นเขาซักผ้าก็รีบวิ่งมาช่วยแต่ถูกเจียงหงหย่วนปฏิเสธ ได้แต่กลับเข้าห้องครัวด้วยรอยยิ้ม
นายท่านบ้านพวกนางตัวโตขนาดนี้แต่กลับขี้อาย
นี่พระอาทิตย์ก็ขึ้นสูงแล้ว ไท่ไท่ยังไม่ตื่น ดูท่าเมื่อคืนจะหนัก
จะว่าไปแล้วไท่ไท่ก็วาสนาดี นายท่านรักใคร่ น้องชายสามีทั้งสองก็รู้ความ ไม่มีแม่สามีจ้ำจี้จ้ำไช ไม่มีน้องสาวสามีให้ปวดหัว
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าความเป็อยู่สบายขนาดไหน
แต่แน่นอนว่าหากไม่มีบ้านฝ่ายแม่ที่ชอบกวนใจนั่นจะยิ่งสบายกว่านี้
หลินหวั่นชิวหลับจนมืดฟ้ามัวดิน กว่าจะตื่นก็ตอนเจียงหงหย่วนออกไปทำงานที่บ่อนแล้ว
“ไท่ไท่ กับข้าวอุ่นอยู่ในหม้อ จะให้ข้ายกมาที่ห้องนอนหรือห้องโถงดีเ้าคะ?”
ยายสวีเห็นนางออกมาล้างหน้าก็ถามขึ้น
“ไม่เป็ไร กินให้ครัวก็ได้” ตอนนี้นางหิวจนกินวัวได้ทั้งตัว ชายฉกรรจ์จะรังแกกันเก่งเกินไปแล้ว
มารดามันเถิด ราคาของการรักษาประตูเมืองช่างสูงเหลือเกิน
นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะรักษาประตูเมืองได้ถึงเมื่อไร
ช่างเถิด พยายามให้เต็มที่แล้วกัน
บอกตามตรง เมื่อคืนนางสะลึมสะลือจนถึงตอนจบ หากเจียงหงหย่วนอยากทำ นางคงได้เป็ฟู่เหรินของจริงแล้ว
คิดไม่ถึงว่าชายฉกรรจ์จะ…พูดคำไหนคำนั้นเช่นนี้
หลับตอนกลางวันมาทั้งวัน หลินหวั่นชิวที่ไม่รู้สึกง่วงตอนกลางคืนนำหนังสือออกมาและท่องเสียนอวี๋ รอจนเจียงหงหย่วนกลับมา
เจียงหงหย่วนเข้าบ้านมาก็เห็นในห้องมีแสงสว่าง
เขารู้ว่าภรรยาตัวน้อยกำลังรอเขาอยู่
ภายในใจอบอุ่นขึ้นมา
ความหนาวเย็นในร่างกายถูกไล่ออกไปเสียหมด
เขารู้สึกว่าแสงไฟที่รอให้เขากลับมาดวงนี้คุ้มค่าให้เขาต่อสู้ด้วยชีวิต
เขาล้างหน้าบ้วนปากแล้วเข้าห้อง ถอดเสื้อนอกพาดบนราวแล้วเป่าตะเกียงขึ้นเตียง
“กลางวันนอนเยอะ ไม่ค่อยง่วงจึงรอท่าน”
“นอนเถิด” ชายฉกรรจ์กอดภรรยาตัวน้อยเข้าอ้อมอก ก้มลงจูบหน้าผากนาง ฝ่ามือหนาลูบหลังพร้อมพูดเสียงเบา
คืนนี้เขาไม่ได้ทำกระไรนาง กอดภรรยาตัวน้อยนอนเฉยๆ
เมื่อทั้งคู่ลืมตาตื่นในเช้าวันรุ่งขึ้น ไม่มีผู้ใดรีบลุกจากเตียง
เจียงหงหย่วนเปลี่ยนท่ากอด พูดกับนางว่า “นี่ก็เข้าเดือนสิบสองแล้ว ประเดี๋ยวพวกเขาจะไปซื้อของแห้ง ไว้อีกสองสามวันค่อยส่งกลับไปที่หมู่บ้าน”
“อื้ม เชิญพ่อครัวแม่ครัวเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?” หลินหวั่นชิวถาม
“เชิญแล้ว พ่อครัวใหญ่จากร้านจุ้ยเซียน เหลียงต้าเกอแนะนำมา พวกเขานำอุปกรณ์มาเอง พวกเราไม่ต้องหา”
“เช่นนั้นโต๊ะเล่า บ้านเราไม่ได้มีโต๊ะเยอะขนาดนั้น”
“พวกเขาจะนำมาเองเช่นกัน พวกเราจ่ายค่าวัตถุดิบเป็พอ แต่ต้องให้เยอะหน่อย โต๊ะกับเก้าอี้จะไปส่งในอีกสองวัน”
“ได้ ปัญหาที่ใช้เงินแก้ได้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หงหนิงลาหยุดแล้ว หงป๋อจะกลับไปเช่นกัน พอดีเลย พวกเขาจะได้นอนในบ้านใหม่หนึ่งคืนเช่นกัน”
ทุกอย่างทางโน้นเตรียมพร้อมหมดแล้ว ขาดก็แต่คนกลับไปอยู่
“จริงสิ เื่ป้ายหยกจัดการเรียบร้อยหรือไม่?” หลินหวั่นชิวเงยหน้ามองเจียงหงหย่วน นี่ต่างหากเื่สำคัญที่สุด
“จัดการเรียบร้อยแล้ว” เจียงหงหย่วนตอบ
หลินหวั่นชิวมอบป้ายหยกทั้งหมดให้เขา ทั้งยังมอบชิ้นที่พิเศษที่สุดให้หนึ่งชิ้น
เจียงหงหย่วนจึงนำไปสับเปลี่ยนกับของจริงที่บ้านสวี ซ่อนของจริงไว้ที่บ้านผู้ช่วยนายอำเภอ
ส่วนป้ายหยกที่คุณภาพต่างกันไม่มากพวกนั้น เจียงหงหย่วนให้คนนำไปขายราคาถูกในที่ต่างๆ ขายให้ชาวบ้านธรรมดาและนำกลับมาบ้านด้วยสองสามชิ้น…
ทุกอย่างเตรียมการเสร็จสมบูรณ์ เหลือแค่ตีฆ้องเปิดฉากแล้ว
“เช่นนั้นก็ดี” ทุกอย่างเตรียมพร้อม หลินหวั่นชิววางใจ
“เราจะปล่อยคนในบ่อนที่ปองร้ายท่านไปไม่ได้เช่นกัน” นางเสริม
เจียงหงหย่วนพยักหน้า “วางใจเถิด ไว้เื่นี้จบแล้วค่อยคิดบัญชีพวกเขา” เขาพูดจบก็นึกกระไรขึ้นได้ “จริงสิ หลินกุ้ยฮวากับหลินฉินออกจากห้องขังแล้ว เกรงว่าหากเ้าเจอพวกนางอีกจะจำไม่ได้”