“หือ บังเอิญจังฉันก็ไม่ได้คิดอะไรกับนายเหมือนกัน พี่เป๋าเหยียน จับมือกันหน่อยไหม?”
คำพูดนีู้เี่อันเป็คนพูดกับลู่เป๋าเหยียนในคืนที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากันเป็ครั้งแรกในรอบสิบสี่ปี
ตอนนั้นเธอกะพริบตาปริบๆพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไรลู่เป๋าเหยียนรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
ูเี่อันไม่คิดอะไรกับเขาจะดีที่สุดถ้าเป็แบบนั้นตอนที่ต้องเลิกรากัน เธอจะได้ไม่ลังเล ส่วนเขาเองก็ไม่มีเหตุผลให้รั้งเธอไว้
แต่ที่แท้คำพูดนั้นเป็เพียงคำโกหก
เธอชอบหาว่าเขาเป็คนหลอกลวงแต่ตัวเองก็เป็เด็กขี้โกหกเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
ลู่เป๋าเหยียนโทรศัพท์หาเสิ่นเยว่ชวน
“บอกวังหยางว่าพรุ่งนี้ให้เตรียมบินไปเมือง Z”
“นายจะไปหาเจี่ยนอัน?” เสิ่นเยว่ชวนหัวเราะ “ทำไม? ไม่อยากหย่าแล้วล่ะสิ?”
หย่า?
ลู่เป๋าเหยียนวางสายก่อนจะยิ้มมุมปาก
ชาตินีู้เี่อันอย่าหวังว่าได้หย่ากับเขาเลย
ถ้าเธอชอบเจียงเส้าข่ายจริงๆอย่างน้อยเขาก็มีข้ออ้างในการปล่อยเธอไป แต่ถ้าคนที่เธอชอบคือเขาแล้วล่ะก็เขาจะปล่อยมือจากเธอ ยอมทนกับบ้านที่เงียบเหงาและเตียงอันว่างเปล่าได้อย่างไร
การจากไปของเธอมีแต่จะทำให้บ้านหลังนี้กลับไปเป็เหมือนเมื่อก่อนบ้านที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไป จนได้แต่ทำงานเพื่อให้หัวใจด้านชา
เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นความคิดถึงที่มีให้เธอจะกลืนกินจิตใจเขาไปหมด
ในเมื่อูเี่อันชอบเขาแล้วทำไมเขาจะไม่ยอมรับมือกับความลำบากในภายภาคหน้าล่ะ
ตอนที่ตกลงแต่งงานกับูเี่อันเขาเคยนึกว่าขอแค่เขาเ็ากับเธอ ก็จะสามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ตอนที่ต้องหย่ากันจะได้ไม่อาลัยอาวรณ์
แต่เมื่อได้มาเจอูเี่อันตัวเป็ๆที่ไม่ใช่รูปแอบถ่ายอีกต่อไป เธอคนที่ยิ้มต่อหน้าเขา ะโโลดเต้นราวกับเด็กน้อยเรียกเขาว่าสามีด้วยเสียงอ่อนหวาน ตอนที่เธอโถมตัวเข้าสู่อ้อมกอดของเขา...
เปลือกบางอย่างที่ห่อหุ้มจิตใจของเขามานานเหมือนถูกกะเทาะออกทีละนิดเขาเริ่มรั้งตัวเธอเข้าสู่อ้อมแขน กอดจูบเธอบางครั้งถึงขั้นอยากทำมากกว่านั้นอย่างเผลอไผล
จนกระทั่งเขาเริ่มพาเธอเข้าสู่โลกของเขาเขาแนะนำเพื่อนที่สำคัญที่สุดให้เธอรู้จัก พาเธอไปยังสถานที่ที่เธอควรรู้
เขาทำทุกอย่างเหลือแค่เพียงคำพูดบางคำที่เขาอยากจะรอจนกว่าเธอจะเริ่มชอบเขาบ้างถึงจะพูดออกไป
ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนการเขาและเธอเริ่มเหมือนสามีภรรยาจริงๆ เข้าไปทุกทีแต่การกลับมาของคังรุ่ยเฉิงทำให้แผนการของเขาพังทลาย
ั้แ่เกิดมาเขาเพิ่งเคยรู้สึกกลัวแบบนี้กลัวว่าคนข้างกายจะไม่ปลอดภัย กลัวว่าการรั้งเธอไว้จะเป็การทำร้ายเธอทางอ้อม
เขาจึงต้องทำเป็เ็าและพาลใส่เธออย่างไร้เหตุผล เพราะอยากให้เธอเกลียดเขาและเดินจากไปเขาไม่อยากให้คังรุ่ยเฉิงสืบมาถึงตัวเธอ หากเธอกับเขายังคงเป็สามีภรรยาที่รักใคร่คังรุ่ยเฉิงคงไม่ปล่อยเธอไว้แน่
การที่เขาสงสัยว่าเธอชอบเจียงเส้าข่ายเป็สิ่งที่เขาจงใจคิดให้เป็แบบนั้น
ถ้าเธอไม่ปฏิเสธ เขาก็ไม่มีเหตุผลจะต้องเหนี่ยวรั้งเธอเอาไว้
ตอนหลังเธอยอมรับทั้งน้ำตาและขอหย่ากับเขาอย่างไร้เยื่อใย ดูท่าเธอจะผิดหวังในตัวเขามาก
“เจี่ยนอัน”ลู่เป๋าเหยียนถือภาพของูเี่อันเอาไว้พลางเอ่ย “ฉันขอโทษ”
ขอโทษที่เขาไม่รู้อะไรเลยไม่รู้ว่าเธอชอบเขา
อาจจะมีบางทีที่เขารับรู้ได้แต่เขาไม่อยากเชื่อจึงเลือกที่จะเมินเฉย
ั้แ่ที่เขาเข้าโรงพยาบาลเพราะโรคกระเพาะกำเริบการกระทำของูเี่อันก็เปลี่ยนไป เวลาเขาจูงมือเธอ เธอไม่สะบัดออก เวลาเขาจูบเธอเธอก็แค่หน้าแดงพลางมองหน้าเขาแถมบางครั้งยังซุกหน้ากับอกของเขาอย่างเขินอายด้วยซ้ำ
ที่จริงแล้วรายละเอียดพวกนี้สามารถบอกได้ว่าูเี่อันชอบเขาแต่เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะซูอี้เฉิงมาบอกความจริงกับเขาเขาคงไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการว่า ูเี่อันแอบชอบเขามานานหลายปี
หลายปีที่ผ่านมาเธอคอยติดตามเขาอยู่ห่างๆ เธอร้องเรียกชื่อเขาอยู่ในที่ที่มองไม่เห็น
ลู่เป๋าเหยียนหยิบมือถือออกมาก่อนจะมองชื่อูเี่อัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กดโทรหาเธอ
พรุ่งนี้เขาจะไปหาเธอเพื่อบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาปิดบังเอาไว้
ค่ำคืนนี้เป็คืนที่ลู่เป๋าเหยียนนอนหลับได้อย่างเป็สุขที่สุด ั้แู่เี่อันออกจากบ้านไป
วันต่อมา
ลู่เป๋าเหยียนตื่นแต่เช้าเขากินข้าวไปพร้อมกับสั่งงานเสิ่นเยว่ชวน จากนั้นจึงเตรียมตัวไปสนามบิน
ทว่าก่อนออกจากบ้านวังหยางก็โทรมา
“พวกเราไปที่เมือง Z ไม่ได้แล้วล่ะครับ”
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้ว“ทำไม?”
“พายุระดับแปดพัดเข้าเมือง Z ครับทำให้ทุกเที่ยวบินได้รับผลกระทบ อย่างเร็วที่สุดก็คืนนี้กว่าจะกลับสู่สภาวะปกติ”วังหยางอธิบาย “เพราะฉะนั้นพวกเราคงต้องรอให้ถึงเวลานั้นครับ”
“ไม่ได้”ลู่เป๋าเหยียนกล่าว “วันนี้ฉันต้องไปถึงที่นั่นก่อนบ่าย”เขาไม่สามารถอดทนรอได้อีกต่อไป
“งั้นเอาแบบนี้ไหมครับ”วังหยางพยายามหาวิธีอื่น “คุณนั่งเครื่องบินไปลงที่เมือง C ที่นั่นอยู่ห่างจากเมือง Z ไปแค่สองร้อยกว่ากิโลเมตร พอถึงที่นั่นแล้วค่อยนั่งรถต่อไปตำบลซานซิงแต่ที่เมือง Z ตอนนี้พายุรุนแรงมากอาจจะมีอันตรายได้ คุณต้องพิจารณาดูดีๆ นะครับ”
ลู่เป๋าเหยียนไม่คิดจะพิจารณาอะไรทั้งนั้นเขาโทรสั่งเลขาให้จองเที่ยวบินเพื่อไปเมือง C ในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้าจากนั้นจึงให้อาเฉียนขับรถไปส่งที่สนามบิน
ระหว่างทางเขาก็นึกขึ้นได้ว่าหากพายุกำลังเข้างั้นสัญญาณโทรศัพท์ของเมือง Z ทั้งเมืองอาจได้รับผลกระทบ ว่าแล้วจึงลองโทรหาูเี่อันซึ่งโทรไม่ติดตามคาด
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
“คุณชายอย่ากังวลไปเลยครับ”อาเฉียนกล่าว “พายุเข้าแบบนี้สัญญาณมือถือไม่มีเป็เื่ธรรมดาไว้ถึงที่ซานชิงแล้ว คุณชายค่อยไปหาคุณผู้หญิงโดยตรงก็ได้นี่ครับ”
ลู่เป๋าเหยียนเก็บมือถือลงเมื่อถึงสนามบินจึงรู้ว่าวังหยางจะไปกับเขาด้วย
“ผมเตรียมรถไว้ที่เมือง C เรียบร้อยแล้วครับ”วังหยางกล่าว “ผมจะไปกับคุณด้วย ถึงเวลาจะได้เป็คนขับรถให้”
วังหยางรู้สึกแปลกใจ
เขาเป็คนขับเครื่องบินส่วนตัวของลู่เป๋าเหยียนปกติถ้าลู่เป๋าเหยียน้าไปไหนเขามักจะได้รับการแจ้งก่อนเพื่อจัดเตรียมเที่ยวบินให้เรียบร้อยมีเพียงสองครั้งเท่านั้นที่เขาได้รับแจ้งอย่างกระชั้นชิดแบบนี้
ครั้งก่อนคือตอนที่ลู่เป๋าเหยียนไปทำงานที่อเมริกาแต่กลับเกิดเื่ขึ้นกับูเี่อันเขาทิ้งการเซ็นสัญญามูลค่ากว่าร้อยล้านเพื่อกลับมา
และในครั้งนี้ก็เพราะูเี่อันเช่นเดียวกันแต่เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ทำให้เขาไม่สามารถนำเครื่องบินขึ้นบินได้จึงได้แต่ทำหน้าที่เป็คนขับรถให้ลู่เป๋าเหยียน
จากเมือง A ไปเมือง C ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินสามชั่วโมงครึ่ง
เมื่อออกจากสนามบินที่เมือง C เองฝนก็กำลังตก วังหยางลองเช็กสภาพอากาศก่อนแจ้งกับลู่เป๋าเหยียนว่า
“ที่เมือง Z ยังมีพายุอยู่เลยครับ”
ลู่เป๋าเหยียนแค่ถามว่า“รถที่เตรียมไว้ล่ะ?”
วังหยางเปิดประตูรถแลนโรเวอร์ลู่เป๋าเหยียนขึ้นไปนั่งด้านหลังส่วนเขาก็ขึ้นไปประจำที่นั่งคนขับก่อนจะขับรถไปตามทางด่วนเพื่อมุ่งหน้าสู่เมือง Z
ยิ่งเข้าใกล้เมือง Z มากเท่าไรฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆที่ปัดน้ำฝนทำงานอย่างหนัก วังหยางเองก็ลดความเร็วลงเพื่อความปลอดภัย
ลู่เป๋าเหยียนนั่งอยู่ด้านหลังพลางมาออกไปนอกหน้าต่างตลอดทาง
ฝนตอนนี้หนักเกินไปทำให้แทบมองไม่เห็นวิวภายนอกมีเพียงแต่หมอกฝนสีขาวกับเสียงฝนที่ตกกระทบกับหน้าต่าง
เสียงฝนดังกลบทุกสิ่งทุกอย่างราวกับแบ่งกั้นโลกภายนอกกับภายในรถ
ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา“วังหยาง เพิ่มความเร็วหน่อย”
“นี่เร็วสุดแล้วครับ”วังหยางบังคับพวงมาลัยอย่างระมัดระวัง“ถ้าขับเร็วมากกว่านี้จะอันตรายเกินไปนะครับ”
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วยุ่งกว่าเดิมเขารู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาติดค้างอยู่ในหัวใจจนเผลอยกมือกุมหน้าอกเอาไว้ทันใดนั้นมือถือของเขาก็ดังขึ้น
อาจเป็เพราะภายในรถไร้ซึ่งเสียงอื่นใดเสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นจึงให้ความรู้สึกร้อนรนอย่างประหลาดราวกับกำลังเกิดเหตุร้าย
ลู่เป๋าเหยียนกดรับสายเสียงสั่นๆ ของเสิ่นเยว่ชวนดังขึ้นมา
“เป่าเหยียนเกิดเื่แล้ว”
ลู่เป๋าเหยียนหัวใจกระตุกตอนนี้หูของเขาไม่ได้ยินเสียงรอบข้างอีกต่อไปมีเพียงแต่เสียงของเสิ่นเยว่ชวนเท่านั้นที่ดังกว่าทุกสิ่ง
“เจี่ยนอันเกิดเื่แล้ว”
ที่แท้ใจกลางพายุอยู่ที่ซานชิง
ก่อนพายุจะพัดเข้ามามีคนแจ้งตำรวจว่าพบศพหญิงสาวอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปีอยู่บนูเาเหยื่อถูกกระทำชำเรา ก่อนฆาตกรจะลงมือฆ่าอย่างโเี้
หลังได้รับการแจ้งเหตุทางตำรวจมั่นใจว่าฆาตกรเป็คนเดียวกันกับคดีที่พวกเขากำลังพยายามคลี่คลายแต่เพราะสารวัตรเหยียนกับทีมอาชญากรรมท้องถิ่นกำลังออกไปทำงานนอกสถานที่ในสถานีตำรวจจึงเหลือแค่ตำรวจไม่กี่นายกับูเี่อันซึ่งเป็แพทย์นิติเวชจากเมือง A
หลังเกิดเหตุแพทย์นิติเวชจะต้องรีบไปยังสถานที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุดูเี่อันเก็บข้าวของเพื่อรีบขึ้นไปบนเขาพร้อมกับตำรวจท้องถิ่น
นายตำรวจดูสภาพอากาศก่อนเอ่ย“พายุกำลังจะเข้าแล้วครับ ถ้ายังไง...พวกเรารอให้พายุผ่านไปก่อนแล้วค่อยไปเถอะครับ”
“ไม่ได้ค่ะ”ูเี่อันกล่าว “อีกสักครู่ฝนคงตก หากฝนตกลงมาสถานที่เกิดเหตุจะได้รับความเสียหายทำให้พวกเราต้องสูญเสียหลักฐานไปนะคะ คดีก่อนๆ ฉันไม่ได้ไปที่เกิดเหตุั้แ่ทีแรกถ้าครั้งนี้รีบไปล่ะก็คงได้เบาะแสมากกว่านี้แน่ค่ะ”
ด้วยเหตุนี้นายตำรวจจึงต้องพาูเี่อันไปตามที่เธอ้าแต่เมื่อเห็นสภาพศพของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย นายตำรวจก็หนีกลับไปก่อนเนื่องจากไม่ได้อยู่ในเขตอำนาจหน้าที่ของเขา อีกทั้งพายุก็ใกล้จะมาแล้วหากอยู่บนูเาต่อไปจะเป็อันตรายได้
ดังนั้นูเี่อันจึงถูกทิ้งไว้บนเขากับศพของเหยื่อตามลำพัง
หนึ่งชั่วโมงต่อมาพายุเริ่มก่อตัว ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆเมื่อสารวัตรเหยียนกับทีมอาชญากรรมกลับมาที่โรงพักก็พบว่าูเี่อันยังอยู่บนเขา
“แย่แล้ว!”สารวัตรสิงเป็คนท้องถิ่น เขารู้จักูเาลูกนั้นดี“ที่นั่นไม่ใชู่เาที่ให้ขึ้นไปเที่ยวนะครับ แต่เป็ูเาร้างทางลงเขาคดเคี้ยวมาก แถมเส้นทางยังซับซ้อน นี่ถ้าคุณซูหลงทางล่ะก็...”
“ที่แย่ที่สุดไม่ใช่เื่นั้นนะครับ”นายตำรวจอีกคนกล่าว “ทางลงเขาตอนนี้คงลื่นมาก คุณซูอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้”
สารวัตรเหยียนรีบโทรศัพท์หาูเี่อันแต่ก็ไม่ติดเขาเริ่มร้อนใจ
“ช่วยหานายตำรวจที่ชำนาญทางบนเขาให้พวกผมหน่อยได้ไหมครับเดี๋ยวพวกผมจะขึ้นไปหาเธอเอง”
“พวกเราก็จะไปด้วยครับ”สารวัตรสิงกล่าว “พวกเราคุ้นเคยกับูเาลูกนี้ดีคนของผมจะช่วยประกบคนของคุณตัวต่อตัว และแยกกันไปคนละทาง”
คนสิบกว่าชีวิตกำลังจะออกเดินทางแต่เพราะลมพายุพัดแรงมาก บ้านเรือนทุกหลังต่างปิดประตูหน้าต่างอย่างมิดชิดบนถนนไร้ซึ่งผู้คน ต้นไม้ถูกลมพัดเอียงแทบจะล้มลงมา
อย่าว่าแต่ขึ้นูเาไปหาคนเลยตอนนี้แค่ออกไปข้างนอกยังไม่ได้
“ทำไงดีคะสารวัตร?” เสียวอิ่งร้อนใจจนแทบจะร้องไห้“เจี่ยนอันคงยังไม่ทันลงจากเขาแน่ๆ”
สารวัตรเหยียนมองพายุฝนด้านนอกก่อนจะพยายามรวบรวมสติ
“รีบโทรหาเส้าข่ายบอกให้เขาแจ้งพี่ชายของเจี่ยนอันแล้วก็ลู่เป๋าเหยียนส่วนพวกเรารีบไปขอให้ทางเบื้องบนช่วยกันเถอะ”
แต่เพราะตอนนี้พายุฝนกระหน่ำลงมาไม่ยั้งความช่วยเหลือต่างๆ รวมถึงกำลังเสริมที่ทางเบื้องบนส่งมาให้เองก็คงทำอะไรไม่ได้พวกสารวัตรเหยียนจึงได้แต่อยู่ในโรงพักอย่างรอคอยเวลา
