การกลับบ้านเป็งานที่ยุ่งยาก โดยเฉพาะเมื่อเสิ่นิยืนกรานให้พวกเขาเดินถัดไปจากท่าเรือ 3 ถนนก่อนจะโบกรถ จากนั้นก็เลือกนั่งแท็กซี่ที่ผู้หญิงขับ ก่อนจะย้อนเช็กประวัติบรรพบุรุษของคนขับไปสามชั่วโคตร ดีหน่อยที่จุดหมายปลายทางนั้นมือสังหารย่อมรู้ชัดอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็ต้องขับอ้อม
เมื่อกลับถึงบ้านก็เป็เวลาห้าทุ่ม เสิ่นิยังไม่จบ เขาให้เซี่ยวอี๋ถือปืนพกคุ้มกันซันนี่ไว้ เขา้าตรวจสอบระบบเตือนภัยที่เขาติดตั้งไว้นอกบ้าน เมื่อไม่เห็นร่องรอยการบุกรุกเข้ามา และนั่นก็ใช้เวลาอีกร่วมครึ่งชั่วโมง
ในขณะที่กลุ่มคนผู้เหนื่อยล้ารอให้เสิ่นิเปิดประตู ซันนี่ซึ่งสวมรองเท้าส้นสูงมาทั้งคืนก็พุ่งตัวเข้าไปในบ้านเป็คนแรก เธอถอดรองเท้าและเตรียมจะขึ้นไปนอน
“เฮ้ ห้ามใช้อ่างอาบน้ำของฉันอีกนะ” เซี่ยวอี๋เปิดไฟพร้อมกล่าวเตือน
ขณะที่ไฟสว่างขึ้น มีแสงวาบตรงบริเวณใต้ฝ่าเท้าของซันนี่ เสิ่นิเบิกตากว้างพร้อมกับร้องเสียงหลง “ซันนี่อย่าขยับ!”
เท้าของซันนี่ซึ่งกำลังก้าวไปข้างหน้าลอยเคว้งกลางอากาศ เธอััได้ถึงเส้นด้ายที่ตึงอยู่ใต้ฝ่าเท้า
“อยู่ในท่าเดิม อย่าขยับ!” ั้แ่เซี่ยวอี๋รู้จักกับเสิ่นิมา เขาไม่เคยดูแตกตื่นขนาดนี้
เสิ่นิพุ่งเข้าไปไปหาซันนี่ เขานอนราบลงกับพื้นเพื่อตรวจสอบ
เส้นด้ายผูกยื่นออกมาจากผนัง จนถึงโซฟาด้านล่าง เชื่อมกับ...กับะเิ
“มันคืออะไร?” เซี่ยวอี๋ซึ่งกำลังเปิดประตูถามด้วยความตื่นเต้น
“กับะเิต่อต้านรถถัง M19 ของสหรัฐ...” เสิ่นิเคร่งเครียด
“กับะเิ?!” ซันนี่ใตัวสั่นเทิ้ม
“ห้ามขยับเด็ดขาด! เ้าสิ่งนี้เป็กับะเิเก่าแก่ที่กองทัพสหรัฐใช้เมื่อปี พ.ศ.2497 วัตถุะเิประเภท ‘B’ หนัก 9.5 กิโลกรัม มวลรวม 12.6 กิโลกรัม แรงดันะเิสูงถึง 1,600 ถึง 2,300 นิวตัน ใช้เพื่อสกัดรถถังโดยเฉพาะ เดิมทีคนเหยียบจะไม่สามารถจุดะเิได้
แต่มือสังหารปรับตัวจุดชนวนให้ตัวตรวจจับแรงกดที่มีความไวยิ่งขึ้น หากแรงกดเพิ่มขึ้นหรือลดลง 2 นิวตันชนวนจะถูกจุด” เสิ่นิลุกขึ้นยืน
“ขาพี่จะขาดไหม?” ซันนี่แทบจะร้องไห้ออกมา
“ไม่ ด้วยแรงะเิของมัน ยังคงเป็คำถามอยู่ว่าเท้าของพวกเราจะยังเหลือซากอยู่ไหม” เซี่ยวอี๋รู้เื่อาวุธหลังาโลกครั้งที่ 2 ดี อย่าหาว่าพวกมันคร่ำครึโบราณเลย ด้วยโครงสร้างธรรมดาๆ ของมัน กลับมีประสิทธิภาพในการสังหารและสร้างความาเ็อย่างทรงอานุภาพ
“เสิ่นิ!” เซี่ยวอี๋พูดขึ้นเพราะคิดอยากช่วย
“อย่าเข้ามา! ไปที่สี่แยก หยุดรถ เคลียร์เส้นทางให้เรา!” เสิ่นิหันไปะโ เซี่ยวอี๋นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจและเตรียมตัวออกวิ่ง
“อย่ามาตายให้เห็นนะ!” เซี่ยวอี๋คำรามด้วยความหงุดหงิดก่อนหันตัวจากไป ตอนนี้ นอกจากฟังคำสั่งของเสิ่นิแล้ว เธอก็ช่วยอะไรไม่ได้
“พี่จะตายไหม?” น้ำตาของซันนี่เอ่อล้นออกมา เธอกลัวแต่ก็ไม่กล้าสั่น เธอยืนด้วยขาข้างเดียว บางทีนี่อาจจะเป็วิธีการตายที่เจ็บที่สุดก็ได้นี่?
“ก็อาจจะ ผมถอดสลักะเิได้ห่วยแตกที่สุด แต่ผมก็หามันเก่งที่สุด คราวนี้...ถือว่าผมแพ้” เสิ่นิรีบเข้าไปในครัวแล้วนำกล่องเครื่องมือออกมา พวกตะปูยังพอใช้การได้อยู่ เขาหันไปทางกับะเิ งานมันหยาบเกินไป
“เธอจะยังอยู่ที่นี่ทำไมกัน?” ซันนี่จ้องเสิ่นิซึ่งกำลังแยกชิ้นส่วนกับะเิอย่างระมัดระวังด้วยความประหลาดใจ
“เพราะมันเป็หน้าผมที่ต้องปกป้องพี่ ถึงตาย ผมก็จะตายไปกับพี่ ทางไปยมโลกมีผีน้อยมากมาย ถ้าไม่มีผมพี่จะไปเฝ้าพญายมอย่างปลอดภัยได้ยังไง?” เสิ่นิเหงื่อแตกเต็มหน้าผากแต่ก็ยังพูดจาล้อเล่นอยู่
“ตาทึ่ม พี่เป็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง เราเพิ่งจะรู้จักกันได้แค่วันเดียวเอง แบบนี้ เธอยังจะยินดีตายไปกับพี่อีกเหรอ?” ซันนี่ปิดปากร้องไห้ เธอพยายามรักษาร่างกายไม่ให้สั่นไหว
“ผมยินดี บางทีพี่อาจจะคิดว่าตัวเองเป็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เมื่อลงชื่อในสัญญาว่าจ้างแล้ว สำหรับผม พี่เป็ดั่งราชินีผู้สูงส่งที่สุดในโลก และผมก็เป็อัศวินผู้ภักดีที่สุดของพี่ ถ้าคนทั้งโลกอยากให้พี่ตาย...ผมก็จะเป็ศัตรูกับคนทั้งโลก...” ในที่สุดเสิ่นิก็ถอดน็อตตัวสำคัญออกได้ และเมื่อมองเห็นด้านในของชนวนจุดะเิ เสิ่นิก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
“ตัวจุดชนวนแบบโซ่ ผมตัดตัวนำไฟฟ้าทิ้งไปแล้ว แต่ถ้าทริกเกอร์ถูกกระตุ้นขึ้น มันจะะเิภายใน 1 วินาที และทุกอย่างที่อยู่ภายในรัศมี 5.5 เมตรก็จะกลายเป็เถ้าถ่าน” เสิ่นิเงยหน้าขึ้นมองซันนี่ซึ่งอยู่ด้านข้าง “ขอโทษ...”
“พอเถอะ พี่ไม่เป็ไร ตายก็ตายสิ ทำเป็เื่ใหญ่ไปได้! พี่เป็ราชินี มีอัศวินคู่กาย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว” ซันนี่เพียรเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า ก่อนจะเผยให้เห็นรอยยิ้มซึ่งคิ้วไม่ได้ยกขึ้น
“บางทีอาจจะหนาวไปหน่อย บางทีอาจจะเจ็บนิดหน่อย แต่ว่า ผมจะทำให้รอด” เสิ่นิวิ่งเข้าไปในครัวไปอีกครั้ง เขาโยนทุกอย่างออกมาจากตู้เย็น ก่อนจะแบกมันขึ้นบ่าและวางมันลงตรงหน้าซันนี่
“เธอทำอะไรน่ะ?” ซันนี่มีลางสังหรณ์ไม่ดี
“ทำหน้าที่ของอัศวิน...” เสิ่นินั่งยองๆ ข้างกับะเิด้วยรอยยิ้ม แขนข้างหนึ่งของเขาจับขอบะเิไว้แน่น ะเิลูกนี้หนักราว 12.5 กิโลกรัม เปรียบได้กับข้าวสารหนึ่งกระสอบ
“ไม่...” ซันนี่พูดยังไม่ทันจบดี เสิ่นิก็หลบหน้าผากและใช้พลังควบคุมกล้ามเนื้ออีกครั้ง กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายถ่ายทอดพลังจากภายในสู่ภายนอก เขาพองตัวด้วยความแกร่งเหนืุ์
เสิ่นิแบกกับะเิหนัก 12.5 กิโลกรัมขึ้นจากพื้นด้วยมือเพียงข้างเดียว เขาผลักซันนี่เข้าไปข้างในและปิดประตู ก่อนจะพลิกตัวโยนกับะเิต่อต้านรถถังขนาดใหญ่ออกไป
จานบินทรงกลมทะยานด้วยความเร็วเหมือนกับะุปืน พุ่งเป็เส้นตรงไกลถึงถนนกว้างที่อยู่ภายใต้แสงไฟส่องทาง
ตูม! เสียงดังสนั่น! กระจกทั้งหมดในระยะร้อยเมตรนั้นแตกเป็เสี่ยงๆ คลื่นแรงสั่นะเืทำให้เสิ่นิลอยลิ่วกระแทกเข้ากับประตูของตู้เย็นอย่างแรง เปลวไฟสูงลิบ ราวกับดอกไม้ไฟส่งตรงจากนรก ปลุกทั้งเมืองที่กำลังหลับใหลให้ตื่นขึ้นมา
“เสิ่นิ!” หลังจากะเิ ซันนี่แทบรอไม่ไหวที่จะพุ่งตัวออกมาจากตู้เย็น แต่ขาเธอกลับเป็ตะคริวเพราะยืนค้างอยู่ในท่ากระต่ายขาเดียวนานเกินไป หญิงสาวไม่ทันได้ยืนก็ล้มลงบนร่างของเสิ่นิ
“อย่าะโ ผมยังอยู่...” เสิ่นิซึ่งดำคล้ำไปทั้งตัวยิ้มโชว์ฟันขาว
ซันนี่ไม่รู้จะแสดงอารมณ์ของเธอออกมาเช่นไร เธอจึงได้แต่ใช้วิธีที่เธอช่ำชองมากที่สุด เธอจูบลงไปบนริมฝีปากของเสิ่นิอย่างดูดดื่ม ทักษะการจูบอันยอดเยี่ยม ทำให้คนที่อยากตายกลับโหยหาชีวิตอันสวยงามได้อีกครั้ง
“พี่สาว จะจูบก็จูบ แต่อย่าเอามือมาบีบเป้าผมได้ไหม?” เสิ่นิหัวเราะเบาๆ
“ตาบ้า! พี่ก็แค่ช่วยเช็กดูว่าของของ เธอยังอยู่ครบหรือเปล่า?” ซันนี่ยิ้มทั้งน้ำตา
เซี่ยวอี๋รีบพุ่งตัวกลับมาจากถนนอันห่างไกล และเมื่อเห็นซันนี่กับเสิ่นิยังไม่ตาย เธอก็ถึงกับใจนขาอ่อนและทรุดฮวบลงกับพื้น
เปลวไฟบนท้องถนนยังคงลุกโชน ทั้ง 3 ชีวิตหอบหายใจ ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ในบ้านก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เสิ่นิลุกขึ้นรับสาย เขาชิงพูดก่อนโดยที่ไม่รอให้อีกฝ่ายกล่าวคำใด “ฉันขอแก้ไขคำพูดก่อนหน้านี้ที่ว่าแกไม่ใช่มือสังหารชั้นแนวหน้า”
“ในที่สุดคุณก็รู้ถึงความร้ายกาจของผมแล้วใช่ไหม?” จิติญญาผูกพันกล่าวอย่างภาคภูมิ
“ความจริงแล้วแกเป็สินค้าเกรดต่ำซึ่งไม่มีหลักการใดๆ มือสังหารที่เลียนแบบอุบัติเหตุไม่มีวันใช้ะเิต่อต้านรถถัง M19 เด็ดขาด เพราะเขม่าดินปืนที่ตกค้างหลังจากการะเิมันจะไม่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็อุบัติเหตุ” เสิ่นิกล่าวดูถูกทุกถ้อยทุกคำ
“เพราะคุณเสิ่นิช่างร้ายกาจ ‘อุบัติเหตุ’ ทั่วไปจึงยากที่จะคร่าชีวิตคุณได้ ผมก็เลยตั้งใจเตรียมะเิต่อต้านรถถังไว้ให้เป็พิเศษ” จิติญญาผูกพันกล่าวย้ำ
“ไม่ใช่คู่ปรับฝีมือเทพ แค่มีหัวสมองแบบสุกร เมื่อมือสังหารเริ่มหาข้ออ้างให้ตัวเองได้ เขาก็กำลังเข้าใกล้กับความตายแล้ว ในเมื่อคุณไม่มีความซื่อสัตย์ ต่อไป หากผมพบคุณ มันก็จะสาหัสยิ่งกว่าความตาย” เสิ่นิสาบานในนามผักในแปลงที่ไม่เหลือรอด
“ไม่ต้องมาหาผมหรอก ผมจะไปหาคุณเอง” จิติญญาผูกพันวางสายไปด้วยความเกรี้ยวกราด
รถตำรวจและรถดับเพลิงมาถึงโดยพลัน คืนนี้พวกเขาหมดหนทางหลับนอนในบ้านของตนเองแล้ว ผู้กองจ้าวเป็ห่วงความปลอดภัยของพวกเขา เขาจึงพาเ้าหน้าที่มาทั้งสถานีตำรวจ หนึ่งมาเพื่อจดบันทึก และสองมาเพื่อปกป้องพวกเขา
กองตำรวจได้ออกคำสั่งชุดแรกให้เริ่มต้นตรวจสอบผ่านระบบเครือข่ายโรงแรมทั้งหมดในเมือง ค้นหาวัตถุะเิและตัวบุคคลต้องสงสัย
กองกำลังพิเศษเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ยกระดับการโจมตีเทียบเท่ากับผู้ก่อการร้ายระดับสูง แม้จิติญญาผูกพันจะรู้ั้แ่แรกอยู่แล้วว่าการใช้ะเิ M19 นั้นจะทำให้เขาเองถูกไล่บี้ แต่เขาก็อยากจะเดิมพันสักตั้ง เดิมพันว่าเสิ่นิกับซันนี่จะถูกะเิปลิดชีพ
อย่างที่เสิ่นิกล่าว จิติญญาผูกพันเป็เพียงแค่มือสังหารชั้นต่ำ เขาเริ่มพึ่งโชคชะตาให้นำพาความสำเร็จในการลอบสังหารมาให้ แสดงให้เห็นว่าเขาใจร้อนรนจนสุดประมาณ
คืนนั้น เมืองหลินไห่ถูกกำหนดให้ไม่ได้หลับนอน...
เช้าวันรุ่งขึ้น พระอาทิตย์ยังคงขึ้นทางทิศตะวันออก ณ เมืองเซิน ที่ด้านนอกอาคารศูนย์กลางการเงินนานาชาติ สูงจากพื้นดิน 150 เมตร เด็กสาวบริสุทธิ์ที่สวมหมวกทรงลิ้นเป็ดคนหนึ่งกำลังฮัมเพลงในขณะที่เช็ดกระจก งานไม่มีความแตกต่างทางชนชั้น แต่เด็กสาวคนนี้กลับเช็ดแบบขอไปที เธอไม่ใส่ใจงานเลยแม้แต่น้อย
สายตาของเธอจ้องอยู่ที่นาฬิกาในขณะที่เป่าหมากฝรั่ง เธอทำแปรงในมือตก หญิงสาวสะพายเป้ในกระเช้าก่อนจะเอาเชือกสีดำผูกที่น่อง
ในขณะที่เธอเตรียมการอยู่นั้น ภายในห้องออฟฟิศหลังกระจกบานหนึ่ง บรรดาพนักงานต่างก็วุ่นอยู่กับงาน ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเธออยู่ตรงนั้น
“เริ่มแล้วนะ” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับสวมแว่นกันลม เธอดึงคอเสื้อขึ้นเพื่ออุดจมูกและปาก ก่อนจะยืนขึ้นบนขอบกระเช้า เธอทิ้งตัวลงด้านหลัง เหมือนกับเส้นโค้งอันงดงาม ก่อนจะตกลงสู่พื้นด้วยความเร็วสูง แต่คนในออฟฟิศก็ยังคงวุ่นอยู่
ขณะนั้น ทางเข้าด้านหลังของอาคารศูนย์กลางทางการเงินชั้น 1 ชายพุงพลุ้ยคนหนึ่งกำลังเดินออกมาโดยมีเ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยพิเศษคุ้มกันอยู่ เขาคนนั้นคือนักบัญชีคดีฉ้อโกงทางการเงินที่เพิ่งกลับมาจากประเทศจีน เขากุมข้อมูลสำคัญเอาไว้ ครั้งนี้เขากลับมาในฐานะพยานของฝ่ายโจทก์
หลังจากผู้คุ้มกันเคลียร์ความปลอดภัยแล้ว เขาจึงได้ให้นักบัญชีคนนั้นออกมา
“พวกคุณประสาทหรือเปล่า? นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ใครจะกล้าทำอะไรผม? ว่าแต่คุณเถอะ คราวหน้าอย่ามาผลักหัวผมอย่างนี้อีก เดี๋ยวผมผมร่วงหมด! ถ้าผมอารมณ์ไม่ดี ผมจะไม่บอกอะไรพวกคุณทั้งสิ้น” ชายอ้วนเอะอะโวยวาย “อีกอย่างคุณ...”
ในขณะที่เขากำลังชี้ไปยังผู้คุ้มกันคนหนึ่งและหมายจะออกปากด่า คอหอยของเขาก็ส่งเสียงใดๆ ออกมาไม่ได้อีก เสียงที่ตกลงมาจากฟากฟ้าตัดผ่านอากาศด้วยความเร็วสูง ฉับเดียวเท่านั้น หัวของนักบัญชีคนนั้นก็ถูกตัดขาดในทันที เมื่อเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหันไปมองด้วยความตกตะลึง หญิงสาวซึ่งทะยานลงมาพร้อมเชือกก็ลอยลิ่วกลับขึ้นไปกลางอากาศแล้ว
“ฆาตกร!” ตำรวจหน่วยพิเศษซึ่งได้รับการฝึกฝนมาเป็อย่างดีชักปืนพกออกมาและเล็งขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ะเิควันที่ใต้เท้าของหญิงสาวก็ได้ะเิขึ้นในเวลาเดียวกัน วิสัยทัศน์จึงถูกบดบังในทันที
หญิงสาวบินผงาดอยู่ที่ความสูง 100 เมตร เธอกางแขนออกทั้งข้างเหมือนกับวิหคที่บินอย่างอิสระ เสียงล็อกที่ข้อเท้าดังคลิก เครื่องร่อนซึ่งติดอยู่ที่เป้ด้านหลังก็เริ่มต้นทำงาน ณ บัดนี้เธอเป็อิสระอย่างแท้จริงแล้ว
“เหยี่ยวรายงาน ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว เป้าหมายถูกสังหาร ขณะนี้เริ่มเดินทางกลับ พรุ่งนี้เจอกันตอนทานข้าวเช้าที่กอง” หญิงสาวสื่อสารผ่านโทรศัพท์ถอดรหัสดาวเทียม
“เหยี่ยว แผนมีการเปลี่ยนแปลง เสร็จภารกิจถัดไปแล้วค่อยกลับมา สถานที่ปฏิบัติภารกิจคือ...เมืองหลินไห่”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้