"องค์หญิง ท่านเป็อะไรไปเพคะ? พระพักตร์ดูไม่แจ่มใสเลย"
เสียงของชิงหลิงดังขึ้นด้วยความเป็ห่วง แต่มู่หรงเซียวกลับทำได้เพียงส่งยิ้มบางๆ ไปให้นาง แม้ภายในใจจะเต็มไปด้วยความว้าวุ่นเพียงใดก็ตาม
"ข้าไม่อาจเอ่ยปากบอกใครได้"
นางไม่อยากให้คนรอบตัวเป็กังวล ไม่อยากให้เสด็จพ่อหรือเสด็จแม่ต้องหนักใจ ยามนี้แคว้นเจียงหนานกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แคว้นเยวียและแคว้นฉินกำลังระส่ำระสาย พวกเขาเป็แคว้นที่คลั่งไคล้า ้าขยายอำนาจ และเจียงหนานซึ่งเป็แคว้นที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด ย่อมตกเป็เป้าหมาย
และต้นเหตุของความวุ่นวายนี้...ก็คือตัวนางเอง
ทุกอย่างเริ่มต้นจากการสู่ขอ องค์ชายจากแคว้นเยวีย แคว้นจ้าว และแคว้นซ่ง เดินทางมาพร้อมราชทูตเพื่อขอเจรจาเสกสมรสกับองค์หญิงแห่งเจียงหนาน
แคว้นเยวีย้าเชื่อมสัมพันธ์เพื่อทรัพยากรของเจียงหนาน แคว้นจ้าว้าดึงเจียงหนานให้อยู่ในอิทธิพลของตน แคว้นซ่ง้าองค์หญิงผู้เลอโฉมไปเป็ชายาขององค์รัชทายาท แต่องค์จักรพรรดิมู่หรงกวงและองค์ชายมู่หรงเยวี่ยน กลับไม่ยินยอม และนั่นกลายเป็ชนวนที่ทำให้าปะทุขึ้น
จากการสู่ขอกลายเป็การ่ชิง!
ไม่นานหลังจากนั้น กองทัพของแคว้นเยวียและแคว้นฉินเคลื่อนพลเข้าสู่พรมแดนของเจียงหนาน
"หากพวกเ้าไม่ยอมส่งองค์หญิงมา เราจะใช้กำลังบีบบังคับให้ส่งมาเอง!"
คำประกาศอันโอหังนั้นทำให้ทั้งราชสำนักโกรธเกรี้ยว แต่ในใจของมู่หรงเซียวกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
าครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะนาง? หรือแท้จริงแล้วพวกเขา้าใช้ตัวนางเป็ข้ออ้างในการรุกรานเจียงหนานกันแน่!?
และเมื่อข่าวานี้ไปถึงแคว้นต้าชิง จักรพรรดิผู้สูงศักดิ์ก็ได้เคลื่อนไหวทันที พญาัอย่างเขามีหรือที่จะยอมให้แคว้นอื่น่ชิงหงส์น้อยของตนไป
ด้วยความที่มู่หรงเซียวเองก็อยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือบ้านเมือง นางจึงอาสารับหน้าที่ดูแลเสบียงสำหรับกองทัพ นางทำงานอย่างขยันขันแข็ง พยายามใช้ความสามารถของตนให้เกิดประโยชน์เพื่อแบ่งเบาภาระของเสด็จพ่อและพระเชษฐา
วันหนึ่ง ขณะที่มู่หรงเซียวตั้งใจจะนำน้ำชาไปถวายพระบิดาและพระมารดา พลันได้ยินเสียงสนทนาแว่วออกมาจากห้องโถง
"เสด็จพ่อ เสด็จแม่ เราไม่มีทางเลือกอื่นเลยหรือ ถึงต้องส่งน้องไปอยู่ที่ต้าชิง?"
เสียงของมู่หรงเยวี่ยนเต็มไปด้วยความคับข้องใจ นางชะงักฝีเท้าทันที หัวใจเ้ากรรมเต้นแรงรัว ร่างบางหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้อง แอบเงี่ยหูฟังการสนทนาด้วยความกังวล
"อาเยวี่ยน..."
น้ำเสียงของฮองเฮาหวานนุ่มแต่ทว่ากลับหนักแน่นยิ่งนัก
"อย่างน้อย ข้าคิดว่าฝ่าาเป็คนที่รักษาสัจจะ หากเขายืนกรานและสัญญาว่าอาเซียวและเจียงหนานจะปลอดภัย เราก็ควรจะวางใจในตัวของพระองค์"
"ใช่" ฮ่องเต้มู่หรงกวงตรัสขึ้น
"อย่างน้อยในยามนี้ การสร้างมิตรย่อมดีกว่าสร้างศัตรู"
แคว้นต้าชิง...
ทันทีที่ได้ยินชื่อแคว้นนี้ หัวใจของมู่หรงเซียวพลันสั่นไหว น้ำใสเอ่อคลอเต็มดวงตาโดยไม่รู้ตัว ก่อนหยาดหยดลงมาตามพวงแก้ม นางกำขอบถาดชาที่ถืออยู่แน่น สองเท้าหนักอึ้งจนก้าวต่อไปไม่ไหว
นี่คือชะตากรรมของนางอย่างนั้นหรือ...?
ยามราตรี มู่หรงเซียวนอนกระสับกระส่ายอีกครั้ง นางไม่กล้าข่มตาหลับเพราะกลัวว่าตัวเองจะต้องจมดิ่งสู่ห้วงฝันที่เหมือนจริงจนน่ากลัวอีกครั้ง
แต่สุดท้ายความอ่อนล้าก็พรากสติสัมปชัญญะไป นางจึงเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว...และเข้าสู่ฝันประหลาดอีกครา
"เซียวหยางมี่ ฟังข้าได้หรือไม่? เรา้าแต่งงานกับเ้าด้วยความสัตย์จริง นั่นจึงเป็เหตุให้เราขอให้เสด็จพ่อออกราชโองการ"
เสียงของหวังเฟิ่งที่บัดนี้ได้ดำรงตำแหน่งไท่จื่อดังขึ้นอย่างหนักแน่น ทว่าเซียวหยางมี่กลับรู้สึกสับสน นางไม่แน่ใจว่าตนเอง้าอยู่เคียงข้างบุรุษผู้นี้หรือไม่
ตระกูลเซียวถูกสั่งสอนให้ทำตามหน้าที่เสมอ บิดาของนางมีหน้าที่อบรมสั่งสอนเชื้อพระวงศ์ ท่านอาก็มีหน้าที่เป็หมอหลวงประจำราชสำนัก แล้วตัวนางล่ะ...?
แม้ว่าจะเป็สตรีที่ไม่มีสิทธิ์เป็หมอหลวง แต่นางก็มีความสามารถด้านการแพทย์ไม่แพ้ผู้ใด ผู้คนต่างรู้กันว่าฮองเฮาประชวรด้วยโรคประหลาด และองค์ไท่จื่อคง้าให้ใครสักคนคอยดูแลพระมารดาของพระองค์ บางที การแต่งงานนี้อาจเป็เพียงเื่ของหน้าที่ มิใช่ความรัก
แต่ความฝันชั่วชีวิตของเซียวหยางมี่คือ การได้แต่งงานกับบุรุษที่รักเดียวใจเดียว เช่นเดียวกับบิดาของนาง
วันที่ราชโองการถูกเชิญมายังจวนตระกูลเซียว บิดาของนางถึงกับยืนแทบไม่ไหว ส่วนท่านอาก็มีท่าทีกังวลอย่างเห็นได้ชัด
เซียวหยางมี่ไม่อยากทำให้ครอบครัวลำบากใจ นางรู้ดีว่าตนเองมีความรู้สึกบางอย่างต่อองค์ไท่จื่อ แต่แยกไม่ออกว่ามันคือ ความรักแบบหนุ่มสาว หรือเป็เพียงความจงรักภักดีในฐานะสหาย
กระนั้น นางก็ยังตั้งเงื่อนไขบางอย่างขึ้นมา
"องค์ไท่จื่อ ท่านจะให้สัญญากับข้าได้หรือไม่?"
นางเงยหน้าขึ้นสบตากับองค์ชายผู้สูงศักดิ์ "ว่าหากข้ายอมแต่งงานกับท่าน ท่านจะดีกับข้าและดูแลข้าเพียงผู้เดียว จะไม่มีสตรีใดมาแทนที่ข้า"
แท้จริงแล้ว เซียวหยางมี่รู้ดีว่า การแต่งงานกับเชื้อพระวงศ์ ไม่มีทางที่สามีจะมีเพียงนางคนเดียว โดยเฉพาะองค์ไท่จื่อแห่งต้าชิง ผู้ที่ในอนาคตต้องครองบัลลังก์ นางเพียง้าข้ออ้างเพื่อบ่ายเบี่ยง แต่คำตอบที่ได้รับกลับทำให้นางชะงัก
"ข้ารับปาก ในฐานะของบุรุษที่ชื่อหวังเฟิ่ง มิใช่องค์ไท่จื่อของต้าชิง"
"..."
"ข้าจะให้ความสำคัญกับเ้าเพียงผู้เดียว แม้ในวันข้างหน้าข้าจะต้องแต่งสตรีจากตระกูลอื่นเพื่อคานอำนาจ แต่เ้าจะเป็เพียงคนเดียวที่ข้ามอบหัวใจให้"
ในที่สุด เซียวหยางมี่ก็แต่งเข้ามาเป็พระชายาขององค์ไท่จื่อ
แต่นางคิดผิด...ไม่นานนัก เขาก็ผิดสัญญา
แม้นางไม่ได้ตั้งความหวัง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง
"ข้าต้องรับนางเข้ามา หวังว่าเ้าจะใจกว้างพอจะเข้าใจ"
น้ำเสียงของหวังเฟิ่งฟังดูเ็าอย่างที่นางไม่เคยััมาก่อน
"ในเมื่อเ้าไม่สามารถรักษาเสด็จแม่ได้ เ้าก็ควรหลีกทางให้หลิวหงหลันเสีย"
"ท่าน..."
"อย่าทำให้ข้าลำบากใจเลย นางเป็คนของข้า ข้าย่อมต้องเก็บนางไว้เคียงข้าง"
หัวใจของเซียวหยางมี่เหมือนถูกฉีกออกเป็เสี่ยงๆ นางมองบุรุษที่เคยให้คำมั่นต่อหน้านาง ด้วยแววตาว่างเปล่า
"เช่นนั้น เราสองคนก็คงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก"
นางกล่าวเสียงเรียบ ก่อนจะค้อมศีรษะและหมุนกายจากไป
"เ้าอย่าทำตัวเป็เด็กไม่รู้ความนะ เซียวหยางมี่"
"พระองค์ผิดสัญญาก่อน หม่อมฉันคงไม่มีสิ่งใดจะพูดอีก"
หวังเฟิ่งกัดฟันแน่น กำพระหัตถ์จนเส้นเืปูดขึ้น
"ที่ผ่านมา เ้าเห็นเราว่าเป็อะไร?"
"หม่อมฉันไม่เคยเห็นพระองค์เป็สิ่งใด นอกจากพระสหาย" นางคลี่ยิ้มบาง
"แค่นี้คงทำให้พอพระทัย ความหึงหวงจะไม่มีวันเกิดขึ้นจากข้าแน่นอน"
นางอาจเสียใจที่เขาผิดสัญญา แต่นางไม่แน่ใจว่า นางหึงหวงเขาหรือไม่
แม้ในใจจะคิดเช่นนั้น แม้จะยังรู้สึกกังขาเื่ของความรู้สึกของตน แต่ร่างกายกลับตอบสนองต่อความสัมพันธ์นั้นไปแล้ว...
"พระชายา ท่านตั้งครรภ์"
เซียวหยางมี่ชะงักไปทันทีที่ได้ยินคำพูดของหมอหลวง
"อย่าบอกองค์ไท่จื่อ"
"แต่ว่า..."
"ข้าไม่อยากขัดใจเขา เดี๋ยวจะหาว่าข้าไม่รู้ความอีก"
แต่นับวัน โชคชะตากลับไม่เข้าข้างตระกูลเซียว เซียวหยางมี่ไม่รู้ว่าั้แ่เมื่อไร... ที่ตนเองถูกพิษกู่ ไม่รู้ว่าเป็ฝีมือของใคร แต่แทนที่จะห่วงตัวเอง สิ่งแรกที่นางคิดถึงกลับเป็ ความปลอดภัยของฮองเฮาและองค์ไท่จื่อ
ก่อนที่ฝันนั้นจะดำเนินต่อไป...
"องค์หญิงเพคะ!"
เสียงของชิงหลิงดังขึ้น มู่หรงเซียวสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที หัวใจเต้นแรง
"ชิงหลิง... เกิดอะไรขึ้น?"
"บ่าวได้ยินว่า แคว้นต้าชิงส่งคณะทูตมาเพื่อรับองค์หญิงไปยังแคว้นของพวกเขาเพคะ!"
มู่หรงเซียวเบิกตากว้าง หัวใจเต้นผิดจังหวะ
"ข้าต้องไปต้าชิงตอนนี้!?"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้