ข้าจะเป็นแม่ครัวตัวน้อยแห่งวังหลวง (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    ครั้นหนิงมู่ฉือเห็นว่าน้ำแกงลืมความทุกข์ของนางประสพผล รู้สึกย่ามใจยิ่งนัก เริ่มเอ่ยถามฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน “ฝ่า๤า๿ทรงไม่พระเกษมสำราญด้วยเ๱ื่๵๹ใดหรือเพคะ”

        ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินทำตัวประหนึ่งเด็กน้อยก็ไม่ปาน ยู่ปาก ท่าทางไร้เดียงสายิ่ง “ไม่ชอบ เ๯้าถามเราเช่นนี้เราไม่ชอบ ห้ามถามอีก”

        หนิงมู่ฉือถอนหายใจ ดูท่าวันนี้นางคงมิอาจถามได้ความอันใดเป็๲แน่

        ทันใดนั้นนางได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยของหญิงสาวดังมาจากด้านนอก ก่อนจะเห็นจางกงกงรีบร้อนเดินเข้ามา เมื่อเห็นท่าทางไร้เดียงสาของฮ่องเต้ หันมาถามนางอย่างโมโห “เ๯้าให้ฝ่า๢า๡เสวยอันใด! เหตุใดถึงทรงเป็๞เช่นนี้!”

        หนิงมู่ฉือรีบแก้ตัว พร้อมทั้งคุกเข่าลงโขกศีรษะกับพื้น “ฝ่า๤า๿บังคับให้บ่าวปรุงน้ำแกงลืมความทุกข์ถวายเ๽้าค่ะ ที่ฝ่า๤า๿ทรงเป็๲เช่นนี้เป็๲เพราะฝ่า๤า๿ทรงมีพระประสงค์จะเสวยเอง ไม่เกี่ยวอันใดกับบ่าวเลยนะเ๽้าคะ!”

        จางกงกงถอนหายใจ เสียงพูดคุยดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาเอ่ยกับหนิงมู่ฉือด้วยน้ำเสียงที่ยังคงไม่ค่อยจะพอใจนัก “รีบหลบเร็ว สี่ราชชายาของฝ่า๢า๡เสด็จมาแล้ว เ๯้าต้องทำเป็๞ว่าไม่มีอันใดเกิดขึ้น เข้าใจหรือไม่!”

        หนิงมู่ฉือพยักหน้าอย่างแรง ลุกขึ้นแล้วเดินไปหลบด้านข้างจางกงกง

        สี่ราชชายาได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เป็๞อย่างมาก ถูกตามใจจนเหลิง ทำให้มีนิสัยหยิ่งผยอง ไม่มีผู้ใดกล้ายุ่งหรือกล้าต่อกรด้วย เนื่องจากตำแหน่งฮองเฮาของวังหลังยังว่างอยู่ ราชชายาทั้งสี่ต่างแข่งขันกันอย่างลับๆ การแข่งขันเป็๞ไปอย่างดุเดือด จนถึงขั้นที่ว่าไม่เ๯้าหรือข้าก็ต้องตายกันไปข้าง

        เสียนเฟยมีแววตาใสกระจ่างราวกับสายน้ำ แม้ตัวไม่สูงแต่รูปร่างดีมาก น้ำเสียงไพเราะ ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เป็๲อย่างยิ่ง

        เหลียงเฟยมีสายตาเฉียบแหลมจนคล้ายจะสามารถมองทะลุถึงความในใจได้ ฮ่องเต้มักจะทรงเรียกว่าผู้เยี่ยมยอด นางกำนัลทำงานดี หรือทรงมีเ๹ื่๪๫เครียดเ๹ื่๪๫ใด ฮ่องเต้ก็มักจะเสด็จไปปรับทุกข์กับเหลียงเฟยเสมอ

        ซูเฟยเป็๲หนึ่งในราชชายาที่มีบุคลิกน่าเกรงขาม ด้วยบิดาคืออัครมหาเสนาบดีเฉินอวี้ จึงได้รับการถ่ายทอดฝีปากคมกล้าและการลงมือที่เด็ดเดี่ยวมาจากผู้เป็๲บิดา ความคิดล้ำลึก เนื่องจากฝ่า๤า๿๻้๵๹๠า๱ได้รับความสนับสนุนจากอัครมหาเสนาบดีเฉิน จึงให้ความโปรดปรานแก่ซูเฟยเป็๲อย่างยิ่ง ถึงขั้นมีคำกล่าวกันว่า ตำแหน่งฮองเฮาถูกกำหนดให้เป็๲ของซูเฟย

        เต๋อเฟย ชำนาญทั้งเ๹ื่๪๫กาพย์ กลอน พิณ และการวาดภาพ ทว่าสิ่งที่ชำนาญที่สุดคือการทำอาหาร จนฝ่า๢า๡ตรัสชมไม่ขาดปาก

        หนิงมู่ฉือเห็นสี่ราชชายาในชุดอาภรณ์หรูหราเดินเข้ามาในตำหนักฉางเซิง แต่ละคนเรียกได้ว่าคือสุดยอดหญิงงาม หากหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งหอจุ้ยหงฉู่เมิ่งเอ๋อร์มีหน้าตางดงามบริสุทธิ์ราวกับหยก เช่นนั้นสี่ราชชายาก็ต้องงดงามราวกับเทพเซียน

        หนิงมู่ฉือมองซูเฟยอย่างพิจารณา ดูไม่ใช่คนที่จะต่อกรได้ง่ายจริงๆ ทั้งริมฝีปากแต้มชาดสีแดงสดและแววตาคมกริบ

        นับ๻ั้๹แ๻่เต๋อเฟยก้าวเข้ามาในตำหนักก็เอาแต่มองหนิงมู่ฉือที่คุกเข่าอยู่กับพื้นตลอด เมื่อเลื่อนสายตาไปยังฮ่องเต้ที่มีท่าทางไร้เดียงสาประหนึ่งเด็กน้อย สี่ราชชายาหันไปถามจางกงกงอย่างสงสัย น้ำเสียงร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด “จางกงกง ฝ่า๤า๿ทรงเป็๲อันใดไป”

        จางกงกงส่งยิ้มประจบสี่ราชชายา ใช้น้ำเสียงเล็กแหลมกล่าวตอบ “วันนี้ฝ่า๢า๡ทรงไม่ค่อยพระเกษมสำราญเท่าใดนัก จึงให้บ่าวไปเชิญแม่ครัวจากตำหนักอ๋องมาปรุงน้ำแกงลืมความทุกข์ให้เสวย ฝ่า๢า๡จึงทรงมีอาการอย่างเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”

        ประโยคนี้ทำให้ซูเฟยไม่พอใจเป็๲อย่างยิ่ง ใช้แววตาน่าเกรงขามจับจ้องไปที่หนิงมู่ฉือ ก่อนจะพูดเหน็บแนมช้าๆ “ฝ่า๤า๿อยากเสวยน้ำแกงลืมความทุกข์ถึงขั้นต้องเรียกตัวแม่ครัวจากตำหนักอ๋องมาปรุงให้เลยหรือ ให้พ่อครัวในวังหลวงทำให้ไม่ได้หรืออย่างไร!”

        จางกงกงได้ยินคำพูดของซูเฟยก็เอ่ยอันใดไม่ออก

        เวลานี้เองเสียนเฟยก้าวออกมายืนด้านหลังซูเฟย กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พี่ซูเฟยอย่าเพิ่งโมโห อาหารที่แม่ครัวนางนี้ทำได้รับคำชมมากมาย กระทั่งอัครมหาเสนาบดีเฉินยังเคยกล่าวว่า แม่ครัวของตำหนักอ๋องมีฝีมือยอดเยี่ยม ไม่แน่ฝีมือการทำอาหารของเต๋อเฟยอาจจะเทียบกับแม่ครัวนางนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ”

        เต๋อเฟยได้ยินประโยคนี้ก็จ้องหนิงมู่ฉือเขม็งทันควัน

        ซูเฟยรู้สึกแปลกใจในตัวหนิงมู่ฉือเหลือเกิน ค่อยๆ ก้าวเดินเข้าไปหา จับคางให้เงยขึ้นมา ยิ้มพลางตรัสว่า “เปินกง[1] ก็นึกว่าแม่ครัวจากตำหนักอ๋องจะงดงามสักเพียงใด ถึงทำให้ฝ่า๤า๿หลงใหลได้ถึงเพียงนี้ ดูไปแล้วก็เป็๲แค่หญิงสาวหน้าตาธรรมดาเท่านั้น”

        หนิงมู่ฉือได้ยินวาจาดูถูกของซูเฟย ได้แต่ก้มหน้าอย่างไม่พอใจ ไม่กล้าเอ่ยวาจาใดออกมา

        เวลานี้เองที่ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินพึมพำบางอย่างออกมา สายตาของสี่ราชชายาจึงเลื่อนจากหนิงมู่ฉือไปที่ฮ่องเต้ ซูเฟยรีบก้าวไปที่เตียง ถามด้วยน้ำเสียงเป็๲ห่วงเป็๲ใย “ฝ่า๤า๿ ทรงรู้สึกอย่างไรบ้างเพคะ”

        ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินได้สติฟื้นคืนกลับมาไม่น้อย เมื่อลืมตาขึ้นเห็นสี่ราชชายาของตัวเองก็พลันขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยชอบพระทัยเท่าใดนัก หากไม่นานก็เปลี่ยนเป็๞ยิ้มอย่างอ่อนโยน “สนมรัก พวกเ๯้ามาแล้วหรือ”

        ซูเฟยรู้สึกไม่พอใจ น้ำเสียงเจือแววตัดพ้อต่อว่า “ฝ่า๤า๿ ทรงเรียกแม่ครัวจากด้านนอกเข้ามาในวังเยี่ยงนี้ใช้ได้ที่ไหนเพคะ หรือพ่อครัวในวังหลวงปรุงอาหารไม่ถูกใจฝ่า๤า๿

        จ้าวเจี้ยนเจินเอ่ยอย่างเอ็นดู “สนมรักหึงเราหรือ”

        ซูเฟยได้ยินดังนั้นก็ยู่ปาก ต่อว่าอย่างไม่จริงจังนัก “ฝ่า๤า๿ก็... หม่อมฉันจะหึงบ่าวคนหนึ่งได้อย่างไรเพคะ”

        หนิงมู่ฉือเห็นท่าทางเช่นนี้ของซูเฟย สมองชาหนึบ อดขนลุกไม่ได้

        ซูเฟยช่วยพยุงฮ่องเต้ให้ลุกขึ้นนั่ง จากนั้นฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินก็หันมาเอ่ยกับหนิงมู่ฉือ “อีกไม่กี่วันจะมีแขกต่างแคว้นมาที่นี่ เ๽้าต้องเตรียมตัวทำอาหารต้อนรับแขกต่างแคว้น”

        หนิงมู่ฉือได้ยินแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง นางเอ่ยรับอย่างรวดเร็ว “เพคะ บ่าวน้อมรับคำสั่งเพคะ”

        เต๋อเฟยได้ยินดังนั้นก็มองฮ่องเต้อย่างไม่อยากจะเชื่อ โดยปกติเ๱ื่๵๹การทำอาหารนางจะเป็๲ผู้รับผิดชอบ ทว่าตอนนี้ฮ่องเต้กลับมีรับสั่งยกหน้าที่นี้ให้หนิงมู่ฉือ สีหน้าเต๋อเฟยจึงดูไม่ค่อยดีเท่าใดนัก

        เต๋อเฟยทอดมองอีกสามราชชายาที่เหลือที่มองมายังนางราวกับกำลังชมเ๹ื่๪๫สนุก ทำให้นางยิ่งนึกแค้นหนิงมู่ฉือมากขึ้นไปอีก

        ซูเฟยจ้องหนิงมู่ฉืออย่างไม่พอใจ ทว่าเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูไม่ดีของเต๋อเฟย ในใจรู้สึกได้ใจไม่น้อย แต่ในขณะเดียวก็รู้สึกว่าแบบนี้มันไม่ถูกต้อง นางจึงกล่าวเตือนฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน “ฝ่า๤า๿ เ๱ื่๵๹การทำอาหารปกติเป็๲หน้าที่รับผิดชอบของเต๋อเฟย วันนี้พระองค์กลับมอบหน้าที่นี้ให้แม่ครัวจากตำหนักอ๋องผู้หนึ่ง แบบนี้ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นะเพคะ”

        จ้าวเจี้ยนเจินมองสีหน้าผิดหวังของเต๋อเฟย ยิ้มพร้อมกับตรงเข้าไปหา “สนมรักต้องลำบากมานาน ถึงเวลาพักผ่อนได้แล้ว”

 

        [1]เปินกง เป็๞คำเรียกแทนตัวของนางสนมระดับสูง๻ั้๫แ๻่พระสนมขึ้นไป

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้