หมายความว่าพวกเขายินดีทำทุกทางเพื่อให้ได้หยกแขวน
ตัวตนของนายน้อยตระกูลกู่ผู้นี้เป็ของจริง
ลูกอนุที่ไม่เป็ที่โปรดปรานของตระกูลกู่
แต่ในสายตาชาวบ้านธรรมดา ลูกอนุที่มาจากตระกูลใหญ่ก็สูงจนไม่อาจเอื้อมแล้ว
ตระกูลกู่มาสู่ขอ ไม่มีครอบครัวใดกล้าปฏิเสธการแต่งงานที่ดีขนาดนี้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ลูกสาวเสียความบริสุทธิ์เช่นนี้
ดังนั้น จางซื่อมั่นใจ มั่นใจว่าแค่ตระกูลกู่มาสู่ขอ บ้านจ้าวจะทำทุกวิถีทางเพื่อปิดบังเื่ที่จ้าวหงฮวาเสียความบริสุทธิ์
เมื่อถึงเวลา ให้โจวเอ้อร์เหนิงก้าวออกมาสาดน้ำโคลนใส่หลินหวั่นชิว ให้จ้าวหงฮวาก้าวออกมาเช่นกัน นางจำเป็ต้องทำเช่นนั้น เพราะมีเพียงการยืนยันว่าหลินหวั่นชิวมีชู้เท่านั้นที่จะทำให้ตัวเองแต่งออกไปได้
ส่วนบ้านจ้าว เพื่อการสู่ขอที่ไม่ใช่ว่าจะเจอได้ง่ายๆ พวกเขาย่อมอยู่ฝั่งเดียวกัน… ต่อให้หลินหวั่นชิวจะมีปากเป็ร้อยย่อมแก้ตัวไม่ได้…
จางซื่อพึงพอใจกับความคืบหน้ามาก
จ้าวหงฮวากลับบ้านจ้าว โจวเอ้อร์เหนิงถูกจางซื่อรับกลับจากอำเภอเช่นกัน
หลินชุ่ยมองจางซื่อที่ทำท่ากระหยิ่มยิ้มย่องอย่างมั่นใจในชัยชนะด้วยสายตาเย้ยหยัน
เจียงหงหย่วนบอกว่าจะช่วยนาง ตัวนางตอนนี้กำลังเจรจากับเสือ อันตราย แต่…มีอนาคต
ส่วนพรรคพวก… นางมองไปทางจางซื่อ มุมปากยกโค้งเป็รอยยิ้มที่ไม่อาจคาดเดา
พรรคพวกมีไว้เหยียบเพื่อปีนขึ้นที่สูงอยู่แล้ว
“ท่านแม่…ทุกอย่างพร้อมพรัก ขาดแต่ลมบูรพา[1]…พวกเราจะลงมือเมื่อไร?” หลินชุ่ยถามจางซื่อ
จางซื่อยิ้ม “ไม่ต้องรีบ หมู่บ้านเค่าซานยังไม่มีหัวหน้าหมู่บ้าน ไว้ผ่านวันที่สิบห้าไปแล้วหยาเหมินเปิดทำการ สวีไคซานได้เป็หัวหน้าหมู่บ้าน พวกเราค่อยลงมือ…”
เื่นี้ต้องมีคนสนับสนุน และคนสนับสนุนต้องเป็หัวหน้าหมู่บ้าน
มิเช่นนั้น นางเป็แค่ภรรยารองของบ้านหลิน คำพูดของคนต่ำต้อยย่อมไม่มีน้ำหนัก…
เื่บางเื่ คนในหมู่บ้านจะมองว่าเ้าเป็ผู้ใดกัน? ไม่เล่นด้วย
จางซื่อยิ้ม…สภาพน่าเวทนาของหลินหวั่นชิวปรากฏในสมอง…ภารกิจ…ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว
ณ อำเภอ
เจียงหงหย่วนแวะกลับมาที่บ้าน่บ่าย
“หย่วนเกอ” หลินหวั่นชิวลุกขึ้นต้อนรับเขา
“เ้าพูดถูก สตรีสาวพวกนั้น…มีคนมาชี้ตัวไม่มาก ครอบครัวยากจนที่มาชี้ตัว กลับไปแล้วก็ขายให้พ่อค้าคนกลาง ส่วนตระกูลร่ำรวย มีมารับสองสามครอบครัว หนึ่งในนั้นรับกลับไปแล้วผลักลงแม่น้ำ ส่วนครอบครัวอื่น…หวงต้าเกอบอกว่าสตรีสาวหลายคนถูกครอบครัวมาแจ้งหยาเหมินว่าป่วยตายั้แ่ตอนที่พวกนางหายตัวไป…”
สตรีที่ถูกผลักลงแม่น้ำคือเสิ่นอวิ้น นางโชคดี ถูกจ้าวสุ่ยเซิงช่วยเหลือและรับกลับบ้าน
ส่วนคนอื่นๆ…แม้นางจะคิดไว้อยู่แล้วว่าจะเจอจุดจบเช่นนี้ แต่นางก็ยังรู้สึกเสียใจแทนสตรีสาวเ่าั้อยู่ดี
“เพราะคำเตือนจากเ้า ข้าจึงบอกหวงต้าเกอไว้แล้ว ให้คนช่วยจับตาดูหยาเหมิน ไถ่ตัวสตรีสาวที่ถูกขายให้คนกลางออกมาทั้งหมดและจัดให้อยู่ในบ้านพักที่เพิ่งซื้อในหัวเมือง แต่สตรีสาวที่เหลือเ้าต้องออกหน้าเอง ถามพวกนางว่ายินดีมาทำงานที่ร้านขายผ้าหรือไม่ หากยินดีก็เก็บไว้ ไม่ยินดีจะถูกหยาเหมินจัดสรร”
“หยาเหมินจัดสรร? จัดสรรอย่างไร?” หลินหวั่นชิวแปลกใจเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าควรปล่อยพวกนางไปหรือ?
“อายุครบสิบห้าถูกจับคู่ให้ครัวเรือนทหาร[2] ยังไม่ครบสิบห้าส่งไปโรงทาน รออายุครบแล้วถูกจับคู่เช่นกัน”
บัดซบ!
นี่มันจะไม่เห็นสตรีเป็มนุษย์เกินไปหน่อยกระมัง?
“ตามกฎของต้าโจว สตรีสาวที่อายุครบสิบเจ็ดแต่ยังไม่แต่งงานจะถูกทางการจัดสรรให้ครัวเรือนทหาร สตรีสาวเหล่านี้…เนื่องจากไม่มีครอบครัวมารับตัว อีกทั้งพวกนางก็ไม่ใช่นักโทษ ฝ่ายราชการจึงขายเป็ทาสไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นก็จะไม่เลี้ยงดูพวกนางนานหลายปี ด้วยเหตุนี้จึงจัดสรรให้ครัวเรือนทหารเมื่ออายุครบสิบห้า”
“ก็หมายความว่า หากจะรับสตรีสาวพวกนี้มา…เราต้องเตรียมค่าน้ำชาให้หยาเหมิน?”
“ไม่ต้อง หวงต้าเกอช่วยแจ้งให้แล้ว ท่านใต้เท้าผู้ว่าไม่ถือสากับเื่เล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้”
“สภาพสังคมเช่นนี้ สตรีช่างอยู่ยากจริงๆ” หลินหวั่นชิวทอดถอนใจ หากนางไม่เจอเจียงหงหย่วน ต้องท่องไปในโลกใบนี้เพียงลำพัง…นางคงตายจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกไปนานแล้ว
หลินหวั่นชิวอดตัวสั่นไม่ได้เมื่อนึกถึงตรงนี้
โลกนี้ช่างเต็มไปด้วยความมุ่งร้ายต่อสตรี
เจียงหงหย่วนดึงนางมากอดและหอมแก้มนาง “ข้าจะดีกับเ้า”
หลินหวั่นชิวกอดเขาตอบ กอดแน่น ถูใบหน้าไปมากับหน้าอกเขา ประหนึ่งทำเช่นนี้เท่านั้นจึงจะอุ่นใจ
“ท่านไปบ่อนเถิด ข้าจะเตรียมของ วันพรุ่งค่อยนำไปหัวเมืองด้วยกัน”
นางมองว่าสตรีสาวเ่าั้น่าจะยินดีไปร้านขายผ้า
หากพวกนางยินดีไป เช่นนั้นนางต้องเตรียมผ้าห่มเสื้อผ้าให้พวกนางหน่อย
หลินหวั่นชิวหยิบเงิน พาคนไปร้านขายผ้า ให้พนักงานห่อผ้าฝ้ายที่ซื้อด้วยผ้าปูและช่วยขนไปที่รถม้า คนนอกมองมาจะได้พูดแค่ว่านางซื้อของเยอะ แต่ไม่รู้ว่าซื้อสิ่งใดมาบ้าง
กลับถึงบ้าน นางปิดประตูโยนของเหล่านี้เข้าห้องหัตถการเสียนอวี๋ ไม่นาน เครื่องนอนยี่สิบชุด เสื้อและกระโปรงอีกยี่สิบชุดก็เสร็จสิ้น
ทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ นางเข้าไปท่องในเสียนอวี๋ต่อ
เจียงหงหย่วนจะเปิดสำนักคุ้มภัย หลินหวั่นชิวอยากช่วยเขา เป็ไปได้ว่าหนทางข้างหน้าอาจเต็มไปด้วยอันตราย นางหวังว่าเขาจะอยู่รอดปลอดภัย
อยากหาคัมภีร์วรยุทธ์
นี่ก็หามาหลายวันแล้วแต่ยังไม่เจอที่เหมาะสมเสียที
หลินหวั่นชิวไม่มีความรู้ด้านนี้ แต่เสียนอวี๋ช่วยชี้แนวทางให้ ทว่าที่นางค้นเจอมีแต่ประเภทที่เสริมความแข็งแรงให้ร่างกาย ไม่มีแบบที่นำไปใช้ต่อสู้ได้จริง
“ติ๊ง…”
“ท่านมีคะแนนสะสมครบหนึ่งล้านแต้ม สามารถเลือกเปิดตลาดซื้อขายสินค้ามือสองหมวดกำลังภายใน”
“โปรดเลือกว่าจะเปิด หรือ…ละทิ้ง…”
เพราะรู้ว่าเจียงหงหย่วนไปปล้นสะดมคนเลว หลินหวั่นชิวนึกเป็ห่วง ขณะที่แอบภาวนาให้เขาปลอดภัยก็บริจาคเงินให้เสียนอวี๋ไปแปดล้านหยวน
นี่คือเงินที่นางได้มาจากการขายวัตถุโบราณต่างๆ เช่น เครื่องประดับ เครื่องเคลือบ ตำรา ทั้งหมดได้กำไรรวมเกือบยี่สิบล้าน นางไม่ได้บริจาคทั้งหมด บริจาคไปครึ่งหนึ่ง ได้คะแนนสะสมแปดแสนแต้ม บวกกับคะแนนสะสมก่อนหน้านี้ รวมกันเป็หนึ่งล้าน
กำลังง่วงก็มีคนยื่นหมอนให้โดยแท้
ตลาดซื้อขายสินค้ามือสองหมวดกำลังภายใน ไม่แน่ว่าจะมีคัมภีร์วรยุทธ์!
หลินหวั่นชิวกดปุ่มเปิดอย่างตื่นเต้น
คะแนนสะสมในเสียนอวี๋หายวับไปทันที
มองแถบคะแนนสะสมอันว่างเปล่า หลินหวั่นชิวสูดหายใจเข้าลึกๆ ดูเหมือนจะถึงเวลาตั้งใจหาเงินแล้ว!
คะแนนสะสม…ต้องแลกมาด้วยเงินก้อนใหญ่!
เมื่อเข้าสู่หมวดสินค้ากำลังภายในและเห็นการจัดประเภท หลินหวั่นชิวแทบน้ำตาคลอด้วยความปลื้มปิติ
อาวุธ โอสถ คัมภีร์วิชา… ทั้งหมดแยกประเภทชัดเจน มองเพียงปราดเดียวก็เข้าใจ
นางรีบเลือกประเภทคัมภีร์วรยุทธ์ คัมภีร์จำนวนมากปรากฏออกมาทันที
คนนอกวงการย่อมไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไร หลินหวั่นชิวใช้วิธีที่ง่ายที่สุด เลือกให้แสดงสินค้าเรียงตามลำดับราคา จากแพงที่สุดไล่ลงไป
“ ‘คัมภีร์ทานตะวัน’ สิบล้าน ห้ามต่อรอง ผู้ใดต่อรองขอให้ตายยกโคตร!”
“บ้าเสียจริง มีคัมภีร์ทานตะวันด้วย…” หลินหวั่นชิวอดสบถไม่ได้ ขณะเดียวก็มือซนกดดูคำอธิบายสินค้า
“ในการฝึกวิชานี้ ต้องตัดองคชาติ…” สูตรอันคุ้นตา รสชาติอันคุ้นเคย เหมือนว่าวิชานี้จะเตรียมไว้ให้ขันทีในวัง
ไม่เหมาะกับบุรุษของนาง…
เชิงอรรถ
[1] ทุกอย่างพร้อมพรัก ขาดแต่ลมบูรพา(万事俱备,只欠东风) หมายถึง ทุกอย่างตระเตรียมไว้พร้อมแล้ว ขาดเพียงสิ่งสำคัญอย่างเดียว
[2] ครัวเรือนทหาร(军户) ทหารที่เข้ากองทัพแล้วต้องเป็ทหารไปชั่วลูกชั่วหลาน สถานะทางสังคมต่ำ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้