ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างกลั้นหายใจหนาวเหน็บ ฉากที่เห็นมันโหดร้ายเกินไป และเจียงเฉินเป็ดั่งาาปีศาจน้อย....ผู้คนอาจพบกับความโชคร้ายได้หากว่าถูกใบหน้าไร้เดียงสานี่หลอกเอา
"อ๊าาาาาาา......!!"
ความเ็ปที่ถูกตัดน้องชายไปไม่ใช่สิ่งที่ใครสามารถทนได้ แม้ว่าจะเ็ปจนสลบไป แต่ก็ยังฟื้นขึ้นมาเพราะความเ็ป
เฒ่ามู่หรงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสยดสยอง ทั่วทั้งร่างของเขากระตุก และเป็ลมไปอีกครั้ง
"นายน้อยขอรับ เ้าสุนัขเฒ่านี่เป็ลมไปแล้ว"
เจียงเฉิงมองไปยังเจียงเฉิน
"ถอดเสื้อผ้าของมันทั้งหมดซะ หักขาของมันทั้งสองข้างจากนั้นจับมันโยนไปที่ๆมันไม่สามารถมารบกวนพวกเราได้อีก และเปิดขายเม็ดยาต่อ"
เจียงเฉินกล่าวออกมาด้วยท่าทางสบายๆ แต่ภายในดวงตาส่วนลึกของเขาเผยถึงสายตาเ็าและโเี้ ไม่ว่าจะชีวิตนี้หรือชีวิตที่แล้ว ไม่ว่าใครก็ตามมาเป็ศัตรูกับเขาย่อมมีจุดจบที่ไม่ดี
ยามรักษาการณ์ตระกูลเจียงมารวมตัวกัน ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของมู่หรงฮ่าวและตาเฒ่ามู่หรง จากนั้นเจียงเฉิงนำท่อนเหล็กฟาดหักขาทั้งสองข้างของตาเฒ่ามู่หรง จากนั้นหิ้วทั้งสองออกไปจากร้าน
"อนาถ อนาถจริงๆ"
"เ้าสองคนนั่นมันใช้การไม่ได้อีกแล้ว ทั้งหมดนี่เป็เพราะอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งตระกูลมู่หรงหยิ่งยโสมากเกินไป...ตระกูลมู่หรงและตระกูลเจียงทั้งสองตระกูลไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ มันคงจะไม่บานปลายถึงเพียงนี้หากว่าแค่มาสำรวจดู แต่พวกเขากลับหาเื่ใส่ตน มันมิใช่ว่า้าให้เื่แบบนี้เกิดขึ้นหรอกหรือ? เจียงเฉินมิใช่ผู้ที่สามารถตอแยได้โดยง่าย"
"ชื่อเสียงตระกูลมู่หรงได้ดิ่งลงเหวั้แ่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ในวันนี้อัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งตระกูลมู่หรงและตาเฒ่าฉีไห่ได้ถูกตัดส่วนสำคัญที่สุดของบุรุษไป มิหนำซ้ำยังโดนหักขาทั้งสองข้างพร้อมโดนถอดเสื้อผ้าจนหมดสิ้นอีก นี่เท่ากับว่านายน้อยเฉินได้ตบหน้าตระกูลมู่หรงอีกคราสินี่ และการตบครั้งนี้มิใช่เบาๆเสียด้วย"
"ใช่แล้ว ในตอนนี้ตระกูลเจียงมีนักปรุงยาที่สามารถปรุงเม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนได้ ตระกูลมู่หรงได้พบกับความสูญเสียสองต่อ เจียงเฉินคู่ควรที่จะถูกเรียกขานว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเมืองเทียนเซียงอย่างแท้จริง ในอนาคต หากว่าพวกเราจะซื้อขายอันใด พวกเราควรไปตระกูลเจียง ข้ามั่นใจแปดส่วนว่าตระกูลมู่หรงมิใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลเจียง"
ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างพูดคุยกันในเื่ที่เกิดขึ้น สำหรับการแข่งขันระหว่างตระกูลเจียงและตระกูลมู่หรง พวกเขาทำได้เพียงเป็ผู้ชมเท่านั้น ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วม
สำหรับเื่โหดร้ายที่เกิดขึ้นกับมู่หรงฮ่าวและตาเฒ่าฉีไห่ ผู้คนต่างคิดว่าวิธีการที่เจียงเฉินใช้นั้นโเี้นัก แต่พวกเขาทั้งหมดเข้าใจเป็อย่างดีถึงความสัมพันธ์ดุจน้ำและไฟ ถึงแม้ว่าวันนี้เจียงเฉินลงมือสังหารทั้งสองคน มันก็ไม่แตกต่างเนื่องจากความสัมพันธ์ทั้งสองตระกูลไม่อาจแก้ไขได้อีก
"ขายเม็ดยาต่อ"
เจียงเฉินกล่าวออกมา จากนั้นเขานำมือไขว้หลังและหันกลับเข้าไปยังร้านขายโอสถ มองไปยังแผ่นหลังที่แกร่งของเขา ทุกคนต่างรู้สึกหวาดกลัว ชายหนุ่มผู้นี้เป็ดั่งร่างอวตาลของปีศาจ
"นายน้อยเป็ผู้รู้จักแยกแยะบุญคุณความแค้น ความหาญกล้าและความเมตตา เขาจะต้องกลายเป็คนใหญ่คนโตในอนาคตเป็แน่ ตระกูลมู่หรงมิใช่คู่ต่อกรของนายน้อยอย่างแน่นอน"
โจวเป่ยเฉินคิดในใจ สิ่งที่เกิดขึ้่นวันนี้ได้เปลี่ยนทัศนคติของเขาไปโดยสิ้นเชิง การกระทำของเขามิใช่สิ่งที่เด็กหนุ่มอายุสิบห้าจะสามารถทำได้
ใน่เวลายามเย็น ณ ตระกูลมู่หรง
มองไปยังมู่หรงฮ่าวและตาเฒ่าฉีไห่ที่นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนพื้น เปลวเพลิงแทบพวยพุ่งออกจากดวงตาของมู่หรงเจิ้น
ชายวัยกลางคนอายุราวๆสี่สิบได้ตรวจอาการของมู่หรงฮ่าว เมื่อเห็นท่อนล่างของมู่หรงฮ่าว ชายวัยกลางคนผู้นี้ขมวดคิ้วแน่น และส่ายหัว
"มีหนทางช่วยเหลือหรือไม่?"
มู่หรงเจิ้นถามขึ้น
"แขนข้างหนึ่งของนายน้อยแหลกเป็เสี่ยงๆ และขาสองข้างหัก...แต่ที่อาการหนักที่สุดคือสิ่งที่อยู่ภายในกางเกงของเขา....มันถูกตอน"
หลังจากชายวัยกลางคนกล่าวจบ เขาได้ถอยไปยืนข้างๆ
ตึง!
ฝ่ามือของมู่หรงเจิ้นฟาดลงโต๊ะไม้อันแข็งแรง โต๊ะไม้ที่แข็งแรงตัวนั้นได้กลายเป็ขี้เถ้าในทันทีขณะที่เศษไม้ปลิวไปทั่วห้อง ทุกๆคนที่อยู่ภายในห้องโถงต่างปิดปาก ไม่กล้าพูดออกมาแม้เพียงคำเดียว สายตาของผู้คนตกอยู่ที่ร่างของมู่หรงฮ่าวและตาเฒ่ามู่หรง พวกเขารู้สึกหนาวสะท้านไปถึงไขสันหลัง
ตรงมุมของห้องโถง มีชายหนุ่มสวมชุดสีขาวผู้หนึ่งนั่งอยู่ เขาราวยี่สิบ มีใบหน้าหล่อเหลาอย่างมาก บนตักของเขามีสตรีสวมชุดเปิดเผยผิวกาย และรูปร่างของนางอรชรและดูเซ็กซี่นัก ทุกคนสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าหญิงสาวผู้นี้เป็สาวงาม
ชายหนุ่มผู้นี้มิได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องโถง ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังูเาสองลูกของสตรีผู้นั้นอย่างหื่นกระหาย และเขาลูบคลำนางทั่วร่าง
"ท่านผู้นำ เ้าเด็กสารเลวเจียงเฉินมันโเี้มาก พวกเราจะไม่ปล่อยเื่นี้ไปง่ายๆแน่"
คนๆหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความเดือดดาล เจียงเฉินไม่เพียงแค่ทำให้ตระกูลมู่หรงสูญเสียอัจฉริยะไป และมันยังเป็การตบหน้าตระกูลมู่หรงฉาดใหญ่ ดูจากสภาพของมู่หรงฮ่าวแล้ว มันจะดีกว่าหากฆ่าเขาให้ตายดีกว่าปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมาน สามารถบอกได้ว่ามู่หรงฮ่าวนั้นไม่แข็งแกร่งพอ แต่นี่ดูถูกพวกเขาถึงขนาดนี้
"เ้าขยะไร้ประโยชน์นั่น!ข้าจะต้องสับมันให้เป็ชิ้นๆ...ทุกคนจงฟังให้ดี รวมกำลังพลทั้งหมดของตระกูลพวกเรา เตรียมทำาชี้ตายกับตระกูลเจียง! ข้าจะจับพ่อลูกตระกูลเจียงตอนซะ!"
มู่หรงเจิ้นโกรธเกรี้ยวยิ่งนัก เขาโกรธอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน!ชื่อเสียงตระกูลพวกเขาโดนย่ำยีซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยคนผู้เดียว ตระกูลมู่หรงได้กลายเป็ตัวตลกแห่งเมืองเทียนเซียง หากว่าไม่ทำอะไรสักอย่าง ในอนาคตคงไม่มีที่ให้ตระกูลมู่หรงอยู่อีก
"ช้าก่อน!"
เสียงดังขึ้นกระทันหัน แน่นอนว่าเป็ชายหนุ่มสวมชุดขาวที่นั่งอยู่ตรงมุมอย่างสบายใจขณะที่ลูบไล้หญิงสาวที่น่าดึงดูดผู้นี้ เขาผลักหญิงสาวออกไปข้างๆอย่างอ่อนโยนและค่อยๆยืนขึ้นมา
หลายๆคนภายในห้องโถงเห็นชายหนุ่มผู้นี้ ภายในดวงตาของพวกเขาเผยถึงความรังเกียจ แต่ด้วยความแข็งแกร่งและสถานะของเขา ทำให้พวกเขาต้องซ่อนความรู้สึกรังเกียจนี่เอาไว้
"คุณชายหลี่ ข้าจะไม่ปล่อยเื่นี้ไปง่ายๆ และตอนนี้นักปรุงยาที่สามารถปรุงเม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนอยู่ที่ตระกูลเจียงด้วย เขาอยู่เหนือกว่านักปรุงยาที่คุณชายพามาเสียอีก...ข้าจะสู้ตัดสินกับเจียงเจิ้นไห่เพื่อแสดงให้เห็นว่าใครกันแน่คือผู้ปกครองที่แท้จริงของเมืองเทียนเซียง!"
มู่หรงเจิ้นยังคงโกรธจัด แต่เมื่อเขาพูดกับคุณชายหลี่ เห็นได้ชัดว่ามันสุภาพขึ้น แสดงให้เห็นว่าผู้ปกครองที่แท้จริงของเมืองเทียนเซียงยังไม่กล้าที่จะล่วงเกินคุณชายหลี่ผู้นี้
ชายผู้นี้มีนามว่า หลี่ช่างหง เป็นายน้อยตระกูลหลี่แห่งเมืองชื่อ ด้วยอายุยี่สิบปี เขาเป็ผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ขั้นต้น พร์ของเขาไม่ธรรมดาเลย
ภายในแคว้นฉี มีเมืองใหญ่เล็กทั้งหมด 28 แห่งและเมืองชื่อเป็หนึ่งในเมืองที่แข็งกล้าที่สุด ไม่ใช่สิ่งที่เมืองเล็กๆอย่างเมืองเทียนเซียงจะสามารถเทียบได้
"ตระกูลมู่หรง ข้าขอถามพวกเ้าหน่อย หากว่าพวกเ้าจะทำากับตระกูลเจียง พวกเ้าคิดว่าจะชนะแน่นอนหรือไม่?"
หลี่ช่างหงถามขึ้น
"นี่......"
มู่หรงเจิ้นขมวดคิ้ว หากพูดกันตามตรง ความแข็งแกร่งของตระกูลมู่หรงนั้นพอๆกับตระกูลเจียง หากว่าพวกเขาสู้กันขึ้นมาจริงๆ ผลที่ออกมาไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ก็พบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ นอกจากนี้เจียงเฉินได้ทำให้ตระกูลมู่หรงต้องพบกับความอับอายสองครั้งสองครา ตระกูลเจียงยิ่งมีขวัญกำลังใจมากกว่าตระกูลมู่หรง หากว่าต้องทำากันจริงๆ เป็ไปได้ว่าโอกาสชนะของพวกเขาไม่เกินสามส่วน
"หากว่าข้าพูดถูกโอกาสชนะของพวกเ้ามีไม่เกินสามส่วนเท่านั้น...ถึงแม้ว่าพวกเ้าจะโชคดีชนะในตอนท้ายก็ตาม ตระกูลมู่หรงของพวกเ้าคงเหลือเพียงแค่ชื่อเท่านั้น ดังนั้น การวู่วามจะทำให้พวกเ้าต้องเ็ปเท่านั้น"
หลี่ช่างหงกล่าว
ภายในห้องโถงผู้ที่กำลังเดือดดาลได้ใคร่ครวญเหตุผลและผงกหัวทันที แม้ว่าชายหนุ่มผู้นี้จะน่ารังเกียจและมากด้วยตัณหา แต่เขามีความคิดที่หลักแหลม
"คุณชายหลี่คิดว่าพวกเราควรทำเช่นไรดี? พวกเราจะไม่ปล่อยเื่นี้ไปเช่นนี้แน่"
มู่หรงเจิ้นไม่ยอมปล่อยเื่นี้ไปง่ายๆ
"ไม่ต้องเป็กังวลไปท่านผู้นำตระกูล ในเมื่อข้าสัญญาว่าจะช่วยเหลือพวกท่านแล้ว ข้าจะช่วยจัดการตระกูลเจียงให้เอง เมื่อเวลานั้นมาถึง คฤหาสน์เ้าเมืองจะตกเป็ของท่าน"
หลี่ช่างหงเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
ในหมู่หัวเมืองทั้ง 28 แห่งแล้ว คฤหาสน์เ้าเมืองเป็เพียงแค่ตำแหน่งแค่ในนาม ไม่มีความหมายใดๆต่อตระกูลต่างๆ ไม่ว่าใครก็ตามที่มีพลังมากพอคนผู้นั้นก็จะเป็ผู้ครองครองทั้งเมือง
"คุณชายหลี่ ท่านมีความคิดเห็นเช่นใดหรือ?"
มู่หรงเจิ้นเป็คนฉลาด เขาเข้าใจได้ทันทีว่าสิ่งที่หลี่ช่างหงกล่าวมานั้นถูกต้อง เมื่อครู่เขาโกรธจนขาดสติ และเกือบทำให้ตระกูลมู่หรงตกอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีวันถอนกลับมาได้
"หากว่าท่าน้าทำลายตระกูลเจียงจะต้องทำลายั้แ่รากฐาน ท่านจำเป็ต้องเริ่มลงมือกับร้านขายโอสถ...สำหรับเ้าเจียงเฉินผู้นั้น ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็ภัยคุกคามหรอกนะ"
หลี่ช่างหงกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
"คุณชายหลี่ อย่าได้ดูแคลนเจียงเฉินเกินไป เ้าหนุ่มนั่นแม้จะยังเด็กอยู่ แต่มีความคิดล้ำลึก สุขุมเยือกเย็น และยังโเี้"
เมื่อพูดถึงเจียงเฉิน แววตาของมู่หรงเจิ้นอดที่จะแสดงความเกลียดชังออกมามิได้
"มันเป็เื่ง่ายดายที่จะจัดการกับเ้าเจียงเฉินตัวจ้อยนั่น"
หลี่ช่างหงกล่าวออกมาพร้อมยิ้มให้
"เ้าเจียงเฉินคนนั้นเป็ดั่งสมบัติล้ำค่าที่สุดของเจียงเจิ้นไห่ หากว่าเจียงเฉินมันตายไป แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อทั้งตระกูลเจียงอย่างมากแน่นอน แต่เ้าสารเลวน้อยนี่วันๆหมกตัวอยู่แต่คฤหาสน์เ้าเมือง การที่จะกำจัดมัน เป็เื่ยากมาก"
มู่หรงเจิ้นกล่าว
"ไม่จำเป็ต้องกังวลกับเ้าเจียงเฉินนั่นให้มากนัก คุณชายผู้นี้จะคิดหาหนทางที่จะจัดการกับมันด้วยตนเอง ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคอยจับตาดูร้านขายโอสถตระกูลเจียงอย่างใกล้ชิด ค้นหาตัวตนของนักปรุงยาที่สามารถปรุงเม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนให้ได้ จากนั้นพวกเราจะขอให้เขามาทำงานให้เรา นั่นเป็เื่ที่ยอดนัก"
หลี่ช่างหงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม สิ่งที่เขาให้ความสนใจทั้งหมดคือนักปรุงยาผู้นั้น หากว่าเขาได้ตัวนักปรุงยาที่สามารถปรุงเม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนมาได้ สถานะตระกูลหลี่ของเขาจะต้องยกระดับขึ้นอีกระดับอย่างแน่นอน
"ท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว คุณชายหลี่ แต่เ้าเจียงเฉินนั่นเป็ภัยร้ายแรงจริงๆ พวกเราจะต้องกำจัดมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็ไปได้"
มู่หรงเจิ้นปฎิบัติต่อเจียงเฉินดั่งหนามแหลมคมคอยทิ่มแทงใจ เขาจำเป็ต้องกำจัดมันซะ นอกจากนี้ เขารู้สึกได้ถึงอันตรายบางอย่างจากตัวเจียงเฉิน ความรู้สึกนี้เขามิได้รู้สึกเช่นนี้กับเจียงเจิ้นไห่
"ท่านผู้นำตระกูลมู่หรงโปรดวางใจ คุณชายผู้นี้จะเป็ผู้จัดการเื่นี้เอง ข้าจะฆ่าเ้าเจียงเฉินนั่นซะ เมื่อข้าได้ตัวนักปรุงยามา ถึงตอนนั้นตระกูลมู่หรงจะเป็ผู้ควบคุมเมืองเทียนเซียงทั้งหมดแด่เพียงผู้เดียว"
หลี่ช่างหงกล่าวออกมาขณะที่เขากอดหญิงสาวผู้ทรงเสน่ห์ผู้นั้นและจูบนางต่อหน้าทุกคน
"คุณชายหลี่โปรดวางใจ ตราบที่สามารถทำลายตระกูลเจียงได้ ถึงตอนนั้นนางโลมเหล่านี้จะตกเป็ของคุณชาย"
มู่หรงเจิ้นคลี่ยิ้มออกมา หญิงสาวทั้งแปดนี่แตกต่างจากนางโลมทั่วไป พวกนางเป็หญิงสาวที่ตระกูลมู่หรงเลือกเฟ้นมาเป็อย่างดี สตรีเหล่านี้ต่างมาจากครอบครัวยากจน ไม่เพียงแค่พวกนางมีรูปโฉมที่งดงามมาก พวกนางยังสามารถขับร้อง เต้นและเล่นเครื่องดนตรีได้ พวกนางบางคนกระทั่งสามารถวาดรูปได้
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น หญิงสาวทั้งแปดคนนี้ไม่อาจนำนางโลมทั่วไปมาเทียบได้ พวกนางเป็คนที่โดดเด่นที่สุดของที่นั่น
ทุกคนต่างรู้ดีว่าคุณชายหลี่ช่างหงแห่งเมืองชื่อเป็ผู้ตัณหาจัด ในความจริงแล้วที่เขาเดินทางมายังเมืองเทียนเซียงและเสนอความช่วยเหลือ ทั้งหมดนี่เพื่อหญิงสาวทั้งแปดคนนี้
"ฮ่าฮ่า ท่านผู้นำตระกูลมู่หรงช่างรู้ใจข้ายิ่งนัก"
หลี่ช่างหงหัวเราะออกมา
ณ ร้านขายโอสถตระกูลเจียง เจียงเจิ้นไห่ได้รวบรวมวัตถุดิบทั้งหมดในการปรุงเม็ดยาพยัคฆ์หยวนและนำพวกมันมาให้เจียงเฉิน
"เฉินเอ๋อร์ พ่อได้ยินว่าวันนี้เ้าได้ทำให้เ้าหนูมู่หรงฮ่าวพิการ...เ้าทำได้เยี่ยม! แต่ว่ามู่หรงฮ่าวเป็อัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งตระกูลมู่หรงกลับถูกเ้าทำให้พิการ มู่หรงเจิ้นคงไม่ยอมเลิกราเป็แน่"
เจียงเจิ้นไห่กล่าว
"ไม่ว่ามู่หรงเจิ้นจะทำอะไร ลูกจะจัดการพวกมันเอง"
เจียงเฉินตอบกลับอย่างสบายๆ รอยยิ้มเผยขึ้นบนใบหน้าของเจียงเจิ้นไห่ขณะที่เขามองไปยังใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของบุตรชายเขา
"จริงด้วย พ่อนำวัตถุดิบที่เ้า้าทั้งหมดมาให้"
เจียงเจิ้นไห่กล่าว
