หุบเขาลูกนี้ซ่งอวี้ไม่ได้เคยขึ้นมาเพียงครั้งเดียว พวกเขาสองคน คนหนึ่งเดินนำหน้าคนหนึ่งอยู่ด้านหลัง แม้ทางเดินบนหุบเขาจะขรุขระยากที่จะเดิน ทว่าไม่อาจทำอันใดพวกเขาได้ ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ในตะกร้าสะพายหลังก็มีสมุนไพรมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว
ซ่งอวี้เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก หยิบน้ำเต้าที่ใส่น้ำเอาไว้ขึ้นมาดื่ม ก่อนจะยื่นให้หลี่เฉิง "ท่านดื่มน้ำดับกระหายก่อนเถอะ ตะกร้าใกล้จะเต็มแล้ว พวกเราพักก่อนค่อยหาสมุนไพรต่อ ก็มีค่าเท่ากัน"
ขณะที่เอ่ย สายตาของซ่งอวี้ก็ชำเลืองมองที่ขาซ้ายของหลี่เฉิงอย่างแยบยล
นางคิดว่าแววตาของตนซ่อนเร้นได้เป็อย่างดี ทว่าคิดไม่ถึงว่าทุกอย่างกลับอยู่ในสายตาของหลี่เฉิง เขายกมือขึ้น แล้วซับเหงื่อบนดวงหน้าของซ่งอวี้ "ได้"
ดูเหมือนว่าซ่งอวี้จะคิดไม่ถึงว่าหลี่เฉิงจะกระทำเช่นนี้ ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความใ จับจ้องไปที่หลี่เฉิงด้วยความตกตะลึง ตอนที่นางเห็นมุมปากของเขายกยิ้มบางๆ แก้มของนางก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันที แดงจนถึงใบหู
ในยามนั้นความเงียบแสดงความในใจได้ดียิ่งกว่าคำพูดที่เอ่ยออกมา ลมพัดผ่านโชยเบาล้อมตัวพวกเขาเอาไว้ ทำให้เกิดภาพที่งดงาม
"ข้า..." ซ่งอวี้กะพริบตาปริบๆ พูดเสียงเบา อยากจะพูดบางอย่าง ทว่าสิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้ากลับเป็งูพิษที่มีสีสันสวยงาม งูพิษพุ่งเลื้อยมาอย่างรวดเร็วจนนางไม่มีเวลาหลบเลี่ยง
แย่แล้ว! ซ่งอวี้หลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง กัดฟันแน่นรอคอยความเ็ปที่จะเกิดขึ้น ทว่าผ่านไปเนิ่นนาน นางก็ยังคงไม่มีความรู้สึกใดๆ แต่กลับได้ยินเสียงปลอบประโลมของหลี่เฉิงที่ดังขึ้นข้างหู
"ไม่ต้องกลัว ข้าโยนงูพิษตัวนั้นไปแล้ว"
ซ่งอวี้เบิกตากว้างด้วยความใ เดิมทีนางอยากจะอุทานว่าอันตรายยิ่งนัก ทว่านางบังเอิญเห็นหลี่เฉิงซ่อนมือซ้ายไว้ด้านหลัง
"เกิดอะไรขึ้นกับมือของท่าน? เอาออกมาให้ข้าดู" ซ่งอวี้ถลึงตามองหน้าหลี่เฉิงโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา นางเม้มริมฝีปาก แล้วดึงมือเขามาดู
ทว่าหลี่เฉิงกลับออกแรงสู้ ชั่วขณะหนึ่งต่างฝ่ายต่างไม่ยอมแพ้
"เมื่อครู่มือโดนบาดเล็กน้อย ไม่ได้เป็เช่นไร ประเดี๋ยวข้าล้างมือเล็กน้อยก็สิ้นเื่แล้ว" น้ำเสียงของหลี่เฉิงยังคงนิ่งสงบเหมือนเช่นปกติ หากไม่ใช่เพราะซ่งอวี้เห็นท่าทีปิดบังซ่อนเร้นของเขาเมื่อครู่ เกรงว่านางคงจะเชื่อคำพูดของเขาไปแล้ว
เขาดื้อรั้น ทว่าซ่งอวี้กลับดื้อรั้นยิ่งกว่า นางดึงดันจะดูมือของเขาให้ได้เพื่อความสบายใจ
"ท่านลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็หมอ? ในเมื่อมือถูกบาด เช่นนั้นก็ยิ่งต้องให้ข้าดู วันนี้พวกเราเก็บสมุนไพรมาได้มากมาย สมุนไพรเ่าั้มีหลายตัวที่ช่วยห้ามเืได้ ประจวบเหมาะสามารถนำมาใช้ได้พอดี"
หลี่เฉิงไม่อาจเอาชนะนางได้ จึงทำได้เพียงลดแรงที่มือลง แล้วยื่นมือซ้ายให้นางดู
ซ่งอวี้คว้ามือซ้ายของหลี่เฉิงมาดูใกล้ๆ เมื่อเห็นง่ามมือของเขามีรูเล็กๆ สองรู เืที่ไหลออกมากลายเป็สีดำแล้ว นั่นไม่ใช่การถูกบาด เห็นชัดว่าถูกงูพิษเมื่อครู่กัด แม้กระทั่งเืที่รินไหลออกมาก็เปลี่ยนสีแล้ว!
หัวใจของซ่งอวี้บีบรัดขึ้นมาทันที พิษของงูพิษบางชนิดแพร่กระจายเร็ว เมื่อครู่เสียเวลาไปนานเช่นนั้น ไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบใดหรือไม่
นางถลึงตามองหลี่เฉิงด้วยความขุ่นเคืองและโมโห ริมฝีปากแดงระเรื่อของซ่งอวี้แนบลงบนาแของหลี่เฉิงอย่างไม่ลังเล
"ไม่ได้! เช่นนี้เ้าก็จะโดนพิษงูไปด้วย!”
หลี่เฉิงมองดูซ่งอวี้ที่ดูดพิษให้เขาอย่างไม่ลังเล หลี่เฉิงตื้นตันใจยิ่งนัก เขาอยากจะดึงมือกลับ แต่ซ่งอวี้กลับกอดมือของเขาเอาไว้แน่น ไม่ให้โอกาสเขาแม้แต่น้อย นางดูดพิษออกมา แล้วถ่มลงบนพื้น จากนั้นก็หยิบน้ำเต้าขึ้นมาบ้วนปาก แล้วดูดพิษอีกครั้ง
หลังจากทำเช่นนี้สามครั้ง ในที่สุดเืที่ไหลออกมาจากาแก็กลับมาเป็สีแดงดังเดิม ซ่งอวี้หยิบสมุนไพรถอนพิษออกมาจากตะกร้าสะพายหลัง เคี้ยวสมุนไพรแล้วประคบไว้บนาแของหลี่เฉิง
หลี่เฉิงมองซ่งอวี้ที่ง่วนอยู่กับการถอนพิษให้เขา ความหวั่นไหวในใจแปรเปลี่ยนเป็ความชอบอย่างช้าๆ เขาไม่อาจแยกแยะความรู้สึกทั้งสองอย่างออกจากกันได้
ที่แน่ๆ ซ่งอวี้เข้ามาอยู่ในใจของเขานานแล้วโดยไม่รู้ตัว รวมถึงชีวิตเงียบสงบในหมู่บ้านเสี่ยวหนิว ก็กลายเป็ความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนของเขา
ความรู้สึกทุกอย่างต้องผ่านการบ่มเพาะจึงจะะเิออกมา ครั้งนี้ซ่งอวี้ไม่หวั่นเกรงว่าจะต้องภัยอันตราย ดูดพิษให้เขา การกระทำเช่นนี้ของนางเป็ต้นเหตุของเื่ทุกอย่าง เวลานี้ หลี่เฉิงไม่อาจต้านทานความรู้สึกในใจได้ ความรู้สึกนี้รุนแรงจนแทบจะเอ่อล้นออกมาจากหัวใจของเขา
"ซ่งอวี้" หลี่เฉิงยกมือขวาขึ้น เขาเช็ดรอยเืที่มุมปากของซ่งอวี้ด้วยความอ่อนโยน พลางพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ "ข้าชอบเ้า แล้วเ้า...เ้าเล่า?"
หลี่เฉิงเผชิญหน้ากับกองทหารนับพันนับหมื่นโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า สำหรับเขาแล้วแผนการและกลอุบายต่างๆ เป็เพียงเื่ที่มองทะลุปรุโปร่งได้อย่างง่ายดาย แต่คำว่า 'ข้าชอบเ้า' เขากลับพูดออกไปด้วยความกังวล เพราะคนตรงหน้าเข้ามาอยู่ในใจของเขานานแล้ว เวลานี้เขากลัวว่านางจะปฏิเสธเขาเหลือเกิน เืสูบฉีดพลุ่งพล่าน
ชอบ...
ซ่งอวี้เงยหน้าขึ้นด้วยความใ นางสบตากับหลี่เฉิง เห็นเงาของตนสะท้อนในดวงตาของเขา ดวงแก้มของนางแดงก่ำขึ้นมาทันที ขนตางอนยาวสั่นไหวราวกับผีเสื้อกระพือปีก แสดงความรู้สึกของนางออกมา
์ นางไม่ได้หูฝาดใช่หรือไม่ หลี่เฉิงกำลัง… สารภาพรักนางหรือ? ภายในใจของซ่งอวี้สุขล้น แต่ก็เขินอายเล็กน้อย นางก้มหน้าลง อยากจะซ่อนความรู้สึกของตนเอง
ทว่าหลี่เฉิงไม่ให้โอกาสนางในการวิ่งหนี เมื่อเห็นนางก้มหน้าลง เขาไม่สนใจความกังวลในใจ เอ่ยปากพูดออกมา
"ซ่งอวี้ แม้พวกเราจะเจอกันไม่นาน แต่่เวลาที่ได้อยู่กับเ้า เป็่เวลาที่ข้ามีความสุขและไร้ความทุกข์ที่สุด ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเ้ามาอยู่ในใจข้าั้แ่เมื่อใด ทว่าทุกคำพูดของข้าในยามนี้ ล้วนมาจากใจทั้งสิ้น"
เสียงนกร้องดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกล ทำให้พวกเขาตัดขาดจากโลกแห่งความเป็จริง หลุดไปอยู่ในโลกที่มีเพียงพวกเขาสองคน มีแค่กันและกัน
"ซ่งอวี้ ข้าชอบเ้า เ้าเล่า? เ้าชอบข้าหรือไม่?"
หลี่เฉิงเดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าวแล้วเอ่ยถาม ดูเหมือนว่าการกระทำเช่นนี้จะช่วยทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขาลดน้อยลง ทั้งสองได้กลิ่นลมหายใจของกันและกัน ลมหายใจของคนพวกเขาสอดประสานเข้าด้วยกันอย่างมิอาจแยกแยะได้
แผ่นหลังของซ่งอวี้พิงต้นไม้ใหญ่ ไม่อาจถอยหนีได้อีก นางรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งร่าง
ก่อนที่นางจะทะลุมิติมา นางเป็เพียงหมอที่เอาแต่ทำงานเท่านั้น ไม่เคยคิดเื่ระหว่างชายหญิง อยู่ที่โรงพยาบาลก็ทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืน แทบจะอาศัยอยู่ในโรงพยาบาลด้วยซ้ำ ดังนั้นสำหรับนางแล้วเื่ความรักช่างไกลตัวยิ่งนัก
เวลานี้ มีชายที่อยู่ด้วยกันตลอดทั้งคืนวันบอกกับนางด้วยสีหน้าอ่อนโยนว่า ข้าชอบเ้า เพียงแค่คิดก็รู้แล้วว่าซ่งอวี้ในตอนนี้กระวนกระวายเพียงใด คล้ายได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงมากลางหู ทว่าภายในใจกลับมีความรู้สึกดีๆ ก่อตัวขึ้น
หลี่เฉิงมองซ่งอวี้ที่แก้มแดงก่ำไม่ตอบคำถาม ขณะที่เขากำลังจะถามนางอีกครั้ง กลับได้ยินเสียงตอบแ่เบาของซ่งอวี้ "ข้า...ข้าเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับท่าน"
พูดจบ จู่ๆ นางก็ผลักหลี่เฉิงออก รีบเก็บตะกร้าสะพายที่อยู่บนพื้นขึ้นมา แล้ววิ่งหนีไปราวกับว่ามีอสูรร้ายไล่ตามหลัง
"หึ" หลี่เฉิงหัวเราะเบาๆ เก็บน้ำเต้าที่อยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วเดินตามซ่งอวี้ลงจากหุบเขาไป
เวลานี้ซ่งอวี้อยากจะหาที่เงียบๆ ไม่มีผู้คน เพื่อจัดการกับความคิดว้าวุ่นที่วิ่งพล่านอยู่เต็มสมอง เขาเนี่ยนะ ตนถอนพิษงูให้เขาอยู่ดีๆ กลับพูดจาเช่นนี้ขึ้นมากะทันหัน ไม่ให้นางได้มีโอกาสเตรียมตัวเลยแม้แต่น้อย
เพียงคิดถึงภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ ซ่งอวี้ก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า ความร้อนไม่อาจบรรเทาลงได้ง่ายๆ
"ซ่งอวี้ วันนี้ขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนหุบเขาหรือ? เอ๋? เหตุใดแก้มของเ้าจึงแดงเช่นนี้ หรือว่าจับไข้แล้วกระมัง?" ระหว่างทางลงจากหุบเขาซ่งอวี้พบเจอกับชาวบ้านในหมู่บ้าน เมื่ออีกฝ่ายเห็นซ่งอวี้ ก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อเดินเข้ามาใกล้ กลับอุทานด้วยความใ