“ข้าขอเตือนไว้นะ หากครั้งหน้าข้ายังเห็นเ้าพูดจาไร้มารยาทอีก ข้าจะเหยียบกระดูกเ้าให้หักเลยคอยดู!” หลี่อันหรานกลั้นหายใจ กลิ่นอายสังหารเย็นเยียบแผ่ออกมาขู่เหอชุนฮวา
ท่าทีชวนหวาดหวั่นเช่นนี้ไม่เหลือเค้าโครงของคุณหนูผู้บอบบางอีกต่อไป! นี่มันนางปีศาจกินคนชัดๆ !
กระทั่งเสิ่นอิ๋นหวนยังอดมองหลี่อันหรานอย่างเหม่อลอยไม่ได้ นางคิดไม่ถึงว่าลูกสาวตัวเองจะใช้กำลังรุนแรงเช่นนี้
หรือจะเพราะสมองกระทบกระเทือน? เสิ่นอิ๋นหวนได้แต่หาเหตุผลที่ยอมรับได้มาอธิบายพฤติกรรมที่ต่างจากก่อนหน้านี้ราวกับคนละคนของลูกสาวตัวเอง
ทว่าหลี่อันหลินกลับมีสีหน้าประทับใจ ดวงตาใสแจ๋วเปี่ยมด้วยความเลื่อมใสชื่นชม เขามองพี่สาวตัวเองที่แสนสง่าผ่าเผยสลับกับเหอชุนฮวา มือน้อยๆ ทั้งสองข้างกำแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว ท่าทีเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ส่วนหลี่อันอันไปหลบอยู่หลังพี่ชายที่เป็ผู้ใหญ่กว่าตัวเองมากโดยไม่พูดอะไรพร้อมกับชะโงกศีรษะออกมามองเหอชุนฮวา ดวงตาเมล็ดซิ่งคู่งามเต็มไปด้วยประกายพร่างพราย มุมปากที่เม้มมีรอยยิ้มบางๆ ถึงกระนั้น ก็ไม่กล้าแสดงออกมากเกินไปนัก
หลี่อันหรานกวาดสายตามองครอบครัวตัวเองทั้งสามคน นางลอบถอนหายใจในใจ ดูท่าว่าก่อนหน้านี้คนในครอบครัวคงถูกเหอชุนฮวาข่มเหงไว้ไม่น้อย
แม้จะบอกว่าก่อนหน้านี้เ้าของร่างเดิมไม่สนใจเื่ที่เสิ่นอิ๋นหวนถูกข่มเหง แต่ในเมื่อิญญาที่อยู่ในร่างนี้ไม่ใช่หลี่อันหรานคนเก่าแล้ว เช่นนั้นอย่าหวังเลยว่านางจะยอมให้ผู้ใดกดขี่ครอบครัวตัวเองอีกต่อไป!
เหอชุนฮวาดิ้นรนอยู่นานกว่าจะลุกจากพื้นได้ นางกัดฟันกรอด ตัวสั่นริก พร้อมถลึงตาใส่หลี่อันหราน น้ำคำเต็มไปด้วยความร้ายกาจ “พวกเ้ามันกาฝากกันทั้งครอบครัว! กินอาหารบ้านข้าแล้วยังกล้าตบตีข้าอีก! ไม่เคยเห็นผู้อื่นในสายตา!”
ไม่เห็นผู้อื่นในสายตา? หลี่อันหรานหัวเราะเยาะโดยไม่ยี่หระ
เหอชุนฮวายังคงด่าสาดเสียเทเสีย “นังแพศยา หรือว่าเ้าจะยังคิดว่าน้ำหน้าอย่างตัวเองจะได้เป็คนของจวนแม่ทัพอยู่อีก? เลิกฝันกลางวันได้แล้ว!” ในสมองนางคิดเพียงแต่ว่าหลี่อันหรานคงอยากไปจวนแม่ทัพ จะได้ยกระดับชีวิตตกอับของตัวเอง
คำพูดของอีกฝ่ายช่วยย้ำเตือนหลี่อันหราน นางจำได้เลือนรางว่าพ่อของเ้าของร่างเดิมเคยให้ลูกหมั้นหมายกับจวนแม่ทัพ ทว่าสรรพสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ฐานะครอบครัวนางตกต่ำมาถึงจุดนี้ เชื่อว่าการหมั้นหมายที่ก่อนหน้านี้เคยเหมาะสมราวกิ่งทองใบหยกคงเป็โมฆะแล้วเช่นกัน
หลี่อันหรานก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เหอชุนฮวาพลันหน้าเปลี่ยนสีและถอยหลังกรูดทันทีเพราะยังจำบทเรียนเมื่อครู่ได้ชัดเจน กระนั้น ฝีปากก็ยังคงร้ายกาจอยู่ “ดูใบหน้าเ้าตอนนี้สิ! อย่าว่าแต่จวนแม่ทัพเลย วันหน้าจะมีคนแต่งงานด้วยหรือไม่ก็ยังตอบยาก!” สิ้นเสียง เหอชุนฮวาก็หันหลังเดินจากไปทันทีโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง
สีหน้าของเสิ่นอิ๋นหวนเปลี่ยนไป นางพยายามปลอบประโลมบุตรสาวด้วยถ้อยคำที่นุ่มนวลที่สุด “อันหราน อย่าเก็บเอาคำพูดของป้าสะใภ้รองมาใส่ใจเลยนะ หากรอยแผลเป็บนใบหน้าเ้าหายดีก็ยังแต่งงานได้อยู่”
หลี่อันหลินกับหลี่อันอันพูดเสริมเช่นกัน “ใช่ๆ หากแผลเป็ของท่านพี่หายดีแล้ว ก็ยังคงเป็สตรีงามจนจันทร์ต้องหลบโฉมสุดาอยู่!”
หลี่อันหรานเผยยิ้มบางๆ แล้วกลอกตาอย่างครุ่นคิด นางเห็นแผลเป็บนหน้าตัวเองตอนที่ถอดผ้าพันแผลออก ถึงแม้แผลเป็จะดูน่าใ แต่การจะรักษาให้หายกลับไม่ใช่เื่ยากแต่อย่างใด
หลี่อันหรานเห็นเสิ่นอิ๋นหวนมีสีหน้าไม่สู้ดีนักจึงปลอบว่า “ท่านแม่ ไม่ต้องห่วงเ้าค่ะ หากเหอชุนฮวาจดจำบทเรียนก็น่าจะไม่มาหาเื่ครอบครัวของเราอีก”
เสิ่นอิ๋นหวนพยักหน้า นางมองลูกสาวที่ราวกับโตขึ้นภายในชั่วพริบตาหลังจากได้รับาเ็ ภายในใจเกิดความรู้สึกผสมปนเปกันและไม่รู้ควรพูดอย่างไร นางนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ลูกสาวของนางโตเป็ผู้ใหญ่ก็ดีแล้ว แต่การมีเื่กับคนอื่นทันทีที่ฟื้นไม่ใช่เื่น่ายินดีแต่อย่างใด
นับั้แ่ที่สามีของนางตายจากไปด้วยความตรอมใจ นางก็ถูกบังคับให้กลายเป็คนที่ต้องอดทนอดกลั้น สุดท้ายเสิ่นอิ๋นหวนจึงถอนหายใจออกมาด้วยความลังเลและเจือด้วยความหวั่นใจ “นับจากที่กลับมาอยู่บ้านเกิดก็ต้องพึ่งพาอาหารของบ้านป้าสะใภ้รอง เ้าถึงได้อยู่มาถึงทุกวันนี้ เ้าทำร้ายนางเช่นนี้ หากวันหน้าพวกนางไม่ให้เสบียงอาหารพวกเราจะทำเยี่ยงไร!”
เสิ่นอิ๋นหวนก้าวเท้าออกไปโดยไม่รอให้หลี่อันหรานตอบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปากบ่นเื่อะไรอยู่
หลี่อันหรานส่ายหน้ากับตัวเองหลังจากที่เสิ่นอิ๋นหวนจากไป นางพอจะเดาได้ว่าแม่ที่ได้มาด้วยความบังเอิญซึ่งมีนิสัยนุ่มนวลผู้นี้ไปทำอะไร คงไปขอโทษเหอชุนฮวาแน่นอน
หลี่อันหลินแอบดึงแขนเสื้อผ้ากระสอบที่ซักจนซีดของหลี่อันอันแล้วแนบหูคุยอะไรกันบางอย่าง จากนั้นบอกกล่าวกับหลี่อันหรานแล้ววิ่งออกไปโดยไม่หันกลับมา
หลี่อันหรานคิดว่าเด็กน้อยแปลกประหลาดสองคนนี้คงไปหาเสิ่นอิ๋นหวนจึงไม่ได้ห้าม เพราะหากมีเื่อะไร นางก็เชื่อว่าทั้งคู่จะกลับมาบอกนางได้ทันเวลา
หลี่อันหรานเงยหน้ามองดวงอาทิตย์เจิดจ้าบนท้องฟ้าพลางยกแขนขึ้นบังแสงที่แยงออกมา นางสูดอากาศที่ไม่รู้ว่าเป็ของยุคสมัยใดเข้าเต็มปอดแล้วพ่นออกมา ก่อนตัดสินใจเข้าห้องไปนำเครื่องนอนที่แฟบแห้งเพราะไม่เจอแสงแดดมากี่วันก็ไม่รู้ออกมาตาก
นางนั่งเหม่ออยู่ที่เชิงกำแพงหลังจากที่ยกม้านั่งไม้ออกมานั่ง นางต้องหาวิธีหาเงิน อุตส่าห์ได้ทะลุมิติมาทั้งที นางไม่อยากต้องอยู่อย่างอดทนอดกลั้น ไม่อยากอดมื้อกินมื้อ และยิ่งไม่อยากกลายเป็คนแรกที่อดตายหลังจากทะลุมิติ
หลี่อันหรานลุกขึ้นตบตามเนื้อตัวหลังจากนั่งผึ่งแดดจนกลิ่นอับหายจากร่าง นางครุ่นคิดอยู่นานแต่กลับคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น ไม่ต้องพูดถึงการคิดหาวิธีหาเงิน ตอนนี้ท้องนางหิวจนไส้กิ่ว คิดแต่อยากหาอะไรมากินรองท้องก่อน
ครั้นคิดได้ดังนั้น นางก็ผุดลุกขึ้นแล้วมองซ้ายมองขวา นางมองบ้านที่สามารถพูดได้ว่ายากจนข้นแค้นมากหลังนี้ รอบด้านเป็กำแพงโคลนที่สูงเกือบเท่าคน ประตูทำจากไม้ผุพังหลายชิ้น ให้ความรู้สึกว่าหากถูกลมพัดผ่านก็อาจหลุดออกได้ ด้านในมีห้องทั้งหมดสามห้อง ห้องที่ใหญ่ที่สุดคือห้องของนาง
หลี่อันหรานถอนหายใจอย่างทนอยู่เฉยไม่ได้ นางผลักประตูเข้าไปยังห้องที่เสิ่นอิ๋นหวนกับน้องๆ ทั้งสองอยู่ด้วยกันเบาๆ ประตูไม้เปิดออกดังเอี๊ยดอ๊าด นางเพิ่งค้นพบหลังจากเข้ามาว่าห้องนี้เล็กกว่าห้องที่นางเพิ่งฟื้นมาเมื่อครู่ครึ่งหนึ่ง บนเตียงมีผ้าห่มสองผืน บนพื้นเปียกชื้นมีเสื่อเย็นที่ทำจากฟางข้าวผืนหนึ่งปูอยู่ ผ้าห่มผืนหนึ่งถูกพับอย่างเรียบร้อยอยู่บนเสื่อเย็น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่นอนบนพื้นคือเสิ่นอิ๋นหวน
นางเปิดประตูไล่กลิ่นอับภายในห้อง พอออกมาแล้วเห็นว่ามีห้องเล็กๆ อีกหนึ่งห้องอยู่ทางมุมตะวันตกเฉียงใต้ ด้านนอกมีฟืนกองอยู่ ดูแล้วน่าจะเป็ห้องครัว ตอนนี้นางหิวจนตาลาย รีบก้าวเท้าไปยังห้องครัวที่ไม่มีแม้แต่ประตู หลังจากเข้ามาแล้วก็เปิดผ้าขาวที่คลุมอยู่บนกระทะออก โชคดีที่ในนั้นมีหมั่นโถวกากเหล้าอยู่หนึ่งลูก นางหยิบใส่ปากทันทีโดยไม่สนใจว่ามันจะถูกทิ้งไว้มากี่วัน
รสชาติไม่ได้ถึงกับกินไม่ได้แต่ก็ไม่ได้อร่อยเช่นกัน ทว่าตอนนี้มีให้กินแค่นี้ ถ้าไม่กินมีแต่จะทรมานเพราะความหิวโหย
หลี่อันหรานกินหมั่นโถวที่ปกติแล้วกินไม่ลงหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่คำ ขณะที่นางกำลังเช็ดปาก น้องๆ ทั้งสองก็วิ่งเข้ามาจากข้างนอกพอดี
หลี่อันหรานเลิกคิ้วถาม “พวกเ้ากลับมาได้อย่างไร? ท่านแม่ไม่ได้กลับมาด้วยหรือ?”
หลี่อันหลินส่ายหน้า “ข้ากับอันอันไม่ได้ไปหาท่านแม่”
“ถ้าเช่นนั้นพวกเ้าไปที่ใดมา?”
แต่หลี่อันหรานยังไม่ทันได้คิดอะไรมากก็มีเสียงหวีดแหลมดังมาจากข้างนอกเสียก่อน
“เ้าพวกเด็กเวรกล้าดีอย่างไรมาขโมยของ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้