หากฆ่าหนูทิ้งไปทันที ตี้หลิงเสวียนรู้สึกว่ามันน่าเบื่อเกินไป
อีกทั้งเขาเองก็ไม่อยากลงมือ เมื่อมีขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งและเอาชนะิเฉินเหยียนได้ เขาก็ยืนอยู่ในจุดสูงสุดที่มีอำนาจแล้ว!
ิอวี่ในสายตาของตี้หลิงเสวียนก็เป็แค่คนตัวเล็กๆ ิอวี่แทบไม่มีสิทธิจะลงมือกับเขาได้เลยด้วยซ้ำ หากเขาทำแบบนั้นก็เหมือนเป็การลดเกียรติและลบหลู่เกียรติของตัวเอง
กลับกัน ตี้หลิงเสวียนแค่พูดคำเดียวก็ทำให้ิอวี่ตายได้แล้ว มีแค่การทำแบบนี้เท่านั้นถึงจะแสดงให้เห็นว่าเขานั้นอยู่เหนือกว่าิอวี่!
อำนาจาาสูงสุดแบบนี้มีแค่ตี้หลิงเสวียนเท่านั้นที่คู่ควร!
เขาก้มลงมองิอวี่ แล้วรอให้อีกฝ่ายตอบด้วยความลังเลและลำบากใจ
แต่ิอวี่กลับไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว เขาเดินผ่านที่ราบมาประมาณสิบเมตรแล้วกำลังก้าวขึ้นบนบันไดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ตี้หลิงเสวียนยิ้ม การกระทำของิอวี่เท่ากับเป็การยอมรับคำท้าของเขาแล้ว
ถ้าอย่างนั้นก็มาเริ่มกันเลย!
“เซิ่นเจิ่นโหว เ้ารู้ใช่ไหมว่าควรทำอย่างไร” ตี้หลิงเสวียนมองไปที่เซิ่นเจิ่นโหวแล้วพูดอย่างเรียบเฉย
เซิ่นเจิ่นโหวก้มหน้าลง กำหมัดแน่นแล้วพูดว่า “กระหม่อมรับบัญชา”
แค่เห็นสายตา เซิ่นเจิ่นโหวก็รู้ว่าตี้หลิงเสวียนคิดอะไร ตี้หลิงเสวียน้าให้เขาไปขวางิอวี่ ทำให้ไม่มีโอกาสได้ขึ้นมา้าได้
เซิ่นเจิ่นโหวมีความมั่นใจมาก เขาไม่มีทางยอมให้ิอวี่เดินขึ้นมาถึงตำหนักิหุนได้แน่นอน เมื่อิอวี่พ่ายแพ้ คนอื่นก็ไม่มีทางได้ละเว้นโทษ ถึงเวลานั้นสายเืของตระกูลิทั้งหมดก็จะต้องหายไปจากโลกใบนี้!
นั่นก็หมายความว่า ราชวงศ์ต้าิทั้งหมดก็จะล่มสลายไปอย่างแท้จริง!
การสร้างผลงานใหญ่ขนาดนี้ เขาจะต้องได้รับรางวัลอย่างแน่นอน!
ในใจของเซิ่นเจิ่นโหวรู้สึกดีใจมาก เขายิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “นักรบเื จัดการ”
หลังสิ้นเสียงของเซิ่นเจิ่นโหว เงาดำจำนวนมากก็โผล่ออกมาจากบนหลังคาของตำหนักิหุนและพุ่งเข้าเล่นงานิอวี่ในทันที
พริบตาเดียว ด้านหน้าของิอวี่ก็ถูกขวาง
คนเหล่านี้มีด้วยกันสามสิบหกคน หน้าตาของพวกเขาล้วนแต่แปลกประหลาด แต่ในสายตากลับมีจิตสังหารที่น่ากลัวอย่างมากพวยพุ่งออกมา พวกเขาสวมชุดสีดำ มีคำว่า “ภักดี” อยู่ตรงชุดของพวกเขาทุกคนด้วย!
ในราชวงศ์ต้าิ คนที่สวมชุดดำเหมือนกันและมีลักษณะของนักฆ่าแบบนี้ มีแค่นักรบเืของหอว่านจงเท่านั้น!
หอว่านจงมีนักรบเืหนึ่งร้อยแปดคน สามสิบหกคนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นักรบเืที่แข็งแกร่งที่สุด ิญญาและร่างกายของพวกเขาหลอมรวมเป็หนึ่งแล้ว แต่ละคนมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปด พลังของพวกเขาเทียบเท่าราชสีห์เจ็ดพันตัว!
ถึงแม้นักรบเืสามสิบหกคนนี้จะมีความสามารถในการต่อสู้เทียบกับฟางเซียก่อนหน้านี้ไม่ได้ แต่ว่าพวกเขาทั้งสามสิบหกคนก็สามารถเข้าขาได้เป็อย่างดี
หากต้องต่อสู้ขึ้นมาจริงๆ นักรบเืทั้งสามสิบหกคนนี้ก็มีกำลังในการต่อสู้แข็งแกร่งหลายเท่าตัวมาก
บนตำหนักิหุน เซิ่นเจิ่นโหวยิ้มแสยะ นักรบเืสามสิบหกคนรับคำสั่งจากเสนาบดีทั้งหกกรม แต่ในความเป็จริงแล้วเซิ่นเจิ่นโหวซื้อตัวพวกเขามาั้แ่เมื่อสามปีที่แล้ว ทั้งหมดทำงานให้กับเซิ่นเจิ่นโหว!
เซิ่นเจิ่นโหวใช้เงินในการบ่มเพาะนักรบเืจำนวนมหาศาล ทำให้พวกเขามีกำลังในการต่อสู้เหนือกว่าปกติ และตลอดระยะเวลาสามปีนักรบเืทั้งสามสิบหกคนก็เข้าขารู้ใจกันเป็อย่างดี เมื่อตั้งค่ายกลขึ้นมาก็จะมีอานุภาพในการปล่อยพลังเพิ่มขึ้นหลายเท่า เพื่อโจมตีใส่ศัตรูแบบไม่ทันตั้งตัว!
ด้านล่างของตำหนักิหุน พวกิเฉินเหยียนััถึงลมปราณของนักรบเืทั้งสามสิบหกคน ในใจก็เริ่มเกิดการปั่นป่วน
หลายปีที่ผ่านมาเขาหมกหมุ่นกับการฝึกวิชาเพื่อสร้างความสงบสุขให้กับราชวงศ์ต้าิ แต่ใครจะคิดว่าเซิ่นเจิ่นโหวจะแอบสั่งสมกำลังพลของตัวเอง ตอนนี้เขาถึงได้รู้ว่าราชวงศ์ต้าิที่จริงมันเหลือแค่ชื่อมานานมากแล้ว!
ลมปราณของนักรบเืทั้งสามสิบหกคนพุ่งเป้าไปยังิอวี่คนเดียว ้าดับทำลายกำลังรบสุดท้ายของราชวงศ์ต้าินี้ให้สิ้นซากไป!
ิเฉินเหยียนรู้ดีว่านักรบเืมีฝีมือเช่นไร พวกเขาโเี้ ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา ิญญาที่ตายด้วยมือของพวกเขามีไม่รู้เท่าไร พวกเขาผ่านการฝึกฝนเฉพาะทางมา มีความเข้าขากันมาก เวลาต่อสู้แทบจะไม่มีช่องโหว่อะไรเลย
อีกทั้งเมื่ออยู่ภายใต้การบ่มเพาะของเซิ่นเจิ่นโหว พวกเขาแต่ละคนมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่งระดับสูงสุด หลังจากที่ร่วมมือกันแล้วกำลังรบของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นหลายเท่า ิอวี่ต่อสู้กับพวกเขาคงต้องตายอย่างแน่นอน!
ด้านล่างบันไดหยกขาว ทุกคนมีสีหน้าที่สิ้นหวังอย่างมาก นอกจากิเฉินเหยียนแล้ว เหล่าสนมที่จิตอ่อนและองค์ชายองค์หญิงก็แอบร้องไห้ด้วยความเสียใจแล้ว
ตอนที่พวกเขาเห็นิอวี่สังหารฟางเซีย ในใจก็รู้สึกว่าิอวี่น่าจะมีพลังที่ไม่ธรรมดา เมื่อเห็นิอวี่หนักแน่นยืนหยัดจะเดินขึ้นบันไดไป เลือกที่ใช้ชีวิตตัวเองเพื่อแลกกับชีวิตของพวกเขาก็รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก มีความหวังว่าิอวี่อาจจะทำสำเร็จก็ได้
แต่เมื่อนักรบเืสามสิบหกคนปรากฏตัวออกมา มันทำให้ “ความหวัง” ในใจของพวกเขานั้นสลายหายไปในพริบตา!
ในเวลานี้บนลานหยกขาว้า นักรบเืทั้งสามสิบหกคนปล่อยจิตสังหารใส่ิอวี่ ความน่ากลัวและพลังกดดันสติของพวกเขานั้น้ากดจิตของิอวี่ให้แตกสลาย
ในบรรดานักรบเืเหล่านี้ มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งหน้าตาซีดเซียวที่เป็ผู้นำกลุ่ม เขามีผมสีดำยาว ผมหน้าม้าปัดไปทางขวา ตาข้างซ้ายของเขาเป็สีม่วง
นักรบเืคนนี้มีชื่อว่าซาง มีพลังเทียบเท่าราชสีห์เจ็ดพันห้าร้อยตัว ถือเป็นักรบเืที่มีพลังแข็งแกร่งมากที่สุดคนหนึ่ง ในเวลานี้เขาชักกระบี่สีดำอมม่วงออกมาและยกกระบี่ชี้ไปที่บริเวณหัวใจของิอวี่ ดวงตาสีม่วงด้านซ้ายมันเต็มไปด้วยความดูถูก
“เ้าถือกระบี่ ชี้มาที่ข้าอย่างนั้นหรือ?” ิอวี่มองไปที่ซางและพูดออกมา
“เ้าคิดว่าพลังฝีมือของข้าสู้เ้าไม่ได้ ไม่มีความสามารถมากพอจะฆ่าเ้าอย่างนั้นใช่ไหม?”
ซางมองไปที่ิอวี่ด้วยสายตาที่ดูถูก “เ้าคิดว่าเ้าแข็งแกร่งมากใช่ไหม แต่ในความเป็จริงเ้าไม่เข้าใจอะไรเลย เ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะฆ่าคนได้อย่างไร”
ถึงแม้ซางจะมีพลังแข็งแกร่งไม่เท่าิอวี่ แต่กระบวนท่าที่เขาใช้กลับเป็กระบวนท่าที่เน้นให้ถึงตาย ไม่รู้ว่ามีคนที่มีฝีมือสูงกว่าเขากี่คนที่ต้องตายด้วยกระบี่ของเขา อีกทั้งยังมีนักรบเืจำนวนมากที่เข้าขากัน ิอวี่แทบจะไม่มีโอกาสรอด
“ซาง ไม่ต้องไปเสียเวลาพูดกับเขา ลงมือจัดการเ้าคนไม่เอาไหนคนนี้เลยดีกว่า”
ด้านหลังของซางมีหญิงไว้ผมสั้นรูปร่างสมส่วนคนหนึ่ง นางมีชื่อว่าชี่ มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับสูงสุดเหมือนกัน มีพลังเทียบเท่าราชสีห์เจ็ดพันสามร้อยตัว นางแข็งแกร่งที่สุดรองมาจากซาง
ดวงตาของชี่จ้องมายังิอวี่จากนั้นก็แลบลิ้นเลียริมฝีปาก มันเหมือนเป็การบอกใบ้ว่ามีแค่เฉพาะเวลาที่นางรู้สึกกระหายเืเท่านั้น ถึงจะมีลักษณะท่าทางแบบนี้!
อย่าเห็นว่านางเป็เพียงผู้หญิง ในความเป็จริงนางโหดกว่าผู้ชายหลายเท่า นางก็เหมือนกับดอกมั่นถัวหลัวที่เบ่งบาน ถึงแม้จะดูสวยงดงามแต่ก็มีพิษร้ายแรงถึงแก่ชีวิตและเต็มไปด้วยอันตราย!
“ถ้าอย่างนั้นก็ตายซะเถอะ”
ซางในฐานะที่เป็ผู้นำเดินลมปราณให้รายล้อมอยู่บนตัวของกระบี่ ขณะที่พูดคำว่าตาย เขาก็พุ่งแทงกระบี่ไปทางหน้าอกของิอวี่อย่างรวดเร็ว!
ในฐานะนักฆ่า ซางลงมืออย่างเด็ดขาดโดยแทบไม่ให้ิอวี่ได้มีเวลาพักหายใจเลย
ด้านล่างลานหยกสีขาว พวกของิเฉินเหยียนตะลึงมาก กระบี่ของซางนั้นรวดเร็วมาก พวกเขาเห็นแค่เงาแสงสีดำกระบี่ก็พุ่งมาใกล้หน้าอกของิอวี่แล้ว
ขณะที่พวกิอวี่กำลังคาดเดาว่าิอวี่จะหลบกระบี่นี้อย่างไร พวกเขาก็ตะลึงหนักกว่าเดิมเพราะิอวี่ไม่ได้คิดจะหลบเลย เขายืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับไปไหนเพื่อรอกระบี่พุ่งแทงเข้าหา
หลังจากนั้น ซางก็ดันกระบี่ให้พุ่งเข้าที่หน้าอกของิอวี่และกระบี่ก็กำลังจะจะกรีดเนื้อของเขาออก!
แต่ทันใดนั้นเอง กระบี่ในมือของซางก็หยุดลง ...
ไม่รู้ว่าิอวี่ยื่นมือขวาออกมาจับกระบี่ไว้ในมือั้แ่เมื่อไหร่!
“เ้าโง่”
ซางยิ้มด้วยความดูถูก วิธีการที่ิอวี่ใช้ในการรับมือมันไร้เดียงสามาก ต่อให้เขาจะมีพลังมากแค่ไหนก็ตาม แต่เนื้อหนังก็ไม่อาจต้านทานเหล็กได้ กระบี่ของเขาเป็ศาสตราวุธระดับแปดที่มีความแหลมคมอย่างมาก ขนาดตัดดินโคลนยังขาดได้เลย ยิ่งเขาใช้แรงเท่าไรคมดาบก็จะยิ่งกรีดเข้าเนื้อมากขึ้น หรืออาจจะตัดหัวจนขาดเลยก็ได้
ซางไม่ได้มีความลังเลใจใดๆ เลย เขายกแขนขวาขึ้นมาอีกครั้งและปล่อยพลังเทียบเท่าราชสีห์เจ็ดพันแปดร้อยตัวไปที่กระบี่
ซางเห็นภาพที่กระบี่ของเขานั้นแทงทะลุหัวใจจนิอวี่ตะลึงไว้แล้ว!
แต่ว่าเขาคิดผิด
เพราะิอวี่ใช้มือขวาจับปลายกระบี่เอาไว้ พลังมหาศาลพุ่งมาที่มือขวาของเขา มันเหมือนวัวที่จมโคลนตม ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ไม่ว่าซางจะใช้กำลังดันกระบี่มากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำให้กระบี่ขยับเข้าใกล้หัวใจของิอวี่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว!
เป็ไปได้อย่างไร!
ซางตกตะลึงอย่างมาก ต่อให้ิอวี่มีพลังเทียบเท่าราชสีห์แปดพันตัวก็ไม่มีทางจับกระบี่ที่แหลมคมได้ง่ายดายและต้านพลังทั้งหมดเอาไว้แบบนี้
นั่นก็หมายความว่า พลังของิอวี่มากกว่าพลังเทียบเท่าราชสีห์แปดพันตัว มันเหนือความคาดหมายของเขามากแล้ว!
ทำให้สายตาที่ซางมองิอวี่นั้นเปลี่ยนไป เขารู้สึกว่าิอวี่เหมือนหลุมที่ไม่มีก้นบ่อ มันเต็มไปด้วยสิ่งที่เขาไม่อาจรู้เยอะแยะมากมาย
“ไปตายเถอะ!”
ซางพลิกแพลงพลังที่มือแล้วหมุนกระบี่กลับ เขา้าใช้ช่องการพลิกแพลงของพลังสลัดมือขวาของิอวี่ให้หลุด แต่กลับพบว่าไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตามมันก็เหมือนไม่เป็ผลเลย
“เป็ถึงนักรบเืของหอว่านจง แต่เ้ากลับกล้าใช้กระบี่ชี้มาที่ข้า”
ท่าทางของิอวี่นิ่งขรึมมาก เพราะความโกรธทำให้แรงกำลังที่เขาจับกระบี่มันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนตัวกระบี่นั้นสั่นไม่หยุด “หอว่านจงตั้งขึ้นเพื่อรับใช้ราชวงศ์ต้าิ ั้แ่วินาทีที่เ้าชี้กระบี่มาที่ข้าข้าก็เข้าใจแล้ว ความภักดีของเ้ามันไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว”
“หุบปากนะ!”
สีหน้าของซางย่ำแย่มาก เขาพยายามปล่อยพลังเพื่อพุ่งกระบี่แทงไปที่หัวใจของิอวี่ เพราะเขาไม่อยากฟังิอวี่พูดต่อไปอีกแล้ว!
แต่ว่าต่อให้เขาพยายามใช้กำลังทั้งหมดที่เขามี ออกแรงจนเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากจำนวนมาก กระบี่ของเขาก็ไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว!
“หอว่านจง้าคนที่จงรักภักดีต่อต้าิ ไม่ใช่ฏที่พร้อมจะหักหลังทำงานแทนคนอื่นแบบนี้! เ้าผิดต่อหอว่านจง”
ิอวี่กวาดสายตาไปที่นักรบเืที่อยู่ด้านหลังของซาง น้ำเสียงของเขาเ็าอย่างมาก “นักรบเืของหอว่านจง ... สาบานแม้ตายก็จะขอติดตาม ... น่าขำสิ้นดี พวกเ้าผิดต่อคำว่า ‘ภักดี’ ที่อยู่บนเสื้อของพวกเ้า! และผิดต่อศรัทธาในใจที่พวกเ้าเลือกที่จะเข้าหอว่านจง!”
คำพูดของิอวี่เหมือนะเิลูกใหญ่ที่ะเืไปในใจของซางและนักรบเืที่อยู่ด้านหลังเขาทุกคน!
ตอนที่พวกเขาให้คำสัตย์สาบานต่อหน้าป้ายบรรพบุรุษต้าิในหอว่านจงว่าจะจงรักภักดีต่อต้าิตลอดไป จะตายเพื่อต้าิ พวกเขารู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากในเวลานั้น แต่ในเวลานี้เพื่อกำลังความสามารถ พวกเขากลับเลือกที่จะทรยศหักหลัง
ณ เวลานี้ ในใจของซางนั้นทรมานมาก คำพูดของิอวี่ทำให้เขาเริ่มสงสัยในคุณค่าของชีวิต แต่สุดท้ายแล้วในสายตาของเขากลับมีความคลั่งปรากฏขึ้นมา!
... ใช่ ต่อให้ทรยศแล้วอย่างไร ข้าสามารถอยู่มาได้ถึงตอนนี้ นี่คือทุกอย่าง!
ซางทำลายแก้วใบสุดท้ายในใจของเขาแล้วตะคอกใส่ิอวี่ว่า “เราภักดีต่อราชวงศ์ตี้หลิง ท่านตี้หลิงคือคนที่เรามอบความศรัทธาให้!”
“หมดทางเยียวยา”
ท่าทางของิอวี่จริงจังมาก น้ำเสียงของเขาดูเคร่งขรึม “ข้า องค์ชายสิบเจ็ดแห่งราชวงศ์ต้าิขอตัดสินโทษฐานฏต่อนักรบเือย่างพวกเ้า ให้รับโทษปะาตรงนี้!”
ความดื้อรั้นไร้เหตุผลพลุ่งพล่านขึ้นมาในใจของิอวี่ เขาออกแรงที่มือขวา จากนั้นกระบี่ในมือก็สั่นไม่หยุดและหักจนเป็เศษเหล็กคามือ!
“นี่มันอะไรกัน!”
ซางตะลึง นี่เป็ศาสตรวุธระดับแปดเชียวนะ มันมีความคมกริบอย่างมาก ตัดทุกอย่างขาดได้แม้แต่ดินโคลน แต่ิอวี่กลับใช้มือเปล่าในการหักกระบี่จนกลายเป็เศษเหล็ก จะต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งแค่ไหนกันเชียวถึงทำแบบนี้ได้?
ไม่ใช่แค่ซางคนเดียวเท่านั้น นักรบเืที่อยู่ด้านหลังของเขาทุกคนก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้สายตาของพวกเขาที่มองิอวี่เต็มไปด้วยความจริงจัง
“ตั้ง ... ตั้งค่ายกล!”
สีหน้าของซางดูซีดเซียว เขารีบลุกขึ้นมาจากพื้นแบบทุลักทุเลจากนั้นก็ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงชี่และนักรบเืคนอื่นก็รีบตั้งค่ายกลสามเหลี่ยมขึ้นเป็ปราการ
ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็ซางหรือว่าชี่ล้วนแต่ตั้งสติอย่างสูงที่สุดเท่าที่เคยทำ หากิอวี่ทำการโจมตีเข้ามาพวกเขาจะต้องโต้กลับอย่างรุนแรง เพื่อให้ิอวี่รู้ว่าพวกเขานั้นมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน!
แต่ในเวลานี้เอง สายตาของิอวี่กลับดุดัน ดวงตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็สีเขียวอ่อน เขาเปิดดวงตามรณะขึ้นมาอีกครั้ง!
พลังอานุภาพที่หนาแน่นบีบเข้าใกล้ นักรบเืทุกคนรวมถึงซางรู้สึกว่าในหัวของพวกเขาเหมือนถูกอะไรกระชาก ทำให้ต้องนำจิตและสมาธิมาใช้เพื่อรับมือพลังแห่งความตายจากสายตาของิอวี่!
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้เห็นิอวี่ใช้สายตาสังหารเหล่าทหารวังห้าถึงหกคนมาก่อน เลยคิดว่าชายหนุ่มไม่น่าจะแข็งแกร่งอะไรขนาดนั้น แต่เมื่อิอวี่เปิดดวงตามรณะขึ้นมาแล้ว พวกเขาก็ััได้ว่าิญญาของตัวเองกำลังสั่นสะท้าน
ที่ผ่านมามีแต่พวกเขาที่ทำให้คนอื่นนั้นหวาดกลัว แต่สายตาของิอวี่กลับทำให้พวกเขาแทบจะสติแตก
คนที่ตะลึงมากที่สุดคือซาง เขาคิดว่าตนเองมีประสบการณ์ในการฆ่าคนมากมาย แต่พอเห็นดวงตาสีเขียวอ่อนของิอวี่แล้วเขาถึงเข้าใจจริงๆ ว่าลมปราณสังหารที่แท้จริงนั้นเป็อย่างไร!
การโอ้อวดตัวเองของเขาต่อหน้าิอวี่ก่อนหน้านี้ มันเลยกลายเป็แค่อวดเก่งในเื่ที่คนอื่นเชี่ยวชาญกว่าเท่านั้น
ทันใดนั้นเอง ิอวี่ก็เรียกมีดบินปี้ลั่วออกมาจากเกราะแขนสีดำของเขาอีกครั้ง หลังจากเปิดดวงตามรณะแล้ว มีดบินแต่ละเล่มก็เปื้อนไปด้วยลมปราณแห่งความตายแล้วลอยขึ้นล้อมรอบตัวเขา
“ระบำแห่งความตาย”
มีดบินปี้ลั่วของิอวี่หมุนอย่างต่อเนื่อง เขาพุ่งตัวราวกับลูกะุไปอยู่กลางวงนักรบเื เป็ดั่งเครื่องมือสังหารขนาดใหญ่ที่ไม่ว่าจะผ่านไปที่จุดไหนก็ไม่เหลือแม้แต่ต้นหญ้ามีชีวิตสักต้น!
ระบำแห่งความตายก็เป็วิชามีดบินวิชาหนึ่ง เป็ทักษะหลิงระดับสูง แต่ที่แตกต่างกับ์เรืองรองก็คือ ์เรืองรองนั้นเป็ทักษะการสังหารเดี่ยว แต่ระบำแห่งความตายเป็ทักษะการสังหารแบบสร้างขอบเขต
หลังจากมีพลังเทียบเท่าราชสีห์สองหมื่นตัวแล้ว ิอวี่ก็ไม่ได้มีแค่พลังเท่านั้นที่แข็งแกร่งขึ้น ระหว่างที่สังหาริญญาอสูรแบบต่อเนื่องเมื่อสามเดือนก่อน มันยังทำให้จิตสำนึกของเขาทรหดอย่างมากเพราะน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ของเขาเข้มข้นขึ้น เมื่อพลังจิตของเขามีความแข็งแกร่ง การควบคุมมีดบินปี้ลั่วก็มีทั้งความรวดเร็วและความบ้าคลั่ง
และเมื่อิอวี่ปล่อยอานุภาพแรงกดดันแห่งความตายออกมาทั่วทั้งตัว นักรบเืก็รู้สึกว่าิอวี่ก็เป็ดั่งเทพมรณะ มีดบินปี้ลั่วก็ราวกับดาบของเทพมรณะที่กำลังเอาชีวิตของพวกเขาอยู่!
ต่อให้นักรบเืจะปล่อยกระบวนท่าออกมารับมือแต่ก็ยังถูกมีดบินปี้ลั่วเล่นงานอยู่ดี แต่ละคนร้องเสียงหลงออกมาอย่างโหยหวน ร่างกายะเิและตายลงในทันที!
แม้แต่ซางเองก็ไม่รอด เอวของเขาและหน้าอกล้วนแต่มีแผลขนาดใหญ่ ความเ็ปทำให้เขาต้องกัดฟัน!
ในนาทีนี้ซางถึงได้เข้าใจว่าที่แท้ในท้ายที่สุดเขาก็กลายเป็คนทรยศแบบที่ตัวเขาเกลียดที่สุด ตอนนี้เขากำลังถูกิอวี่ลงโทษ การตายแบบนี้มันก็สมควรแล้ว!
“อ๊าก!”
สิ้นเสียงสุดท้ายที่เปล่งออกมา ร่างกายของซางก็ถูกมีดบินปี้ลั่วเล่นงานจนร่างแหลกละเอียด ลมปราณชีวิตหายวับไปในทันที
ดวงตาของิอวี่เป็สีแดงเื มีดบินปี้ลั่วยังคงลอยอยู่รอบตัวเขา นักรบเืที่เขาสังหารมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงผู้หญิงคนสุดท้าย
นางก็คือชี่
ตอนนี้ชี่เืท่วมตัว ร่างกายมีาแจำนวนมาก นางเห็นิอวี่ค่อยๆ เดินเข้ามา เมื่อัักับสายตาที่มีอานุภาพสังหารชี่ก็คุกเข่าลงทันทีตามสัญชาตญาณ
“องค์ชายสิบเจ็ด ปล่อยข้าไปเถอะ ... ข้าสำนึกผิดแล้ว! ต่อไปข้าจะภักดีกับหอว่านจง จะไม่ทำผิดร้ายแรงแบบนี้อีก!”
ปีศาจสาวที่ฆ่าคนแบบไม่กะพริบตา ตอนนี้กลับละทิ้งศักดิ์ศรีราวกับขอทาน อ้อนวอนร้องขอโอกาสมีชีวิตอีกครั้ง
ท่าทางของิอวี่เ็ามาก เขาพูดว่า “หอว่านจงของราชวงศ์ไม่มีวันให้อภัยคนทรยศเด็ดขาด”
เมื่อพูดจบิอวี่ก็ใช้พลังจิตบังคับมีดบินปี้ลั่วให้พุ่งทะลุหว่างคิ้วของชี่ จบชีวิตของนางลงท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงและรู้สึกผิด!
ในเวลานี้ ด้านล่างของตำหนักิหุนมีศพเกลื่อนพื้นไปหมด เืนองเต็มขั้นบันไดหยกขาว ชายหนุ่มคนหนึ่งเงยหน้าขึ้น สายตามองตรงไปด้านหน้า และก้าวเท้าขึ้นไป้าทีละก้าว
