ปกติแล้ว ผู้กล้าที่มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกระดับกระชากิญญา ไม่ว่าจะเป็การมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส และการัั จะมีปฏิกิริยาที่ไวมาก รวมถึงมีการตอบสนองที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
แล้วผู้แข็งแกร่งระดับกระชากิญญาก็สามารถรวบรวมสมาธิไปที่จุดเซินถิง ประสาทััทั้งห้าและพลังการตอบสนองจะเพิ่มขึ้นเป็สิบเท่า!
และเมื่อไปถึงขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกระดับหลอมความเป็เทพเมื่อไหร่ มันจะไม่ใช่แค่พลังในร่างกายที่เพิ่มขึ้น แต่สมาธิก็จะไปถึงระดับขั้นใหม่ สามารถรวบรวมสมาธิทั้งหมดไปที่ดวงตา และปล่อยพลัง “ะเืสยบ” สร้างแรงกดดันที่ไร้รูปลักษณ์ให้กับคนอื่น
เพราะพลังจิตของผู้แข็งแกร่งในระดับหลอมความเป็เทพ พลังดวงตาหยั่งรู้เองจึงยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ประสาทััทั้งห้าและพลังการตอบสนองจะเพิ่มขึ้นเป็ยี่สิบเท่า!
“มีคนต่อสู้กันอยู่สิบแปดคน”
สายตาของลู่หยวนคงกวาดมองไปที่ลานต่อสู้อย่างรวดเร็ว แล้วพูดอย่างเด็ดขาดว่า “ดูจากพละกำลังแล้ว คิดว่ามีผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่ห้าสิบสามคน ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกสี่คน และมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดหนึ่งคน เหมือนเขาจะได้รับาเ็ด้วย!”
มิน่า ทำไมถึงได้สู้กันถึงหนึ่งก้านธูป ที่แท้หลิงป้าประมุขพรรคเืพยัคฆ์ที่มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดได้รับาเ็ เหลือแค่คนของพรรคเืพยัคฆ์ที่มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกสองคนคอยยื้อเอาไว้ แต่ก็เหมือนจะไม่ไหวแล้ว
ทุกคนคิดกันแบบนี้
ิอวี่มองไปที่ลานต่อสู้ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขากลับมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น เขากำลังคิดว่าจะเอ่ยปากหารือกับลู่หยวนคง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าลู่หยวนคงกลับเป็คนเอ่ยขึ้นมาก่อน
“พวกเ้าสามคนตามข้าลอบเข้าไปนะ หยวนจิ้ง เ้ารับผิดชอบความปลอดภัยของประสกน้อยสองคนนะ ห้ามให้มีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
“ขอรับ! ศิษย์พี่ใหญ่!”
อีกสามคนที่เหลือรีบรับคำ มีแค่หลวงจีนที่ชื่อซูหยวนจิ้งเท่านั้นที่ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจ
ทำไมสามคนนั้นถึงได้ออกไปลับฝีมือ แต่เรากลับต้องมาเฝ้าคนไม่เอาไหนสองคนนี้ด้วย?
ข้าไม่ดีที่ตรงไหน? ศิษย์พี่ใหญ่ถึงดูถูกข้าแบบนี้?
ซูหยวนจิ้งกัดฟันแน่น หน้าสั่น ถึงแม้ปากเขาจะไม่พูด แต่ในใจของเขากลับรู้สึกอึดอัดอย่างมาก
“หยวนจิ้ง เข้าใจไหม” เห็นซูหยวนจิ้งไม่ตอบ ลู่หยวนคงก็ถามขึ้นอีกครั้ง ในฐานะศิษย์พี่ใหญ่เขามีบารมีมากกับทุกคน
“อือ” ซูหยวนจิ้งเองก็ไม่หันไปมองลู่หยวนคงเลย เขาก้มหน้ารับคำแล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเลย
“ดีล่ะ เราลงมือกันเลย”
พอพูดจบลู่หยวนคงก็ไม่รอช้า พาหลวงจีนยุทธ์ไปทางลานต่อสู้ เขาสะบัดมือราวกับสะบัดพัด กระบองอูเที่ยขนาดสองเมตร น้ำหนักกว่าพันกรัมก็ปรากฏขึ้นมาในมือของเขา แล้วเขาก็พุ่งเข้าไปในวงล้อมการต่อสู้นั้น
หลวงจีนอีกสามคนที่เหลือก็ถือกระบองอูเที่ยเหมือนกัน แต่น้ำหนักกระบองแค่ห้าร้อยกรัมเท่านั้น พวกเขาโบกตวัดกระบองแล้วพุ่งเข้าไปยังวงล้อมการต่อสู้เช่นกัน
พวกของลู่หยวนคงเป็หลวงจีนที่มาจากวัดเหลียนอวิน พวกเขาเชี่ยวชาญในการใช้กระบอง อาวุธของพวกเขาล้วนแต่เป็กระบองอูเที่ย เพียงแต่แยกตามพลังความสามารถที่แตกต่าง วัสดุที่ใช้และน้ำหนักก็จะไม่เหมือนกัน
“ข้ารู้สึกว่าเื่นี้มันไม่น่าจะดูง่ายขนาดนั้น บุกไปตอนนี้มันจะดีจริงหรือ?” ิอวี่บ่นพึมพำ
“หุบปาก”
ซูหยวนจิ้งที่เดิมก็โมโหอยู่แล้ว พอได้ยินิอวี่พูดแบบนี้ก็ยิ่งโกรธหนักเข้าไปใหญ่ “ศิษย์พี่ใหญ่แข็งแกร่งแค่ไหน เ้ารู้หรือ? นั่งดูเฉยๆ ไปเลย”
หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไริอวี่อีก หันกลับไปดูพวกลู่หยวนคงต่อ
ณ ลานต่อสู้ ด้านล่างยอดเขาหิมะ
ลู่หยวนคงร่ายกระบองอูเที่ยด้วยมือเปล่า ร่างกายของเขาก็เหมือนรถม้าศึกที่มีะเิ กวาดขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่ห้าที่ขวางทางออกไปจนหมด เป้าหมายของเขาคือชายวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะสีแดงที่อยู่ตรงกลางเท่านั้น หลิงป้า!
“เหอะๆ มาได้จังหวะพอดีเลย”
สายตาของหลิงป้านั้นหรี่จนเล็กเหมือนเข็ม เขาเปิดดวงตาหยั่งรู้ออก การเคลื่อนไหวของลู่หยวนคงที่จริงมันเป็ไปตามที่เขาคาดเดาอยู่แล้ว หัวไหล่ขวาของเขานั้นมีเือาบเต็มไปหมด แต่เขาก็ยังยืดอกตรงอยู่แล้วเดินมาหาลู่หยวนคง
ลู่หยวนคงไม่ได้มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย เขารวบรวมสมาธิและพลังจิตไปยังจุดเซินถิง ประสาทััทั้งห้าและพลังการตอบสนองที่เพิ่มขึ้นเป็ยี่สิบเท่าถูกปล่อยออกมา!
หลังจากนั้น จิตสมาธิของเขาก็ตรงไปที่ดวงตาอีกครั้ง สายตาของเขาหรี่เล็กลงเท่าเข็ม พลังอำนาจที่หนาแน่นก็แผ่พุ่งออกไป ะเืสยบ ถูกปล่อยออกมา!
หลิงป้าเองก็ปล่อยพลังอำนาจในแบบเดียวกันออกมา แล้วจ้องไปที่ดวงตาที่แหลมคมนั่น จิตสมาธิของทั้งสองคนปะทะกัน จากนั้นก็เกิดเสียงะเิดังขึ้น
ผู้แข็งแกร่งระดับหลอมความเป็เทพสู้กัน มันช่างน่ากลัวจริงๆ !
“หมัดพยัคฆ์คำราม!”
หลิงป้ากำหมัดที่สวมถุงมือเหล็กสีแดงเืทั้งสองข้างแน่น จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ลู่หยวนคงราวกับเสือร้ายที่กำลังพุ่งลงจากูเา แล้วซัดหมัดขวาออกไปอย่างรวดเร็ว! ลู่หยวนคงเองก็ไม่ได้แสดงความอ่อนแอ เขาใช้กระบองฟาดลงไปบนหัว!
“ตู้ม!”
เมื่อได้ยินเสียงะเิ คลื่นพลังที่รุนแรงก็ะเืหิมะที่เกาะอยู่รอบๆ ไม่เหลือซาก ลู่หยวนคงถูกพลังที่หนาแน่นซัดจนกระเด็นออกมาจากวงล้อม เขาตีลังกาอยู่กลางอากาศรอบหนึ่ง ถึงลงมายืนที่พื้นได้ เืลมภายในร่างกายของเขาวิ่งพล่าน
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ...” หลิงป้าหัวเราะร่าขึ้นมา
“เ้า ...” ลู่หยวนคงขมวดคิ้วแล้วมองไปที่หัวไหล่ข้างขวาของหลิงป้า มันมีรอยเปื้อนเือยู่จริงแต่กลับไม่มีเืไหลออกมา เมื่อมองดูดีๆ แล้วก็พบว่ามันไม่ใช่เืของหลิงป้า แต่เป็เืที่สาดไปโดน!
หรือก็หมายความว่า ที่จริงแล้วหลิงป้าไม่ได้รับาเ็
อีกทั้งหมัดพยัคฆ์คำรามก็เป็ทักษะการต่อสู้หลิงระดับกลางที่แข็งแกร่งมาก หลิงป้าฝึกมันจนชำนาญมากแล้วเมื่อเทียบกับวิชาหลิงระดับสูง ลู่หยวนคงถึงได้ถูกซัดจนล่าถอยภายในหนึ่งกระบวนท่าเท่านั้น
ลู่หยวนคงปักกระบองอูเที่ยไว้ที่พื้น แล้วตะคอกออกไปอย่างมั่นใจว่า “หลิงป้า เ้าคิดว่าจะเอาชนะข้าได้อย่างนั้นหรือ?”
สายตาของหลิงป้าเหมือนกำลังหัวเราะ เขาพูดว่า “เ้าหัวโล้น ของจริงมันหลังจากนี้ต่างหากล่ะ!”
พูดจบ ก็เห็นว่าใต้หิมะที่ห่างออกไปสิบเมตรนั้นแยกตัวออก มีเงาคนหลายร่างโผล่ขึ้นมา มันคือผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่ห้าและหกกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
พวกเขาสวมชุดสีแดงเื คือผู้กล้าของพรรคเืพยัคฆ์ คิดไม่ถึงเลยว่าหลิงป้าจะไม่ใช่คนบุ่มบ่าม ที่จริงเขาสั่งให้คนซ่อนตัวเอาไว้แล้ว
พวกเขาอาศัยแรงปรารถนาที่คิดจะแย่งชิงหัวหยวนจือสร้างแผนลวงขึ้นมา จากนั้นก็อยู่เป็กระต่ายเฝ้าตอ
เพราะวิธีการนี้ ทำให้พวกเขาฆ่าผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นเจ็ดไปได้ถึงสามคน แล้วปล้นเอาของบนตัวของพวกเขามาด้วย
หลังจากที่ผู้กล้าห้าคนของพรรคเืพยัคฆ์ปรากฏตัวขึ้น สถานการณ์ก็พลิกไปทางพรรคเืพยัคฆ์ พวกที่คิดจะชิงบัวหิมะแต่พลังฝีมือไม่ถึงก็ใขวัญกระเจิงไปหมด
แค่ไม่กี่อึดใจ ก็ถูกคนของพรรคเืพยัคฆ์ฆ่าไปหลายคนทีเดียว
พริบตาเดียว ณ ลานประลองก็เหลือแค่ลู่หยวนคงกับหลวงจีนอีกสามคนเท่านั้น!
บริเวณด้านหลังห่างออกไปไม่กี่ลี้ ซูหยวนจิ้งก็กำลังตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่
ใบหน้าของเขาในเวลานี้เต็มไปด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ เส้นเอ็นบนหน้าผากเด่นชัดมาก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลิงป้าจะวางหลุมพรางเอาไว้ แสดงให้เห็นว่าหลิงป้าคนนี้เป็คนที่โเี้มากทีเดียว
“สู้ตาย!”
ซูหยวนจิ้งอยากจะพุ่งไปที่ลานต่อสู้ด้วย แต่ิอวี่กลับห้ามเอาไว้ “ยอดฝีมือเขาสู้กัน หากพลาดพลั้งขึ้นมาถึงตายได้นะ ตอนนี้ศิษย์พี่ของเ้าทั้งสามช่วยลู่หยวนคงตรึงกำลังเอาไว้แล้ว หากเ้าเข้าไปตอนนี้ มันจะเป็ตัวถ่วงสำหรับพวกเขานะ”
สิ่งที่ิอวี่พูดมันเป็เื่จริง ผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นเจ็ดต่อสู้กันมันน่ากลัวมาก หากตัดลู่หยวนคงออกไป หลวงจีนสี่คนที่เหลือก็เป็แค่ผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกเท่านั้น และไม่มีใครไปถึงจุดสูงสุดเลยแม้แต่คนเดียว
แต่ย้อนกลับไปดูคนของพรรคเืพยัคฆ์ กลับมีผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกเพิ่มขึ้นมาถึงห้าคน รวมกับขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกก่อนหน้านี้อีกสองคน กำลังต่อสู้ของทางพรรคเืพยัคฆ์ก็เป็ต่อทันที
ต่อให้ลู่หยวนคงจะมีพลังความสามารถในการหนีเอาตัวรอดได้ แต่ว่าเขาจะไม่สนใจศิษย์น้องของตัวเองเลยได้อย่างไร?
“เอามือสกปรกของเ้าออกไปนะ!”
ซูหยวนจิ้งสะบัดมือของิอวี่ออกแล้วจ้องไปที่เ้าของมือ คำพูดของิอวี่ทำให้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป แล้วตอนนี้ยังมาแตะเนื้อต้องตัวอีก มันทำให้เขารังเกียจอย่างมาก
ท่าทางของิอวี่เริ่มเ็าลง เขาเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน โดนดูถูกครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน
“เมื่อครู่เ้าว่าอย่างไรนะ?” ิอวี่ยิ้มแล้วถาม
“ข้าพูดว่าเ้ามันก็แค่คนไม่เอาไหนคนหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะเ้า ศิษย์พี่ใหญ่จะประเมินสถานการณ์ผิดได้อย่างไรกัน?”
พอถูกิอวี่ถาม ซูหยวนจิ้งก็ะเิความโกรธออกมา เขาชี้หน้าิอวี่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็าว่า “แล้วตอนนี้ศิษย์พี่ใหญ่กำลังมีภัย เ้ากลับทำมาเป็พูดดี ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ คนที่ได้ทีขี่แพะไล่อย่างเ้ามีสิทธิอะไรมาเป็พวกเดียวกับเรา”
“เพียะ!”
ิอวี่ยกมือแล้วตบไปที่หน้าของซูหยวนจิ้งอย่างแรงทำให้ซูหยวนจิ้งอึ้งไป เขาจับไปที่แก้มของตัวเอง แล้วมองไปที่ิอวี่แบบไม่เชื่อสายตา “เ้าตบข้าหรือ?”
“ใช่ ข้าตบเ้า” ิอวี่พูดอย่างเรียบเฉย
ซูหยวนจิ้งรู้สึกเืขึ้นหน้า เดิมเขาไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยอะไรกับิอวี่มาก แต่ในตอนนี้ิอวี่ทำให้เขาโกรธมากแล้วจริงๆ ิอวี่ตายแน่
เขาไม่โกรธแต่ยิ้ม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็าอย่างมากว่า “เ้าลองตบข้าอีกทีสิ”
เมื่อพูดจบ ิอวี่ก็ยกมือขวาตบไปอีกที ฝ่ามือประทับลงไปบนหน้าของซูหยวนจิ้งอีกครั้ง ทำให้ใบหน้าทั้งสองข้างของซูหยวนจิ้งมีแต่รอยฝ่ามือ
“เ้ารนหาที่ตาย!”
ซูหยวนจิ้งโกรธถึงขีดสุด ิอวี่ตบเขาสองที ถือเป็ความอัปยศอย่างมาก แต่ขณะที่เขาคิดจะลงมือ คิดไม่ถึงเลยว่าิอวี่กลับยกแขนขวาของเขาขึ้นมา แล้วโยนตัวเขาออกไปราวกับลูกบอลให้ไปห้อยอยู่บนต้นไม้
ซูหยวนจิ้งรู้สึกว่าแขนขวาของเขามันปวดเมื่อยเหลือเกิน ในใจก็รู้สึกอับอายอย่างมากด้วย
และในเวลานี้เอง เขาก็ได้ยินเสียงของิอวี่ดังขึ้นมา “อยู่ดูอยู่ข้างบนนั่นแหละ ท่านหลวงจีนทั้งหลายจะไม่เป็อะไรแน่นอน”
พูดจบเขาก็หันหลังแล้วพุ่งไปที่ลานต่อสู้เลยในทันที
ถึงแม้บนโลกใบนี้มีเหล่าจอมยุทธ์ฆ่าฟันกันทุกวัน ิอวี่เองก็ไม่อาจจะไปยุ่งได้ทั้งหมด แต่ลู่หยวนคงเป็คนจิตใจดี ิอวี่จะอยู่เฉยไม่ได้
“ิอวี่ ... ”
ในเวลานี้เอง เฮยจีก็ร้องห้ามิอวี่ เพราะหลวงจีนยุทธ์มองออกแล้วว่านางเป็สตรีผ่านดวงตาหยั่งรู้ ดังนั้นนางจึงปล่อยผมลงแล้วฉีกหนวดเคราออก กลับมาเป็ผู้หญิงที่งดงามน่าหลงใหลเหมือนเดิม
เฮยจีมองขึ้นไปยังซูหยวนจิ้งที่ห้อยอยู่บนต้นไม้ จากนั้นก็ก้มลงมามองไปที่ิอวี่ด้วยสายตาที่ดูน่าสงสาร
ความหมายของนางชัดเจนอย่างมาก นางอยู่ที่นี่คนเดียวจึงรู้สึกหวาดกลัวมาก อีกทั้งก็ไม่รู้ว่าซูหยวนจิ้งจะทำอะไรเกินเลยกับนางหรือเปล่า
แทบจะไม่ต้องเอ่ยปากถามิอวี่ก็รู้ว่าเฮยจีนั้นคิดอะไรอยู่ เขาจนใจจึงยื่นมือซ้ายออกไป แล้วพูดว่า “ก็ได้”
“อืออือ” เฮยจีรีบเดินเข้าไปใกล้เขาอย่างมีความสุข จากนั้นก็ถูกแขนซ้ายที่เต็มไปด้วยกำลังของิอวี่โอบไว้
ิอวี่ก็ไม่รอช้า เขาโอบเฮยจีเอาไว้แล้วก็พุ่งเข้าสู่วงล้อมของการต่อสู้ในทันที
แต่ไม่รู้ทำไม ขอแค่ิอวี่โอบตัวนางเอาไว้ เฮยจีก็จะรู้สึกว่าปลอดภัยและสบายใจ