ตอนที่ 5
มาร์คใช้เวลาเขี่ยโทรศัพท์ไปมาร่วมชั่วโมงพรางคิดหาวิธีจีบธาราไปด้วยก่อนจะเข้าไปอัพทวิต
Mark : ผมคิดว่า…..ผมกำลังมีความรัก
หลังจากกดอัพเดททวิตได้ไม่ถึง 1 นาทีด้วยซ้ำก็มีเหล่าบรรดาแฟนคลับเข้ามากดหัวใจและคอมเม้นกันตรึมเพราะทุกคนอยากทราบว่าคนที่ทำให้มาร์คหวั่นไหวและมีความรักได้คนนั้นคือใคร มาร์คได้แต่นั่งอ่านคอมเม้นอย่างอารมณ์ดีจากนั้นก็กดเข้าไลน์เพื่อแชทจีบใครบางคน หากใครมองว่ามันเชยก็คงเชยแต่สำหรับมาร์คหากตรงบุกไปหาอีกฝ่ายเลยคงไม่ใช่เป็เื่ที่ดีเพราะตัวเองก็มีหน้าตาในสังคมไม่ได้ต่างจากธาราเพียงแค่รวยน้อยกว่ามากเท่านั้นเอง ควรให้เกียรติตัวเองนี๊ดนึง เดี๋ยวแฟนคลับจะหาว่าเขาบ้าผู้ชาย
มาร์ค : สติกเกอร์ทักทาย
ธารา : ครับ แผลเป็ไงบ้าง
มาร์ค : ไม่เจ็บแล้ว ( มาร์คนั่งยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายเป็ห่วงตน )
ธารา : ครับ
มาร์ค : ทานมื้อเช้ารึยังคุณ ให้ผมทำให้ทานมั้ย ? ( มื้อเช้าตอนเกือบ 11 โมงเช้า -_- มาร์คอยากจะตีมือตัวเองแรงๆที่พิมพ์อะไรลงไปไม่ได้คิดเลย )
ธารา : คุณทำอาหารเป็ ? (ธาราพิมพ์ด้วยความแปลกใจ)
มาร์ค : ไม่อ้ะ ߘ⼯p>
ธารา : 5555+ คุณตลกดี ( ธาราได้แต่นั่งยิ้มให้กับความกวนของอีกคน )
มาร์ค : แต่ผมเป็คนรักจริงนะครับ รับไปลองไหม ? ( พิมพ์ไปเองก็นั่งเขินเอง โว้ยยยยยย กดยกเลิกข้อความแทบไม่ทันเมื่อคิดได้ว่าเดี๋ยวจะเป็ว่ารุกธาราหนักเกินไป )
ธารา : คุณกดยกเลิกข้อความอะไร ? เมื่อกี้อ่านไม่ทันพอดีผมเซ็นเอกสารให้ลูกน้อง ( ทั้งที่ความจริงแล้วเขาอ่านทันพอดีก่อนที่มาร์คจะกดยกเลิกข้อความแค่เสี้ยววินาที ที่บอกว่าไม่ได้อ่านเพราะอยากรู้ว่ามาร์คจะบอกเขาว่าอย่างไรมากกว่า )
มาร์ค : ไม่มีอะไรหรอกคุณ ผมมือลั่น ตกลงคุณทานไรยัง ? ( ในระหว่างที่พิมพ์เพื่อเปลี่ยนเื่คุยมาร์คก็เอามือเคาะหัวตัวเองไปด้วย )
ธารา : กาแฟกับผลไม้แล้วครับ ( ธาราได้แต่ยิ้มขำให้กับความเป็เด็กน้อย )
มาร์ค : หว้าาาาาาเสียใจจังเลย ผมว่าจะชวนคุณไปทานข้าวด้วยเสียหน่อย
ธารา : มื้อเที่ยงยังว่างครับ
มาร์ค : อ่าครับ งั้นมื้อเที่ยงไปทานข้าวด้วยกันมั้ย ? ( มาร์คแทบเก็บอาการความดีใจของตัวเองไม่อยู่ รีบพิมพ์กลับไปทั้งที่มือไม้สั่นและใจเต้นรัว )
ธารา : ครับ ร้านไหนคุณเลือกเลย
มาร์ค : งั้นร้าน PC แล้วกัน คุณโอเครึเปล่า ? ( ที่ต้องถามเพราะกลัวคุณชายธาราจะทานอาหารในร้านแบบนี้ไม่ได้ )
ธารา : โอเคครับ ( เมื่อได้ยินชื่อร้านเขาก็ถามลูกน้องคนสนิททันที และก็ต้องแปลกใจเมื่อนายแบบระดับแนวหน้าของประเทศเลือกที่จะไปทานข้าวเที่ยงกับเขาที่ร้านนั้นที่ดูจะธรรมดา ทั้งที่จะเลือกร้านอาหารสุดหรูที่มีมิชลินสตาร์ก็ได้ )
มาร์ค : เที่ยงเจอกัน ( มาร์คตอบกลับอย่างอารมณ์ดี
ธารา : ครับ
มาร์ค : สติกเกอร์โบกมือบ๊ายบาย
ธารามองโทรศัพท์ในมือยิ้มๆ มาร์คแปลกคนดีเหมือนกันถ้าเป็คนอื่นคงมาหาเขาถึงบริษัทแล้วและคงมาแบบเปิดเผยหรือไม่ก็คงเป็ข่าวไปเลยเพราะธาราเองก็มีดารา นางแบบ และนายแบบอยากสานสัมพันธ์ด้วยไม่น้อย จะว่ามาร์คไม่รู้ว่าบริษัทเขาอยู่ไหนก็คงไม่ใช่ นี่แค่ส่งแชทมา ถ้าเขาไม่บอกว่างเที่ยงนี้ก็คงจะไม่ชวนแน่ จากที่ดูมาร์คไม่ใช่คนไม่กล้าแต่น่าจะเป็ประเภทเกรงใจคนอื่นเสียมากกว่า ั้แ่ที่เขาได้เจอกับมาร์คก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองสดใสขึ้นเยอะ ดูน่ารัก ไม่รีบร้อน เข้าหาเขาทีล่ะนิดแต่บางทีก็ช้าไปสำหรับธารา
ธารานั่งยกยิ้มเ้าเล่ห์แล้วก็เซ็นอนุมัติเอกสารต่อเพราะยังเหลืออีกหลายแฟ้ม
ส่วนมาร์คหลังจากที่กลิ้งไปมาบนโซฟาด้วยความดีใจที่จะได้ทานมื้อเที่ยงกับธาราก็หันไปดูนาฬิกากลับพบว่าใกล้เที่ยงแล้ว มาร์คถึงกับสะดุ้งสุดตัว
“โอ้ยยยยยยยยย แล้วจะทันมั้ยเนี้ย!” จากนั้นมาร์คก็รีบเปลื้องเสื้อผ้าวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างไว อาบน้ำด้วยความไวแสงแต่ก็ต้องคงความสะอาดทุกซองทุกมุม
“ตัวไหนดีว่ะ ? ” หลังจากที่อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณเรียบร้อยทาโลชั่นจนตัวหอมก็มายืนงงอยู่ในดงเสื้อผ้าของห้องแต่งตัว ปากก็โวยวายไปด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะแต่งตัวสไตล์ไหนดี
“ตัวนี้ ไม่ ตัวนี้ ไม่สวย ตัวนี้ ไม่เท่ ตัวนี้” มาร์คหยิบเสื้อตัวนั้นตัวนี้มาทาบมาลองพรางถกเถียงกับตัวเองไปด้วย เพราะไม่ว่าจะหยิบตัวไหนมาก็ดูไม่โอเคสักตัวเดียว
“ทานข้าวกับคนที่กำลังจีบครั้งแรกจะสายเลยเหรอว่ะเนี่ย?” มาร์คบ่นอย่างหงุดหงิดตัวเองที่เลือกเสื้อและกางเกงไม่ได้สักที สุดท้ายเมื่อเห็นว่าไม่มีเวลาแล้วก็หยิบเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาวแบรนด์นึงขึ้นมาสวม เซ็ตเล็กน้อยให้พอเป็ทรง
“ชิปหาย เหลือไม่ถึง 30 นาที!” พอดูนาฬิกาอีกครั้งคิดเลยว่าถ้าเอารถยนต์ไปคงสายแน่ๆ มาร์คเลยเลือกที่จะหยิบกุญแจบิ๊กไบค์มาจากเก๊ะจากนั้นก็เดินมาหมุนตัวที่หน้ากระจกอีกรอบเพื่อความมั่นใจ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างโอเคตามที่ตัวเอง้าก็หยิบเสื้อแจ๊คแก็ตยีนส์สีซีดขึ้นมาสวมทับแล้วก็รีบวิ่งเข้าลิฟต์ทันที พอลิฟต์ลงมาถึงชั้นลานจอดรถมาร์คก็ตรงไปยังห้องเก็บบิ๊กไบค์ลูกรักนามว่า [ ไดม่อน ] ทันที จากนั้นก็ดึงผ้าคลุมออกหยิบหมวกกันน็อคเต็มใบลายสุดเท่ขึ้นมาสวม จากนั้นก็สตาร์ทแล้วออกตัวทันที
มาร์คใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีก็มาจอดอยู่หน้าร้านอาหารที่ตัวเองได้นัดกับธาราเอาไว้ แต่ก็คงช้ากว่าอีกคนเมื่อเห็น Koenigsegg Gemera สีเทา คันที่เขาเพิ่งนั่งไปเมื่อวานจอดเด่นหราอยู่กลางลานจอดรถ มาร์ครีบถอดหมวกกันน็อกแล้วรีบเดินเข้าร้านไปทันที
ธาราเป็คนไม่ชอบคนที่ไม่ตรงต่อเวลา ั้แ่เห็นมาร์คเดินเข้ามาในร้านเขาก็มองนาฬิกาเล็กน้อยพบว่ามาร์คไม่ได้มาสายตามที่คิด
“ขอโทษ คุณรอนานไหม ?” มาร์คถามอย่างเขินๆ ธาราวันนี้แต่งตัวเต็มยศมาสนักธุรกิจพันล้านก็ว่าได้ ชุดสูทสีกรมท่าชั่งทำให้ธาราดูดีและหล่อมากขึ้นเป็เท่าตัว นาฬิกาที่สวม เข็มกลัดที่ติดบอกได้คำเดียวคือแพง
“ผมเพิ่งถึงก่อนคุณแค่แป๊ปเดียว คุณมาที่นี่บ่อยเหรอ ?” ธาราบอกยิ้มๆ ก่อนจะถามกลับเพราะเห็นพนักทักทายมาร์คอย่างสนิทสนมราวกับว่ามาร์คมาที่นี่บ่อย การแต่งตัวของมารวันนี้ดูเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปแต่กลับดูดีมีเสน่ห์ไปอีกแบบซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“ถ้าว่างอย่างน้อยก็สัปดาห์ละครั้ง คุณสั่งอาหารรึยัง ?” มาร์คบอกแล้วถามกลับด้วยรอยยิ้ม
ที่มาร์คเลือกร้านนี้เพราะเป็ร้านที่แม่ของเขาชอบทาน ั้แ่ที่แม่เสียอย่างน้อยเข้าก็มาที่นี่สัปดาห์ล่ะครั้ง
“ยัง รอสั่งพร้อมคุณ” ธาราตอบ
“ครับ งั้นผมว่าเราสั่งอาหารกันเลยดีกว่า ที่นี่อาหารอร่อยผมรับรอง” มาร์คตอบด้วยความเขินนิดๆ เมื่อสบสายตาคมมองมาที่เขา ั์ตาน้ำตาลปนเทานั่นไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ทำเขาไม่อาจละสายตาได้จริงๆ
ธาราก็ยิ้มให้กับความร่าเริงของมาร์ค จากนั้นมาร์คก็บอกพนักงานให้มารับออร์เดอร์ แล้วทั้งคู่ก็สั่งอาหาร ในระหว่างที่รออาหารโทรศัพท์ของมาร์คก็ดังขึ้น มาร์คจึงขอตัวออกไปรับโทรศัพท์อย่างมีมารยาท ธาราก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจแล้วเปิดพอร์ตหุ้นดูไปพรางๆ
“น้องมาร์คช่วยดูเอกสารในห้องเจ๊ให้หน่อย” ทันทีที่มาร์คกดรับสายเอวี่ก็กรอกเสียงใส่โทรศัพท์
“ผมกำลังจะแชทบอกเจ๊พอดีว่าผมออกมาข้างนอก และผมคงไปดูเอกสารให้เจ๊ตอนนี้ไม่ได้” มาร์คบอกเจ๊เอว่าอย่างขำขัน
“แล้วมาร์คอยู่ไหน ?” เอวี่ถามพร้อมกดเปิดกล้อง
“ร้านประจำ” มาร์คตอบแต่ก็ไม่ได้กดรับเปิดกล้องแต่อย่างใด
“ไปกับใคร ทำไมไม่เปิดกล้อง ?” เอวี่ถามต่ออย่างไม่ลดละ เมื่อมาร์คไม่ยอมเปิดกล้องให้ตัวเองดูเพราะปกติมาร์คจะไม่ค่อยมีเื่ปิดบังเธอมากนัก ยกเว้นแอบไปทำอะไรผิดมา
“ถ้าผมเปิดเจ๊ห้ามด่า ตกลงไหม ?” มาร์ครีบยื่นข้อเสนอทันทีเมื่อรู้ดีว่าถ้าเจ๊เห็นเขาแต่งตัวแบบนี้คงไม่พ้นด่าเขาเื่รถอีกแน่
“ก็ได้ๆ ไม่ด่า” เอวี่บอกอย่างจำยอมไม่อย่างนั้นมาร์คคงไม่เปิดกล้องให้เธอดู
“มาร์ค แกแว๊นมอไซค์ไปใช่ไหม ?” ทันทีที่มาร์คเปิดกล้อง เอวี่ก็ควันออกหูทันทีด้วยความเป็ห่วง
“บิ๊กไบค์ครับเจ๊เอวี่” มาร์ครีบพูดแก้คำแทบไม่ทันเมื่อเจ๊ว่าเขาเป็เด็กแว๊นอีกแล้ว
“เออ เหมือนกันนั่นแหละ แล้วเมื่อวานเพิ่งาเ็วันนี้แว๊นมอไซค์ อย่างนี้มันใช่เื่เหรอ ?” เอวี่ต่อว่ามาร์คทันที ลืมหมดแล้วที่ตกลงกันเมื่อครู่
“เจ๊ไหนตกลงกันแล้วไงว่าไม่ด่าผมไง ?” มาร์คบ่นอุบอิบ
ในขณะที่คุยกับเจ๊เอวี่มาร์คก็หันไปมองธาราก็พบว่าธาราเองก็มองเขาอยู่แล้วยกยิ้มให้ เป็รอยยิ้มที่ทำลายล้างสุดๆ ใจแทบละลายก็ว่าได้
“เออๆ ไม่ว่าแล้ว โตแล้วคิดเองได้ แล้วนั่นไปกับใคร ?” เอวี่ว่าอย่างงอนๆ ถ้าไม่เจ็บตัวยังพอว่านี่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุเมื่อวานวันนี้ซ่าอีกแล้ว เจ๊จะเป็ลมกับความดื้อของมาร์คจริงๆ
“อยากรู้ตลอด” มาร์คว่าเจ๊เอวี่ด้วยรอยยิ้มหวานเมื่อเห็นว่าเอวี่เปลี่ยนเื่คุยแล้ว
“ย๊ะ ไหนๆ ว๊ายยยยยยยยยย มาร์คแกรุกเร็วกว่าที่ชั้นคิดไว้อีก ร้ายนะคะลูก” ทันทีที่มาร์คแพลนกล้องไปให้เห็นธาราที่นั่งอยู่ถึงกับกรี๊ดลั่นโทรศัพท์ เพราะเธอไม่คิดว่ามาร์คจะรีบรุดรีบจีบแบบนี้
“แค่ทานข้าวครับเจ๊” มาร์คบอก
“เหรอ ? โอเคเจ๊จะเชื่อแล้วกัน กินกันให้อร่อยนะ” เอวี่ตั้งใจใช้คำพูดที่ดูกำกวมเพื่อแกล้งเด็กในความดูแลของเธอ
“เจ๊ !!!!” มาร์คะโเรียกเจ๊เอวี่อย่างลืมตัวทำให้ทั้งพนักงานในร้านและธาราต่างมองมาเป็ตาเดียวกัน มาร์คได้แต่ยกมือลูบผมอย่างเก้อเขินพร้อมยิ้มอ่อนให้ทุกคนเมื่อตัวเองทำเื่เสียมารยาทลงไป
“คิดอะไร ก็กินข้าวเที่ยงให้อร่อยไง ชั้นว่าชั้นพูดถูกนะแค่ตกหล่นคำว่าข้าวเท่านั้นเอง” เอวี่พูดอย่างขำขันเมื่อเห็นสีหน้าใของมาร์ค
“ครับๆ” มาร์คตอบกลับอย่างหน่ายใจในคำแก้ตัวของเจ๊เอวี่ ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามธารา
“ขอโทษนะครับคุยกับเจ๊เอวี่นานไปหน่อย” มาร์คบอกอย่างเกรงใจที่ปล่อยให้อักคนนั่งรอคนเดียว
“ไม่เป็ไรผมเข้าใจ” ธาราตอบ
“ว่าแต่เดี๋ยวคุณทานข้าวเที่ยงเสร็จแล้วจะไปไหนต่อรึเปล่า?” มาร์คถาม
“กลับบริษัทครับ ยังมีเอกสารที่ต้องเซ็นอนุมัติอีกหลายโครงการ” เมื่อได้ยินสิ่งที่ธาราบอกมาร์คได้คิดในใจว่าคนตรงหน้าเขาชั่งขยันเสียเหลือเกินแตกต่างกับเขามาก
“อ่าครับ” มาร์คตอบ ในขณะที่พนักงานก็เริ่มนำอาหารมาเสิร์ฟพอดี ทั้งคู่ทานไปด้วยพูดคุยไปด้วย
“แล้วคุณล่ะ ?” ธาราถามมาร์คกลับ
“กลับคอนโด พอดี่นี้เจ๊เอวี่ใจดีหยุดรับงานให้ผมได้พัก 15 วัน แต่หลังจากพักแล้วผมยังไม่อยากจะคิดเลย” ตอนต้นประโยคมาร์คพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนจะเปลี่ยนเป็หน่ายใจใน่ท้าย
“หึหึ ทำไมคุณทำหน้าแบบนั้นล่ะ ?” ธาราขำในลำคอกับท่าทางที่มาร์คแสดงออกมา
“แค่คิดก็เหนื่อยแล้วคุณ ่ไหนที่มีงานเยอะแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนและไม่ได้ทานข้าวด้วยคุณ” ได้คนรับฟังมาร์คก็บ่นเื่งานของตัวเองทันที
“คงลำบากแย่เลยสิ” ธาราพูดยิ้มๆ
“มากกกกก เจ๊เอวี่แกรับงานเรียกได้ว่าตารางชนกันแน่นเลย” มาร์คลากเสียงยาวพร้อมพาดพิงไปถึงเอวี่คนสวย
“หึหึ” ธาราขำเบาๆ
หลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จ พนักงานคิดเงินเรียบร้อยธาราก็ขอเป็คนออกค่าอาหารทั้งหมดทั้งที่มาร์คขอเป็เ้ามือแต่ธาราก็ยังไม่ยอมอยู่ดี สุดท้ายมาร์คก็เลยปล่อยให้อีกคนได้จ่ายสมใจ จากนั้นก็เดินมาที่ลานจอดรถพร้อมกัน อย่างน้อยลานจอดรถของที่นี่ก็มีหลังคาทำให้มาร์คไม่ต้องร้อนตูดมากนัก
“คุณจะว่าอะไรไหมถ้าพรุ่งนี้ผมทำขนมไปให้คุณลองทาน?” มาร์คถามอย่างลองเชิง
“หืม คุณทำเป็ ?” ธาราเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่ออีกฝ่ายพูดถึงเื่ขนม เพราะเมื่อ่สายมาร์คยังแชทบอกกับเขาว่าทำอาหารไม่เป็
“นิดหน่อยครับ แต่ทานได้แน่นอน อร่อยหรือไม่อร่อยก็อีกเื่นึง” มาร์คบอกอย่างเขินๆ เพราะตัวเองก็ไม่ค่อยมั่นใจในฝีมือของตัวเองนัก ในชีวิตเขาที่ทำได้ดีที่สุดก็คงเป็อาชีพที่เขากำลังเป็อยู่นั่นคือนายแบบ
“ถ้าคุณไม่ลำบาก ผมจะรอชิม” ธาราบอกยิ้มๆ พรางมองเข้าไปั์ตาของมาร์คเล็กน้อย
“ครับ” มาร์คตอบ
“ว่าแต่คุณขับรถมาเองหรือว่าผู้จัดการส่วนตัวคุณมาส่ง ?” ธาราถามเมื่อวันนี้เขาไม่เห็นรถของมาร์ค
“ขับมาเองครับ วันนี้เอาลูกรักมา” มาร์คตอบด้วยรอยยิ้มพร้อมชี้ไปที่บิ๊กไบค์คันโปรด
“หืม ?” ธาราก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเพราะเขาไม่คิดว่ามาร์คจะกล้าขี่บิ๊กไบค์ตอนเที่ยงเพื่อมาทานข้าวกับเขาแบบนี้ แดดประเทศไทยคือรู้ๆ กัน
“ครับ” มาร์คตอบพร้อมพยักหงึกๆ เป็การยืนยัน
“แล้วแผลคุณ?” ธาราถามขึ้นอย่างนึกขึ้นได้ว่ามาร์คมีแผล
“ไม่เจ็บแล้ว อย่างที่บอกไปเมื่อ่สาย” มาร์คบอกพร้อมถอดแจ็คเก็ตยีนส์ออกให้ธาราดูแขนของตน ก็พบว่าแผลถลอกที่แขนขาวนั้นแห้งแล้วแต่ยังมีรอยช้ำเป็จ้ำๆอยู่
“งั้นขับรถดีๆ นะคุณ” ธาราบอกพร้อมเปิดประตูรถ ส่วนมาร์คก็หยิบหมวกกันน็อกสุดเท่ขึ้นมาสวม
“ไม่ต้องห่วงถึงคอนโดเดี๋ยวผมแชทบอก คุณก็ขับรถดีๆ” มาร์คบอกธาราด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดพร้อมก้าวขาขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์คันโปรด
“ครับ” ธาราตอบพร้อมเข้าไปนั่งประจำที่คนขับแล้วปิดประตู เขาปล่อยให้มาร์ขับนำออกจากร้านไปก่อนส่วนธาราก็ขับออกตามไปทีหลัง
ไม่ถึง 30 นาทีมาร์คก็ขับรถเข้ามาจอดที่คอนโดเป็ที่เรียบร้อย เดินขึ้นห้องอย่างอารมณ์ดีและไม่ลืมแชทบอกธาราก่อนจะแชทบอกเจ๊เอวี่ ส่วนธาราเองก็ถึงบริษัทแล้วเช่นกัน
ยังไม่ทันทีที่มาร์คจะได้หย่อนก้นลงบนเตียงนอนโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นเพราะคิดว่าธาราจะโทรมา แต่ก็ต้องเซ็งเมื่อคนที่โทรเข้ามาคือตินเพื่อนรักของเขานั่นเอง ไอ้ตินโทรมาสรุปรวมๆคือคืนนี้อยากชวนเขาออกไปเที่ยวเนื่องจากไม่ได้เจอกันหลายวัน มาร์คก็ตอบตกลงทันทีพร้อมบอกอีกฝ่ายว่าคืนนี้ไม่ดึกเพราะพรุ่งนี้ตนจะทำขนมซึ่งเพื่อนรักอย่างตินก็เซเยสทันที
@คลับธีย์
คืนนี้เป็มาร์คที่มารอตินอยู่ก่อนแล้ว มาถึงก็สั่งเครื่องดื่มรอก่อนเลยตินมาถึงจะได้ไม่ต้องเสียเวลา จากนั้นก็นั่งดื่มรอตินแบบชิวๆ คืนนี้มาร์คแต่งตัวสบายๆน้อยกว่าทุกวันเพราะวันนี้เขาแค่มาดื่มไม่ได้ตั้งใจจะลากใครกลับไปนอนด้วย
“ไงครับเ้าพ่อแฟชั่น ?” ตินทักทายเพื่อนรักอย่างกวนตีนแล้วนั่งลงข้างๆมาร์คที่โซฟาเดียวกัน
“ก็ดี มึงอ่ะ เป็ไงบ้าง ?” มาร์คถามกลับอย่างห่วงๆ
“เรียบร้อยดีแล้ว ทุกอย่างเคลียร์” ตินบอกด้วยท่าทีสบายๆและผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด
“ก็ดีแล้วเพราะกูเป็ห่วงมึง” มาร์คบอกเพราะเขาเป็ห่วงตินมาก ในชีวิตเขาตอนนี้มีแค่ติน เจ๊เอวี่ ถ้าหากจะมีใครสักคนเข้ามาคนๆนั้นก็ต้องเป็ธารา
“ได้ข่าวว่าจะมีผัว ?” ซึ้งกันได้ไม่นานตินก็เปิดประเด็นร้อนขึ้นมาทันที
“ไอ้ตินปากมึงมีหมาอยู่ในเหรอ ตอนนี้ยังไม่ใช่เว้ยยย !!” มาร์คทั้งด่าเพื่อนรักและแก้ต่างไปพร้อมกัน
“กูก็ไม่ได้บอกนิว่ามีแล้ว” ตินว่าอย่างยิ้มแย้ม
“สัส กวนตีนกู” มาร์คด่าพร้อมต่อยไหล่เพื่อนรักแรงๆไปหนึ่งหมัด
“ตกลงชอบคนนี้ ?” ตินถามเหมือนจะไม่ใส่ใจทั้งที่ความจริงแล้วเขามองเพื่อนอยู่ตลอด ที่ผ่านๆ มาเขาไม่เคยเห็นมาร์คสนใจใครเท่ากับคนนี้มาก่อน ถ้ามีโอกาสก็หวังว่าเขาคงจะได้เจอสักครั้ง และได้แต่หวังว่าคนๆนี้จะไม่ทำให้เพื่อนรักของเขาต้องเสียใจ
“อืม ชอบกูก็บอกไม่ถูกเหมือนกันรู้เพียงว่าอยู่ใกล้เขาทีไรไม่ค่อยเป็ตัวของตัวเองเลย เสียอาการอย่างบอกไม่ถูก หัวใจกูเหมือนทำงานหนัก ยิ่งพอสบตากูเขาแทบทรุด ใจบางไปหมด”
“กูว่ามึงคลั่งเขาหนักแล้วว่ะมาร์ค” ตินได้แต่ส่ายหน้าให้เพื่อนรักอย่างเอือมๆ เหมือนที่เขาว่าคนไม่เคยมีความรัก พอมีก็จะทุ่มสุดตัว
“กูว่ากูไม่ต้องเล่าแล้วมั้ง ในเมื่อมึงก็รู้หมดแล้ว” ที่เขาพูดแบบนี้จากที่ฟังตินถามเขาแต่ละอย่างมั่นใจได้ว่าเจ๊เอวี่คงเอาเื่เขามาเมาส์กับตินหมดแล้วแน่นอน เพราะฉะนั้นเขาไม่จำเป็ต้องเล่าก็ได้
“มาร์คมึงต้องเล่า เพราะกูอยากได้ยินจากปากมึงเอง” ตินบอกอย่างไม่ยอม คือฟังจากเจ๊เอวี่แล้วก็จริงแต่ยังไงมันก็ไม่เหมือนฟังจากเ้าตัว
“สัส….%#$¥#€¥%#$%#” มาร์คด่าจบก็เริ่มเล่าเื่ทุกอย่างให้ตินได้ฟัง
“กูพร้อมช่วย” ตินบอกมาร์คอย่างกระตือรือร้นเพราะจะได้มีเื่สนุกๆให้ได้ทำ
“ไม่ต้องเลยมึง อยู่เฉยๆ กูจัดการเอง” มาร์ครีบเบรกตินทันที เพราะเขาไม่มั่นใจนักว่าตินจะทำให้เขาวุ่นวายหนักกว่าเดิมหรือเปล่า
ตินและมาร์คดื่มกันพอประมาแล้วก็แยกย้ายกลับคอนโดใครคอนโดมัน พอถึงคอนโดมาร์คก็รีบอาบน้ำแล้วเข้านอนทันทีเพื่อพรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้ามาทำขนม
07:25น.
มาร์คตื่นเช้ามาก็รีบล้างหน้าอาบน้ำแปรงฟันแล้วมาสาระวนอยู่ในครัว วุ่นวายอยู่กับวัตถุดิบและอุปกรณ์การทำขนม
“ทำงานตื่นเร็วแบบเื่ผู้ชายไหมคะลูก ?” เจ๊เอวี่ที่โดนโทรตามตัวั้แ่ 7 โมงนิดๆเดินเข้ามาที่ห้องครัวก็ถามมาร์คอย่างหยอกๆ
“แหะๆ” มาร์คได้แต่ขำแห้ง เพราะเวลาทำงานเขามักจะตื่นแบบพอดีเป๊ะๆ ไม่ขาดไม่เกินเรียกได้ว่าตรงเวลาของจริง
“ให้มันได้อย่างงี้สิ” เจ๊เอวี่บ่นไปเรื่อย แต่ก็ดีใจที่มาร์คพร้อมเปิดใจรับใครสักคนเข้ามาในชีวิต
“ก็เจ๊ให้ผมมีวันหยุดแค่ 15 วันเองก็ต้องลุยสิครับ” มาร์คบอกอย่างมีเหตุผลมือก็ชั่งตวงวัตถุดิบไปด้วย ถึงจะไม่ค่อยได้ทำแต่ก็พอจำได้เพราะแม่เขาเป็คนสอน
“มาร์คเจ๊ว่าแกขับรถไปซื้อง่ายกว่าเยอะ” เอวี่พูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทางในกับหยิบจับและทำขนมของมาร์ที่ดูติดๆขัดๆ
“ไม่อะผมอยากทำเอง” มาร์คบอกอย่างมาดมั่น ในเมื่อเขาตั้งใจแล้วเขาก็จะทำมันให้ได้
“ย๊ะ ตามใจแก ชั้นจะรอดู” เอวี่บอกแล้วก็เดินไปนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นปล่อยให้มาร์คทำขนมของตัวเองไป
“รับรองมันต้องออกมาดี” มาร์คบอกไล่หลังเจ๊เอวี่
หลังจากที่ผ่านไปร่วม 40 นาทีช็อกโกแลตมูสเค้กชิ้นแรกก็เสร็จเป็ที่เรียบร้อย มาร์คตั้งใจทำอย่างบรรจง คือใส่ใจทุกขั้นตอน
“อะเจ๊ชิมดิ” มาร์คเดินถือจานขนมมาด้วยความมั่นใจแล้ววางลงตรงหน้าเจ๊เอวี่
เอวี่ตักขนมเข้าปากไปหนึ่งคำจากนั้นก็ตามด้วยคำที่สอง มาร์คได้แต่มองอย่างลุ้นๆ
“อืม รสชาติดี แต่หน้าตาไม่ผ่าน” มาร์คยิ้มกว้างเมื่อได้รับคำชมแต่ก็ต้องหุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของเจ๊เอวี่
หลังจากได้ฟังคำวิจารณ์ของเจ๊เอวี่สุดสวยแล้วมาร์คก็ต้องเดินคอตกเข้าครัวไปอีกครั้งเพื่อทำขนมชิ้นใหม่ให้มีรูปร่างหน้าตาที่ดูน่าทานขึ้น สุดท้ายแล้วความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร มาร์คก็ได้ขนมชิ้นที่สวยที่สุดหลังจากที่ทำมาถึง 5 ชิ้นด้วยกัน ดีที่เขาทำขนมเสร็จก่อนเที่ยงเพราะไม่อย่างนั้นอาจจะไม่ได้เจอกับธาราก็ได้ มาร์ครีบเข้าห้องไปอาบน้ำแต่งตัวทันที จากนั้นก็ไลน์หาธารา ไม่ถึงนาทีธาราก็ส่งจีพีเอสที่อยู่ของบริษัทมาให้ แต่ถึงไม่ส่งมามาร์คก็ไปถูกอยู่ดี
@ห้องประธานบริษัท TR
ไม่ต้องสงสัยว่ามารค์มาอยู่ห้องนี้ได้อย่างไร ทันทีที่มาถึงบริษัทมาร์คก็ถูกเชิญให้ขึ้นไปยังห้องท่านประธานทันที ซึ่งแน่นอนนั่นสร้างความแปลกใจปนใให้มาร์คไม่น้อย
“ชิมให้หน่อย” มาร์คบอกพร้อมยื่นกล่องขนมไปให้คนตัวโตตรงหน้า
“น่าทาน” ธาราตอบ
“เป็ไงบ้างคุณ ?” มาร์คถามอย่างลุ้นๆเมื่อธาราตักช็อกโกแลตมูสเค้กเข้าปากไป
ธาราอดเอ็นดูในท่าทางของอีกคนที่ลุ้นกับคำตอบเขาไม่ได้จริงๆ
“กำลังดี คุณทานยัง ?” ธาราตอบแล้วถามกลับ มาร์คยิ้มกว้างก่อนจะส่ายหน้าเป็คำตอบ
“อ้าปาก” มาร์คอ้าปากตามที่ธาราบอก มาร์คก็ต้องเอ๋อไปทันทีเมื่อธาราตักช็อกโกแลตมูสเค้กป้อนเข้าปากเขา
“หึหึ” ได้ยินเสียงขำในลำคอของธารามาร์คถึงจะได้สติ หัวใจของเขาแทบจะเต้นทะลุออกมาจากในอกก็ว่าได้
“อีกสักคำไหม ?” กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีริมฝีปากของเขาก็ประกบจูบริมฝีปากหนาของธาราไปแล้ว
ในขณะที่มาร์คกำลังจะผละออกธารากลับล็อคท้ายทอยเอาไว้ด้วยมือแกร่งแล้วสอดลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากบางที่มีช็อกโกแลต
……………………………………………….
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้