เราควรจะรับเควสนี้ไหมนะ?
หลิงเฉินไม่แปลกใจเลยที่เ้าเมืองนครัครามมอบเควสที่ค่อนข้างยากแก่เขาเพราะว่าเควสใดๆ ที่มีคุณสมบัติ ‘ลับ’หรือ ‘เฉพาะ’นั้นล้วนยากเป็พิเศษและเควสที่มีคุณสมบัติ ‘ลับเฉพาะ’ จะยิ่งยากขึ้นไปอีกแต่สิ่งที่หลิงเฉินไม่ได้คาดคิดก็คือบทลงโทษเมื่อเควสนี้ล้มเหลวชื่อเสียงลดลงเหลือ 0 ความชื่นชอบของเ้าเมืองลดลงมหาศาลและไม่สามารถรับเควสใดๆ ภายในนครัครามได้อีก
บ้าเอ้ยจะมีบทลงโทษของเควสไหนที่โหดร้ายกว่านี้อีกไหมเนี่ย!นี่มันน่ากลัวยิ่งกว่าเลเวลลดลง 3 เลเวล! ถ้าเขาทำเควสนี้ไม่สำเร็จจริงๆบทลงโทษของความล้มเหลวนี้คงจะทำให้เขาต้องกระเสือกกระสนอย่างมากในนครัครามดูเหมือนบทลงโทษของเควสนี้จะมีมนุษยธรรมอยู่บ้าง…โดยหากเขาไม่รับเควสนี้เช่นนั้นมันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อเขารับมัน เ้าเมืองนครัครามก็จะฝากความหวังในการช่วยลูกชายของเขามาที่เขาถ้าเขาทำสำเร็จ เขาก็ย่อมได้รับคำขอบคุณมากมายแต่ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ...และลูกชายของท่านเ้าเมืองตายเช่นนั้นความเสียใจทั้งหมดของท่านเ้าเมืองก็จะมาลงที่เขาโดยตรงใครจะสนใจว่าเขาเป็ผู้สืบทอดของเทพาหรือไม่ ความชื่นชอบของเขาจะลดลงจนอยู่ในระดับที่น่ารังเกียจในทันทีหากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป จะไม่มี NPCคนไหนในนครัครามที่ยินดีจะมอบเควสให้เขาอีก
ยิ่งไปกว่านั้นความยากของเควสนี้ยังถูกระบุโดยตรงจากระบบว่า ‘เป็ไปไม่ได้ที่จะทำสำเร็จ’ และยังมาพร้อมกับบทลงโทษของความล้มเหลวที่ร้ายแรงมากๆเราควรจะรับมันจริงๆ เหรอ?เควสลับเฉพาะนั้นมาพร้อมกับรางวัลมากมายก็จริงทว่าความยากก็สูงมากด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกันยังมีบทลงโทษของการเสียชีวิตที่โหดร้ายอีกด้วยเลเวลขององครักษ์แห่งนครัครามอย่างน้อยที่สุดก็เลเวล 80 ขึ้นไป แม้แต่คนที่มีความแข็งแกร่งระดับนี้ก็ยังหายไปหลังจากไปที่‘สันเขาิญญาไร้เสียง’ แล้วเขาแค่ผู้เล่นที่เพิ่งจะเลเวล11 ไม่ว่าใครก็คงคิดว่านี่เป็การฆ่าตัวตายชัดๆแต่การฆ่าตัวตายนั้นไม่ใช่จุดจบบทลงโทษชุดใหญ่อันน่าหวาดกลัวจะถาโถมลงมาหลังจากนั้นต่างหาก
ทว่า...ในทางกลับกัน ไม่ใช่ว่าความยากและบทลงโทษของเควสหมายความว่าหลังจากทำเควสสำเร็จคนผู้หนึ่งจะได้รับรางวัลที่มากขึ้นไปอีกหรือ?
“ตกลง ผมรับเควสนี้! ภายในเวลาหนึ่งเดือน ผมจะนำ ‘หญ้าเปลวเพลิงทมิฬ’กลับมาให้ได้”
หลิงเฉินเงยหน้าขึ้นเพ่งสายตาและให้คำตอบแก่เ้าเมืองนครัคราม หลังจากพูดออกไปความลังเลและความกังวลในใจของเขาได้หายไปในทันทีอย่างไร้ร่องรอยเหตุผลที่คนจำนวนน้อยมากๆแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ก็เพราะพวกเขากล้าที่จะทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่มีความกล้าและความเด็ดเดี่ยวที่จะทำในโลกนี้ไม่เคยมีอะไรที่ ‘เป็ไปไม่ได้’ เช่นเดียวกับการทดสอบของเทพาก่อนหน้านี้จากปากของพวกเขา ไม่ใช่ว่ามันเป็ไปไม่ได้ที่จะผ่านการทดสอบนั้นหรอกหรอ? ทว่าผลลัพธ์คือเขาเลือกมัน และผ่านมาได้
“ดีมาก”เ้าเมืองนครัครามผงกหัวอย่างยินดี“สมกับเป็คนที่ผ่านการทดสอบของเทพาเพียงแค่ความแน่วแน่ที่ไม่กลัวความยากลำบากและความตายก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนประทับใจแม้ว่าความแข็งแกร่งของเ้าในตอนนี้จะต่ำมากๆแต่ข้ารู้สึกได้ถึงความรู้สึกเชื่อใจอย่างที่อธิบายไม่ได้จากเ้าการเดินทางสู่สันเขาิญญาไร้เสียงนั้นยาวไกล การไปที่นั่น มันจะดีที่สุดหากเ้าไปที่ร้านสัตว์ขี่ และเลือกม้าสักตัว โอ้ จริงสิ...” เ้าเมืองนครัครามนำปากกาเวทมนต์และกระดาษออกมาจากนั้นเขียนลงไปสองสามบรรทัดอย่างรวดเร็ว แล้วปิดผนึกมันในซองจดหมาย “รับนี่ไป แล้วเอาไปให้เ้าของร้านสัตว์ขี่เขาจะให้สัตว์ขี่ที่ดีที่สุดของร้านสัตว์ขี่แก่เ้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย”
“ถึงแม้ในใจข้าจะรู้สึกไม่สบายใจและกังวลใจแต่ข้ายังคงแนะนำให้เ้าเพิ่มความแข็งแกร่งเป็อย่างแรกก่อนที่จะเดินทางไปยังสันเขาิญญาไร้เสียงเ้าได้รับการสืบทอดพลังของเทพาดังนั้นความเร็วในการอัพเลเวลของเ้าน่าจะไวอย่างมาก ความแข็งแกร่งของเ้ายิ่งสูงโอกาสของเ้าก็ยิ่งมากขึ้นเมื่อเ้าพร้อมที่จะไปยังสันเขาิญญาไร้เสียงก็ออกไปทางทิศตะวันออกและมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้นเรื่อยๆเมื่อเ้าไม่สามารถหาเส้นทางได้ เ้าสามารถถามผู้คนตามทางได้ไม่ว่าใครก็รู้เส้นทางไปสู่สันเขาิญญาไร้เสียง ถึงยังไงที่นั่นก็เป็พื้นที่ต้องห้ามที่ทุกคนรู้จักเ้าหนุ่ม ข้าไม่อาจทนให้องครักษ์ประจำเมืองนับไม่ถ้วนไปตายได้อีกแล้วความหวังทั้งหมดของข้าอยู่ที่เ้า ข้าจะรอเ้ากลับมาฉลองชัยชนะ...”
---
“เรารับเควสที่ยากลำบากนี้มาจริงๆ” หลิงเฉินพูดเบาๆ ขณะเดินกุม ‘จดหมายแนะนำของเ้าเมืองนครัคราม’ ออกมาจากที่พักของเ้าเมืองนี่คือเควสที่ยากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา พร้อมกับบทลงโทษที่โหดร้ายที่สุดผู้เชี่ยวชาญจำนวนนับไม่ถ้วนของทวีปหลงลืมยังไม่กล้าแม้แต่จะเหยียบย่างเข้าไปที่นั่นพื้นที่ต้องห้ามซึ่งใครก็ตามที่ไปที่นั่นต้องตาย เราเป็แค่ผู้เล่นตัวน้อยๆเราจะทำเควสนี้ได้สำเร็จจริงๆ เหรอ?เขากังวล...แต่ในความเป็จริงในใจของเขานั้นลิงโลดด้วยความตื่นเต้นเขาเกิดมาเป็คนประเภทที่เมื่อพบสิ่งที่ยากยิ่งขึ้น เขาก็ยิ่ง้าท้าทายมัน
“เพราะเรารับมันแล้ว เราจะต้องเตรียมตัวให้ดี”
หลิงเฉินมุ่งหน้าไปร้านขายไอเทมเขาใช้เหรียญทองจำนวนมากที่ดรอปจากปักษาวายุซื้อยาเหลืองและยาน้ำเงินให้มากที่สุดหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ซื้อไอเทมฟุ่มเฟือยบางอย่าง ยาเขียวที่สามารถเพิ่ม HP 800 หน่วยในทันทีสุดท้ายเขาซื้อแผนที่ฉบับคัดลอกของนครัครามมา แล้วจึงเดินออกจากร้านขายไอเทม
บนแผนที่ของนครัครามเขาล็อกไปที่ตำแหน่งของร้านสัตว์ขี่ และพุ่งตรงไปที่นั่น
ร้านสัตว์ขี่นั้นไม่ใหญ่นักมีแค่ชายแก่ตัวเล็กิัเหี่ยวย่นคนเดียวเฝ้าร้าน เนื่องจากไม่มีลูกค้าชายแก่จึงนั่งอยู่ที่นั่นอย่างไม่มีชีวิตชีวา เมื่อได้ยินใครบางคนเข้ามา เขาเพียงขยับเปลือกตาเท่านั้นและี้เีอย่างมากแม้กระทั่งจะลืมตา
หลิงเฉินกวาดตามองรอบๆ และไม่เห็นสัตว์สัตว์ขี่ใดๆหรือสิ่งที่เกี่ยวข้อง แต่บนกำแพงด้านหลังของชายแก่ตัวเล็กกลับแขวนรหัสและราคาของสัตว์ขี่ทุกชนิดเอาไว้
[อาชาน้ำตาลแดง]: สัตว์ขี่ระดับ 1 หลังจากขี่ ความเร็วในการเคลื่อนที่ +20 ไม่มีความสามารถเพิ่มเติม ไม่สามารถอัพเกรดได้ ราคา: 200 เหรียญทอง
[อาชาั์]: สัตว์ขี่ระดับ 1หลังจากขี่ ความเร็วในการเคลื่อนที่ +30 ไม่มีความสามารถเพิ่มเติมไม่สามารถอัพเกรดได้ ราคา: 500 เหรียญทอง
[อาชาพันลี้]: สัตว์ขี่ระดับ 1 หลังจากขี่ ความเร็วในการเคลื่อนที่ +40 ไม่มีความสามารถเพิ่มเติม ไม่สามารถอัพเกรดได้ ราคา: 2,000 เหรียญทอง
[อาชาเหงื่อโลหิต]: สัตว์ขี่ระดับ 1 หลังจากขี่ ความเร็วในการเคลื่อนที่ +50 ไม่มีความสามารถเพิ่มเติม ไม่สามารถอัพเกรดได้ ราคา: 5,000 เหรียญทอง
[อาชาเหยียบเฆฆา]: สัตว์ขี่ระดับ 1 หลังจากขี่ ความเร็วในการเคลื่อนที่ +60 ไม่มีความสามารถเพิ่มเติม ไม่สามารถอัพเกรดได้ ราคา: 20,000 เหรียญทอง
ร้านสัตว์ขี่ขายม้าทั้งสิ้นเพียง 5 ชนิดเท่านั้นตามการเพิ่มขึ้นของค่าความเร็วในการเคลื่อนที่ ราคายิ่งสูงขึ้นแบบก้าวะโสัตว์ขี่ตัวสุดท้ายอย่างอาชาเหยียบเมฆาที่เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 60 หน่วย ขายอยู่ที่ราคา 20,000เหรียญทอง! ณ ตอนนี้ที่การแลกเปลี่ยนเงินตรายังไม่เปิดใช้นี่เป็ราคาสูงเฉียดฟ้าที่ไม่มีใครสามารถจ่ายได้ อย่างไรก็ดีราคาเหล่านี้ยังเป็การสะท้อนภาพความสำคัญของความเร็วในการเคลื่อนที่ในโลกของเกมหากไม่คำนึงถึงอาชีพ โดยปกติแล้วความเร็วในการเคลื่อนที่เป็คุณสมบัติที่สำคัญอย่างมากและไม่เคยมีใครสงสัยในเื่นี้ ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะอุปกรณ์สวมใส่ชิ้นไหนก็ตามตราบใดที่มันเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ มันจะเป็ของที่ดีที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ที่ดีที่สุด
“หัวหน้าครับ ผมมารับสัตว์ขี่” หลิงเฉินก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับนำจดหมายแนะนำของเ้าเมืองนครัครามออกมา
เมื่อได้ยินเสียงของหลิงเฉินในที่สุดชายชราขายม้าร่างเล็กก็ลืมตาขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นจดหมายในมือหลิงเฉินสุดท้ายดวงตาของเขาก็เบิกกว้างเต็มที่ เขาเหลือบมองไปที่หลิงเฉินจากนั้นจึงรับจดหมายฉบับนั้นมาอย่างระมัดระวัง หลังจากเปิดมัน เขารีบอ่านมันคร่าวๆอย่างรวดเร็วสองรอบ แล้วนั่งตัวตรง พร้อมกล่าวอย่างเคร่งเครียด “เนื่องจากมันเป็ความตั้งใจของท่านเ้าเมืองข้าจะให้เ้ายืมม้าหนึ่งตัวชั่วคราว”หลังจากพูดจบชายชราโบกมือมือของเขา ลำแสงสีขาวสาดลงบนร่างของหลิงเฉิน
“ดริ๊ง...คุณได้รับม้า ‘อาชาเหยียบเมฆา’ ขณะนี้อยู่ในช่องสัตว์ขี่ของคุณ”
เห้ย! อาชาเหยียบเมฆา! อาชาเหยียบเมฆาราคา 20,000 เหรียญทอง!
เมื่อพบกับของขวัญราคาแพงเช่นนี้ หลิงเฉินยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นไปชั่วครู่แต่ความตื่นเต้นคงอยู่แค่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นจากนั้นจึงถูกทำลายลงไปโดยเสียงแจ้งเตือนอย่างฉับพลัน
“ดริ๊ง...อาชาเหยียบเมฆาที่คุณได้รับเป็การให้ยืมชั่วคราวจากร้านสัตว์ขี่ถ้าคุณทำเควส ‘ตามหาหญ้าเปลวเพลิงทมิฬ’ สำเร็จ คุณก็ไม่จำเป็ต้องคืนมัน แต่หากคุณทำเควส ‘ตามหาหญ้าเปลวเพลิงทมิฬ’ ไม่สำเร็จแล้วล่ะก็คุณต้องส่งคืนอาชาเหยียบเมฆาหลังจากหนึ่งเดือนถ้าหากอาชาเหยียบเมฆาไม่ได้ถูกนำมาคืนเนื่องจากเสียชีวิตหรือเหตุผลอื่นใดเช่นนั้นเงินที่คุณมีจะค่อยๆ ถูกหักออกไปจนกระทั่งครบ 20,000 เหรียญทอง”
หลิงเฉิน : “บ้าเอ้ย! #¥%……”
นึกไม่ถึงว่าจะเป็แค่การหยิบยืม!
ทำไมขี้เหนียวอย่างนี้!
หลิงเฉินยิ้มยิงฟัน และไม่ได้พูดอะไรอีกเขาออกมาจากร้านสัตว์ขี่ในทันที เขามองดูเวลา ก่อนจะเขายกอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาและเชื่อมต่อหาหลิงสุ่ยรั่วซึ่งอยู่ไกลออกไปที่หมู่บ้านแห่งการเริ่มต้นหมายเลข 49554
“รั่วรั่ว ตอนนี้เธออยู่ไหนแล้ว?”
“หนูกำลังตีมอนสเตอร์ตัวเล็กๆ และทำเควสอยู่ค่ะเอ้อ...ใช่แล้ว พี่คะ พี่สาวเลเวลสูงสองคนบอกว่าพวกเธอ้าช่วยหนูเก็บเลเวลพี่สาวทั้งสองคนนี้ดูอ่อนโยนมาก แล้วยังช่วยหนูไล่ผู้ชายพวกนั้นที่้าเข้าใกล้หนูด้วยค่ะหนูควรจะตอบตกลงไหม?”
ถ้าผู้ชาย้าจะเข้าใกล้หลิงสุ่ยรั่วหลิงเฉินคงไม่ยอมแน่ๆ ตัวหลิงสุ่ยรั่วเองก็คงจะต่อต้านด้วยเพราะเธอรู้จักเสน่ห์ของเธอดี แต่ผู้หญิง...หญิงสาวเลเวลสูงสองคนนั้นทำไมพวกเธอถึงได้ตัดสินใจเข้าใกล้เด็กสาวที่เพิ่งเข้ามาเล่นเกม? หรือจะเป็…
"พวกเธอชื่ออะไร?"หลิงเฉินถาม
"ชื่อ อืม...คนหนึ่งชื่อว่าเยาหยิงส่วนอีกคนชื่อเชียนโม่ค่ะ"
เยาหยิงกับเชียนโม่...เป็แบบนี้นี่เองสีหน้าของหลิงเฉินผ่อนคลายลง เขากล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ"พวกเธอคงคิดว่ารั่วรั่วน่ารักมากๆ ซึ่งเป็เหตุผลที่ว่าทำไมพวกเธอถึงอยากจะพารั่วรั่วไปด้วยเช่นนั้นก็ตกลงกับพวกเธอไปเถอะ ด้วยความช่วยเหลือของพวกเธอเลเวลของรั่วรั่วจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากแน่ๆ"
"ตกลงค่ะ! ถ้างั้นหนูจะตอบตกลงเดี๋ยวนี้เลย"
ด้วยสองคนนั้นอยู่รอบๆ ความกังวลที่หลิงเฉินมีต่อสุ่ยรั่วก็ลดน้อยลงไปมากหลังจากที่คุยกันเสร็จ หลิงเฉินก็เรียกอาชาทะยานเฆฆาออกมาและขึ้นไปอยู่บนม้าด้วยการะโเพียงครั้งเดียวความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาพลันเพิ่มขึ้นอย่างมากเขาพุ่งตรงไปที่ประตูทางทิศตะวันออกของนครัครามเวลาหนึ่งเดือนเป็่เวลาที่ไม่ช้าไม่เร็วอย่างที่เ้าเมืองนครัครามกล่าวไว้ ก่อนจะไปที่สันเขาิญญาไร้เสียงสิ่งสำคัญที่สุดคือการเพิ่มเลเวลของเขาอย่างน้อยที่สุดเขาต้องเพิ่มเลเวลให้ไปถึงระดับที่สามารถสวมใส่ดาบวายุได้หลังจากสวมใส่ดาบวายุได้ ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แต้มสกิลปัจจุบัน: 2,180 แต้ม
การฆ่าลอร์ดบอสสามตัวรวมทั้งปักษาวายุในพื้นที่ทดสอบของเทพา หลิงเฉินได้รับแต้มสกิลมาเป็จำนวนมากแต้มสกิลเหล่านี้มากพอสำหรับเขาที่จะใช้ในการอัพสกิลพื้นฐานของอาชีพจิติญญาาได้หลายเลเวลพอสมควรเขาเปิดหน้าสกิล ภายหลังจากขบคิดสักพักหนึ่ง เขาก็เลือกใส่แต้มสกิล 1,600 แต้มไปที่ ‘เคล็ดศาสตราจักรพรรดิ’
“ดริ๊ง…สกิล ‘เคล็ดศาสตราจักรพรรดิ’ ของคุณได้รับการอัพเกรดเป็เลเวล 3 เรียบร้อยแล้ว”
[เคล็ดศาสตราจักรพรรดิ]: เลเวลปัจจุบัน: LV3 เลเวลสูงสุด: LV10 แต้มสกิลที่ใช้อัพเกรดเป็ LV4: 2,400 แต้ม เคล็ดต่อสู้โบราณ หลังจากการฝึกฝนอุปกรณ์สวมใส่ซึ่งมีเลเวลสูงกว่าเลเวลปัจจุบันของคุณจะสามารถสวมใส่ได้ ผล:ละเว้นเงื่อนไขเลเวลอุปกรณ์สวมใส่ใดๆ 3 เลเวล
เคล็ดศาสตราจักรพรรดิได้อัพเกรดขึ้นเป็ LV3 เช่นนี้เขาต้องรอให้เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นอีกแค่ 1 เลเวล แล้วเขาก็จะสามารถสวมใส่อุปกรณ์ LV15 ได้ รวมไปถึงดาบวายุด้วย
หลิงเฉินใส่แต้มสกิล 580แต้มไปที่ ‘ค่ายกลดาราจตุรทิศ’ ลำแสงเปล่งประกายขึ้นมา แล้ว ‘ค่ายกลดาราจตุรทิศ’ก็ได้รับการอัพเกรดเป็ LV3
[ค่ายกลดาราจตุรทิศ]: เลเวลปัจจุบัน: LV3 เลเวลสูงสุด: LV10 แต้มสกิลที่้าในการอัพเกรดเป็เลเวล 4: 800 แต้ม ใช้พลังของจิติญญาาะเิสิ่งรอบตัวและสร้างค่ายกลแห่งการทำลายล้างในรัศมี 10 เมตรรอบตัวเองในฉับพลันพลังจิติญญาาอันบ้าคลั่งจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้แก่เป้าหมายทั้งหมดที่อยู่ภายในค่ายกลค่าความเสียหายเท่ากับ 400% ของค่าความเสียหายปกติอัตราการโจมตีติดคริติคอล +10% มีโอกาส 100%ทำให้ศัตรูกระเด็นถอยหลัง การใช้ MP:100 หน่วย เวลาคูลดาวน์: 60 วินาที
พลังและอัตราการโจมตีติดคริติคอลของ ‘ค่ายกลดาราจตุรทิศ’ที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มขึ้นอีกครั้งและแต้มสกิลของเขาก็เหลืออยู่เพียงแค่ 80แต้มเท่านั้นหลังเสร็จสิ้นการจัดสรรแต้มสกิล หลิงเฉินก็เพิ่มความเร็วของเขาขึ้นอีกและมุ่งตรงไปยังประตูทางทิศตะวันออก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้