หลังจากที่ลู่จิ่งซานไล่คนออกไปแล้ว ก็ตักน้ำเข้ามาให้สวี่จือจือล้างหน้าล้างตา
เดิมทีสวี่จือจือคิดว่าเขาจะฉวยโอกาสทำอะไร แต่ที่ไหนได้พอเธอทำธุระส่วนตัวเสร็จ เขาก็ยกน้ำที่เธอใช้แล้วออกไปข้างนอก
รอจนสวี่จือจือใกล้จะเคลิ้มหลับ เขาก็กลับขึ้นมาบนเตียงพร้อมกับไอเย็น
สวี่จือจือรีบหลับตาแสร้งทำเป็นอนหลับ
ในภวังค์ เธอเหมือนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของชายหนุ่ม แต่เพราะเธอเหนื่อยล้าเกินไปจึงพลิกตัวหลับไปในที่สุด
เช้าวันรุ่งขึ้น สวี่จือจือตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังหนวกหูจากข้างนอก
“จิ่งซานเอ๊ย อย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย” เสียงแหลมเล็กของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากนอกประตู “ฉันได้ยินมาว่าเมียแกหายไป พวกฉันเลยรีบมาช่วยตามหาแต่เช้า”
“พวกเราคนเยอะ เดี๋ยวก็หาเจอแน่นอน”
ด้านหลังของเธอ ยังมีคนอีกหลายคนที่พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดนั้น
“ฉันว่านะ ผู้หญิงที่ไม่รักนวลสงวนตัวแบบนี้ สมควรจะหย่าทิ้ง” ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “จิ่งซานเป็เด็กดีขนาดนี้ เดี๋ยวให้ลุงหาคนที่ดีกว่ามาให้แก”
ลุงของลู่จิ่งซาน?
สวี่จือจือรู้สึกงุนงงเล็กน้อย ได้ยินเพียงลู่จิ่งซานพูดอย่างตรงไปตรงมา “แม่ของผมไม่มีพี่น้อง”
“เ้าหนูคนนี้ยังชอบเล่นตลกอยู่เรื่อย” ชายอีกคนหัวเราะพลางตบไหล่เขา
“พี่ใหญ่พูดถูก” ผู้หญิงคนเดิมกล่าว “จิ่งซานไม่ต้องอายไป พวกเราได้ยินมาหมดแล้วว่าเมียแกหนีไปเมื่อคืน”
ลู่จิ่งซานขมวดคิ้วเล็กน้อย
ยัยเด็กนั่นนอนไม่นิ่งเลยจริงๆ ตอนแรกยังนอนห่างจากเขาเป็เส้นแบ่ง พอไม่ทันไรก็มาซบเขาซะแล้ว ทำให้เขาแทบจะไม่ได้นอนทั้งคืน
ถ้าไม่ได้มั่นใจว่าเธอเป็คนนอนดิ้นจริงๆ ลู่จิ่งซานคงคิดว่าสวี่จือจือแกล้งทำเป็แน่
กว่าจะทนจนถึงเช้า แต่กลับไม่คิดว่าคนจากบ้านตระกูลเหอจะ ‘ขยันขันแข็ง’ ถึงเพียงนี้
“จิ่งซาน เื่มันยังไงกันแน่?” คุณนายลู่ถามด้วยสีหน้าถมึงทึง
เมื่อวานยังเห็นว่ายัยเด็กนั่นดูว่านอนสอนง่ายดี หรือว่าที่จริงแล้วแค่แกล้งทำเพื่อให้พวกเธอตายใจ แล้วหาทางหนีในตอนกลางคืน?
“คุณย่า” ลู่จิ่งซานกล่าว “ไม่มีอะไรหรอกครับ อย่าไปฟังคนอื่นพูดไร้สาระ”
“จิ่งซาน พวกเราเป็ผู้ชายด้วยกัน เข้าใจกันดี” พี่ใหญ่เหอกล่าว “เื่เมียหนีในคืนเข้าหอมันน่าอับอาย”
“แต่เราจะมามัวซุกซ่อนเื่น่าอายแบบนี้ไม่ได้”
“ผู้หญิงแพศยาแบบนี้ต้องจับมาประจาน!”
“ถูกต้อง ต้องแขวนป้ายประจานให้มันได้อับอาย” เสียงพูดของผู้หญิงแหลมแสบหู
“อะไรกัน ทำไมต้องแขวนป้ายประจาน” ลู่ซือหยวนพูดเสียงดัง “น้าเสวี่ยฮวา เอาแต่ชอบแขวนป้ายประจานคนอื่นไปทั่ว ไม่ดูบ้างเลยว่าที่นี่บ้านใคร?”
นี่มันบ้านตระกูลลู่นะ!
“ก็ในเมื่อมีเมียไม่รักดีแบบนี้ก็สมควรที่จะโดนประจาน!” เหอเสวี่ยฮวากอดอกพูดด้วยความขุ่นเคือง
บ้านตระกูลลู่แล้วยังไง? ในเมื่อมีเมียไร้ยางอายแบบนี้ก็สมควรที่จะถูกประณาม!
“น้ารองของซานซาน” จ้าวลี่เจวียนขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย “ใครหายไปไหนกัน?”
“เมียจิ่งซานยังไงล่ะ” เหอเสวี่ยฮวากลอกตา “คนทั้งหมู่บ้านรู้กันหมดแล้วนะ? บอกว่าเมื่อคืนพวกเธอไม่ให้ใครมาป่วนห้องหอ”
ที่ไม่ให้ป่วนห้องหอก็เพราะเื่นี้?
ไม่ใช่เพราะเห็นสวี่จือจือนั่งคร่อมอยู่บนตัวลู่จิ่งซาน จนทำให้พวกที่อยากจะมาดูเื่สนุกถูกลู่จิ่งซานไล่กลับไปเหรอ?
เมื่อคืนคุณนายลู่นอนเร็วก็อาจจะไม่รู้ แต่พวกเธอรู้เื่ทั้งหมด
ฉากนั้น ช่าง...เสียเหลือเกิน!
“จิ่งซาน เื่มันยังไงกันแน่?” ลู่หวยเหรินถามด้วยสีหน้าถมึงทึง “ที่น้ารองของแกพูดมามันจริงหรือเปล่า?”
“เมียแกหนีไปแล้วจริงๆ หรือ?” ลู่หวยเหรินขมวดคิ้ว
เมื่อคืนเขานอนเร็ว เหอเสวี่ยฉินไม่ได้กลับมาทั้งคืน เขาว่าจะออกไปตามหา แต่ยังไม่ทันออกไปไหน ก็เจอคนจากบ้านตระกูลเหอมาเสียก่อน
“แม่ของผมไม่มีพี่น้อง” ลู่จิ่งซานเหลือบมองเขา แล้วมองไปยังคนที่อยู่ในลานบ้านด้วยท่าทีเยาะเย้ย “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าพวกเขามั่นใจได้ยังไงว่าเมียผมหนีไปแล้ว?”
“ก็...ไม่ใช่ว่าคนทั้งหมู่บ้านพูดกันอย่างนั้นเหรอ?” พี่ใหญ่เหอหลบสายตา
“คุณอาผู้ขยันขันแข็ง” ลู่ซือหยวนหัวเราะ เดิมทีเธอก็เสียงดังอยู่แล้ว พอได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็เหมือนได้ยินเื่ตลก “ทำไมถึงพูดกันไปทั่วได้ล่ะ? ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณมาเคาะประตู บ้านเราก็ยังนอนหลับกันอยู่เลยนะ”
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยฉลาด แต่ก็พอจะรู้ว่าคนจากบ้านตระกูลเหอมาแต่เช้าแบบนี้ไม่ใช่เื่ดี ยิ่งไปกว่านั้นน้องสะใภ้ก็ไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย
ตามสัญชาตญาณแล้ว ลู่ซือหยวนก็อยากจะโต้ตอบกลับไป นี่มันพูดจาเหลวไหลชัดๆ
“เื่พวกนั้นไม่สำคัญหรอก” พี่รองเหอยิ้ม “สิ่งสำคัญก็คือเราต้องรีบตามหาคนให้เจอ”
ถ้าพวกเขาสามารถออกไปตามหาได้ ก็จะทำให้คนทั้งหมู่บ้านรู้เื่นี้ ถึงตอนนั้นจะตามหาคนที่ปล่อยข่าวลือคนแรกได้เหรอ?
ไม่มีทาง!
“ขอถามหน่อยนะคะ” ในตอนนั้นเองก็มีศีรษะเล็กๆ โผล่ออกมาจากด้านหลังของลู่จิ่งซาน เด็กสาวดูเหมือนยังงัวเงียอยู่ มองทุกคนด้วยความสงสัย “เมียที่พวกคุณพูดถึงกัน ใช่ฉันหรือเปล่าคะ?”
เธอยกนิ้วชี้มาที่ตัวเอง พลางพูดด้วยน้ำเสียงแ่เบา “หมายถึงฉันหนีไปแล้วใช่ไหมคะ?”
เหอเสวี่ยฮวา “...นังเด็กปีศาจ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้!”
“นังปีศาจแก่ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้” สวี่จือจือเบิกตากว้างมองเหอเสวี่ยฮวาด้วยความประหลาดใจ
“แก...นังเด็กเหลือขอ แกกล้าด่าฉันเหรอ!” ใบหน้ากลมเหมือนขนมแป้งแผ่นของเหอเสวี่ยฮวาดำคล้ำ
นังปีศาจแก่! เธอออกจะยังสาวอยู่แท้ๆ!
“อ้อ” สวี่จือจือเบิกตากลมโตด้วยความสงสัย “ฉันไม่ได้ด่าใครนะ แค่ทักทายตามที่คุณสอนฉันเมื่อกี้ต่างหาก”
ให้ตายเถอะ! นี่มันเป็การทักทายที่ไหนกัน? นี่มันเด็กปัญญาอ่อนชัดๆ!
เหอเสวี่ยฮวา “...พี่เขย พี่ดูมันสิ”
“นี่ใครเหรอคะ?” สวี่จือจือเอียงคอถามลู่จิ่งซานด้วยความสงสัย พลางกระซิบถาม “อายุปูนนี้แล้ว ทำไมยังมาออดอ้อนคุณพ่อแบบนี้อีก?”
ไม่รู้สึกอายบ้างเลยหรือยังไง
“แค่กๆ...” ลู่หวยเหรินสำลักน้ำลายตัวเอง คำพูดนี้ทำไมมันฟังดูแปลกๆ อย่างนี้นะ?
ใบหน้ากลมของเหอเสวี่ยฮวา...จะให้มองว่ากำลังออดอ้อนก็ดูจะไม่เข้ากันเลย!
“เมื่อกี้พวกคุณบอกว่าใครหายไปไหนเหรอคะ?” สวี่จือจือยิ้ม “หรือว่าจะเป็น้าเหอหายไปคะ? พวกคุณถึงได้มาหาทวงบัญชี...กับคุณพ่อ?”
“นั่นน่ะสิ น้องสามี” จ้าวลี่เจวียนหัวเราะ “ทำไมถึงป่านนี้แล้วยังไม่เห็นน้องสะใภ้รองออกมาเลย? เสวี่ยฉินไปไหนล่ะ?”
ลู่หวยเหรินเงียบ ไม่พูดอะไร
เขาเองก็ไม่รู้ว่าเหอเสวี่ยฉินไปไหน เธอไม่กลับมาทั้งคืน
“เมื่อวานเหนื่อยมากไปหน่อย เลยไม่ค่อยสบาย ตอนนี้...ตอนนี้ยังนอนพักอยู่บนเตียง” ลู่หวยเหรินกล่าวด้วยสีหน้าถมึงทึง
“ไม่สบาย!” สวี่จือจือพูดด้วยความเห็นใจ “ถ้าอย่างนั้นหนูไปดูหน่อยดีกว่า เพื่อให้พวกเราแต่งงาน น้าเหอถึงกับเหนื่อยขนาดนี้”
“ไม่ต้องไปหรอก” ลู่หวยเหรินรีบพูด “ให้เธอพักผ่อนไปเถอะ”
“คุณพ่อคะ มีอาการป่วยก็ต้องไปหาหมอ อย่าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้เลยนะคะ” สวี่จือจือพูดด้วยความจริงใจ “ไม่อย่างนั้นอาการเล็กน้อยก็จะกลายเป็อาการหนักได้”
“ไม่ได้ป่วยสักหน่อย แค่เหนื่อยเฉยๆ” ลู่หวยเหรินกล่าว
“อย่างนั้นหนูก็ยิ่งต้องไปดูแล้วสิคะ” สวี่จือจือกล่าว “ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะว่าพวกเราที่เป็ผู้เยาว์ที่ไม่มีสัมมาคารวะ”
ลู่หวยเหริน “ฉันบอกว่าไม่ต้องไปดูไง” พลางจ้องมองสวี่จือจืออย่างโกรธเคือง จนเธอต้องรีบหลบไปอยู่ด้านหลังของลู่จิ่งซาน
พลางพูดด้วยความน้อยอกน้อยใจ “หนูก็แค่หวังดี คุณพ่อมาตะคอกใส่หนูแบบนี้ หรือว่าน้าเหอหายไปจริงๆ กันแน่คะ?” ถึงได้รู้สึกกระวนกระวาย!
ทุกคนที่ถูกคนจากบ้านตระกูลเหอดึงออกมากินแตงแต่เช้า “...”
แล้วมองไปที่ศีรษะของลู่หวยเหรินที่เหมือนจะมีแสงสีเขียวอ่อนเปล่งประกายออกมา!
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้