ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยปากแซ่บ ผู้ใช้วาจานำโชคในยุค 70

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     หลังจากที่ลู่จิ่งซานไล่คนออกไปแล้ว ก็ตักน้ำเข้ามาให้สวี่จือจือล้างหน้าล้างตา

        เดิมทีสวี่จือจือคิดว่าเขาจะฉวยโอกาสทำอะไร แต่ที่ไหนได้พอเธอทำธุระส่วนตัวเสร็จ เขาก็ยกน้ำที่เธอใช้แล้วออกไปข้างนอก

        รอจนสวี่จือจือใกล้จะเคลิ้มหลับ เขาก็กลับขึ้นมาบนเตียงพร้อมกับไอเย็น

        สวี่จือจือรีบหลับตาแสร้งทำเป็๞นอนหลับ

        ในภวังค์ เธอเหมือนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของชายหนุ่ม แต่เพราะเธอเหนื่อยล้าเกินไปจึงพลิกตัวหลับไปในที่สุด

        เช้าวันรุ่งขึ้น สวี่จือจือตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังหนวกหูจากข้างนอก

        “จิ่งซานเอ๊ย อย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย” เสียงแหลมเล็กของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากนอกประตู “ฉันได้ยินมาว่าเมียแกหายไป พวกฉันเลยรีบมาช่วยตามหาแต่เช้า”

        “พวกเราคนเยอะ เดี๋ยวก็หาเจอแน่นอน”

        ด้านหลังของเธอ ยังมีคนอีกหลายคนที่พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดนั้น

        “ฉันว่านะ ผู้หญิงที่ไม่รักนวลสงวนตัวแบบนี้ สมควรจะหย่าทิ้ง” ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “จิ่งซานเป็๞เด็กดีขนาดนี้ เดี๋ยวให้ลุงหาคนที่ดีกว่ามาให้แก”

        ลุงของลู่จิ่งซาน?

        สวี่จือจือรู้สึกงุนงงเล็กน้อย ได้ยินเพียงลู่จิ่งซานพูดอย่างตรงไปตรงมา “แม่ของผมไม่มีพี่น้อง”

        “เ๽้าหนูคนนี้ยังชอบเล่นตลกอยู่เรื่อย” ชายอีกคนหัวเราะพลางตบไหล่เขา

        “พี่ใหญ่พูดถูก” ผู้หญิงคนเดิมกล่าว “จิ่งซานไม่ต้องอายไป พวกเราได้ยินมาหมดแล้วว่าเมียแกหนีไปเมื่อคืน”

        ลู่จิ่งซานขมวดคิ้วเล็กน้อย

        ยัยเด็กนั่นนอนไม่นิ่งเลยจริงๆ ตอนแรกยังนอนห่างจากเขาเป็๞เส้นแบ่ง พอไม่ทันไรก็มาซบเขาซะแล้ว ทำให้เขาแทบจะไม่ได้นอนทั้งคืน

        ถ้าไม่ได้มั่นใจว่าเธอเป็๲คนนอนดิ้นจริงๆ ลู่จิ่งซานคงคิดว่าสวี่จือจือแกล้งทำเป็๲แน่

        กว่าจะทนจนถึงเช้า แต่กลับไม่คิดว่าคนจากบ้านตระกูลเหอจะ ‘ขยันขันแข็ง’ ถึงเพียงนี้

        “จิ่งซาน เ๱ื่๵๹มันยังไงกันแน่?” คุณนายลู่ถามด้วยสีหน้าถมึงทึง

        เมื่อวานยังเห็นว่ายัยเด็กนั่นดูว่านอนสอนง่ายดี หรือว่าที่จริงแล้วแค่แกล้งทำเพื่อให้พวกเธอตายใจ แล้วหาทางหนีในตอนกลางคืน?

        “คุณย่า” ลู่จิ่งซานกล่าว “ไม่มีอะไรหรอกครับ อย่าไปฟังคนอื่นพูดไร้สาระ”

        “จิ่งซาน พวกเราเป็๞ผู้ชายด้วยกัน เข้าใจกันดี” พี่ใหญ่เหอกล่าว “เ๹ื่๪๫เมียหนีในคืนเข้าหอมันน่าอับอาย”

        “แต่เราจะมามัวซุกซ่อนเ๱ื่๵๹น่าอายแบบนี้ไม่ได้”

        “ผู้หญิงแพศยาแบบนี้ต้องจับมาประจาน!”

        “ถูกต้อง ต้องแขวนป้ายประจานให้มันได้อับอาย” เสียงพูดของผู้หญิงแหลมแสบหู

        “อะไรกัน ทำไมต้องแขวนป้ายประจาน” ลู่ซือหยวนพูดเสียงดัง “น้าเสวี่ยฮวา เอาแต่ชอบแขวนป้ายประจานคนอื่นไปทั่ว ไม่ดูบ้างเลยว่าที่นี่บ้านใคร?”

        นี่มันบ้านตระกูลลู่นะ!

        “ก็ในเมื่อมีเมียไม่รักดีแบบนี้ก็สมควรที่จะโดนประจาน!” เหอเสวี่ยฮวากอดอกพูดด้วยความขุ่นเคือง

        บ้านตระกูลลู่แล้วยังไง? ในเมื่อมีเมียไร้ยางอายแบบนี้ก็สมควรที่จะถูกประณาม!

        “น้ารองของซานซาน” จ้าวลี่เจวียนขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย “ใครหายไปไหนกัน?”

        “เมียจิ่งซานยังไงล่ะ” เหอเสวี่ยฮวากลอกตา “คนทั้งหมู่บ้านรู้กันหมดแล้วนะ? บอกว่าเมื่อคืนพวกเธอไม่ให้ใครมาป่วนห้องหอ”

        ที่ไม่ให้ป่วนห้องหอก็เพราะเ๹ื่๪๫นี้?

        ไม่ใช่เพราะเห็นสวี่จือจือนั่งคร่อมอยู่บนตัวลู่จิ่งซาน จนทำให้พวกที่อยากจะมาดูเ๱ื่๵๹สนุกถูกลู่จิ่งซานไล่กลับไปเหรอ?

        เมื่อคืนคุณนายลู่นอนเร็วก็อาจจะไม่รู้ แต่พวกเธอรู้เ๹ื่๪๫ทั้งหมด

        ฉากนั้น ช่าง...เสียเหลือเกิน!

        “จิ่งซาน เ๹ื่๪๫มันยังไงกันแน่?” ลู่หวยเหรินถามด้วยสีหน้าถมึงทึง “ที่น้ารองของแกพูดมามันจริงหรือเปล่า?”

        “เมียแกหนีไปแล้วจริงๆ หรือ?” ลู่หวยเหรินขมวดคิ้ว

        เมื่อคืนเขานอนเร็ว เหอเสวี่ยฉินไม่ได้กลับมาทั้งคืน เขาว่าจะออกไปตามหา แต่ยังไม่ทันออกไปไหน ก็เจอคนจากบ้านตระกูลเหอมาเสียก่อน

        “แม่ของผมไม่มีพี่น้อง” ลู่จิ่งซานเหลือบมองเขา แล้วมองไปยังคนที่อยู่ในลานบ้านด้วยท่าทีเยาะเย้ย “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าพวกเขามั่นใจได้ยังไงว่าเมียผมหนีไปแล้ว?”

        “ก็...ไม่ใช่ว่าคนทั้งหมู่บ้านพูดกันอย่างนั้นเหรอ?” พี่ใหญ่เหอหลบสายตา

        “คุณอาผู้ขยันขันแข็ง” ลู่ซือหยวนหัวเราะ เดิมทีเธอก็เสียงดังอยู่แล้ว พอได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็เหมือนได้ยินเ๱ื่๵๹ตลก “ทำไมถึงพูดกันไปทั่วได้ล่ะ? ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณมาเคาะประตู บ้านเราก็ยังนอนหลับกันอยู่เลยนะ”

        ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยฉลาด แต่ก็พอจะรู้ว่าคนจากบ้านตระกูลเหอมาแต่เช้าแบบนี้ไม่ใช่เ๹ื่๪๫ดี ยิ่งไปกว่านั้นน้องสะใภ้ก็ไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย

        ตามสัญชาตญาณแล้ว ลู่ซือหยวนก็อยากจะโต้ตอบกลับไป นี่มันพูดจาเหลวไหลชัดๆ

        “เ๹ื่๪๫พวกนั้นไม่สำคัญหรอก” พี่รองเหอยิ้ม “สิ่งสำคัญก็คือเราต้องรีบตามหาคนให้เจอ”

        ถ้าพวกเขาสามารถออกไปตามหาได้ ก็จะทำให้คนทั้งหมู่บ้านรู้เ๱ื่๵๹นี้ ถึงตอนนั้นจะตามหาคนที่ปล่อยข่าวลือคนแรกได้เหรอ?

        ไม่มีทาง!

        “ขอถามหน่อยนะคะ” ในตอนนั้นเองก็มีศีรษะเล็กๆ โผล่ออกมาจากด้านหลังของลู่จิ่งซาน เด็กสาวดูเหมือนยังงัวเงียอยู่ มองทุกคนด้วยความสงสัย “เมียที่พวกคุณพูดถึงกัน ใช่ฉันหรือเปล่าคะ?”

        เธอยกนิ้วชี้มาที่ตัวเอง พลางพูดด้วยน้ำเสียงแ๵่๭เบา “หมายถึงฉันหนีไปแล้วใช่ไหมคะ?”

        เหอเสวี่ยฮวา “...นังเด็กปีศาจ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้!”

        “นังปีศาจแก่ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้” สวี่จือจือเบิกตากว้างมองเหอเสวี่ยฮวาด้วยความประหลาดใจ

        “แก...นังเด็กเหลือขอ แกกล้าด่าฉันเหรอ!” ใบหน้ากลมเหมือนขนมแป้งแผ่นของเหอเสวี่ยฮวาดำคล้ำ

        นังปีศาจแก่! เธอออกจะยังสาวอยู่แท้ๆ!

        “อ้อ” สวี่จือจือเบิกตากลมโตด้วยความสงสัย “ฉันไม่ได้ด่าใครนะ แค่ทักทายตามที่คุณสอนฉันเมื่อกี้ต่างหาก”

        ให้ตายเถอะ! นี่มันเป็๞การทักทายที่ไหนกัน? นี่มันเด็กปัญญาอ่อนชัดๆ!

        เหอเสวี่ยฮวา “...พี่เขย พี่ดูมันสิ”

        “นี่ใครเหรอคะ?” สวี่จือจือเอียงคอถามลู่จิ่งซานด้วยความสงสัย พลางกระซิบถาม “อายุปูนนี้แล้ว ทำไมยังมาออดอ้อนคุณพ่อแบบนี้อีก?”

        ไม่รู้สึกอายบ้างเลยหรือยังไง

        “แค่กๆ...” ลู่หวยเหรินสำลักน้ำลายตัวเอง คำพูดนี้ทำไมมันฟังดูแปลกๆ อย่างนี้นะ?

        ใบหน้ากลมของเหอเสวี่ยฮวา...จะให้มองว่ากำลังออดอ้อนก็ดูจะไม่เข้ากันเลย!

        “เมื่อกี้พวกคุณบอกว่าใครหายไปไหนเหรอคะ?” สวี่จือจือยิ้ม “หรือว่าจะเป็๞น้าเหอหายไปคะ? พวกคุณถึงได้มาหาทวงบัญชี...กับคุณพ่อ?”

        “นั่นน่ะสิ น้องสามี” จ้าวลี่เจวียนหัวเราะ “ทำไมถึงป่านนี้แล้วยังไม่เห็นน้องสะใภ้รองออกมาเลย? เสวี่ยฉินไปไหนล่ะ?”

        ลู่หวยเหรินเงียบ ไม่พูดอะไร

        เขาเองก็ไม่รู้ว่าเหอเสวี่ยฉินไปไหน เธอไม่กลับมาทั้งคืน

        “เมื่อวานเหนื่อยมากไปหน่อย เลยไม่ค่อยสบาย ตอนนี้...ตอนนี้ยังนอนพักอยู่บนเตียง” ลู่หวยเหรินกล่าวด้วยสีหน้าถมึงทึง

        “ไม่สบาย!” สวี่จือจือพูดด้วยความเห็นใจ “ถ้าอย่างนั้นหนูไปดูหน่อยดีกว่า เพื่อให้พวกเราแต่งงาน น้าเหอถึงกับเหนื่อยขนาดนี้”

        “ไม่ต้องไปหรอก” ลู่หวยเหรินรีบพูด “ให้เธอพักผ่อนไปเถอะ”

        “คุณพ่อคะ มีอาการป่วยก็ต้องไปหาหมอ อย่าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้เลยนะคะ” สวี่จือจือพูดด้วยความจริงใจ “ไม่อย่างนั้นอาการเล็กน้อยก็จะกลายเป็๲อาการหนักได้”

        “ไม่ได้ป่วยสักหน่อย แค่เหนื่อยเฉยๆ” ลู่หวยเหรินกล่าว

        “อย่างนั้นหนูก็ยิ่งต้องไปดูแล้วสิคะ” สวี่จือจือกล่าว “ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะว่าพวกเราที่เป็๲ผู้เยาว์ที่ไม่มีสัมมาคารวะ”

        ลู่หวยเหริน “ฉันบอกว่าไม่ต้องไปดูไง” พลางจ้องมองสวี่จือจืออย่างโกรธเคือง จนเธอต้องรีบหลบไปอยู่ด้านหลังของลู่จิ่งซาน

        พลางพูดด้วยความน้อยอกน้อยใจ “หนูก็แค่หวังดี คุณพ่อมาตะคอกใส่หนูแบบนี้ หรือว่าน้าเหอหายไปจริงๆ กันแน่คะ?” ถึงได้รู้สึกกระวนกระวาย!

        ทุกคนที่ถูกคนจากบ้านตระกูลเหอดึงออกมากินแตงแต่เช้า “...”

        แล้วมองไปที่ศีรษะของลู่หวยเหรินที่เหมือนจะมีแสงสีเขียวอ่อนเปล่งประกายออกมา!

        .............................

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้