หยวนป้าเทียนได้เจอเย่เฟิงอีกครั้งพลันรอยยิ้มเย็นะเืปรากฏบนใบหน้า
“ข้านึกออกแล้ว หมอนี่น่าจะเป็เย่เฟิงที่พวกเราเจอที่เทือกเขาเทียนซี!” ม่อหลี่กล่าว เมื่อจำเย่เฟิงได้ สีหน้าก็กลายเป็เ็า
พวกเขาเพิ่งถึงอาณาจักรจ้าวไม่นาน แต่ไม่คิดว่าจะเจอเย่เฟิง โลกใบนี้ช่างกลมเสียจริง ๆ
เมิ่งยวี่ฉิงกะพริบตาปริบ ๆ เมื่อครู่นางเห็นแผ่นหลังของเย่เฟิงก็รู้สึกคุ้น ๆ แต่พอได้ยินหยวนป้าเทียนกับม่อหลี่พูดมาเช่นนั้น ก็แน่ใจทันทีว่าเ้าของแผ่นหลังนั้นก็คือเย่เฟิง
“ตบะของเขาน่าจะขั้นรวมชี่ที่ 8 ขึ้นไปแล้ว!” เมิ่งยวี่ฉิงคิดในใจ นางเคยเจอเย่เฟิงที่เทือกเขาเทียนซี ตอนนั้นนางรู้สึกชื่นชมเย่เฟิงมาก แม้จะอยู่ขั้นรวมชี่ที่ 5 แต่กลับแสดงศักยภาพออกมาได้ไม่เลว
บัดนี้เวลาผ่านมาไม่ถึงสามเดือน เมิ่งยวี่ฉิงได้เจอเย่เฟิงอีกครั้ง นางจึงคิดว่าเย่เฟิงน่าจะบรรลุขั้นรวมชี่ที่ 8 แล้ว อาจกล่าวได้ว่านี่เป็การประเมินเย่เฟิงไว้สูงมาก
“หมอนี่ชิงผลึกิญญาไป บัญชีนี้ต้องสะสางเสียหน่อยแล้ว!” ม่อหลี่กล่าวเสียงเย็น
“พวกเราไปดูกันเถอะ!”
หยวนป้าหยวนกล่าวกับม่อหลี่ พร้อมแสงเยือกเย็นปะทุออกจากดวงตา จากนั้นทั้งสองคนเดินไปยังทิศทางที่เย่เฟิงอยู่
เย่เฟิงออกจากวังหลวงก็มุ่งหน้าสู่สำนักยุทธ์เทียนเสวียนทันที แต่ขณะนั้นเขารู้สึกว่ามีพลังสองสายตรึงร่างเขาไว้ นาทีต่อมาได้ยินเสียงเย็นเยือกดังเข้ามาในหูของเย่เฟิง “หยุดนะ!”
เย่เฟิงขมวดคิ้ว เมื่อเขาเห็นโฉมหน้าของผู้มาสองคนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ไม่นึกว่าจะเป็พวกเ้า หาข้ามีธุระอันใด?”
“สวะ ในที่สุดข้าก็หาเ้าพบ เ้าชิงผลึกิญญาของพวกข้าแล้วหนีไป เ้าว่าข้า้าสิ่งใดล่ะ?”
หยวนป้าเทียนกล่าวขณะมองเย่เฟิง บัดนี้เขาบรรลุขั้นยุทธ์แท้แล้ว การจะจัดการเย่เฟิงเพียงคนเดียวก็ย่อมเป็เื่ง่าย ๆ
“ส่งผลึกิญญามาซะ ถ้าไม่ ก็เอาชีวิตเ้ามาแทน!”
ม่อหลี่กล่าวด้วยเสียงเย็นอย่างแข็งกร้าว ซึ่งเสียงเอะอะโวยวายทางด้านนี้ทำให้ผู้คนรอบข้างเข้ามามุงดูด้วยความสนใจ
“ไปให้พ้น!” เสียงเย็นะเืดังออกจากปากเย่เฟิง เหมือนไม่อยากคุยกับสองคนนี้
“สวะ รนหาที่ตายเสียแล้ว ข้ากับพี่หยวนบรรลุขั้นยุทธ์แท้แล้ว ฆ่าเ้าก็ทำได้ง่าย ๆ เ้ายังไม่รีบกลับคำพูดอีก คุกเข่าขอโทษข้าเดี๋ยวนี้!”
ม่อหลี่มองเย่เฟิงด้วยสายตาเหยียดหยาม คิดว่าเขาที่อยู่ขั้นยุทธ์แท้ไม่ใช่คนที่เย่เฟิงจะต่อกรด้วยได้ จึงแสดงท่าทีมั่นใจเต็มเปี่ยม
“ข้าบอกให้เ้าไสหัวไปไง ไม่ได้ยินหรือ?”
เย่เฟิงมองม่อหลี่ด้วยสายตาน่าหวาดกลัว ราวกับเป็ดวงตาแห่งความตาย เมื่อม่อหลี่สบตามองเย่เฟิง ก็รู้สึกใจสั่นขึ้นมาทันใด ก่อนจะถอยหลังไปเองอย่างช่วยไม่ได้ คล้ายรู้สึกสั่นกลัวจากจิติญญา
“คนไร้ค่า ข้ามองแวบเดียวเ้าก็รับไม่ได้ มีสิทธิ์อะไรมาทำตัวอวดดีต่อหน้าข้า?” เย่เฟิงกล่าวเย้ยหยันพร้อมแสยะยิ้มเย็นะเื
เพราะเหตุนี้ม่อหลี่จึงะเิโทสะออกมา ก่อนะโว่า “หาที่ตาย!”
เมื่อสิ้นเสียง ม่อหลี่ก็เหวี่ยงหมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งขั้นยุทธ์แท้โจมตีเย่เฟิงทันที
เย่เฟิงขมวดคิ้ว เขารู้ดีว่าตัวเองจะไม่สั่งสอนม่อหลี่ก็ไม่ได้ ดังนั้นฝ่ามือใหญ่จึงคว้าไปที่หมัดของม่อหลี่ นาทีนี้ม่อหลี่รู้สึกว่ามีบางอย่างปกคลุมหมัดของตน ก่อนจะมีพลังอันแกร่งกล้าตรึงหมัดของเขาไว้ที่กลางอากาศ มิอาจเคลื่อนไปข้างหน้าได้อีก
“หน้าไม่อาย แค่นี้ก็ทำอะไรข้าไม่ได้!”
เย่เฟิงมองม่อหลี่ด้วยสายตาเย้ยหยัน ขณะกล่าวเช่นนั้น เย่เฟิงออกแรงที่มือ ตามมาด้วยเสียงดังกร๊อบ พร้อมเสียงกรีดร้องดังออกจากปากม่อหลี่ แขนข้างหนึ่งถูกเย่เฟิงหักจนเห็นกระดูกขาว ๆ โผล่ออกมาให้เห็น
ฉากนี้ทำให้หยวนป้าเทียนที่อยู่ข้าง ๆ ตื่นใ และเผยสีหน้าเกินคาด เขาคิดว่าเย่เฟิงอยู่ขั้นรวมชี่ที่ 7 แต่เห็นทีตอนนี้เย่เฟิงจะบรรลุขั้นยุทธ์แท้แล้วเหมือนกัน ทั้งยังมีพลังต่อสู้ที่ทรงอานุภาพเหนือความคาดหมายของหยวนป้าเทียนไปมาก
“ไม่นึกว่าศักยภาพของเ้าจะก้าวหน้าเร็วเพียงนี้ แต่ว่าเ้าก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่ตนทำลงไป!”
แสงเยือกเย็นปะทุออกจากดวงตาหยวนป้าเทียน เขาแข็งแกร่งกว่าม่อหลี่ ทั้งยังอยู่ขั้นยุทธ์แท้ที่ 1 สูงสุด เขาจึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องกลัวเย่เฟิง
จากนั้นหยวนป้าเทียนอัดพลังหยวนใส่ฝ่ามือ ก่อนฝ่ามือใหญ่ที่เปี่ยมด้วยพลังมหาศาลจะเข้าโจมตีเย่เฟิง พัดพาให้สายลมกระโชก
“ไปให้พ้น!”
เย่เฟิงแผดเสียงะโด้วยโทสะ จากนั้นวาดฝ่ามือโจมตีเช่นกัน ก่อนจะเข้าปะทะกับฝ่ามือของหยวนป้าเทียนในพริบตา
“ปัง!”
เสียงะเิดังสนั่น พลังฝ่ามือของเย่เฟิงเกินสองแสนจิน พลังอันน่าสะพรึงกลัวจึงถาโถมใส่ร่างหยวนป้าเทียนทันที ทำให้หยวนป้าเทียนส่งเสียงโอดครวญ จนร่างกระเด็นออกไปพร้อมกระอักเื
“เป็ไปได้ยังไง? เวลาไม่ถึงสามเดือน เขาจะก้าวหน้าขนาดนี้ได้ยังไง?”
หยวนป้าเทียนมองเย่เฟิงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก มดแมลงที่พวกเขาเคยดูถูกเหยียดหยาม บัดนี้แข็งแกร่งขึ้นจนซัดเขากระเด็นได้แล้ว ช่างน่าขันนักที่เขาคิดว่าบรรลุขั้นยุทธ์แท้แล้วจะกำราบเย่เฟิงได้ แต่หารู้ไม่ว่าช่องว่างระหว่างเขากับเย่เฟิงมันห่างกันมากโข
ขณะเดียวกันเมิ่งยวี่ฉิงและมู่หรงเฟิงก็มาทางด้านนี้เช่นกัน เมื่อเห็นหยวนป้าเทียนกับม่อหลี่นอนอยู่บนพื้นในสภาพดูไม่ได้ เมิ่งยวี่ฉิงก็ต้องใอย่างมาก จนยกมือปิดปากอย่างช่วยไม่ได้ คล้ายไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเอง
หยวนป้าเทียนและม่อหลี่นั้นบรรลุขั้นยุทธ์แท้แล้ว พลังต่อสู้จึงแข็งแกร่งกว่าในอดีตไม่รู้กี่เท่า ส่วนเย่เฟิง ตอนที่เจอในเทือกเขาเทียนซี เย่เฟิงก็เพิ่งอยู่ขั้นรวมชี่ที่ 5 เอง และเมื่อครู่นางก็ประเมินชายผู้นี้ไว้สูงมากแล้วว่าตอนนี้เย่เฟิงน่าจะอยู่ขั้นรวมชี่ที่ 8
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเมิ่งยวี่ฉิงจะประเมินเย่เฟิงต่ำไป ซึ่งหยวนป้าเทียนและม่อหลี่ที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้นก็เป็ตัวพิสูจน์ที่ดีที่สุด
“หรือ... หรือเขาจะบรรลุขั้นยุทธ์แท้แล้ว?” เมิ่งยวี่ฉิงคิดในใจขณะมองเย่เฟิงด้วยสายตาตะลึง
ยังไม่ถึงสามเดือน เย่เฟิงจากผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 5 ก็เป็ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้แล้วอย่างนั้นหรือ? หากเป็เช่นนี้ความเร็วในการบำเพ็ญตบะของเย่เฟิงน่าสะพรึงกลัวแค่ไหนกันแน่? เมิ่งยวี่ฉิงไม่กล้าจินตนาการเลยทีเดียว นางรู้สึกว่าตนเองมองเย่เฟิงไม่ออกขึ้นเรื่อย ๆ
มู่หรงเฟิงก็สังเกตเห็นสายตาที่เมิ่งยวี่ฉิงมองเย่เฟิง จึงอดแปลกใจไม่ได้
“ข้าไม่มีเวลาว่างพอจะมาคุยกับพวกเ้า คราวหน้าอย่ามายั่วยุข้าอีกละ!”
เย่เฟิงเหลือบมองหยวนป้าเทียนกับม่อหลี่ ก่อนจะเตรียมตัวเดินออกไปจากที่นี่
“เ้าทำร้ายพวกเขา คิดว่าอยากไปก็ไปได้งั้นหรือ?”
แต่เย่เฟิงยังไม่ทันก้าวเท้า ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น เย่เฟิงจึงหันไปมอง ก่อนจะเห็นเมิ่งยวี่ฉิงกับมู่หรงเฟิงเดินมา เมื่อเย่เฟิงเห็นเมิ่งยวี่ฉิงก็รู้สึกแปลกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาที่อาณาจักรจ้าวด้วย
อย่างไรก็ตามทั้งสองคนรู้จักกัน เย่เฟิงจึงพยักหน้าให้เมิ่งยวี่ฉิง เป็การทักทาย
เมิ่งยวี่ฉิงพูดขึ้นว่า “เย่เฟิง ไม่คิดว่าพวกเราจะได้เจอกันอีกนะ”
เมื่อกล่าวจบ เมิ่งยวี่ฉิงหันไปมองมู่หรงเฟิงที่อยู่ข้าง ๆ พร้อมกล่าวว่า “คนนี้คือศิษย์พี่มู่หรงเฟิง เป็อัจฉริยะจากหมู่บ้านหานเสวี่ย ตอนนี้อายุไม่ถึง 22 ปี แต่ก็เป็ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ที่ 6 แล้ว”
ในน้ำเสียงของเมิ่งยวี่ฉิงเปี่ยมด้วยความมั่นใจราวกับพูดถึงตัวเอง
ขณะที่เมิ่งยวี่ฉิงแนะนำมู่หรงเฟิงให้เย่เฟิงรู้จัก มู่หรงเฟิงก็เชิดหน้าด้วยท่าทางหยิ่งผยอง ราวกับว่าที่แห่งนี้มีเพียงเขามู่หรงเฟิง และคนอื่นจักต้องก้มหัวให้เขา
เย่เฟิงกวาดตามองมู่หรงเฟิงด้วยสายตาเฉยชา แต่กลับแฝงด้วยการทักทายมู่หรงเฟิง จากนั้นหันไปพูดกับเมิ่งยวี่ฉิงว่า “เ้ามาเยือนอาณาจักรจ้าว หาก้าความช่วยเหลืออะไร ก็ไปหาข้าที่สำนักยุทธ์เทียนเสวียนได้ตลอด ”
เมื่อกล่าวจบ เย่เฟิงเตรียมตัวจะเดินออกไป แต่จู่ ๆ มู่หรงเฟิงก็โพล่งออกมา
“เ้ายังไม่ได้แก้ปัญหาของข้า ก็คิดจะไปเช่นนี้น่ะหรือ?”
มู่หรงเฟิงเผยสีหน้าเย็นเยียบ พร้อมเสื้อคลุมโบกสะบัดตามแรงลม เย่เฟิงเมินเขาทันที ถือเป็การตบหน้าเขาทางอ้อม แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะปล่อยเย่เฟิงไปง่าย ๆ
“ปัญหาอะไรของเ้า? แล้วทำไมข้าต้องแก้ให้เ้าด้วย? เ้านับเป็สิ่งใดกัน?”
เย่เฟิงแสยะยิ้ม เพียงประโยคเดียวของเขาก็มีคำถามถึงสามข้อ และถ้อยคำยังเฉียบคมอีกด้วย
มู่หรงเฟิงเจอเช่นนี้ไปถึงกับนิ่งอึ้ง แต่จากนั้นเขาก็ะเิโทสะออกมาทันที
