เล่มที่ 7 บทที่ 202.2 ความโกรธของเหยาเหยา.........ปราการทมิฬ (ตอนปลาย)
“เฟยเฟย หนาวไหม? ไม่ต้องฝืนนะ ถ้าคิดว่าทนไม่ไหวก็กลับไปก่อน มีเหยาเหยาก็น่าจะพอแล้วล่ะ” เย่เทียนเซี่ยกุมมือเย็นเฉียบของซูเฟยเฟยเอาไว้แล้วพูดออกมาเบาๆ
ค่าจิติญญาของซูเฟยเฟยคือ 75 หน่วย และปริมาณการรักษาของทักษะรักษาขั้นต้นคือสองเท่าของค่าจิติญญา หลังจากเลเวล 30 นักบวชถึงจะสามารถเรียนรู้ทักษะรักษาขั้นกลางที่มีปริมาณการรักษาเท่ากับสามเท่าของค่าจิติญญาได้ ถ้ารวมกับผลลัพธ์ที่เพิ่มขึ้นมาสองเท่าจากสร้อยข้อมือเจ็ดสีความสามารถในการรักษาของซูเฟยเฟยในปัจจุบันก็คือ 75*2*2=300 ซึ่งหมายความว่าพลังชีวิตจะถูกเพิ่มขึ้น 300 หน่วยในทุกๆ 5 วินาที
แม้พลังโจมตีเวทมนต์ของเหยาเหยาจะยังไม่เท่าซูเฟยเฟย แต่ทักษะรักษาิญญาทมิฬสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้ถึง 580 หน่วย รวมเข้ากับทักษาฟื้นฟูิญญาทมิฬที่ฟื้นฟูพลังชีวิตครั้งละ 30% ทุกๆ 10 วินาทีแล้ว ความสามารถในการรักษาโดยรวมของมันถือว่ายังมากกว่าซูเฟยเฟยที่ถือครองสร้อยข้อมือเจ็ดสีถึงสองเท่า
แต่การคงอยู่ของซูเฟยเฟยก็สำคัญเช่นกัน เพราะการรักษาอันแข็งแกร่งของเหยาเหยาจะต้องหยุดชะงักลงเมื่อพลังชีวิตของเย่เทียนเซี่ยลดลง ถ้าถูกโจมตีโดนจังๆก็อาจจะเข้าขั้นวิกฤตได้ และตอนนั้นพวกเขาก็คง้าการรักษาของซูเฟยเฟย
เมื่อมองเย่เทียนเซี่ยจับมือของซูเฟยเฟยขึ้นมาอย่างสนิทสนม สีหน้าอ่อนโยนและน้ำเสียงกังวลที่ส่งออกมาจากใจ.......... ในที่สุดจั้วพั่วจวินก็แน่ใจว่าครั้งนี้เย่เทียนเซี่ยเอาจริง
เฮ้อ.......เขาถอนหายใจออกมาเงียบๆ เื่นี้เป็อย่างที่เ้าสามพูดจริงๆ แล้วอย่างนี้จะบอกเจ๊ใหญ่ดีไหมเนี่ย? ถ้าบอกเจ๊ใหญ่ไปจะเกิดอะไรขึ้นนะ?
“ฉัน........ฉันไม่เป็ไร” ซูเฟยเฟยตอบกลับอย่างดื้อรั้น เธอที่เติบโตมาบนกองเงินกองทองจะเคยได้รับความเ็ปจากความหนาวเหน็บแบบนี้ได้ยังไง ใน่เวลาแห่งความเงียบนั้นเธอพ่นลมหายใจออกมาสองสามครั้งแล้วมองไปที่ดวงตาของเย่เทียนเซี่ยแล้วพูดออกมาเบาๆ “เทียนเซี่ย อย่างน้อยก็ให้ฉันทำภารกิจนี้กับนายจนสำเร็จเถอะ........ เพราะจะว่าไปแล้วนี่เป็ครั้งแรกที่พวกเรา......... สู้เคียงบ่าเคียงไหล่ เอ่อ........”
“............” จั้วพั่วจวิน
รอยยิ้มอันงดงามที่ซูเฟยเฟยเผยออกมาถูกส่งไปให้เย่เทียนเซี่ยทำให้ความรู้สึกหนาวเย็นในร่างของเขาถูกความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากหัวใจละลายไปอย่างช้าๆ เขาพยักหน้าแล้วตอบรับ “อืม” เบาๆ
เส้นทางกระดูกน้ำแข็งยาวไกลมาก คนที่เข้ามาที่นี่ทุกคนล้วนคิดแบบนั้น เพราะทุกนาทีทุกวินาทีที่อยู่ในนี้ทำให้พวกเขารู้สึกว่ามันยาวนานเป็ปี
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีความหนาวเย็นอันโหดร้ายที่ดำเนินมาเป็เวลานานก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดที่คนสามคนจะรับได้แล้ว แต่ด้านหน้ากลับยังคงมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางกระดูกน้ำแข็งเสียที และท่ามกลางสายตาที่เริ่มพร่าเบลอของพวกเขาเงาร่างสีขาวราวหิมะอีกหนึ่งแถวก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
มันคือหมาป่าหิมะหกตัวที่เรียงแถวพร้อมสู้และสกัดกั้นเส้นทางของพวกเขาเอาไว้ทั้งหมด
ขณะที่ทั้งสามคนพยายามรีดเร้นพลังโจมตีของตัวเองออกมาเย่เทียนเซี่ยก็พูดขึ้นมา “พั่วจวิน เตรียมตัวให้ดีแล้วไปเลย ใช้วิธีเดียวกันเมื่อกี้นี้แหละ”
“เข้าใจแล้ว” จั้วพั่วจวินขยับสองมืออันหนักอึ้งของตัวเอง เมื่อแน่ใจแล้วว่าในขอบเขตและระยะห่างเท่านี้การปลดปล่อย “ทักษะยั่วยุแบบกลุ่ม” จะไม่คลาดเคลื่อนจั้วพั่วจวินก็พุ่งตัวออกไป
เขาปลดปล่อยทักษะยั่วยุแบบกลุ่มออกไปอีกครั้งเพื่อดึงดูดความเกลียดชังของหมาป่าหิมะทั้งหมดอย่างแม่นยำ จั้วพั่วจวินรีบบังคับม้าให้กลับตัวทันที จากนั้นก็หันไปยิ้มแล้วทำท่าทางที่แสดงถึงชัยชนะให้เย่เทียนเซี่ยอีกรอบ
เย่เทียนเซี่ยพรูลมหายใจออกมาเล็กน้อยแล้วตามไปด้านหลังของฝูงหมาป่าหิมะเตรียมจะใช้วิธีการก่อนหน้านี้จัดการหมาป่าหิมะพวกนี้ให้สิ้นซาก...........
การโจมตีธรรมดาตามด้วยัสะบั้นแล้วหมาป่าหิมะตัวแรกก็ล้มลงบนพื้น
แต่ขณะที่เย่เทียนเซี่ยเตรียมจะปลดปล่อยัสะบั้นออกไปเป็ครั้งที่สอง ทันใดนั้นเสียงความเคลื่อนไหวอันผิดปกติก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง สภาพแวดล้อมอันหนาวเย็นไม่ได้ลดทอนการรับรู้ของเย่เทียนเซี่ยลงไปเลยแม้แต่น้อย เขารีบหันหน้ากลับไปอย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็พบกับหมาป่าหิมะอีกหกตัวที่พุ่งออกมาจากด้านหลังกองน้ำแข็ง สองตัวพุ่งมาทางเขา ส่วนอีกสี่ตัวพุ่งไปทางซูเฟยเฟย
“พั่วจวิน!!” เย่เทียนเซี่ยใจนหน้าซีดจากนั้นเขาก็พยายามใจเย็นอีกครั้งแล้วะโเสียงดังไปที่จั้วพั่วจวิน
“แย่แล้ว...........พี่รอง การยั่วยุแบบกลุ่มของผมใช้เวลาคูลดาวน์ 10 วินาที ตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้ว.......... พี่รอง พี่รีบกลับไปปกป้องน้องเฟยเฟยเร็ว!” จั้วพั่วจวินที่รับรู้ได้ถึงอันตรายก็ใไม่แพ้กัน ด้วยพลังชีวิตที่อ่อนแอของซูเฟยเฟย การโจมตีธรรมดาๆของหมาป่าหิมะก็สามารถฆ่าเธอให้ตายได้ในชั่วพริบตาแล้ว แม้ว่าในใจของเขาจะร้อนรน แต่สีหน้าของเขากลับราบเรียบ จั้วพั่วจวินไม่กล้าหยุดนิ่ง เพราะถ้าหากเขาหยุดนิ่งไปแม้แต่ตัวเขาเองก็คงไม่รอดจากกรงเล็บของหมาป่าหิมะเป็แน่
ถ้าไม่มีสัตว์ขี่เย่เทียนเซี่ยคงจะใช้ “เงาัสะบั้น” พุ่งไปอยู่ตรงหน้าซูเฟยเฟยที่อยู่ไม่ไกลไปแล้ว แต่ม้าัขาวไม่ใช่สัตว์ขี่ที่ใช้ทำา มันไม่สามารถประสานงานกับเย่เทียนเซี่ยและปลดปล่อยทักษะเงาัสะบั้นออกไปได้......... เย่เทียนเซี่ยทำได้เพียงเร่งฝีเท้าของม้าัขาวพุ่งไปด้านหน้าเท่านั้น ขอเพียงพุ่งไปให้ถึงตัวซูเฟยเฟยเขาก็จะสามารถปลดปล่อยิญญาัปีศาจเพื่อปกป้องเธอได้.......... แม้ว่าวันนี้พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้กลับไปอีกครั้งก็ตาม แต่เขาไม่มีทางยอมให้กรงเล็บของหมาป่าหิมะััร่างของเธอโดยเด็ดขาด
“เฟยเฟย รีบวิ่งเร็วเข้า!” เย่เทียนเซี่ยะโออกไปเสียงดัง
แต่แม้ว่าจะเพิ่มความเร็วของม้าัขาวเข้าไปก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่ทันการ เมื่อมองหมาป่าหิมะที่ใกล้เข้ามาซูเฟยเฟยก็หน้าถอดสี ความแข็งเกร็งของร่างกายบวกกับความหวาดกลัวในหัวใจทำให้เธอไม่คิดถึงอะไรทั้งนั้น อย่าพูดถึงการหลบหนีเลย แม้แต่การขยับฝ่าเท้าก็ยังเป็เื่ยากไปแล้ว
เมื่อเย่เทียนเซี่ยมองร่างของซูเฟยเฟยที่เขาเข้าไปปกป้องไม่ทันแน่ๆ ในหัวใจของเขาก็บีบรัดขึ้นมาทันที.......... และทันใดนั้นเองเหยาเหยาที่ยืนอยู่บนหัวของม้าัขาวก็หยุดใช้ทักษะรักษา ร่างเล็กๆของมันเปล่งแสงสีขาวออกมามันก่อนจะพุ่งไปที่ซูเฟยเฟย
การเคลื่อนที่พื้นฐานของเหยาเหยาคือ 180 หน่วย ซึ่งมากกว่าเย่เทียนเซี่ยเกือบสองเท่า!
ปั้ง!
ร่างเล็กๆของเหยาเหยาพุ่งเข้าปะทะร่างของหมาป่าหิมะที่พุ่งเข้าไปถึงด้านหน้าของซูเฟยเฟยพอดีอย่างหนักหน่วง ร่างของหมาป่าหิมะถูกชนจนกระเด็นออกไป และร่างของเหยาเหยาก็ถูกกรงเล็บของหมาป่าหิมะตะปบเข้าแทนซูเฟยเฟยจนทำให้พลังชีวิตของมันหายไปครึ่งหนึ่ง
“เหยาเหยา!” เย่เทียนเซี่ยะโออกไปเสียงดัง เขาคำนวณระยะห่างแล้วะโลงจากหลังม้าแล้วปลดปล่อยเงาัสะบั้นออกไปทันที ร่างของเขาพุ่งไปด้านหน้าจนมาถึงตัวซูเฟยเฟยในที่สุด แลต่ตอนนั้นเองหมาป่าหิมะสองตัวก็พุ่งเข้ามาใกล้ซูเฟยเฟยแล้ว......... และมันยังพุ่งเข้ามาจากสองทิศทางคือด้านหน้าและด้านขวาด้วย
ถ้าเป็เวลาปกติเย่เทียนเซี่ยคงจะใช้แขนโอบร่างของซูเฟยเฟยแล้วพาหนีไป แต่ตอนนี้ร่างที่ถูกความหนาวเย็นแช่แข็งของเขาไม่อาจทำอย่างใจคิดได้ เขาใช้ร่างของตัวเองต้านหมาป่าตัวที่พุ่งเข้ามาด้านหน้าแต่เขากลับไม่อาจต้านทานหมาป่าตัวที่พุ่งเข้ามาจากด้านขวาได้..........
นักบวชเป็สิ่งที่ขาดไปไม่ได้ในา แต่กลับเป็จุดอ่อนของการต่อสู้ทั้งหมด ขณะที่พวกเขาปกป้องคนอื่นพวกเขาก็จะต้องถูกปกป้องอย่างแข็งขันเป็อย่างแรก
และสิ่งที่ต้านทานหมาป่าอีกตัวก็ยังคงเป็เหยาเหยาอยู่เช่นเดิม
ระยะเวลาในการโจมตีของหมาป่าหิมะสองครั้งจากด้านหน้าและด้านขวาไม่เกินหนึ่งวินาที เหยาเหยาไม่มีทางใช้ทักษะรักษาตัวเองทันแน่นอน แต่มันก็ยังคงพุ่งเข้าหาการโจมตีของหมาป่าหิมะที่อยู่ทางด้านขวา เหยาเหยาที่ไม่มีความสามารถในการโจมตีทำได้เพียงใช้ร่างกายพุ่งชน มันเพียงแค่ปกป้องซูเฟยเฟยตามสัญชาติญาณเพราะเธอคือคนที่เ้านายของมันปกป้องเท่านั้น
สิ่งที่เข้ามาปะทะกับมันก็คือการโจมตีของหมาป่าหิมะอีกครั้ง......... ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังชีวิตที่เหลือเพียงครึ่งเดียวของมันคงถูกกวาดหายไปจนเกลี้ยงแน่นอน
“เหยาเหยา!”
ก่อนที่จะหมดสติไปมันได้ยินเสียงะโของเย่เทียนเซี่ยและซูเฟยเฟยที่ดังขึ้นมาพร้อมๆกัน
ข้าเป็แค่จิ้งจอกหิมะทมิฬ ข้าถือกำเนิดขึ้นในดินแดนแห่งเวทมนต์ แต่ข้าเกิดมาจากใคร เกิดมาเพื่อใคร หลายแสนปีผ่านไปข้าก็ยังคงไม่รู้อยู่ดี
ข้าเกิดมามีความสามารถอันแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะได้รับาเ็มากมายแค่ไหนข้าก็สามารถฟื้นฟูมันทั้งหมดได้ในชั่วพริบตา ข้ารู้นานแล้วว่าข้าที่ไม่มีความสามารถในการโจมตีคงไม่มีทางชนะได้ แต่ข้าก็ไม่มีวันพ่ายแพ้.......... เพราะหากข้า้า ข้าก็ไม่มีวันตาย
แม้ว่าข้าจะไม่ชนะ.......... แต่พลังของข้าสามารถช่วยเหลือสหายของข้าให้ชนะได้ ตราบใดที่มีข้า สหายของข้าจะไม่มีวันล้มลง พวกเขาจะได้รับพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น........... เพียงแต่สหายของข้าในตอนนั้นมิใช่มิตรแท้ ข้าเพียงแค่เกิดมาในที่แห่งนั้นแล้วก็ได้พบกับพวกมัน ดังนั้นข้าจึงกลายเป็หนึ่งในพวกมัน
และก็เพราะการปรากฏตัวของข้า เผ่าัที่ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อนจึงถูกพวกเราโค่นล้มได้จนหมด เมื่อพวกเราข่มเหงเผ่าัจนแทบจะสิ้นหวัง เทพัผู้แข็งแกร่งที่สุดจึงได้ใช้พลังและชีวิตทั้งหมดของมันเป็ค่าตอบแทนในการกักขังข้าไว้ในสถานที่อันน่ากลัวแห่งหนึ่ง........... ในโลกที่โปร่งใสแห่งนั้นข้าได้เห็นเหล่าสหายของข้าพ่ายแพ้ไปในการต่อสู้กับเผ่าั......... ข้าไม่ได้ร้อนรน ไม่แม้แต่จะโศกเศร้าไปกับพวกมัน เพราะพวกมันไม่ใช่มิตรแท้ของข้า..........
สิ่งที่ข้าโศกเศร้า.......... ก็คือโชคชะตาของข้า
พลังของเทพันั้นห่างไกลกับข้ามาก ตอนที่พลังของข้ากำลังจะสามารถทำลายผลึกเทพัได้ในที่สุด ข้าก็พบว่าทุกยุคที่พลังของผลึกเทพัอ่อนแอลง เทพัมักจะเติมพลังักลับเข้าไปใหม่............ พลังของข้าไม่อาจต้านทานเทพัจำนวนนับไม่ถ้วนยุคแล้วยุคเล่าได้................
ดังนั้นข้าถึงถูกกักขังมานานกว่าเจ็ดสิบล้านปีท่ามกลางความสิ้นหวัง.................
การกักขังและการกัดกร่อนเป็เวลาเจ็ดสิบล้านปีทำให้พลังสุดยอดของข้าลดลงจนถึงจุดที่ต่ำที่สุดและอ่อนแอที่สุด........ จนเพียงพอที่จะรักษาสติและชีวิตของข้าเอาไว้เท่านั้น
พวกมันเรียกข้าว่าจิ้งจอกทมิฬ
แต่ข้าในตอนนี้มีชื่อใหม่แล้ว..........ข้าชื่อเหยาเหยา
ข้าชอบชื่อนี้มาก ชอบมากๆ
เพราะนี่คือชื่อที่เ้านายของข้ามอบให้ข้า.......... เป็เขาที่ช่วยชีวิตข้าจากความสิ้นหวังเจ็ดสิบล้านปี ข้าจำคำพูดที่เขาพูดกับข้าได้ทุกคำ และยังจำทุกสิ่งที่เขาทำเพื่อข้าได้อย่างแม่นยำ............. เขาทำให้ข้ารู้ว่าอะไรคือการััได้ถึงความรู้สึก
ดังนั้นข้าจึงได้ตกลงทำพันธะสัญญาเืแห่งิญญาขึ้นมาด้วยตัวข้าเอง แม้จะต้องเป็สัตว์เลี้ยงของเขาตลอดไป....... แต่ข้าก็ไม่เคยเสียใจเลยสักนิด
ข้าในตอนนี้..........ต้องตายไปแบบนี้แล้วใช่ไหม?
ข้าในตอนนี้อ่อนแอซะจริงๆ........... แต่ข้าในกาลก่อนคือจิ้งจอกทมิฬที่แม้แต่เทพัก็ยังต้องหวาดกลัว แล้วจะให้ข้า....... ตายลงไปภายใต้กรงเล็บของหมาป่าหิมะชั้นต่ำตัวหนึ่งเช่นนี้ได้อย่างไร
พลังของข้า.......... เ้าไปอยู่ ณ ที่แห่งใดกัน..........
กลับมาเถิด.......... เพียงแค่เล็กน้อยก็ยังดี.........อย่างน้อยก็ทำให้ข้ามีพลังที่จะสามารถปกป้องเ้านายของข้าได้อีกสักหน่อย.......... จริงๆนะ เพียงเล็กน้อยก็ยังดี...............
ร่างของเหยาเหยาที่ถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปลอยขึ้นเป็เส้นโค้งก่อนจะตกลงบนพื้น ความคิดตลอดเจ็บสิบล้านปีที่ผ่านมาลอยเข้ามาในหัวของมันเป็ฉากๆ เวลาราวกับจะไหลช้าลง บริเวณโดยรอบเปลี่ยนเป็ความเงียบ ร่างที่ลอยละลิ่วของมันค่อยๆเข้าใกล้พื้นน้ำแข็งอย่างช้าๆเหมือนปุยนุ่น
แล้วทันใดนั้นเองแสงสีขาวก็สว่างวาบขึ้นบนร่างของเหยาเหยา สายลมอันรุนแรงพัดโหมกระหน่ำขึ้นรอบๆโดยมีร่างของมันเป็จุดศูนย์กลางและพัดร่างของหมาป่าหิมะทั้งหมดที่เข้าใกล้ออกไปทั้งหมด
ท่ามกลางแสงสีขาวนั้นร่างที่กำลังร่วงหล่นลงของเหยาเหยาก็หยุดลงแล้วลอยค้างอยู่กลางอากาศ และหูของเย่เทียนเซี่ยก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนที่ทำให้เขาแปลกใจดังขึ้นมา...........
“ติ๊ง! ความสามารถพิเศษ ‘คืนชีพิญญาทมิฬ’ ของ ‘จิ้งจอกหิมะทมิฬ’ สัตว์เลี้ยงของท่าน ได้ตื่นขึ้นมาและถูกใช้งานแล้ว หลังจากจิ้งจอกหิมะทมิฬฟื้นคืนชีพขึ้นมาสถานะทั้งหมดจะถูกฟื้นฟูกลับมาโดยสมบูรณ์”
“ติ๊ง! ความสามารถของ ‘จิ้งจอกหิมะทมิฬ’ สัตว์เลี้ยงของท่านได้ตื่นขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ สัตว์เลี้ยงของท่านถูกเลื่อนระดับขึ้นเป็สัตว์เลี้ยงระดับ 4”
“ติ๊ง! ความสามารถของ ‘จิ้งจอกหิมะทมิฬ’ สัตว์เลี้ยงของท่านได้ตื่นขึ้นมาแล้ว สัตว์เลี้ยงของท่านถูกเลื่อนระดับขึ้นเป็สัตว์เลี้ยงระดับ 5”
“ติ๊ง! ‘จิ้งจอกหิมะทมิฬ’ สัตว์เลี้ยงของท่านปลดล็อคทักษะ : ปราการิญญาทมิฬ·ชำระแค้น , ปราการิญญาทมิฬ·เกราะ์ , ปราการิญญาทมิฬ·บึง์”
จิ้งจอกหิมะทมิฬ : สัตว์เลี้ยงระดับ 5
ระดับ : เลเวล 12
ที่มาไม่ชัดเจน มันเพิ่งหลุดออกมาจากผลึกเทพัที่ถูกเทพัผนึกเอาไว้เมื่อเจ็ดสิบล้านปีก่อน มันหลบหนีออกมาได้ภายใต้ความช่วยเหลือของเซี่ยเทียน ความสามารถของมันลดลงจนอยู่ในระดับต่ำสุด ปัจจุบันความสามารถส่วนหนึ่งของมันฟื้นฟูกลับมาแล้วเล็กน้อย จิ้งจอกหิมะทมิฬมีรูปร่างสวยงาม นิสัยเชื่องและจะไม่ทำการโจมตีสิ่งมีชีวิตก่อน
เ้านาย : เซี่ยเทียน
เนื่องจากได้ทำพันธะสัญญาเืแห่งิญญาจึงไม่สามารถทรยศได้ตลอดกาล
คุณสมบัติ
พลังชีวิต : 660
พลังเวทย์ : 2,640
พลังในการโจมตีทางกายภาพ : 102
พลังโจมตีด้วยเวทมนต์ : 204
พลังป้องกัน : 102
การหลบหลีก : 36
การสร้างความเสียหาย : 36
ความเร็วใจการโจมตี : 150
ความเร็วในการเคลื่อนที่ : 210
พร์ : ร่างจิ้งจอกทมิฬ : ร่างอันลึกลับเป็พิเศษที่ไม่สามารถตีความได้ สามารถชดเชยความเสียหายจากโลกภายนอกได้ทั้งหมด การโจมตีทางกายภาพและการโจมตีด้วยเวทมนต์ที่ได้รับทั้งหมดจะลดลง 30% ค่าพลังชีวิตและค่าพลังเวทย์จะฟื้นฟูโดยอัตโนมัติ 5% ในทุกวินาที
คืนชีพิญญาทมิฬ : พลังิญญาทมิฬมอบพลังอำนาจสุดยอดให้จิ้งจอกหิมะทมิฬ หลังจากตายไปมีความเป็ไปได้ 50% ที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นมา ณ จุดเดิม ด้วยสถานะสมบูรณ์
ทักษะ : เยียวยาิญญาตน , เยียวยาิญญาทมิฬ , ฟื้นฟูิญญาทมิฬ
ปราการิญญาทมิฬ·ชำระแค้น : เกราะแห่งการชำระแค้นสีแดงจะถูกหล่อหลอมและสร้างขึ้นมาจากพลังิญญาทมิฬที่มีความเคียดแค้นและปกคลุมพื้นที่โดยรอบในรัศมี 5 เมตร เกราะแห่งการชำระแค้นจะกระพริบทุกๆ 1 วินาที และทุกครั้งที่มันกระพริบศัตรูทั้งหมดที่เข้ามาในเกราะแห่งการชำระแค้นจะถูกบังคับให้อยู่ห่างออกไป 3 เมตรและจะสร้างความเสียหายด้วยเวทมนต์ที่ไร้คุณสมบัติเป็ 3 เท่าของการโจมตีด้วยเวทมนต์ ขณะแสดงผลจะใช้พลังเวทย์ 100 ต่อวินาที สามารถยกเลิกทักษะได้ตลอดเวลา ทุกครั้งสามารถปลดปล่อยทักษะนี้ติดต่อกันได้สูงสุด 20 วินาที ทักษะนี้ใช้เวลาคูลดาวน์ 120 วินาที
ปราการิญญาทมิฬ·เกราะ์ : เกราะแห่งการปกป้องสีเหลืองจะถูกหล่อหลอมและสร้างขึ้นมาจากพลังิญญาทมิฬที่มีความทนทาน หลังจากปลดปล่อยออกมาจะปกป้องตนเองจากความเสียหายทั้งหมดที่มาจากภายนอก ขณะแสดงผลจะใช้พลังเวทย์ 100 ต่อวินาที สามารถยกเลิกทักษะได้ตลอดเวลา ทุกครั้งสามารถปลดปล่อยทักษะนี้ติดต่อกันได้สูงสุด 20 วินาที ทักษะนี้ใช้เวลาคูลดาวน์ 180 วินาที
ปราการิญญาทมิฬ·บึง์ : เกราะแห่งการอำนวยพรสีขาวจะถูกหล่อหลอมและสร้างขึ้นมาจากพลังิญญาทมิฬที่มีความเมตตา หลังจากปลดปล่อยออกมาจะคลอบคลุมพื้นที่โดยรอบตนเองในรัศมี 10 เมตร หากเพื่อนร่วมทีมทั้งหมดที่อยู่ในปราการบึง์ได้รับความเสียหายใดๆทักษะนี้จะช่วยลดความเสียหายนั้นๆลง 50% และผลของทักษะประเภทรักษาทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 50% ขณะที่ปราการบึง์แสดงผลจะใช้พลังเวทย์ 100 ต่อวินาที สามารถยกเลิกทักษะได้ตลอดเวลา ทุกครั้งสามารถปลดปล่อยทักษะนี้ติดต่อกันได้สูงสุด 1 นาที ทักษะนี้สามารถใช้ได้มากที่สุดวันละ 3 ครั้ง
ต้นกำเนิดเกราะ : ความสามารถไม่เพียงพอ ไม่สามารถปลดล็อคได้
ต้นกำเนิดแสง : ความสามารถไม่เพียงพอ ไม่สามารถปลดล็อคได้
เหยาเหยาที่ตายไปแล้วท่ามกลางสายตาของเย่เทียนเซี่ยและซูเฟยเฟย เพียงพริบตาเดียวมันก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาราวกับความฝันต่อหน้าต่อตาของพวกเขา!
-------------------------------------------------------------------