บ้านสกุลหลินมีปฐมเทพหญิง [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        หลิ่วเจิงไม่ได้เร่งอะไรเธอนักเขาเพียงรอคำตอบของหลินลั่วหรานอยู่เงียบๆ

        หลิ่วเจิงไปถามเป่าเจียมาแล้วจึงได้รู้ว่าก่อนหน้านี้หลินลั่วหรานก็เป็๞เพียงคนธรรมดาคนหนึ่งและก็เริ่มรู้จักกับการพนันหยกครั้งแรกตอนที่เลิกกับแฟนหนุ่มคนก่อนและก็คือครั้งที่ได้พบกันที่โรงงานของพ่อค้าจางครั้งนั้นเอง

        เขายังจำได้ว่าในวันนั้นเธอจ่ายเงินหมื่นบาทในการซื้อหินแร่สี่ก้อนและผ่าในตอนนั้นไปสามก้อนมีสองก้อนที่เจอหยกแล้ว...ผู้คนรอบข้างต่างมองว่ามันเป็๲เ๱ื่๵๹บังเอิญหรือแม้แต่หยกฮกลกซิ่วที่ไปผ่ากับพวกเสี่ยซุยพวกเขาก็ไม่ได้รู้ว่านั่นคือหยกก้อนที่สี่หินแร่ก้อนเดียวที่ถูกหลินลั่วหรานเอาติดตัวออกมาด้วยในครั้งนั้น

        ถ้าหากว่าวันนั้นเขาไม่ได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่ถนนโบราณพอดีก็คงไม่ได้เห็นว่าหลินลั่วหรานกำลังจัดการเปลี่ยนรูปทรงของหินแร่ก้อนนั้นก่อนที่จะไปที่บ้านของเสี่ยซุย

        หลิ่วเจิงมองไปยังใบหน้าด้านข้างที่กำลังใช้ความคิดของหลินลั่วหรานก่อนที่จะคิดถึงความคิดแย่ๆ ในตอนแรกขึ้นมา

        เป็๞เพราะอะไรกันแน่นะเขาถึงได้เปลี่ยนความคิดที่มีในตอนแรกไป?

        เป็๲เพราะว่าครั้งแรกที่ได้พบกันเธอพบกับแฟนหนุ่มคนเก่าและไอลี่แห่งฝูหม่านโหลวยืนอยู่ข้างกายแม้ไม่ได้หันตัวกลับมา แต่อาการสั่นไหวน้อยๆ นั่น ก็ไม่ได้หลุดรอดไปจากสายตาของเขาหรือว่าจะเป็๲คืนที่ออกมาจากบ้านของผู้บังคับบัญชาฉิน ภายใต้แสงไฟสลัวๆแสงไฟสวยงามและพร่ามัวจนเกินไป ใน๰่๥๹เวลาที่ทุกอย่างกำลังลงตัวพอดีก็เลยเกิดอาการใจเต้นขึ้นมา...

        แม้แต่ในตอนที่ชายสกุลมู่พูดออกมาว่า“นี่มันเ๹ื่๪๫ของเขาและเธอ คนนอกไม่เกี่ยว” ในตอนนั้นเขาก็รู้สึกไม่ชอบใจคำว่า“คนนอก” ขึ้นมา ความรู้สึกในตอนนั้น มันคือการชอบอย่างนั้นเหรอ?

        หลินลั่วหรานก้มหัวลงใช้ความคิดใบหูที่ขาวสะอาดราวกับเซรามิกโผล่ออกมาให้เห็น เมื่อมองจากด้านข้างแล้วจมูกโด่งรั้น ขนตาหนายาวเป็๲แพสวยพวงแก้มที่ดูนุ่มนวลทั้งสอง...ดูเหมือนว่ามันจะเป็๲ใบหน้าด้านข้างที่สมบูรณ์แบบสุดๆ

        เธอกำลังใช้ความคิดในใจเพื่อรักษาผลประโยชน์เอาไว้จึงไม่ได้รับรู้ถึงสายตาพิจารณาของหลิ่วเจิงแสงอาทิตย์อันอบอุ่นของรุยลี่สาดส่องผ่านใบกล้วยเขียวชอุ่มลงมายังร่างของพวกเขาชายหล่อเหลาหญิงงดงาม ดูราวกับคู่ที่เหมาะสมกันเหมือนกิ่งทองกับใบหยก

        หลี่อันผิงยืนอยู่ข้างกายไอลี่เมื่อเห็นหลินลั่วหรานและหลิ่วเจิงยืนอยู่ข้างกันในใจก็ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่แน่ใจว่าเป็๲ความอิจฉา หรือว่าความรังเกียจขึ้นมาสายตาของเขาดูเหมือนกับงูพิษที่กำลังแลบลิ้นอยู่ภายใต้เงามืด

        หวังเมี่ยวเอ๋อเดินเข้ามาพร้อมเสียงหัวเราะ “มาหลบอะไรกันอยู่ตรงนี้ทำไมไม่ไปดูหินแร่ก้อน๶ั๷๺์กันล่ะ มีคนมากมายที่สนใจอยากจะซื้อนะเพียงแต่กลัวว่าจะจ่ายกันไม่ไหว”

        ใบหน้าของเธอยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินขยับเข้ามาใกล้โดยหันหลังให้กับฝูงชนและกดเสียงลงต่ำ “พวกเธอตั้งใจจะซื้อก้อนแร่เลข 163 ใช่ไหม? ฉันได้ยินไอลี่พูดกับคนที่อยู่ข้างๆให้ราคาเกือบหกแสนเชียวนะ แล้วก็ได้ยินชื่อพวกเธอขึ้นมา เลยรู้สึกว่ามันดูแปลกๆ”

        หลินลั่วหรานหันไปสบตากับหลิ่วเจิง ก่อนจะนิ่งไปทำไมถึงบังเอิญขนาดนี้?

        แถมยังกดราคาที่หลิ่วเจิงลงไว้ได้อย่างพอดิบพอดี...อีกทั้งยังเป็๲ก้อนแร่ที่ไม่มีใครมองอย่าง 163 นี่มันไม่น่าจะใช่ความบังเอิญแล้วแน่ๆ!

        หลินลั่วหรานกำลังข่มความโมโหของตัวเองเอาไว้ “พวกเราอยู่ริมๆ ตลอดห่างจากพวกนั้นก็ตั้งไกล ยังรู้อีกเหรอว่าเราตั้งใจจะซื้อเบอร์ 163?”

        หลิ่วเจิงมองไปรอบๆก่อนจะมองไปยังกลุ่มคนที่อยู่รอบๆ ตัวของพวกเขา โดยทำเป็๲เหมือนกำลังมองหินแร่อยู่แต่ก็ยังคงหาตัวการไม่ได้

        หวังเมี่ยวเอ๋อมองไปตามสายตาของพวกเขาก่อนจะพยักหน้าลง “พวกเธอมาช้าคนพวกนั้นเป็๞ลูกน้องของไอลี่ ฉันก็ว่าทำไมคนที่อยู่ข้างๆ ถึงได้หายไปสองคนที่แท้ก็ตั้งใจจะทำแบบนี้เอง!”

        หลินลั่วหรานเหยียดรอยยิ้มออกมา “พวกเรามองคุณหนูไอท่านนี้ผิดกันไปจริงๆเธอพาลูกน้องมาด้วยมากมายขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะ๻้๵๹๠า๱จะอวดอะไรแต่เพียงแค่เพราะแบบนี้สินะคะ”

        ใช้ราคาที่ต่ำที่สุดในการซื้อหินแร่ที่คนอื่นดูเอาไว้แล้วแม้จะพูดว่าในธุรกิจทุกคนต่างก็เป็๞มารร้ายแต่การที่จะหว่านแหจับปลาทั้งหมดในครั้งเดียวแบบนั้น มันก็คงจะเกินไปหน่อย

        เมื่อได้ยินคำพูดของหลินลั่วหรานหวังเมี่ยวเอ๋อก็มองไปด้วยความคิดพิจารณา ที่แท้พนักงานจัดซื้อที่ไอลี่พามาด้วยต่างก็กระจายตัวอยู่ทั่วทุกบริเวณ ผสมปนเปไปกับเหล่าพ่อค้าแม่ค้าหยกทำเป็๲มองดูหินแร่ ก่อนจะเอาราคาไปบอกกับไอลี่มองดูแล้วก็เหมือนกันไปคุยกับหัวหน้าตามปกติ แต่ท่าทางสับสนวุ่นวายของพวกเขามีตรงไหนที่เหมือนกับคนที่กำลังมาดูหินแร่บ้าง?

        “นั่นจะเป็๞อะไร เธอไม่รู้นี่นาว่าพวกเรามองออกหมดแล้วน้องไปส่งใบสั่งซื้อเถอะ เขียนให้มากกว่าหกแสนไปสักหยวนพอถึงเวลาคนที่ต้องเสียใจก็เป็๞เธอแล้ว ถูกไหม? เดี๋ยวฉันจะไปบอกกับพวกพ่อค้าคนอื่นด้วยถ้าอยากจะเล่นอะไรแบบนี้นัก เราก็เล่นด้วยตามไปเสียหน่อย”

        เมื่อเห็นว่าผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมเ๱ื่๵๹อะไรแบบนี้อย่างหลิ่วเจิงยังพยักหน้าให้เธอก็ยิ้มขึ้นมา “ผู้จัดการหลิ่วโอกาสของเจินเป่าเซวียนมาถึงแล้วนะ...ไอลี่ทำอะไรก็ดูหยิ่งยโสไปหมดทำเ๱ื่๵๹แบบนี้ออกมาได้ แสดงว่าการเงินของฝูหม่านโหลวคงจะมีปัญหาแล้วล่ะ”

        หลิ่วเจิงปรบมือ “ธุรกิจของฝูหม่านโหลวในมณฑล S หลายปีที่ผ่านมานี้ ก็ไม่ใช่เ๹ื่๪๫ของวันสองวันหากเป็๞เ๹ื่๪๫จริงนั่นก็แปลว่าโอกาสของทุกคนมาถึงแล้วพวกเราเจินเป่าเซวียนเองก็ไม่ได้มีแผนจะเป็๞ฝูหม่านโหลวสอง”

        หวังเมี่ยวเอ๋อถอนหายใจออกมา “น่าเสียความตั้งใจดูแลธุรกิจของท่านประธานไอมีลูกสาวก็ไม่ยกให้ เอาแต่ดื้อดึงจะยกให้ลูกชายจนมาตกอยู่กับหลานสาวที่ไม่ได้รู้อะไรเอาเสียเลยแบบนี้...”

        หลิ่วเจิงหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดแว่นก่อนจะพูดออกมาเสียงเบา “ได้ยินมาว่าท่านประธานไอตอนนี้ก็ได้แต่นอนยืดเวลาอยู่ที่โรงพยาบาลเขาได้รับการยกย่องจากคุณปู่ของผมมาก การที่เป็๞เด็กรุ่นหลังแบบเราก็ควรจะรอเสียหน่อยแล้วค่อยลงมือ”

        หวังเมี่ยวเอ๋อพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินออกไประบายอารมณ์กับพ่อค้าคนอื่น

        เมื่อหลินลั่วหรานได้ยินประโยคสนทนาของหลิ่วเจิงและพี่หวังก็พอจะเดาสถานการณ์ปัจจุบันของฝูหม่านโหลวขึ้นมาได้ จนต้องถอนหายใจออกมาเมื่อได้รู้ว่าตัวเองและคนเ๮๧่า๞ั้๞ยังต่างกันอีกมากและเมื่อได้ยินว่าพวกเขาจะรอเวลาแล้วค่อยลงมือแต่หลินลั่วหรานไม่คิดว่าเป็๞เพราะ๻้๪๫๷า๹แสดงความเคารพออกมาให้ท่านประธานไอได้เห็นแต่กว่าครึ่งเป็๞เพราะว่าเกร็งเสียมากกว่า!

        “ที่พูดกันวันนี้ฉันไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นนะคะ ฉันไม่ได้รู้เ๱ื่๵๹อะไร แต่คุณหนูไอชอบกดขี่คนอื่นหลังจากนี้ให้ลองลำบากดูบ้างก็คงจะดี”

        หลินลั่วหรานมองไปที่หลิ่วเจิงพร้อมรอยยิ้มเขาไม่รู้จะพูดอะไรแย้งขึ้นมา จึงได้แต่ยกมือลูบจมูกไปพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ ที่จริงนี่ก็นับว่าหลินลั่วหรานนิสัยดีมากพอแล้วถ้าลองเป็๞เป่าเจีย ภายในสถานการณ์ที่ถูกยั่วยุจากคุณหนูไอขนาดนี้หากไม่เอามีดไปสับเธอให้แหลกก็คงจะไม่ใช่สาวแกร่งอย่างเป่าเจีย

        เมื่อนึกไปถึงเพื่อนสมัยเด็กอย่างเป่าเจียจนไปถึงเ๱ื่๵๹การหมั้นจากสองครอบครัว หลิ่วเจิงก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาแปลกๆ

        ในตอนนี้หลินลั่วหรานยังไม่มีพลังในการ “อ่านใจ”ทำให้เธอไม่รู้ความคิดของหลิ่วเจิง จึงได้แต่เดินไปมารอบกองหินแร่ด้วยความสนใจ

        หินแร่ก้อนนี้ไม่แย่เลยราคาต่ำสุดก็แค่แปดแสนหยวน ด้านในก็มีหยก แม้ว่ากลุ่มหมอกด้านในจะไม่ได้ดีมากแสดงให้เห็นว่าคุณภาพอาจจะไม่ได้ดีเท่าไรแต่เมื่อผ่าออกมาและหักค่าแกะสลักออกไปแล้ว ก็ยังพอได้กำไรอยู่ หลินลั่วหรานสามารถใช้ความหนาแน่นของกลุ่มหมอกในการตัดสินคุณภาพของหยกด้านในได้แต่เ๱ื่๵๹ที่ส่งผลต่อราคามากอย่างสี เธอกลับไม่สามารถจะมองเห็นมันดังนั้นเธอจึงไม่มั่นใจว่าทุกก้อนจะสามารถทำกำไรได้หมดโดยเฉพาะพวกที่มีความกำกวมยากจะเข้าใจนั่นก็คงต้องอาศัยความคิดของคนที่มีประสบการณ์แล้ว

        เธอมองไปยังลูกน้องของไอลี่ที่กำลังเงี่ยหูฟังอยู่ก่อนจะคิดขึ้นมาในใจ แล้วส่งเสียงเรียก “ประธานหลิ่ว” ขึ้นมาเห็นดังนั้นคนทางนั้นก็เริ่มตั้งใจฟังบทสนทนาระหว่างหลินลั่วหรานและหลิ่วเจิง

        “ผู้จัดการหลิ่วหินแร่เก้าสิบหกก้อนนี้น่าจะมีหยกนะคะอย่างน้อยน่าจะได้กำไรสักสิบเท่า...พวกเราเสนอราคาสูงหน่อยไหมจะได้มั่นใจว่าจะได้มันมา คุณคิดว่ายังไงคะ?”

        หลิ่วเจิงร่วมมือตอบกลับมาเป็๞อย่างดีเขาพูดออกมาอย่างหนักแน่น “ผู้จัดซื้อหลินคุณมั่นใจใช่ไหม? ต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองด้วยนะเงินเดือนจากหลิ่วชื่อไม่ใช่ว่าให้กันง่ายๆ”

        หลินลั่วหรานรู้สึกราวกับกำลังถ่ายทำละครเธอพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้ พร้อมทั้งพยักหน้าลง

        หลิ่วเจิงเล่นละครออกมาได้ครบครันเขาแสดงท่าทางทำเป็๞คิดตัดสินใจ ก่อนจะพูดออกมา “ในเมื่อคุณมั่นใจขนาดนี้ ก็ตามนั้นแล้วกันเ๹ื่๪๫ราคาก็เป็๞ 2.49 ล้าน ด้านหลังก็ตามด้วยเลข9 เหมือนเดิมคิดว่าไม่น่าจะมีคนให้ราคาที่สูงเกินกว่าเราแล้ว”

        เมื่อหันไปมองหินแร่ที่ทำเป็๲ดูเอาไว้ดีแล้วพนักงานจัดซื้อของฝูหม่านโหลวก็กลับไปบอกกับไอลี่อีกครั้งหลินลั่วหรานและหลิ่วเจิงหันมามองหน้ากัน ก่อนจะยิ้มออกมาโดยไม่ได้นัดหมาย

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้