“คนที่ควรจะมาก็มากันครบแล้วตอนนี้ก็เริ่มได้แล้วใช่ไหม?” ไอลี่ลูบเล็บสีแดงสดของตัวเองไปพลางพูดออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
ไอลี่นั้นเติบโตมาในไหน้ำผึ้งหลังจากเรียนมัธยมปลายจบ เธอก็ถูกส่งตัวไปเรียนต่อที่ต่างประเทศท่าทางของเธอจึงดูเปิดเผย ราวกับลูกครึ่งอเมริกันและยิ่งในเมื่อก่อนนั้นฝูหม่านโหลวเป็ใหญ่ในมณฑล S ท่านประธานนั้นรักและเอ็นดูหลานสาวคนนี้ยิ่งกว่าใครจึงให้เธอมาทำหน้าที่เป็ผู้ควบคุมการบริหาร จนไม่ได้สนใจพวกลุงๆ ป้าๆ คนอื่น
เธอก้าวร้าวจนกลายเป็ความเคยชินอะไรที่เธอ้าไม่เคยที่เธอจะไม่ได้รับมันเมื่อก่อนเวลาซื้อก้อนแร่ต่างก็เป็แบบนี้เมื่อรู้ว่าหลี่อันผิงมีแฟนสาวก็ยังจะไปสร้างปัญหาให้อีก แล้วก็เป็แบบนี้ ทุกคนต่างก็พากันอดทนมานานแล้วเพียงแค่ไม่มีใครแสดงมันออกมา
หากไม่ใช่ว่าชาวพม่าผู้รู้อยู่ก่อนแล้วว่าเธอคือไอลี่จากฝูหม่านโลวที่มีอิทธิพลค่อนข้างมาก ในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายเขาก็คงจะแสดงสีหน้าไม่พอใจออกไปแล้วเช่นกัน
และอีกสิ่งหนึ่งที่เธอยังไม่รู้ก็คือผู้คนต่างพากันเฝ้ารอหัวเราะในวันที่ฝูหม่านโหลวล้มลงด้วยน้ำมือของเธอเพราะเธอคิดว่าทุกคนต่างกลัวเธอ เธอถึงได้ประกาศกร้าว “คำสั่งกีดกัน”อันน่าขันนั่นออกมา
แม้แต่หลินลั่วหรานยังทนดูต่อไปไม่ได้ไม่รู้ในหัวของไอลี่นั้นคิดอะไรอยู่ ต่อให้เธอจะมีอิทธิพลมากแค่ไหนในเมืองใหญ่แต่ที่นี่เป็ชายแดน พื้นที่ที่ห่างไกล จักรพรรดิมักจะมองมาไม่ทั่วถึงเสมอคนที่สามารถนำเอาก้อนแร่เหล่านี้ออกมาได้ แถมยังรู้จักกับคนซื้อมากมายขนาดนั้นอิทธิพลจะน้อยได้อย่างไร?
“ทุกคนตามผมมา!” ชายชาวพม่าข่มอารมณ์โมโหของตัวเองเอาไว้ก่อนจะทำมือแสดงความเชื้อเชิญออกมา
ที่แท้ที่นี่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่แท้จริงชายชาวพม่าเดินนำอยู่ด้านหน้า ทุกคนพากันรีบเดินตามเขาออกไปทางประตูหลังก่อนจะได้พบประตูหลังของบ้านอีกหลังหนึ่ง ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม สะดวกสบายดีเสียจริง
หลินลั่วหรานขยับออกห่างจากมู่เทียนหนานในขณะที่เธอเพิ่งก้าวเท้าเข้ามาพร้อมกับหลิ่วเจิง ก็ได้ยินเสียงฮือฮา
คุณลุงของหลิ่วเจิงนั้นเข้าไปดูก่อนแล้วที่แท้ตรงกลางของที่แห่งนี้ก็มีก้อนแร่ขนาดสองคนโอบที่มีความสูงกว่าสามเมตรถูกวางตั้งอยู่!
เมื่อมองไปยังกลุ่มผู้ค้าหยกต่างพากันห้อมล้อมก้อนแร่ก้อนโตหลินลั่วหรานก็ถอนหายใจออกมา ชายชาวพม่าเข้าใจเล่นจิตวิทยาดีนี่นี่เป็เหมือนกับการแสดงอำนาจอย่างหนึ่งเพื่อให้คนได้รู้ว่าการที่เขาสามารถเอาก้อนแร่ขนาดใหญ่ขนาดนี้ออกมาจากเหมืองได้ก็เหมือนกับกำลังบอกพวกเขาว่า สินค้าครั้งนี้จะต้องไม่แย่อย่างแน่นอน
“ลุงหลิ่ว เป็ไงบ้างครับ?”
เมื่อเห็นว่าคุณลุงเดินกลับมาอย่างช่วยไม่ได้หลิ่วเจิงก็เอ่ยถาม
“ไม่แน่ใจจะมีอะไรอยู่ด้านในก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพียงแต่หลายปีที่ผ่านมาดูเหมือนจะไม่ค่อยเห็นหินก้อนใหญ่ขนาดนี้มานานแล้วแต่ยังมาปรากฏอยู่ที่นี่ได้น่าแปลกจริงๆ...ดูเหมือนว่าชายพม่านั้นจะตั้งใจเอามันมาขายในราคาสูงเสียดฟ้าดูกระทบกับความน่าพนันอยู่นะ”
ได้ยินดังนั้นหลิ่วเจิงก็เงียบไปหลินลั่วหรานก็จัดการเก็บข้อมูลจากสายตาของคนทั่วไปเอาไว้ คุณของหลิ่วเจิงคนนี้เขาไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร แต่ก็มีประสบการณ์จากการผิดพลาดมากมายแม้ว่าจะไม่ได้พูดถูกตรง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะห่างกันไกล
สายตาของทุกคนต่างถูกก้อนแร่ก้อนโตดึงดูดไปเสียจนหมดหลินลั่วหรานไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อก้อนแร่ราคาสูงเสียดฟ้าแบบนี้ และดูเหมือนว่าบริษัทของเธออย่างหลิ่วชื่อเองก็คงไม่ซื้อก้อนแร่ก้อนนี้ด้วยเช่นกันหลินลั่วหรานจึงจัดการกวาดสายตาของเธอไปทางบริเวณอื่น
ก้อนหินแร่ที่ขนาดและรูปร่างต่างกันออกไปถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นแต่ด้านในอาจจะมีพลังกลุ่มใหญ่ซ่อนอยู่ก็ได้! เมื่อคิดได้ดังนั้นหลินลั่วหรานก็ตัดสินใจจัดการลูบก้อนแร่กว่าร้อยก้อนทั่วทั้งหมด
ส่วนเื่การพนันหยกนั้นเธอจะลองสำรวจคุณชายตระกูลมู่เสียก่อน หากไม่มีอันตรายอะไรค่อยลงมือก็ยังไม่สาย
เมื่อรวบรวมสมาธิได้หลินลั่วหรานก็หมุนตัวอยู่ในโรงงานแร่ ลูบๆ คลำๆ มองไปเรื่อย ราวกับกำลังเดินเล่นแต่ความจริงเธอกำลังดูดซับพลังจากก้อนหยกเท่านั้นต่างหาก
เมื่อคุณลุงหลิ่วเห็นท่าทีที่ดูไม่เป็มืออาชีพของเธอก็ยิ่งไม่พอใจกับตำแหน่งผู้จัดการซื้อแร่ของเธอนักแต่ก็ไม่อาจจะไปใส่ความอะไรคนที่อายุน้อยกว่าได้ จึงได้แต่เก็บความรู้สึกเ่าั้ไว้ในใจและแสดงสีหน้าไม่ดีนักออกมา
หลิ่วเจิงได้แต่ยิ้มและยังแนะนำความรู้เกี่ยวกับการเลือกก้อนแร่ให้เธออีกด้วย
เมื่อหลินลั่วหรานเห็นว่าคุณชายมู่เอาแต่คอยตามติดเสี่ยซุยไม่ยอมห่างแม้แต่ก้าวเดียว เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความสบายใจ ด้วยความไวต่อความรู้สึกของไข่มุกหากว่าคุณชายมู่เป็ผู้ฝึกศาสตร์จริง เธอก็คงจะสามารถเห็นพลังในกายของเขาไปแล้วและเมื่อเห็นว่าเขาเอาแต่ตามติดเสี่ยซุยก็คงจะเป็เพราะหลังจากซื้อหยกก้อนนั้นไปจากเสี่ยซุยแล้วก็มองว่าเสี่ยซุยเป็ผู้น่าสงสัยไป?
“เป็ยังไงบ้าง เจอก้อนแร่ดีๆบ้างแล้วหรือยัง?” เมื่อหลิ่วเจิงเห็นว่าเธอเอาแต่ลูบตรงนั้นมองตรงนี้ แต่ไม่ลงมือซื้อสักก้อน จึงถามออกมาด้วยความแปลกใจ
หลินลั่วหรานส่งยิ้มให้ “คุณเชื่อว่าฉันเป็เทพสาวแห่งความโชคดีจริงๆเหรอคะ? ถึงจะโชคดีผ่าออกมาเจอหยกสองก้อน แต่คุณเชื่อใจจะให้ฉันเลือกก้อนหินแร่ให้จริงๆเหรอคะ?”
หลิ่วเจิงไม่ได้ออกความเห็นอะไร “ก้อนหินแร่เต็มไปด้วยความไม่รู้ทั้งนั้นก้อนที่เป็กับดัก ไม่ว่าจะมองดูว่ามันดีแค่ไหน ผ่าออกมาแล้วก็ไม่เจออะไรอยู่ดีแต่เพราะแบบนั้นถึงได้เรียกว่าพนันหยกยังไงล่ะ แค่คำว่าพนันก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามันเกี่ยวข้องกับเื่ของโชค”
หลินลั่วหรานปิดปากเงียบ ก่อนจะชี้สุ่มๆไปทางก้อนหินแร่ขนาดใหญ่กว่าครึ่งตัวคน เพื่อทดสอบหลิ่วเจิง
“ประธานหลิ่วงั้นถ้าฉันบอกให้พวกเราซื้อก้อนนั้นล่ะ?” หินแร่ก้อนนั้นมองอย่างไรก็ไม่ค่อยดีนักหากไปเรียกผู้เชี่ยวชาญคนอื่นมา คงบอกว่าเปอร์เซ็นต์การผ่าออกมาเจอหยกคงเท่ากับศูนย์เมื่อสักครู่หลินลั่วหรานก็ลองใช้พลังตรวจสอบดูแล้วและก็รู้ว่าด้านในมีก้อนหยกขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่เมื่อดูจากกลุ่มหมอกที่กระจัดกระจายอยู่ หากซื้อมาก็คงเพียงแค่ไม่ขาดทุนเท่านั้น
หลิ่วเจิงเผยรอยยิ้มออกมา เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหลินลั่วหรานกำลังทดสอบเขาอยู่ เขาไม่พูดอะไรออกมา เพียงแค่หยิบสมุดเช็คออกมาเพื่อเตรียมจะไปคุยเื่ราคากับชาวพม่าคนนั้น
ตอนนั้นชายชาวพม่าได้พูดกติกาการซื้อเอาไว้แล้วการซื้อการหินแร่ในครั้งนี้นอกจากหินแร่ก้อนใหญ่ขนาดสามเมตรที่จะเหลือเอาไว้ขายตอนสุดท้ายแล้วก้อนอื่นต่างก็ให้ดูเอาด้วยตัวเอง แล้วเขียนราคาลงในกระดาษจนเมื่อประกาศราคาครั้งสุดท้ายแล้ว ใครที่ให้ราคาสูงที่สุด ก็จะได้หินแร่ก้อนนั้นไป
การประมูลแข่งขันที่ไม่รู้คู่ต่อสู้อย่างเด่นชัดเป็การกัดกินใจคนได้ดีจริงๆ ชายชาวพม่าฉลาดหลักแหลมเกินไปแล้ว
“เอ๋? ทำไมต้องเขียนว่า588,889 ด้วยล่ะคะ?” นี่เป็ครั้งแรกที่หลินลั่วหรานได้เห็นอะไรแบบนี้เธอไม่รู้ว่าทำไมด้านหลังต้องเดิมเก้าใส่เข้ามาด้วย
หลิ่วเจิงไม่ได้หัวเราะกับความไม่รู้ของเธอแต่กลับอธิบายออกมาด้วยความอดทน “เขาจะไม่ประกาศราคากัน ดังนั้นการประมูลก็เลยก็กฎอะไรแบบนี้อยู่เพื่อที่จะไม่ให้คนอื่นได้สิทธิ์ไปก่อน”
ที่แท้ก็เป็เื่ที่สามารถพบเห็นกันได้ทั่วไปในเหมืองพม่าที่นั่นก้อนแร่มากมายถูกจับผ่าครึ่ง จะมีหรือไม่มีหยกก็รู้ได้ในพริบตาเดียวแถมก็จะได้รู้ว่าสีของหยกมีความเข้มมากแค่ไหนความโปร่งใสไม่อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้ ทุกคนต่างก็เป็คนที่มีความรู้ด้านนี้มากเพื่อที่จะไม่มีการให้ราคาที่ใกล้กันจนเกินไป จึงได้มีวิธีการแบบนี้ขึ้นมา
หลิ่วเจิงเดินไปส่งกระดาษที่เขียนราคาและเลขของก้อนแร่เอาไว้ให้กับชายชาวพม่าก่อนจะเดินกลับมา “ผู้จัดการหลินเพียงเท่านี้คุณก็เชื่อในความบริสุทธิ์ใจของผมแล้วใช่ไหม?”
ใบหน้าของหลินลั่วหรานขึ้นสีแดงขึ้นมายังดีที่เธอรู้ว่าด้านในมีหยกอยู่ ไม่อย่างนั้นหากไม่ระวังก็อาจจะทำให้หลิ่วเจิงเสียเงินไปโดยเปล่าได้
คงจะต้องลงมือจริงๆ แล้วใช่ไหมจะช่วยหลิ่วเจิงเลือกสักกี่ก้อนดีนะ? หลินลั่วหรานมองไปมาราวกับลูกนกตัวน้อยส่วนคุณชายมู่ก็เดินวนอยู่รอบหินแร่ก้อนใหญ่พร้อมกับเสี่ยซุย เขายังไม่แน่ใจนักว่าควรจะลองเสี่ยงกับหินก้อนนี้ดูดีหรือไม่?