### บทที่ 17: เข้าสู่เมืองใหญ่และข่าวคราวที่น่าใ
หลังจากจัดการกับกลุ่มนักล่าอสูรแล้ว เย่เฟิงและเซี่ยหนิงฉางก็ออกเดินทางต่อไปโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ อีก
การเดินทางครั้งนี้ราบรื่นกว่าที่คิด ด้วยวิชาตัวเบา "ก้าวไร้เงา" และประสาทััที่เฉียบคมของเย่เฟิง ประกอบกับความรู้และประสบการณ์อันกว้างขวางของเซี่ยหนิงฉาง ทำให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางของอสูรปราณที่ทรงพลังและเลือกเดินทางในเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดได้
ในที่สุด...หลังจากเดินทางอีกหนึ่งวันเต็ม กำแพงเมืองขนาดมหึมาของ "เมืองเมฆาอรุณ" ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของพวกเขาอย่างชัดเจน
มันเป็เมืองที่ใหญ่และโอ่อ่ากว่าที่เย่เฟิงเคยจินตนาการไว้หลายเท่านัก กำแพงเมืองสูงตระหง่านราวกับสันเขา สร้างขึ้นจากหินอัคนีสีดำสนิทที่แข็งแกร่งทนทาน ที่ประตูเมืองขนาดใหญ่ มีผู้คนและกองคาราวานเข้าออกกันอย่างไม่ขาดสาย แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของเมืองแห่งนี้
"ก่อนที่เราจะเข้าไป" เซี่ยหนิงฉางเอ่ยขึ้น "เ้าควรจะปิดบังรูปโฉมที่แท้จริงของเ้าไว้ก่อน"
เย่เฟิงพยักหน้าเห็นด้วย เขาโคจรพลังตามเคล็ดวิชา "มายาพันแปลง" ในทันที รูปลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไป กลายเป็ชายวัยกลางคนหน้าตาธรรมดาสามัญ และกลิ่นอายพลังก็ถูกกดลงให้อยู่เพียงแค่ขั้นรวบรวมปราณ ส่วนเซี่ยหนิงฉางนั้น นางเพียงแค่ใช้ผ้าคลุมหน้าบางๆ สีขาวมาปิดบังใบหน้าที่งดงามของนางไว้ แต่มันก็ยังไม่อาจซ่อนเร้นรัศมีที่สูงส่งและบริสุทธิ์ของนางได้ทั้งหมด
ทั้งสองปะปนเข้าไปกับฝูงชนที่กำลังจะเข้าเมือง ทหารยามที่เฝ้าประตูนั้นมีระดับพลังอยู่ที่ขั้นสร้างรากฐาน พวกเขามีสายตาที่คมกล้าและกวาดมองผู้คนอย่างเข้มงวด แต่ก็ไม่ได้สนใจนักเดินทางหน้าตาธรรมดาอย่างเย่เฟิงมากนัก
หลังจากจ่ายค่าผ่านประตูที่เป็เหรียญทองแดงไม่กี่อีแปะแล้ว ในที่สุด...เย่เฟิงก็ได้เหยียบย่างเข้ามาในเมืองที่แท้จริงเป็ครั้งแรกในชีวิต
ถนนที่ปูด้วยหินสีเขียวกว้างขวาง สองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารร้านค้าที่สร้างอย่างงดงามใหญ่โต ทั้งโรงเตี๊ยม, โรงประมูล, ร้านขายโอสถ, และร้านขายศาสตราวุธ เสียงพูดคุยต่อรองราคาและเสียงโหวกเหวกของผู้คนดังเซ็งแซ่ไปทั่ว มันคือโลกใบใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตและโอกาส...แต่ก็ซ่อนเร้นไว้ด้วยอันตรายเช่นกัน
เย่เฟิงที่กำลังตื่นตาตื่นใจกับภาพเบื้องหน้า ก็พลันสังเกตเห็นฝูงชนกลุ่มใหญ่กำลังมุงดูอะไรบางอย่างอยู่ที่ "กระดานประกาศ" ของเมือง ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากประตูเมืองนัก
ด้วยความอยากรู้ว่ามีข่าวคราวอะไรในยุทธภพตอนนี้บ้าง เขากับเซี่ยหนิงฉางจึงเดินเข้าไปดูด้วย
บนกระดานประกาศนั้นเต็มไปด้วยใบประกาศจับของเหล่าโจรป่าและผู้ฝึกตนฝ่ายอธรรมมากมาย แต่แล้ว...สายตาของเย่เฟิงก็พลันแข็งค้าง...เมื่อเขาเหลือบไปเห็นใบประกาศใบใหม่ล่าสุดที่ถูกติดไว้ในตำแหน่งที่เด่นที่สุด
มันคือใบประกาศจับ...ที่ออกโดย "พรรคมารอสูรโลหิต"!
บนใบประกาศนั้น มีภาพวาดลายเส้นหยาบๆ ของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แม้จะไม่เหมือนเสียทีเดียว แต่แววตาที่ดื้อรั้นและเด็ดเดี่ยวนั้น...มันคือภาพของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!
และข้อความที่เขียนอยู่ด้านล่างก็ทำให้เืในกายของเขาเย็นเฉียบลงในบัดดล...
"ประกาศจับ! มอบรางวัลหินปราณชั้นกลางหนึ่งพันก้อน และเคล็ดวิชาระดับปฐีหนึ่งเล่ม ให้แก่ผู้ที่สามารถให้เบาะแสหรือจับตัว...ศิษย์ที่รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของสำนักกระบี่เมฆาคล้อย...นามว่า...เย่เฟิง!"
ในวินาทีนั้นเอง...โลกทั้งใบของเย่เฟิงพลันเงียบสงัดลง เขายืนนิ่งอยู่หน้าใบประกาศจับของตัวเอง มือที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อกำแน่นจนเส้นเืปูดโปน ไอสังหารอันเยียบเย็นที่เขาพยายามกดข่มไว้มาโดยตลอดพลันปะทุขึ้นมาในใจอย่างรุนแรง!
พรรคมารอสูรโลหิต...พวกมันไม่เพียงแต่ทำลายบ้านของเขา...แต่ยังป่าวประกาศไล่ล่าเขาไปทั่วทั้งยุทธภพ! พวกมันไม่คิดจะปล่อยให้เขา...ผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว...มีชีวิตอยู่ต่อไป!
เซี่ยหนิงฉางที่ยืนอยู่ข้างๆ ััได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงซึ่งแผ่ออกมาจากร่างของเขาได้อย่างชัดเจน นางรีบวางมือลงบนแขนของเขาเบาๆ เป็การเตือนสติ
เย่เฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก...แล้วค่อยๆ กดข่มเพลิงแค้นอันบ้าคลั่งนั้นลงไปอีกครั้ง เขาเงยหน้าขึ้น แววตาที่เคยตื่นตะลึงบัดนี้กลับมาสงบนิ่งและเยือกเย็นอย่างน่ากลัว
เขาเข้าใจแล้ว...เมืองเมฆาอรุณแห่งนี้ ไม่ใช่แค่จุดเริ่มต้นของการเดินทาง...
แต่มันคือสมรภูมิรบแรก...บนเส้นทางแห่งการล้างแค้นของเขา!
(จบตอนที่ 17)