ทั่วทั้งสนามประลองเต็มไปด้วยเสียงะโดังขึ้นทั่วทุกสารทิศ
เวลานี้ ตรงกลางลานประลอง หัวของเสิ่นเฟยที่เพิ่งถูกหมัดของเนี่ยหลีตบจนมึนงงไปเมื่อครู่เริ่มค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้ว เขาดิ้นรนขยับกายลุกขึ้นยืน เสิ่นเฟยเวลานี้โกรธจนแทบทะลุขึ้นไปถึงฟ้าแล้ว เขายังไม่ทันหลอมรวมกับจิตอสูรก็เริ่มลงมือประลอง นี่เป็เพราะคำสั่งของผู้าุโเสิ่นิ ที่กำชับมาว่าต้องเอาชนะเนี่ยหลีหลังการประมือยี่สิบกระบวนท่าไปแล้ว ใครจะรู้ว่าเนี่ยหลีกลับไร้ยางอาย หลอมรวมกับจิตอสูรของตนทันที?
อยู่ๆ ก็ต้องมากล้ำกลืนฝืนกินความพ่ายแพ้อย่างน่าประหลาดคาดไม่ถึง ปอดของเสิ่นเฟยแทบจะะเิออกมาเป็เสี่ยงๆ แล้ว เขาตัดสินใจโยนคำสั่งของผู้าุโเสิ่นิขึ้นไปถึง์เก้าชั้นฟ้าแล้ว
“เป็เ้ารนหาที่ตายเอง ข้าจะฆ่าเ้า!” เสิ่นเฟยส่งเสียงคำรามคำหนึ่ง อาณาเขติญญากระเพื่อมไหวขึ้นไม่หยุดหย่อน กลิ่นไอของจิตอสูรส่วนหนึ่งเริ่มถ่ายทอดออกมาจากร่างของเขา
จิตอสูรที่เสิ่นเฟยใช้เป็จิตอสูรพยัคฆ์ดำเพลิงแดงที่ทรงพลัง พยัคฆ์ดำเพลิงแดงนี้เป็สัตว์อสูรที่มีความน่ากลัวยิ่งชนิดหนึ่ง สัตว์อสูรตนนี้ถูกท่านประมุขแห่งตระกูลเสินเซิ่งล่ามาได้ด้วยตนเอง มันเป็สัตว์อสูรระดับทองดำหนึ่งดาว ดังนั้นจึงมีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง เพียงพอที่จะทำให้เสิ่นเฟยมีพลังเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่าตัว!
“คุณชายเสิ่นเฟยในที่สุดก็จะใช้จิตอสูรแล้ว...”
อัฒจันทร์ในสนามประลองดุเดือดขึ้นมาทันที
“กลิ่นไอนี้...”
“โอ้์ น่ากลัวเกินไปแล้ว ที่แท้เป็พยัคฆ์ดำเพลิงแดงตนหนึ่ง!”
พยัคฆ์ดำเพลิงแดงปะทะแพนด้าเขี้ยวเสือหรือ? ผลสรุปนี้คิดออกได้ง่ายดายนักแล้ว ทุกคนแทบจะรู้สึกว่าแพนด้าเขี้ยวเสือจะต้องถูกพยัคฆ์ดำเพลิงแดงฆ่าทิ้งอย่างแน่นอน!
พลังปราณบนร่างของเสิ่นเฟยยิ่งนานไปก็ยิ่งเข้มข้น กลิ่นไอของพยัคฆ์ดำเพลิงแดงก็แข็งแกร่งยิ่ง ทำให้ผู้คนต้องตื่นตะลึงแล้ว
เนี่ยไห่ เนี่ยเอินและคณะไม่อาจนั่งนิ่งได้อีกแล้ว เป็ไปไม่ได้ที่แพนด้าเขี้ยวเสือของเนี่ยหลีจะต่อกรกับพยัคฆ์ดำเพลิงแดงได้ ในการต่อสู้นี้ ความต่างชั้นของพลังมีมากเกินไป!
“ทำอย่างไรดี พวกเราให้เสี่ยวหลียอมแพ้เสียเถอะ!”
ผู้คนที่พนันข้างเสิ่นเฟยพากันส่งเสียงะโให้กำลังใจเสิ่นเฟยขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ในสายตาของพวกเขา การต่อสู้ครั้งนี้ เสิ่นเฟยถูกกำหนดให้เป็ฝ่ายชนะอย่างแน่นอน!”
ทว่าทันใดนั้นเอง บรรดาสรรพเสียงทั้งหลายก็สิ้นสุดลง
ชั่วขณะที่เสิ่นเฟยกำลังกระตุ้นอาณาเขติญญาในร่างกายของเขา ชั่วขณะสำคัญของผู้ควบคุมจิตอสูรที่จะเรียกจิตอสูรของตนออกมา เนี่ยหลีสาวเท้าไปเบื้องหน้าหลายก้าว และตบใส่หลังศีรษะของเสิ่นเฟยทันที
ตูม!
เสิ่นเฟยผู้กำลังหลอมรวมกับจิตอสูรของตนพลันถูกกระแทกจนต้องร่วงลงพื้นอีกคราหนึ่ง มองเห็นหลุมลึกบนพื้น กระบวนการหลอมรวมจิตอสูรของเสิ่นเฟยสิ้นสุดลงพร้อมเสียงครวญคราง กลิ่นไอเข้มข้นก็กระจายตัวหายไป เวลานี้ สภาพของเสิ่นเฟยย่ำแย่อย่างยิ่ง ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาถูกตะปบจนแบนราบติดกับพื้น
และหัวโจกจอมอันธพาลผู้กระทำเื่นี้ เนี่ยหลี กำลังขยับกล้ามเนื้อและกระดูกของตนอย่างคล่องแคล่วว่องไวยิ่ง
ตะลึงจนตาค้าง พากันพูดอะไรไม่ออกแล้ว!
ทั้งสนามพากันตกตะลึงจังงัง!
เนี่ยไห่ เนี่ยเอิน หยางซินและพวกก็พากันทำตัวไม่ถูกเสียแล้ว
“ชั่วช้านัก ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!” เนี่ยไห่ เนี่ยเอิน และคณะ หน้าแก่ๆ ของแต่ละคนร้อนผะผ่าวขึ้นมาแล้ว ทุกคนแทบมีความรู้สึกอยากจะหาอะไรมาปิดหน้าและลุกหนีไปเสียให้พ้น สินค้าชิ้นนี้เป็ของตระกูลเทียนเหินหรือ? นี่... คือเชื้อสายของตระกูลเทียนเหินหรือ คิดไม่ถึงว่าจะเลี้ยงดูเยาวชนของตระกูลออกมาได้อย่างไร้ยางอายปานนี้?
แม้แต่พวกที่พนันว่าเนี่ยหลีจะเป็ฝ่ายชนะก็ยังหน้าร้อนผะผ่าวขึ้นมา แม้เนี่ยหลีจะกลายเป็ฝ่ายได้เปรียบ ทว่านี่... ดูเหมือนจะไม่ค่อย... ถูกต้อง!
หลายปีที่มีการประลองเยาวชนผู้มีพร์ ที่ไหนจะเคยเห็นการต่อสู้เช่นนี้มาก่อน?
ในการประลองเยาวชนผู้มีพร์ที่ผ่านมา ต่างเปรียบฝีมือเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กัน ล้วนเป็การแสดงวิถีการต่อสู้ด้วยจิติญญาแห่งเต๋าอันโดดเด่น ส่วนใหญ่เรียกจิตอสูรออกมาพร้อมๆ กัน การต่อสู้ก็จำกัดอยู่แค่การเทียบเคล็ดวิชาการต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย ไม่เคยเห็นอะไรเช่นเนี่ยหลีมาก่อน ไม่บอกไม่กล่าวก็เรียกจิตอสูรของตนออกมา ขณะที่ผู้อื่นกำลังเรียกจิตอสูรออกมา ก็เข้าโจมตีตัดตอนทันที
พวกตระกูลเสิ่นเซิ่งแทบะโพรวดขึ้นมาแล้ว
“ตระกูลเทียนเหิน คนของพวกเ้าไม่รู้จักรักษาหน้าตาเกินไปแล้ว! เปรียบฝีมือเช่นนี้ เป็การฉวยโอกาสที่ไร้ซึ่งความยุติธรรมชัดๆ!” คนของตระกูลเสินเซิ่งก่นด่าใส่ตระกูลเทียนเหินอย่างไม่ปราณี
แม้เนี่ยไห่และเนี่ยเอินก็รู้สึกเช่นกันว่ากระบวนท่านี้ของเนี่ยหลีไร้ยางอายเกินไป ทว่าพวกเขาย่อมไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าตระกูลเสินเซิ่งอย่างแน่นอน “พวกเราทำผิดกฎข้อไหนของการประลองมิทราบ พวกเ้าไม่มีสิทธิมากล่าวหาพวกเราที่นี่!”
“พวกเราตระกูลเทียนเหินจะทำอะไร ต้องให้พวกเ้ามาสั่งสอนด้วยหรือ?”
“เป็พวกเ้าตระกูลเสินเซิ่งโง่งมเกินไปต่างหาก ดื้อรั้นไม่เข้าเื่ เห็นๆ อยู่ว่าเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรที่ไม่ยอมเรียกใช้จิตอสูรก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้น ยามจะเรียกจิตอสูรออกมาใช้งาน ก็ยังอุตส่าห์หันหลังให้กับคู่ต่อสู้เสียอีก จะโทษผู้ใดได้?”
เวลานี้ หยางซินหันไปมองเสิ่นิและพูดเบาๆ “ท่านผู้ช่วยเสิ่นิ ตระกูลเสินเซิ่งคงมิใช่จ่ายไม่ไหวกระมัง?” แม้เนี่ยหลีออกจะไร้ยางอายเกินไปสักหน่อย นางยังคงยืนอยู่ข้างเนี่ยหลีเช่นเดิม
เห็นสถานการณ์ในลานประลอง รอยยิ้มของหยางซินก็ยิ่งชวนมองมากขึ้น เนี่ยหลีเ้าเด็กเหลือขอผู้นี้ ช่างทำให้ผู้คนคาดเดาได้ยากนัก ภายนอกดูแล้วใสซื่อไร้เดียงสา ในกระดูกกลับเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแผนการ ทำตัวนอกลู่นอกทางอยู่ตลอดเวลา ครั้นพอมีใครคิดหลอกล่อ ก็กลับมีความมั่นคงหนักแน่นนัก
เสิ่นิสีหน้าเคร่งขรึม เนี่ยหลีเ้าเด็กคนนี้เ้าเล่ห์เกินไปแล้ว เขาได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้ ในเมื่อเนี่ยหลีตกลงที่จะแข่งสามรอบ พ่ายแพ้รอบแรกเช่นนี้ก็ไม่นับว่าเป็อะไร ในเมื่อรู้แล้วว่าจิตอสูรของเนี่ยหลีคือแพนด้าเขี้ยวเสือ เสิ่นิจึงยิ้มเ็าอยู่ในใจ ถือว่ารอบนี้พ่ายแพ้ รอบหน้าเขาต้องรวบเงินทั้งหมดที่แพ้พนันไปกลับคืนมาให้ได้!
เสิ่นิชำเลืองมองหยางซินและเอ่ย “แน่นอน ย่อมไม่เป็เช่นนั้น เงินจำนวนน้อยนิดเพียงแค่นี้ ตระกูลเสินเซิ่งของข้าย่อมจ่ายได้อยู่แล้ว!”
เวลานี้ ในลานประลอง เสิ่นเฟยผู้นอนอยู่ก้นหลุมแทบจะะเิออกมาแล้ว หลังจากที่ถูกเนี่ยหลีตะปบใส่สองหมัด ใบหน้าของเขากระแทกลงพื้นอย่างแรง เืไหลออกทางจมูก ใบหน้าก็เต็มไปด้วยาแฟกช้ำ เมื่อครู่ขณะที่เขากำลังจะหลอมรวมกับจิตอสูรของตน กลับถูกเนี่ยหลีตะปบใส่จนอาณาเขติญญาสั่นะเือย่างแรง ทำให้การหลอมรวมกับจิตอสูรล้มเหลว
“คุณชายเสิ่นเฟย ท่านไม่เป็อะไรใช่หรือไม่? พวกเราเพียงแค่แลกเปลี่ยนความรู้ ชี้แนะต่อกัน หากท่านลุกไม่ไหว เช่นนั้นก็ยอมแพ้เถอะ!” เนี่ยหลีนั่งยองๆ ลงข้างเสิ่นเฟย พูดด้วยเจตนาแอบแฝงความชั่วร้าย
ยอมแพ้หรือ?
หากเขายอมแพ้ เงินห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูรก็จะอันตรธานหายไปทันที!
เขาย่อมไม่ยินยอมพร้อมใจ!
เสิ่นเฟยคำรามกราดเกรี้ยว อาณาเขติญญาสาดซัดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง จิตอสูรโผล่ออกมาจากร่างกาย เตรียมพร้อมที่จะหลอมรวมกับจิตอสูร ะเิพลังปราณแข็งแกร่งไปทั่วร่าง ร่างกายกำลังเปลี่ยนรูปอย่างรวดเร็ว เขี้ยวและกรงเล็บแหลมคมงอกออกมา พยัคฆ์ดำเพลิงแดงส่งเสียงคำรามลั่น พลังที่แผ่ซ่านออกมาน่าสะพรึงกลัวไร้ที่สิ้นสุด
‘ขอเพียงข้าหลอมรวมกับจิตอสูรได้สำเร็จ แพนด้าเขี้ยวเสือของเ้า จะรับมือข้าได้หรือ? คิดจะขัดขวางไม่ให้ข้าหลอมรวมกับจิตอสูรได้สำเร็จ นั่นย่อมเป็ไปไม่ได้ เปลวไฟจากพยัคฆ์ดำเพลิงแดงเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะเผาเ้าจนมอดไหม้แล้ว!’ เสิ่นเฟยครุ่นคิดในใจ ร่างกายะเิเปลวไฟร้อนแรงออกมา
“คุณชายเสิ่นกำลังจะสำแดงพลังของเขาออกมาแล้ว!”
“นี่คือเปลวไฟสีแดงจากการหลอมรวมกับพยัคฆ์ดำเพลิงแดง! เปลวไฟนี้ร้อนแรงยิ่ง มันสามารถเผาไหม้ทุกอย่างรอบตัวจนกลายเป็เถ้าถ่านได้เลยทีเดียว!”
“ช่างสมกับเป็คุณชายเสิ่นเฟย มีทักษะการต่อสู้เช่นนี้ เนี่ยหลีต้องย่ำแย่แน่ๆ เขาเข้าใกล้เปลวไฟชุดนี้ไม่ได้ หากคุณชายเสิ่นหลอมรวมกับจิตอสูรได้สำเร็จ เดาว่ากระบวนท่าเดียวก็คงสามารถล้มเ้าแพนด้าเขี้ยวเสือได้แล้วกระมัง!”
“จิตอสูรอย่างแพนด้าเขี้ยวเสือจะเป็คู่ต่อสู้ของพยัคฆ์ดำเพลิงแดงได้อย่างไรกัน? แม้เมื่อครู่จะเป็ฝ่ายได้เปรียบ ก็แล้วจะเป็อย่างไร?”
ความคิดเห็นในสนามประลองดังขึ้นทีละคนๆ
“เปลวไฟรึ? แข็งแกร่งปานนั้นเชียว?” เวลานี้ เนี่ยหลีที่หลอมรวมกับแพนด้าเขี้ยวเสือกำลังยืนอยู่กลางเปลวไฟ แต่กลับไม่รู้สึกถึงความร้อนแรงของเปลวไฟชุดนี้แม้แต่น้อย
แม้จิตอสูรพยัคฆ์ดำเพลิงแดงของเสิ่นเฟยจะเป็จิตอสูรที่มีคุณภาพดี แต่ก็ยังห่างชั้นจากแพนด้าเขี้ยวเสือของเนี่ยหลีเป็อันมาก! คนทั่วไปย่อมคิดไม่ถึงว่าแพนด้าเขี้ยวเสือจะมีความแข็งแกร่งถึงปานนี้ ทักษะการต่อสู้เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำร้ายแพนด้าเขี้ยวเสือได้กระนั้นหรือ?
ทว่าเวลานี้มิใช่เวลาที่จะมาแสดงพลังเช่นนี้
ชั่วขณะที่เสิ่นเฟยกำลังจะหลอมรวมกับจิตอสูรของตนได้สำเร็จ ผู้คนก็มองเห็นเนี่ยหลียกเท้ากระทืบลงไปที่ร่างของเสิ่นเฟยอย่างไม่ปราณี อาณาเขติญญาของเสิ่นเฟยถูกกระทบกระเทือนอีกครั้งหนึ่ง เป็เหตุให้การหลอมรวมกับจิตอสูรล้มเหลว จิตอสูรในอาณาเขติญญายังไม่สามารถออกมาได้
เสียงะโโห่ร้องของผู้ชมในสนามหยุดชะงัก ทุกคนงุนงงแล้ว พวกเขาจินตนาการว่าจะได้เห็นภาพแพนด้าเขี้ยวเสือถูกเปลวไฟแผดเผาจนต้องเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นจนสลายหายไป ทว่ากลับกลายเป็เสิ่นเฟยกำลังตัวสั่นงันงกตกอยู่ในสภาพย่ำแย่สุดขีด
“หลอมรวมกับจิตอสูรล้มเหลวอีกแล้วหรือ?”
“เป็ไปได้อย่างไร?”
‘ฝ่าเท้าชุดนี้ช่างสะใจนัก! ได้ช่วยหนิงเอ๋อระบายความแค้นออกมาเสียบ้าง!’ เนี่ยหลีแอบคิด เสิ่นเฟยถูกเขาขยี้จนย่ำแย่ไม่น้อยแล้ว ทว่าเนี่ยหลียังมีทีท่าไม่คิดหยุดมือ
“ข้าได้ยินมาว่าคุณชายเสิ่นเป็คนที่ชอบเด็ดบุปผางาม ผ่านเด็กสาวมาแล้วไม่รู้ว่าเท่าไหร่ เพื่อเห็นแก่สุขภาพของคุณชายเสิ่น อีกหน่อยก็อย่าได้ซุกซนอีกเลย!” เนี่ยหลีเตะใส่จุดฝังเข็มสำคัญของเสิ่นเฟย นับจากนี้ไป เกรงว่าเสิ่นเฟยคงไม่เป็ผู้เป็คนอีกต่อไปแล้ว
กลุ่มคนที่พนันว่าเสิ่นเฟยจะเป็ฝ่ายชนะ แต่ละคนกลอกตาปะหลับปะเหลือก พวกเขาได้ยินเสียงพยัคฆ์คำรามสองสามหน พวกเขาคิดว่าจะมีโอกาสได้เอาคืน คิดไม่ถึงว่าลูกเตะสองสามชุดของเนี่ยหลีจะทำลายความคิดของพวกเขาไปจนหมดสิ้น
“เฮ้ย ช่างน่าโมโหนัก คิดไม่ถึงว่าจะต้องมาพ่ายแพ้เช่นนี้!”
“ต้องโทษเ้าเสิ่นเฟยหัวหมูผู้นั้น (ดื้อรั้น) จองหองเสียจนไม่ยอมเรียกจิตอสูรของตนออกมาเสียั้แ่เริ่มการแข่งขัน! สุดท้ายกระทั่งโอกาสจะเรียกจิตอสูรของตนออกมาก็ยังไม่มี!”
“ทว่าคนจากตระกูลเทียนเหินผู้นั้นก็ลงมือชั่วร้ายนัก ไม่ให้โอกาสเสิ่นเฟยเรียกจิตอสูรของตนออกมาเลย! นี่ออกจะขัดแย้งกับวิถีแห่งยุทธ์เกินไปไม่น้อย!”
พอครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขาก็บังเกิดความรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาเสียจริง เมื่อมาพบเจอกับคนไร้ยางอายเช่นเนี่ยหลี พวกเขายังจะพูดอะไรได้อีกเล่า แม้พวกเขามีสิทธิประณามเนี่ยหลี แต่ในการประลองเยาวชนผู้มีพร์ก็ไม่มีกฎว่าห้ามกระทำเช่นนี้!
เสิ่นิมองดูแล้ว คิดว่าเนี่ยหลีคงไม่ยอมให้โอกาสเสิ่นเฟยหลอมรวมกับจิตอสูรของตนแน่ หากสู้ต่อไป ก็คงได้แต่เห็นเสิ่นเฟยในสภาพที่ไม่อาจหลอมรวมกับจิตอสูรถูกเนี่ยหลีทำร้ายเท่านั้น
“การต่อสู้รอบนี้ ตระกูลเสินเซิ่งของข้าขอยอมแพ้ โปรดหยุดมือเถิด!” เสิ่นิประกาศขึ้นเสียงกร้าว เสียงของเขาดังก้องออกไปทั่วทั้งสนามประลอง ทุกคนรู้สึกได้ถึงความโกรธเกรี้ยวที่แฝงอยู่ในน้ำเสียง
บนอัฒจันทร์ ผู้ชมทุกคนฝืนยิ้ม นี่เป็การประลองที่ไร้สาระที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยชมมาเลยทีเดียว
เวลานี้ เสิ่นหนิงและเสิ่นเซี่ยวแห่งตระกูลเสินเซิ่งมองหน้ากัน พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเสิ่นเฟยจะพ่ายแพ้ในการประลองด้วยสภาพเช่นนี้ นอกจากเสิ่นเฟยจะสามารถทำให้เนี่ยหลีแสดงจิตอสูรแพนด้าเขี้ยวเสือออกมาได้เพียงอย่างเดียว กระทั่งทดสอบพลังที่แท้จริงของเนี่ยหลี เสิ่นเฟยก็ยังไม่ทันมีโอกาสได้กระทำ ขณะจ้องมองท่าทางที่ไม่เป็พิษเป็ภัยของแพนด้าเขี้ยวเสือที่หลอมรวมกับเนี่ยหลี ในใจของพวกเขาก็อดที่จะรู้สึกดูแคลนขึ้นมาหลายส่วนมิได้
เมื่อเห็นเสิ่นเฟยตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ พวกเขาไม่เพียงไม่รู้สึกเศร้าใจ ยังแอบยิ้มเยาะอีกด้วย คุณชายน้อยผู้สืบสายตรงของตระกูลช่างถูกตามใจจนเสียคน ปัญญาต่ำต้อย ได้ยินว่าเสิ่นเฟยชอบพร่าผู้หญิงไปทั่ว เดาว่าพื้นฐานคงกลวงโบ๋ไปแล้ว จึงได้พ่ายแพ้ให้แก่เนี่ยหลี เงินพนันที่เสิ่นเฟยทำให้สูญเสียไป พวกเขาจะต้องเอาคืนกลับมาได้อย่างแน่นอน คุณชายน้อยสายตรงเป็เพียงขยะผู้หนึ่ง ก็เป็การดีที่พวกเขาจะได้แสดงฝีมือแล้ว!
เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นิ เนี่ยหลีแอบรู้สึกเศร้าใจแล้ว ยอมแพ้รวดเร็วปานนี้เชียว ไม่สนุกเอาเสียเลย เนี่ยหลีเหยียบลงบนร่างของเสิ่นเฟยอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นยกสองมือขึ้นคำนับแก่เสิ่นเฟย “ฮ่าๆ การประลองครั้งนี้ช่างสนุกจนมันหยดเสียจริง พี่เสิ่นเฟยออมมือให้ข้าแล้ว!
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี บรรดาผู้ชมบนอัฒจันทร์ตะลึงงันแล้ว เนี่ยหลีช่างหน้าไม่อายจนถึงขีดสุดแล้ว
สนุกจนมันหยดรึ? คงมีแต่เนี่ยหลีที่สนุกจนมันหยดกระมัง ั้แ่ต้นจนจบก็เห็นแต่เนี่ยหลีไล่ขยี้เสิ่นเฟยที่นอนกองอยู่กับพื้น ไม่เห็นเสิ่นเฟยได้ตอบโต้แม้สักนิด ที่ว่าออมมือ ตลอดการประลองครั้งนี้ ก็ช่างดูเหมือนเสิ่นเฟยออมมือให้เนี่ยหลีเสียจริงๆ ไม่ทันหลอมรวมกับจิตอสูรก็ขึ้นเวทีไปให้เนี่ยหลีขยี้แล้วขยี้อีก
หลายคนที่เสียเงินพนันเพราะเสิ่นเฟยพากันก่นด่า
“แม่ง นี่มันอุบายอะไรกัน!”
“คงมิใช่ว่าสมาคมนักปรุงยาวิเศษร่วมมือกับตระกูลเสินเซิ่งมาหลอกต้มพวกเราหรอกกระมัง!”
“ทำให้ข้าเสียเงินทองมากมาย พวกคนตระกูลเสินเซิ่ง ข้าจะเกลียดพวกเ้าไปตลอดชีวิตทีเดียวเชียว!”
เวลานี้ ที่มุมหนึ่งของอัฒจันทร์ เยี่ยจื่ออวิ๋นผู้กำลังชมดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ก็อดหัวเราะออกมามิได้ นางได้ยินว่าตระกูลเสินเซิ่งเป็เ้าภาพจัดงานประลองเยาวชนผู้มีพร์ของปีนี้ ตระกูลเทียนเหินก็จะเข้าร่วมด้วย จึงเป็ห่วงเนี่ยหลีอยู่บ้าง ดังนั้นจึงรีบมา แฝงตัวเฝ้าชมเหตุการณ์อยู่ที่มุมหนึ่งของอัฒจันทร์
เดิมทีนางคิดว่าเนี่ยหลีคงต้องพ่ายแพ้ ทว่าดูจากท่าทางการะโโลดเต้นมีชีวิตชีวาของเนี่ยหลีแล้ว นางก็เข้าใจแล้วว่าความกังวลของตนคงไม่จำเป็ ดูเหมือนว่าจนถึงเวลานี้ ยังไม่มีผู้ใดสามารถทำให้เนี่ยหลีขาดทุนได้ ดวงตาสดใสกลมโตของนางจ้องมองเงาหลังของเนี่ยหลี ยิ้มจนตาหยีขึ้นมา
เยี่ยจื่ออวิ๋นนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งเช่นนั้น รูปโฉมงดงามตรึงใจของนางทำให้ผู้ชมรอบด้านพากันชำเลืองมองนางตลอดเวลา พวกเขาไม่รู้ว่าเยี่ยจื่ออวิ๋นคือธิดาของท่านเ้าเมือง เด็กสาวรูปโฉมงดงามปานนี้พบเห็นได้ยากนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้