ยามราตรีคืบคลานเข้ามา บนถนนเหมันต์มีชั้นเกล็ดน้ำค้างสีขาวขึ้นปกคลุมพื้นสีขาวโพลน ภายใต้แสงจันทร์ราวกับเพิ่งมีหิมะตกลงมา
“ฉึก!”
เสียงดาบคมกริบบาดเนื้อหนังแว่วมาจากการต่อสู้ที่กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือดท่ามกลางป่า
มีเสียง “ต๋อม” ดังขึ้นมา ผมหยิบขวดเืออกมาดื่มขณะกำลังเพ่งสมาธิจับตามองระดับเืของตัวเองและระดับเืของหมีหลังเหล็กแล้วมุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ถึงมันจะเป็รอยยิ้มที่น่ากลัวไปสักหน่อยแต่มันก็เป็ยิ้มที่ผุดมาจากใจผมเลย
หลังการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ ได้เวลาประกาศการตายของหมีหลังเหล็กแล้ว ด้วยเลเวลและเทคนิคการตั้งรับของผมในขณะนี้ทำให้การฆ่าหมีหลังเหล็กตัวนี้เป็เื่ที่ไม่ยากเกินไป
“ฮิๆ!”
ดาบขจีไพรแทงทะลุเกราะบริเวณหน้าอกของหมีหลังเหล็กเข้าไปตรงๆ ก่อนที่ตัวเลขความเสียหายจำนวนมหาศาลจะลอยขึ้นมา—284!
ด้วยพลังของคมดาบปลิดชีพหมีหลังเหล็กร้องออกมาด้วยความเ็ปก่อนจะล้มลงพร้อมเืที่ไหลนองเต็มพื้น
หินเวทก้อนมหึมาดรอปออกมาจากร่างของมัน และยังมีเกราะขาสีเขียวอร่ามอีกชิ้นด้วย ทำให้ผมตื่นเต้นมาก ในที่สุดก็มีไอเทมสวมใส่ดรอปออกมาแล้ว ไอเทมของวันนี้ดรอปได้อลังการมากจริงๆ!
ผมรีบวิ่งไปข้างหน้า หินเวทขนาดใหญ่ก้อนนี้มีคุณภาพ 57 หน่วยสามารถแลกเป็เหรียญเงินได้ 11 เหรียญเชียว! แล้วผมก็หยิบเกราะขาสีเขียวอร่ามคู่นั้นขึ้นมาแล้วพบว่ามันคือเกราะที่ทำจากหนังชิ้นหนึ่ง
[เกราะขาหนังหมี] (ระดับหินดำ)
พลังป้องกัน : 7
ความคล่องตัว : +2
เลเวลที่้า : 15
......
จุ๊ๆ พลังป้องกันของอาวุธเกราะหนังนั้นแย่กว่าเสื้อเกราะอีก แต่ทว่าความไว 2 แต้มนี้น่าจะเปลี่ยนเป็ความเร็วในการโจมตีได้ 0.1% และอัตราการหลบ 0.2% อีกอย่างตอนนี้ผมก็ยังไม่มีเกราะขาด้วยใส่ไปก่อนแล้วกัน ยังไงซะมันมีพลังป้องกันตั้ง 7 หน่วย
“ซู่!”
แสงประกายระยิบระยับ เกราะขาหนังหมีครอบอยู่บนขาของผม อืม ไม่ต้องเผยกระดูกขาที่สะดุดตาคู่นั้นให้เห็นอีกแล้ว
“เอ๊ะ...”
ผมร้องออกมาเบาๆ รู้สึกถึงความผิดปกติเหมือนมีตัวอะไรเลื้อยอยู่บนกระดูกขาและกระดูกซี่โครงของผม ผมรีบจับมันไว้ ตัวอะไรเนี่ย หนอนั์สีขาวงั้นหรือ?
ท่ามกลางความงุนงงผมถอดเกราะบริเวณอกออก และพอมองดูดีๆ ถึงรู้ว่ามันไม่ใช่หนอนสีขาว แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็เนื้อนุ่มๆ สีแดงเืที่กำลังเกิดการเปลี่ยนรูปร่างอยู่ตรงซี่โครง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ผมนึกสงสัยจึงรีบควักดาบออกมาฟันศีรษะของหมีหลังเหล็กแล้วรีบกลับป้อมศีตเหมันต์เพื่อส่งมอบภารกิจก่อนดีกว่าค่อยว่ากัน!
......
“อ่ะฮ้า เ้าโครงกระดูกน้อย เ้านี่มันกล้าหาญไม่มีใครเทียบ ช่างเป็ดาวเจิดจรัสในหมู่ิญญารัตติกาลจริงๆ”
หัวหน้าทหารยามฝ่าเค่อกล่าวชื่นชมและให้รางวัลผมเป็ค่าประสบการณ์จำนวนมาก หลังจากได้รับค่าประสบการณ์เลเวลของผมก็ดีดขึ้นถึงเลเวล 16 และเข้าสู่รายชื่อ 100 อันดับแรกของเมืองฝูปิงอีกครั้งในฐานะผู้ครองอันดับที่ 97 ใน่แรกของเกมนั้นลำดับมีการสับเปลี่ยนกันอย่างรวดเร็ว ชื่อวาตะเพ้อฝันที่เมื่อวานยังอยู่บนชาร์ตก็ตกจาก 100 อันดับแรกแล้ว ไม่รู้ว่าพอเขาตื่นขึ้นมาจะอยากร้องไห้โดยไม่มีน้ำตาหรือไม่
ผมชื่นชมความสำเร็จอันรุ่งโรจน์จากการไต่ขึ้นเลเวล 16 ของตัวเองจากนั้นเดินอย่างคนอารมณ์ดีไปหาอาจารย์ซูหลุนผู้เป็นักดาบิญญาผมถามเขาว่า “อาจารย์ซูหลุน ทำไมเราไม่ไปสังหารผู้นำิญญาที่สิงสถิตอยู่ในสุสานล่ะ ตอนนี้เ้านั่นคือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของพวกเราแล้ว!”
“ไม่ต้องรีบร้อนเ้าโครงกระดูกน้อย!” ซูหลุนพูดเน้นย้ำด้วยความจริงใจ “ตอนนี้เ้ายังมีพลังไม่มากพอ ถ้าถูกผู้นำิญญาตนนั้นฆ่าและดูดกลืนเปลวไฟิญญาของเ้าไปจะทำให้ป้อมศีตเหมันต์ของเราขาดนักดาบโครงกระดูกผู้กล้าหาญไปอีก 1 คน...”
“โธ่เว้ย!” ผมสบถออกมาเบาๆ แล้วถามต่อ “อาจารย์ เปลวไฟิญญาของพวกิญญามีประโยชน์อะไร? ผมรับมันมาก็มากโขอยู่”
“อ้อ อันนี้น่ะเหรอ...” ซูหลุนเอามือเท้าเอวทั้งสองข้างและหัวเราะเสียงดังตอบ “ิญญาคือส่วนย่อยที่ประกอบเป็แก่นแท้ของิญญารัตติกาล ยิ่งเป็ิญญาที่มีระดับสูงก็ยิ่งมีเลเวลสูงตามไปด้วย และนอกจากนั้นิญญายังเป็เผ่าพันธุ์ที่ฆ่ากันเองด้วย เมื่อเ้าดูดกลืนเปลวไฟิญญาเข้าไปในจำนวนที่มากพอเ้าก็จะเลื่อนขั้นเป็นักรบิญญาระดับที่สูงขึ้นได้”
“ระดับที่สูงขึ้น?”
“ใช่!” ซูหลุนพยักหน้าแล้วพูดต่อ “ตอนนี้เ้าเป็เพียงแค่นักรบโครงกระดูกตัวเล็กๆ เมื่อร่างกายของเ้าเริ่มมีเนื้อหนังเกิดขึ้นมาใหม่ก็แสดงว่าเ้ากำลังจะกลายเป็ิญญาศักดิ์สิทธิ์แล้ว”
“ิญญาศักดิ์สิทธิ์คือิญญารัตติกาลขั้นสูงเหรอ?”
“ไม่ใช่ มันเป็แค่หนึ่งในเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำที่สุดเท่านั้น ถัดจากิญญาศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาก็มีผู้นำิญญาศักดิ์สิทธิ์ ผู้บัญชาการิญญาศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเหล่านี้เป็แค่สิ่งมีชีวิตที่ใช้การโจมตีทางกายภาพเท่านั้น เมื่อิญญาแข็งแกร่งพอแล้ว เหอะๆ ร่างกายของเขาก็จะสมบูรณ์ไม่ต่างจากมนุษย์เลย สภาพแบบนั้นเรียกว่า— อสูร!”
ผมอ้าปากค้าง “ฮ่าๆ ไม่ต่างจากมนุษย์? งั้น...งั้นก็เท่ากับว่าสามารถเข้าไปในเมืองฝูปิงได้อย่างอิสระเพื่อเที่ยวผู้หญิงได้น่ะสิ?”
นักดาบิญญาซูหลุนมองผมด้วยสายตาเหยียดหยาม “เ้าเด็กไม่รู้เดียงสาเอ๋ย ถ้าตอนนั้นเ้าเป็อสูรแล้วยังต้องกังวลว่าจะไม่มีผู้หญิงอีกเหรอ? พลังของอสูรนั้นแผ่กระจายออกไปไกลเกินกว่าเ้าจะจินตนาการได้ ข้าจะบอกอะไรให้นะ พลังของอสูรแข็งแกร่งจนสามารถยึดครองประเทศได้ เทียบได้กับกษัตริย์เลยทีเดียว ยิ่งกว่านั้นยังมีระดับที่เหนือกว่าอสูรซึ่งสามารถพัฒนาการไปเป็าาอสูรและเทพอสูรได้ด้วย...ฮึ ยากนักที่ชาตินี้ข้ากับเ้าจะไปถึงระดับนั้นได้!”
ผมขยับไปด้านหน้า “เทียบได้กับกษัตริย์? โอ้โห ถ้าอย่างนั้นก็...สามารถเลือกสาวสวยสัก 3,000 คนจากทั่วประเทศมาเลี้ยงไว้ในบ้านได้น่ะสิ...ฮ่าๆๆ!”
ซูหลุนไม่อยากเสียเวลากับผมแล้วจึงพูดเสียงต่ำ “เด็กไร้ยางอาย เ้าตั้งใจฝึกไปเถอะ อย่าให้ิญญารัตติกาลตนอื่นดูดกลืนเปลวไฟิญญาของเ้าได้ บางทีเ้าอาจมีโอกาสก้าวไปถึงขั้นนั้นได้แต่ข้าไม่มีความหวังแล้ว”
......
เขาเอาแต่พูดไร้สาระมาตั้งนานโดยไม่กล่าวถึงภารกิจเลยสักคำ ดังนั้นผมคงไม่มีทางเลือกแล้ว เห็นทีผมคงต้องออกไปฆ่ามอนสเตอร์เพื่อเพิ่มเลเวลเองแล้วล่ะ แบบนั้นคงใช้เวลาไม่นานนักหรอก ภารกิจในเทียนจ้งก็มีไม่มาก เป็เพราะผมอยู่ที่ป้อมศีตเหมันต์คนเดียวจึงมีภารกิจให้ทำต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ตอนนี้ผู้เล่นจำนวนมากในเมืองฝูปิงที่แม้จะถึงเลเวล 15 แล้วแต่ก็ยังไม่รู้จักว่าภารกิจมันคืออะไร!
ผมขายหินเวททั้งก้อนเล็กและใหญ่ในกระเป๋าจนหมด ใช้เวลาต่อสู้อยู่หลายชั่วโมงได้มา 27 เหรียญเงิน ตอนนี้ก็นับได้ว่าผมเป็เศรษฐีน้อยแล้ว!
ผมมองดูไอเทมที่สวมใส่อยู่เต็มตัวมีเกราะข้อมือสีนิล เสื้อเกราะ เกราะขาและอาวุธครบมือแล้ว ทั้งหมดเป็ระดับหินดำและล้วนเป็อาวุธขั้นต้น ตอนนี้ยังเป็่ที่ระดับหินดำยังเป็ที่นิยมอยู่ แค่อาศัยไอเทมชุดนี้ผมก็สามารถเดินอวดเบ่งไปทั่วเมืองฝูปิงได้แล้ว
ตอนนี้ในเว็บบอร์ดมีผู้เล่นจำนวนมากที่กำลังขายไอเทมกันนอกเกมอยู่ เกราะข้อมือที่เพิ่มพละกำลัง +2 ชิ้นหนึ่งสามารถซื้อได้ในราคา 100 หยวน ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าใน่แรกไอเทมที่มีคุณสมบัติติดตัวในเกมนั้นขาดตลาดมากๆ และ่นี้ร้านขายไอเทมในเมืองฝูปิงมีขายแต่ไอเทมระดับขาวซึ่งคุณภาพแย่กว่าระดับหินดำมาก
จึงเห็นได้ว่าไอเท็มที่ผมใส่อยู่ตอนนี้ทั้งหมดมีมูลค่าอย่างน้อย 400 หยวน นี่เป็แค่การประเมินราคาขั้นต้นแค่เพียงดาบขจีไพรเล่มเดียวมีความเป็ไปได้ว่าราคาขายอาจจะถึง 400 หยวนเข้าไปแล้ว ก็่แรกอาวุธที่มีคุณสมบัติติดตัวมันมีน้อยนี่!
เมื่อได้ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเดินทางไปยังเมืองฝูปิง ในฐานะที่เป็ผู้เล่นที่ถูกจัดมาไว้ในเขตเมืองฝูปิง จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่เข้าไปภายในเมืองดูสักหน่อย
เส้นทางไปเมืองฝูปิงนั้นต้องเดินผ่านถนนเหมันต์และเข้าไปในป่าเพียงลำพัง ระหว่างทางก็ต้องคอยหลบมอนสเตอร์ที่สูงกว่าเลเวล 20 ด้วย หลังจากผ่านไป 20 กว่านาทีผมก็มาถึงบริเวณชายป่านอกเมืองฝูปิง ชื่อของผมยังเป็สีแดงโลหิตอยู่ทำให้ไม่ค่อยกลมกลืนกับคนอื่นนัก ถ้าปล่อยให้ผู้เล่นคนอื่นเห็นเข้าละก็พวกเขาจะต้องคิดว่าผมจะมาพาลหาเื่ไล่ฆ่าคนไปทั่วแน่ๆ
ไกลออกไปจะเห็นภาพของเมืองฝูปิงที่ตั้งตระหง่านงดงามเข้ามาในกรอบสายตา เมืองแห่งนี้อากาศหนาวเย็นตลอดปี บนกำแพงเมืองเองก็เต็มไปด้วยหิมะ และหากมองไปยังพระราชวังที่มีบรรยากาศน่าขนลุกนั่นก็ยิ่งเหมือนถูกปิดตายเอาไว้ด้วยน้ำแข็ง เมืองทั้งเมืองราวกับว่าลอยอยู่บนพื้นน้ำแข็งจนเป็ที่มาของชื่อเมืองฝูปิง
ผมเดินออกจากป่าอย่างระแวดระวัง พอถึงระยะห่างจากประตูเมืองไม่เกิน 100 เมตร ผมก็ออกตัววิ่งทันทีด้วยความเร็วราวกับวิ่ง 4x100 ตอนที่เท้าผมเหยียบเข้าไปในเมืองชื่อของผมก็กลายเป็สีเขียวโดยอัตโนมัติและมันก็ทำให้ผมดีใจมากที่ไม่ต้องทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป
......
เมื่อมาถึงลานจัตุรัสในเมืองที่นี่กลับไม่ค่อยมีผู้เล่นมากนัก ทุกคนดูรีบร้อนเพราะวันนี้เป็วันที่ 2 ของการเปิดตัวเกมอย่างเป็ทางการ ทุกคนจึงยุ่งอยู่กับการอัปเลเวลและหาไอเท็ม ดังนั้นใครจะว่างมาเดินเอ้อระเหยอยู่ที่นี่กันล่ะ
ผมยืนนิ่งอยู่ใจกลางลานจัตุรัสเหมือนหมุดตอกไม้ตัวหนึ่งแล้วควักพัดกระดูกเขียวที่อยู่ในกระเป๋าออกมาก่อนจะะโขั้นมาเสียงดัง “สวัสดีพี่น้องทุกท่านผมมีพัดระดับหินดำเลเวล 15 มาขาย ค่าการโจมตี 24 ความแข็งแกร่ง +1 กลยุทธ์ +1 อาวุธสังหารที่ต้องมีพกไว้ติดตัวทั้งตอนอยู่บ้านและระหว่างเดินทาง เป็ของใช้ของนักกลยุทธ์หรือนักบวช รูปทรงเจิดจรัสเหมาะกับผู้เล่นเพศหญิง ใครมีแฟนซื้อให้แฟน ใครไม่มีแฟนก็ซื้อไปให้แฟนคนอื่นก็ได้ เข้ามาดูมาชมกันเร็ว!”
เสียงดังกังวานดึงดูดผู้คนที่เดินผ่านไปมาจากทุกทิศทาง เพียงไม่กี่อึดใจคนสิบกว่าคนเข้ามารุมล้อมผมไว้ตรงกลางโดยที่ต่างคนต่างแย่งกันพูด—
“โอ้! มีคนขายอาวุธเลเวล 15 แล้ว พ่อเ้า ค่าการโจมตีตั้ง 24 หน่วย แข็งแกร่งเกินไปแล้ว อาวุธของฉันมีค่าการโจมตีแค่ 1-3 หน่วยเอง...”
“แม่เ้า อาวุธชิ้นนี้ช่างสุดยอดเสียจริง คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนตีได้อาวุธที่มีบวกค่าสถานะกลยุทธ์เร็วขนาดนี้!”
“ทำไมคนขายรูปร่างหน้าตาประหลาดอย่างนั้นล่ะ?”
“ไม่แปลกหรอก ก็แค่กระดูกโผล่ออกมาด้านนอกิัแค่นั้นเอง”
“…”
ผมมองดูกลุ่มคนเดินขวักไขว่กล่าวเสียงดังฟังชัด “มีใคร้ามั้ย ถ้าราคาดีผมจะขายเลยนะ ตอนแรกอาจจะไม่มีเงินแต่ถ้าผ่านหมู่บ้านนี้ไปก็ไม่มีร้านแบบนี้แล้วนะ!”
ทันใดนั้นนักรบเวทเลเวล 15 คนหนึ่งก็ยกมือขึ้นมาแล้วพูดว่า “2 เหรียญเงิน ขายไหม?”
ผมถลึงตามองแล้วตอบ “ที่ขายในร้านยังราคามากกว่านี้เลยนะ!”
เสียงกลุ่มคนหัวเราะฮือฮาดังลั่น ทันใดนั้นนักกลยุทธ์วัยรุ่นเลเวล 16 คนหนึ่งก็เดินขึ้นมาข้างหน้าแล้วพูดขึ้นด้วยความสัตย์ซื่อ “ฉันมีแค่ 11 เหรียญเงิน เป็เงินที่รวมกัน 3 คน ดังนั้นฉันก็เลยจะเพิ่มเ้านี่เข้าไปถ้าต่อรองราคาได้ก็ดี ถ้าซื้อขายกันไม่สำเร็จมาเป็เพื่อนกันก็ได้”
ระหว่างที่พูดเขาก็หยิบรองเท้าสีดำขลับขึ้นมาแล้วสายตาของเขาก็มองมาที่เท้าคู่งามที่มีแต่กระดูกของผม ไม่ต้องเอื้อนเอ่ยก็เข้าใจความหมาย
ผมมองรองเท้าบูตคู่นั้น ก็ไม่เลวนะ ทำจากเหล็กดำ เสียแต่ว่าเลเวลน้อยไปนิด
[รองเท้าบูตขนเม่น] (ระดับหินดำ)
พลังป้องกัน : 12
ความแข็งแกร่ง : +3
เลเวลที่้า : 10
......
ดวงตาผมเป็ประกาย จุดเด่นของรองเท้าบูตคู่นี้ก็คือความแข็งแกร่ง +3 ซึ่งเท่ากับค่าพลังชีวิต 30 หน่วย แต่ผมเป็นักรบที่ได้ค่าพละกำลัง +5 และสิ่งที่ขาดแคลนที่สุดก็คงจะเป็ปริมาณเืนี่แหละ
หลังจากพิจารณาอยู่พักหนึ่งผมคิดว่าคงไม่มีประโยชน์อะไรถ้าจะเก็บพัดกระดูกเขียวไว้ เขาเอารองเท้าเลเวล 10 บวกกับเหรียญเงิน 11 เหรียญมาแลกก็สมน้ำสมเนื้อแล้ว
ดังนั้นผมจึงพยักหน้าแล้วยิ้มตอบอย่างสบายๆ “ตกลง ท่านช่างใจเด็ดยิ่งนัก!”
“ตกลง!”
ฝ่ายตรงข้ามก็ดีใจมากเช่นกัน ในระยะแรกนักกลยุทธ์ไม่มีพลังการโจมตีมากนัก ถ้ามีอาวุธที่มีพลังการโจมตี 24 หน่วยก็เหมือนได้เพิ่มบทบาทความสำคัญของตัวเองไม่ต้องโดนเพื่อนในทีมหัวเราะเยาะเพราะคอยแต่จะได้ค่าประสบการณ์ไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรอีกแล้ว
การซื้อขายสำเร็จเรียบร้อยผมได้เหรียญเงินมา 11 เหรียญแล้วยังได้รองเท้าระดับหินดำมา 1 คู่ ตอนนี้ก็มีเครื่องแต่งกายปกปิดทั่วทั้งตัวแล้ว
เมื่อผมใส่รองเท้าบูตขนเม่นแล้ว ทันใดนั้นพลังป้องกันเพิ่มขึ้นเป็ 37 หน่วย ค่าพลังชีวิตเองเพิ่มขึ้นถึง 310 หน่วยด้วย ตอนนี้ความสามารถในการเอาชีวิตรอดของผมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเลยล่ะ!
หลังจากค้าขายเสร็จ ผมก็ออกจากเมืองฝูปิงไปอย่างเบิกบานใจแต่ยังไม่ทันได้ออกจากเมือง ก็มีเสียงเ็าแว่วมาจากทางด้านหลัง “ไอ้หนู แกคิดว่าแค่เดินจากไปก็จบเื่งั้นเหรอ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้