เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามของผู้คุ้มกันชุดดำ ถังจิ้งได้แต่ถอนหายใจออกมา
การเดินทางมายังเมืองจิ้นหยางในครั้งนี้นางไม่เพียงแค่มาปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าาุโ แต่ยังมาปฏิบัติภารกิจส่วนตัวด้วยเช่นกัน นางไม่ใช่บุตรสาวของครอบครัวยากจนข้นแค้นในเมืองทางใต้ นางเกิดในองค์กรลึกลับที่มีนามว่า “อวิ๋นเสียนเก๋อ” นามที่แท้จริงไม่ใช่ถังจิ้ง เนื่องจากต้องแบกรับภารกิจสำคัญจึงปกปิดตัวตนและเปลี่ยนแปลงชื่อเสียงเรียงนาม จากนั้นจึงดักซุ่มอยู่ในหุบเขาเสินหนง
ผู้คุ้มกันกระวนกระวายใจทันทีที่เห็นหญิงสาวถอนหายใจ “คุณหนูใหญ่ไม่พบสิ่งใดเลยหรือ? ข้อมูลที่ข้าน้อยสืบมาไม่มีทางผิดพลาด สิบปีก่อนมีเงาเฟิ่งหวงปรากฏอยู่เหนือน่านฟ้าปิงไห่ และในวันเดียวกันก็ปรากฏอยู่เหนือตระกูลกู ภายในตระกูลกูจะต้องมีความลับสำคัญอย่างแน่นอน! ”
ถังจิ้งนิ่งเงียบครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “เกรงว่าภายในตระกูลจะไม่มีบุคคลที่เราตามหา สำหรับเื่ที่ว่าเหตุใดเงาเฟิ่งหวงถึงปรากฏอยู่เหนือตระกูลกูนั้น ยังต้องสืบหาต่อไป มิอาจละเลยได้ จำเอาไว้ให้ดีว่าเมื่อมีความคืบหน้าแล้วให้มารายงานทันที! ”
ภารกิจสำคัญที่ถังจิ้งแบกรับไว้คือการสืบหาปริศนาของปิงไห่ และบุคคลที่นางกำลังตามหาคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ปิงไห่เกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อสิบปีก่อน
เมื่อหนึ่งปีก่อนสายลับของอวิ๋นเสียนเก๋อสืบพบข้อมูลการปรากฏตัวของเงาเฟิ่งหวงเหนือตระกูลกู ท่านประมุขจึงสั่งให้นางติดตามข่าวสารของตระกูลกู ในขณะที่นางสืบหาข้อมูลของตระกูลกูก็พบว่าวันที่กูเฟยเยี่ยนจมน้ำตรงกับวันที่ปิงไห่เกิดการเปลี่ยนแปลงพอดิบพอดี นางจึงสืบหาข้อมูลอย่างเข้มงวด ทว่าก็ไม่ได้พบเห็นถึงสิ่งใด จนกระทั่งเมื่อหลายเดือนก่อนที่กูเฟยเยี่ยนกลายเป็จุดวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในเมืองจิ้นหยาง นางจึงกลับมาให้ความสนใจกูเฟยเยี่ยนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสิ่งที่นางรับรู้คือสาวน้อยผู้นี้เปลี่ยนแปลงราวกับเป็คนละคน
ในสนามประมูลครั้งที่แล้วนางจำกูเฟยเยี่ยนไม่ได้ ครั้นได้ยินตัวตนของกูเฟยเยี่ยนจากหัวหน้าาุโ นางจึงััได้ถึงความผิดปกติ
การที่นางเข้าหากูเฟยเยี่ยนเป็เพราะชื่นชอบสาวน้อยคนนั้นจริงๆ อีกทั้งยังมีจุดประสงค์ที่สำคัญ เพียงแต่ในครั้งนี้นางรู้สึกผิดหวัง
ถังจิ้งกำลังจะจากไปแต่ก็ไม่วางใจนัก นางจึงกระซิบมอบหมายงานอีกครั้ง “ถึงแม้ว่าสาวน้อยคนนั้นจะออกจากจิ้งหวางฝู่แล้ว ทว่าจิ้งหวางยังคงจับตามองอยู่! ถ่ายทอดคำสั่งลงไปให้ระมัดระวังตัวไว้ให้ดี อย่าได้สร้างปัญหามาถึงข้า! ”
นางไม่้าสร้างความบาดหมางต่อจวินจิ่วเฉิน ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่้าให้กูเฟยเยี่ยนค้นพบจุดประสงค์ของนางเพราะว่ามันจะไปทำร้ายจิตใจของกูเฟยเยี่ยน เนื่องด้วยนางชื่นชอบสาวน้อยคนนั้นจริงๆ
หลังจากที่ผู้คุ้มกันจากไปทันทีที่รับคำสั่งเรียบร้อย ถังจิ้งจึงหันไปมองเมืองจิ้นหยางอีกครั้งก่อนจะขี่ม้าจากไป
่เวลาพลบค่ำที่มีดวงดาวเจิดจรัสเต็มฟากฟ้า
ในยามนี้กูเฟยเยี่ยนอยู่ที่ชั้นบนสุดของหอพระคัมภีร์ นางตั้งใจสำรวจภาพวาดเลือนรางรูปนั้น ทว่าก็ทำอันใดไม่ได้เพราะยุคสมัยเก่าแก่เกินไป ภาพวาดเหลือเพียงเค้าโครงจนมองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน ถ้าหากว่าตามหาช่างวาดภาพมาฟื้นฟูก็ไม่รู้ว่าจะสามารถฟื้นฟูลักษณะบนใบหน้าออกมาได้หรือไม่
“ยากหยั่งรู้พิณหวนกลับราตรีใด ดวงหทัยปลิวครรไลเมฆเอกา”
“กูอวิ๋นหย่วน…กู้อวิ๋นหย่วน…”
หลังจากที่ยืนยันแล้วว่ากู้อวิ๋นหย่วนไม่ใช่ท่านอาจารย์อาภรณ์ขาว กูเฟยเยี่ยนก็แน่ใจแล้วว่าความคล้ายคลึงของนามทั้งสองเป็เพียงแค่ความบังเอิญ อันที่จริงนางไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “กูอวิ๋นหย่วน” ใช่ชื่อของมนุษย์หรือไม่ นางเพียงแค่ไม่มีอะไรทำ เมื่อเดินผ่านหอพระคัมภีร์จึงวิ่งขึ้นมาดู
กูเฟยเยี่ยนกำลังจะออกไปแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าคราวที่แล้วยังเปิดอ่านเนื้อหาไม่ครบ หญิงสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเปิดดูทั้งหมด
ไม่ช้ากูเฟยเยี่ยนก็ค้นพบเื่ราวที่ก่อนหน้านี้นางมองข้ามไป ในคราวก่อนนาง้าตามหาแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นจึงคัดเลือกสายรองของตระกูลมาตรวจสอบ ซึ่งส่งผลให้มองข้ามตระกูลหลักไป
บัดนี้นางได้นำข้อมูลของสายเืตระกูลหลักมาอ่านทั้งหมด ไม่ช้าจึงพบว่าตระกูลหลักนับั้แ่หัวหน้าตระกูลรุ่นที่สามเป็ต้นไป ชื่อของลูกหลานร่วมสายเืจะจัดเรียงตัวอักษรตามความาุโ โดยเรียงตาม “อวิ๋น ซื่อ เป่ย เจ๋อ” ซึ่งกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่าทายาทสายตรงของตระกูลรุ่นที่สามจะมีคำว่า “อวิ๋น” อยู่ในชื่อ
นางรีบมองลงไปจึงค้นพบว่าหัวหน้าตระกูลรุ่นที่สามมีทายาทสายตรงอยู่สามคน และไม่มีข้อมูลของบุตรชายคนสุดท้อง ไม่มีแม้กระทั่งชื่อเสียงเรียงนาม!
แม้ว่าจะเสียชีวิตั้แ่เยาว์วัยก็ต้องมีชื่อนี่นา! สถานการณ์เช่นนี้มีความเป็ไปได้อยู่หนึ่งอย่างคือเกิดเื่ราวบางอย่างกับบุตรชายคนสุดท้องจนถูกคนลบล้างข้อมูลออกจากผังสายลำดับวงศ์ตระกูล และทำได้เพียงเว้นช่องว่างไว้บนผังสายลำดับวงศ์ตระกูล
เป็ไปได้หรือไม่ว่า “กูอวิ๋นหย่วน” จะเป็ชื่อของมนุษย์จริงๆ ! ?
กูเฟยเยี่ยนไม่สนใจว่ายามนี้คือ่เวลากลางคืน นางรีบไปเคาะประตูห้องของกูเอ้อร์เย่ทันที
กูเอ้อร์เย่ที่ตกอยู่ในห้วงนิทรามีความสับสนมึนงง ผ่านไประยะเวลาหนึ่งถึงจะเข้าใจว่ากูเฟยเยี่ยน้าถามถึงสิ่งใด เขาอ้าปากหาวออกมาพลางเอ่ยตอบ “แม่หนู กลางดึกกลางดื่นมาถามถึงเื่นี้ทำไมกัน? ”
กูเฟยเยี่ยนร้อนใจจึงเอ่ยเร่งรัด “เ้ารีบพูดออกมา! ”
กูเอ้อร์เย่อ้าปากหาวอีกครั้ง “รุ่นที่ห้า..ตัวอักษรคำว่าอวิ๋น? ขอข้าคิดดูก่อน”
กูเฟยเยี่ยนรีบยื่นผังสายลำดับวงศ์ตระกูลไปให้เขาพลางเอ่ยจริงจังทันที “เ้าดูสิ บุตรชายคนโตมีนามว่ากูอวิ๋นยี่ บุตรชายคนกลางมีนามว่ากูอวิ๋นฉี่ ทว่าชื่อของบุตรชายคนสุดท้องถูกลบออกไป! ”
ทันทีที่กูเอ้อร์เย่เห็นผังสายลำดับวงศ์ตระกูล เขาก็ใจนความง่วงเหงาหาวนอนสลายไปหมด
“เ้า เ้า…เ้านำผังสายลำดับวงศ์ตระกูลออกมาได้อย่างไรกัน! ก่อเื่จริงๆ ! ”
กูเอ้อร์เย่้าแย่งผังสายลำดับวงศ์ตระกูลไป ทว่ากูเฟยเยี่ยนดึงกลับมาพลันเอ่ยด้วยความจริงจัง “บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น สายเืนี้แยกตัวออกไปแล้วหรือว่าเกิดอุบัติเหตุใดๆ ? ”
กูเอ้อร์เย่ไม่กล้าตอบแบบขอไปทีจึงตั้งใจครุ่นคิด ผ่านไประยะเวลาหนึ่งเขาก็เอ่ยออกมา “ในวัยเด็กข้าเคยได้ยินเหล่าผู้าุโของตระกูลพูดไว้ว่าในอดีตตระกูลกูเคยมีแพทย์ยาที่มีพร์อันสูงส่งอยู่คนหนึ่ง ต่อมาเหมือนว่าจะถูกขับไล่ออกจากตระกูลกูเพราะเื่ของการแต่งงาน ทว่าอารองไม่แน่ใจว่าใช่คนที่เ้าถามหาหรือไม่”
แพทย์ยาที่มีพร์อันสูงส่ง?
กูเฟยเยี่ยนมีความใเล็กน้อยก่อนจะรีบเอ่ยถาม “คนผู้นี้มีนามว่ากูอวิ๋นหย่วนหรือไม่? ”
“กูอวิ๋นหย่วน? ”
ใบหน้าของกูเอ้อร์เย่เต็มไปด้วยความสับสน เห็นได้ชัดว่าเขาลืมบทกวีบนภาพวาดไปนานแล้ว
กูเฟยเยี่ยนโยนผังสายลำดับวงศ์ตระกูลไปให้เขาโดยไม่ได้ถามเพิ่มเติมแต่หันหลังวิ่งออกไป นางวิ่งไปที่หอพระคัมภีร์ด้วยความรวดเร็วเพื่อนำภาพวาดรูปนั้นลงมาเก็บไว้
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าได้พบกับกู้อวิ๋นหย่วน นางคงไม่ได้สนใจคำว่า “กูอวิ๋นหย่วน” ถ้าไม่ใช่เพราะว่าใบหน้าของกู้อวิ๋นหย่วน นางก็คงไม่ได้เชื่อมโยง “กูอวิ๋นหย่วน” กับท่านอาจารย์อาภรณ์ขาว และคงไม่สงสัยว่าเหตุใดตนเองถึงได้มาเกิดใหม่อยู่ในตระกูลกูแทนที่จะเป็ที่อื่น
กู้อวิ๋นหย่วนไม่ใช่ท่านอาจารย์อาภรณ์ขาว แล้ว “กูอวิ๋นหย่วน” เล่า? ”
กูเฟยเยี่ยนนำความสงสัยในจิตใจกลับมาที่เหยาหัวเก๋อพร้อมกับภาพวาด วันรุ่งขึ้นหญิงสาวส่งคนไปสืบข่าวและตามหาช่างวาดภาพ เพราะแทนที่จะเดามั่ว มันจะดีกว่าว่าถ้าตามหาช่างวาดภาพมาฟื้นฟูภาพนี้!
สองวันผ่านไปก็มีช่างวาดภาพสองสามรายที่มีความสามารถพอใช้ได้มาหาถึงที่ ทว่าทันทีที่พวกเขาเห็นภาพวาดนั้นก็พากันส่ายหน้าโดยมั่นใจว่าไม่สามารถฟื้นฟูได้แล้ว กูเฟยเยี่ยนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ นางสั่งให้คนไปตามหาต่อไปพลางรอคอยนายก้อนน้ำแข็งเหม็น นางคิดว่าเส้นสายของนายก้อนน้ำแข็งเหม็นน่าจะสามารถตามหาช่างวาดภาพระดับสูงได้
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนคิดว่านายก้อนน้ำแข็งเหม็นจะมาพบนางในเร็วๆ นี้ เนื่องจากจดหมายลับบนใบสั่งยาแผ่นนั้นอยู่มานานแล้ว ทว่าเมื่อนางรอจนผ่านไปสองวันแล้วก็ยังไม่ได้พบเขา
สองวันมานี้นางไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น ครั้นครุ่นคิดใบสั่งยาก็หาผลลัพธ์ไม่เจอ นางมีความสงสัยอีกครั้งว่าจดหมายบนใบสั่งยาแผ่นนี้อาจจะเป็ของปลอม!
เมื่อไม่ได้พบนายก้อนน้ำแข็งเหม็น กูเฟยเยี่ยนก็ไม่รอช้า ในเช้าวันนี้นางสวมใส่ชุดข้าราชการหญิงและนั่งอยู่บนรถม้าเพื่อเข้ารับตำแหน่งในพระราชวังอย่างเป็ทางการ!
นางลงรถม้าบริเวณหน้าทางเข้าพระราชวัง ทว่ากลับพบจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยกับเฉิงอี้เฟยที่กำลังก้าวเดินมา…