ก่อนหน้านั้นไม่นาน ท่ามกลางป่าหิมะที่ถูกปกคลุมด้วยพายุหนาวเหน็บ ร่างสูงในชุดคลุมขาดรุ่งริ่งกำลังพุ่งตัวฝ่าหิมะไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มผู้หนึ่ง มีใบหน้าคมคาย ดวงตาเรียวยาวฉายแววเ้าเล่ห์ตลอดเวลา ริมฝีปากหยักที่มักจุดรอยยิ้มมุมปากทำให้เขาดูเหมือนคนที่สามารถพลิกสถานการณ์ใด ๆ ให้เป็ประโยชน์ของตนเองได้
ผมสีดำยุ่งเหยิงของเขาปลิวไสวตามแรงลม หยาดเหงื่อเกาะอยู่บนใบหน้า แม้จะอยู่ท่ามกลางพายุหิมะที่เย็นจัด แต่ในสายตาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจนั้นกลับไม่มีร่องรอยของความหวาดกลัว
ชายหนุ่มหอบหายใจเบา ๆ ขณะยังคงรักษาจังหวะฝีเท้าได้อย่างมั่นคง แม้พื้นหิมะจะลื่นไถล แต่เขาก็ทรงตัวได้อย่างง่ายดาย ความปราดเปรียวของเขาทำให้สามารถหลบหลีกกิ่งไม้และต้นสนที่เรียงตัวแน่นได้โดยไม่เสียจังหวะ
เสียงฝีเท้าของผู้ไล่ล่าดังขึ้นจากด้านหลัง และเสียงะโที่แฝงความเดือดดาลก็แว่วมาให้ได้ยินจากไกลๆ “ฉินเย่เซิง! หนีไปเถอะ! แต่คราวนี้เ้าจะไม่มีทางรอดแน่!”
เมื่อได้ยินชื่อของตนเองดังออกมา ฉินเย่เซิงยิ้มมุมปาก ยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความกวนประสาทราวกับคำขู่ของพวกมันไม่มีผลอะไรต่อเขา เขาหยุดชั่วครู่เพื่อหันกลับไปมองผู้ไล่ล่าที่อยู่ไกลออกไป ก่อนจะพูดกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่เย้ยหยัน
“ก็ลองดูสิ”
เื้ัเขา ผู้ไล่ล่าทั้งสามคนที่สวมชุดเกราะสีเข้มกำลังเร่งฝีเท้าฝ่าหิมะมา ใบหน้าของพวกมันบึ้งตึง ราวกับกำลังพยายามกดความเหนื่อยล้าเพื่อให้จับตัวเขาได้
ฉินเย่เซิงหันกลับมาอีกครั้ง มองรอบตัวเพื่อหาทางหนี เขากวาดสายตามองพื้นที่เบื้องหน้า ขุนเขาที่ทอดยาวเต็มไปด้วยต้นสนสูงใหญ่ และเส้นทางที่ลาดชันราวกับนำไปสู่เหวลึก แต่เขากลับมองสถานการณ์ที่อันตรายนี้ด้วยแววตาเป็ประกาย
“ดินแดนต้องคำสาป… หากที่นี่ไม่ช่วยข้า ก็ไม่มีที่ไหนช่วยได้แล้ว” เขาพึมพำเบา ๆ ขณะเร่งฝีเท้าต่อ
หลังจากฝ่าพายุมาได้ครู่หนึ่ง ฉินเย่เซิงหยุดยืนที่ริมหน้าผาสูงชัน เบื้องล่างเป็เหวลึกที่ถูกบดบังด้วยม่านหิมะหนาทึบ เขาหันมองรอบ ๆ ก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่ที่ปากถ้ำที่ซ่อนอยู่ในเงามืด ดวงตาของเขาเปล่งประกายเมื่อเห็นสิ่งนั้น
“เทือกเขาไป๋หลิง… ข้าได้ยินชื่อของเ้ามานานแล้ว” ฉินเย่เซิงพูดกับตัวเอง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เสียงฝีเท้าของผู้ไล่ล่าดังใกล้เข้ามา พร้อมกับเสียงะโที่เต็มไปด้วยความโกรธ “หยุดหนีเถอะ ฉินเย่เซิง! เ้าหนีไปก็ไร้ประโยชน์!”
เขาหันกลับไปมองพวกมันอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มกว้าง รอยยิ้มนั้นทั้งกวนประสาทและเ้าเล่ห์
“หยุด? ข้าไม่ใช่คนที่จะยอมทำแบบนั้นง่าย ๆ” เขาเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะเร่งฝีเท้าตรงไปยังปากถ้ำ
ในความมืดของถ้ำ
ฉินเย่เซิงยืนอยู่ตรงหน้าปากถ้ำ ลมหนาวจากพายุด้านนอกพัดแรงจนร่างสูงต้องใช้ผ้าคลุมเก่า ๆ พันปิดใบหน้า สายตาคมกริบของเขาจ้องมองม่านน้ำแข็งที่ปกคลุมปากถ้ำ มันโปร่งแสงและเปล่งแสงสีเงินจาง ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกแข็งแกร่งดุจหินผา
เขากวาดตามองม่านน้ำแข็งเบื้องหน้า ก่อนจะยื่นมือแตะมันเพื่อทดสอบ ทันทีที่ฝ่ามือัั แรงสะท้อนมหาศาลผลักเขากระเด็นไปด้านหลัง
“แรงขนาดนี้ ข้าจะต้องเข้าทางไหน…” เขาพึมพำพลางลุกขึ้นยืน ร่างกายปราดเปรียวของเขายังไม่เสียจังหวะ
ฉินเย่เซิงหยิบมีดสั้นเล่มหนึ่งจากเอว มันคมกริบและเปล่งประกายเล็กน้อยเมื่อกระทบแสง เขาลองใช้มันฟันม่านพลัง แต่ม่านน้ำแข็งไม่สะทกสะท้าน รอยฟันที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะก็หายไปอย่างรวดเร็ว
“ดื้อใช่ย่อย” เขายิ้มมุมปาก ดวงตาเรียวยาวไหววูบด้วยความครุ่นคิด
เสียงะโของผู้ไล่ล่าใกล้เข้ามาอีกขั้น ฉินเย่เซิงขมวดคิ้ว ก่อนจะหยิบถุงดินะเิขนาดเล็กจากสายสะพาย “เ้านี่คงช่วยข้าหน่อยล่ะ” เขาพึมพำ พลางจุดชนวนแล้วโยนมันไปที่ม่านพลัง
เสียงะเิดังสะท้อนไปทั่วบริเวณ แต่เมื่อควันจางลง ม่านพลังยังคงส่องแสงเรืองรองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แบบนี้ก็ยากหน่อย” เขาเป่าลมออกจากปากเล็กน้อย ความกดดันเริ่มเพิ่มขึ้นเมื่อเสียงฝีเท้าด้านหลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
ฉินเย่เซิงเปิดถุงหนังที่เอว หยิบอัญมณีโปร่งแสงสีฟ้าเรืองรองออกมา มันมีกลิ่นอายบางอย่างที่คล้ายถ้ำแห่งนี้ แววตาของเขาฉายแววมั่นใจ แม้จะไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้จะได้ผลหรือไม่ แต่เขาก็ไม่มีเวลาให้ลังเลอีกแล้ว
“ช่วยข้าหน่อย เ้าก้อนหินวิเศษ” เขากล่าวเบา ๆ ก่อนจะยื่นอัญมณีแตะม่านน้ำแข็ง
ทันทีที่อัญมณีััม่านพลัง เสียงหึ่งดังสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน แสงสีเงินของม่านน้ำแข็งเริ่มกระเพื่อมเล็กน้อย แต่ยังไม่เปิดออก
“ไม่พอ…” ฉินเย่เซิงกัดฟัน ก่อนจะลองหมุนอัญมณีในมือ เสียงของม่านพลังเริ่มดังขึ้น ราวกับกำลังต้านทานสิ่งที่เขาพยายามทำ
“อีกนิดเดียว…” เขาเร่งเพิ่มแรงกดลงบนม่านพลัง
เสียงะโของผู้ไล่ล่าดังอยู่เื้ั ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร ฉินเย่เซิงสูดลมหายใจลึก ก่อนจะรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มี เขาจับอัญมณีแน่นในมือ ขณะพุ่งแรงกดลงบนม่านพลังอีกครั้ง
ทันใดนั้น แสงสีเงินของม่านน้ำแข็งเริ่มแตกตัว ช่องว่างเล็ก ๆ ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ฉินเย่เซิงไม่รอช้า เขาะโทะลุช่องว่างเข้าไปในถ้ำทันที
“สำเร็จ!” เขาหอบเบา ๆ ขณะยืนอยู่ในความมืดภายในถ้ำ
ความหนาวเย็นภายในถ้ำรุนแรงยิ่งกว่าภายนอก แต่ฉินเย่เซิงไม่ได้สนใจ เขาหันกลับไปมองม่านพลังที่ปิดลงอย่างรวดเร็วด้านหลัง ช่องทางที่เขาใช้ผ่านเข้าไปหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่
“นี่ข้าอยู่ในเขตต้องห้ามของใครหรือเปล่า…” เขาพึมพำ ขณะกวาดตามองไปรอบ ๆ
แสงจาง ๆ ที่สะท้อนบนผนังน้ำแข็งทำให้ทุกอย่างดูเหนือจริง ราวกับเขาเดินเข้าสู่โลกอีกมิติหนึ่ง เสียงฝีเท้าของเขาดังก้องสะท้อน เส้นทางที่ลึกเข้าไปในถ้ำเต็มไปด้วยความมืด
“ถ้ำแห่งนี้…ซ่อนอะไรไว้กันแน่” ฉินเย่เซิงยิ้มมุมปากอย่างท้าทาย ก่อนจะก้าวเดินต่อไปในความมืด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้