เทพวัชระตาเหลือก ยืนไม่มั่น แม้จะมีร่างะแต่ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้วนั่น ร่างแทบทรุด
ทว่า เขายังไม่ยอมแพ้ ให้ตายก็ยอมไม่ได้!
เขาจะต้องคงสติไว้ให้ได้ มนุษย์พิเศษผู้เกรียงไกรที่อยู่บนปลายยอดของพีระมิดในฐานะหนึ่งในสี่ยอดฝีมือ จะมาสิ้นสติไปได้อย่างไร?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ ่เวลาสุดท้ายที่เขาเห็นคนดักตีหัวอีกคน บ้าเอ๊ยยังมีวัวอีกตัวหรือนี่!
วันนี้ถูกโยนใส่คอกวัวหรือไงนะ?เทพวัชระนึกอยากสาปแช่ง!
ยามปรกติเขามั่นคง ไม่ว่าจะพบเจออะไรแล้วล้วนสงบนิ่งแต่ตอนนี้เขาอยากแผดคำผรุสวาทเหลือกำลัง
มันน่าขมขื่นชะมัด วัวสองตัวรุมกระทืบเขา?
ใหญ่ตัวเล็กตัว ทำไมพวกมันสายโหดอย่างนี้นะ?
เท่าที่เทพวัชระดูแล้ว ไอ้วัวสองตัวนี้ไม่ใช่แค่ผิวดำขนดำเท่านั้นนะใจก็ดำด้วย ถึงกับดักกระทืบหัวเขาอย่างไร้ยางอายเช่นนี้!
พละกำลังแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่กลับป่าเถื่อนดักซุ่มตบหัวคนอื่นจากข้างหลัง
สติสัมปชัญญะของเทพวัชระพยายามต่อสู้อย่างหนักหน่วง แต่ว่าหนังตาหนักอย่างยิ่ง
วัวั์สีดำท่าทีเฉยเมย ทำท่าเหมือนอย่างกับอยู่คนละโลกไม่เกี่ยวกับมันอย่างนั้นแหละ
หวงหนิวค่อยๆ คืนสติ วิ่งขึ้นไปข้างหน้า กลัวว่าเทพวัชระจะได้สติมันกระโจนขึ้นกระทืบเสียงดังสนั่นอีกครั้ง แจกไปหนักๆ อีกกีบเข้าที่ศีรษะของเขา
เจ็บนี้สุดจะทานทน!
ถึงแม้เทพวัชระจะตาเหลือก เกือบสิ้นสติทั้งยังรู้สึกว่าหัวใกล้จะแตกอยู่แล้วแต่ดวงตาอันแตกซ่านยังมองเห็นไอ้ลูกวัวอย่างเลือนราง
มันน่าแค้นโว้ย จะสลบอยู่แล้ว ยังจะมาแจกอีกกีบ เขาเดือดดาลสุดกำลัง!
ตึง!
เขาหัวทิ่มลงกับพื้น สิ้นสติในที่สุด แน่นิ่งไม่ไหวติง
มาถึงตอนนี้ หวงหนิวหมุนตัว จ้องเขม็งไปทางวัวั์สีดำตัวนั้น
จนบัดนี้มันก็ยังคงงุนงง พี่เบิ้มนี่เป็ใคร?
หวงหนิวแอบหวั่นใจ ตอนแรกมันดูไม่ออกจริงๆว่าวัวั์ตัวนี้เป็สัตว์กลายพันธุ์ อีกทั้งยังไม่ธรรมดาถึงปานนี้
“มอ!”
หวงหนิวส่งเสียงทักทายวัวั์สีดำตัวนี้ แถมยังตีสนิทอย่างหน้าด้านๆ
ก็เพราะมันรู้สึกว่าตัวเองน่าจะสู้วัวั์สีดำตัวนี้ไม่ได้ก็ดูฝีกีบเขาสิอย่างแรง ตึงตึงตึง เทพวัชระถึงกับสลบเหมือดไปในทันที
ส่วนมันดักตบหัวเขาถึงสองครั้ง ก็ยังทำให้เทพวัชระสลบไม่ได้
“ไอ้ลูกวัว ไม่อยากมีชีวิตต่อหรือไง?”วัวั์สีดำเปิดปากก็พูดภาษาคนทันที
คำพูดที่โพล่งออกมาถึงกับทำให้หวงหนิวขนลุกซู่ เสียงฟึ่บดังขึ้นมันถอยพรวดฉากออกไปร่วมสิบเมตร
สีหน้ามันแตกตื่น ใสุดขีด มันเองก็รู้ดีว่าในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงกลายพันธุ์เช่นนี้การพบเจอสัตว์กลายพันธุ์ที่พูดได้มีความหมายว่าอย่างไร
หากว่าเป็สัตว์ที่อยู่ในโลกนี้แต่แรกอยู่แล้วก็พูดได้ว่ามันเป็สัตว์ที่ร้ายกาจอย่างยิ่ง ในเมื่อสามารถพูดภาษาคนได้อย่างรวดเร็วต่อไปย่อมร้ายกาจขึ้นได้อีก
แต่ถ้าหากมาจากอีกโลกเหมือนอย่างหวงหนิว นั่นก็ยิ่งร้ายเข้าไปใหญ่พละกำลังความสามารถระดับตัวพ่ออย่างนี้ สิ่งที่ทุ่มเทแลกมาเรียกได้ว่ามหาศาล!
“หนีทำไม? ตามฉันมา รับรองปลอดภัย ไม่อย่างนั้นวันนี้เ้าอาจจะตายอยู่ตรงนี้ก็ได้” วัวั์สีดำสั่งสอน
หวงหนิวยังไม่วายสงสัย สุดท้ายก็ค่อยๆ ขยับเข้าใกล้
มันคอตก รู้สึกเหมือนวิ่งเข้ามาชนกับ “ลูกพี่” ที่ไม่บังควรตอแยอย่างยิ่งอีกฝ่ายว่าอย่างไรก็จงทำตามเสีย หาไม่จะไม่มีของดีๆ ให้กิน
...
ฉู่เฟิงว่องไวปานสายฟ้า ผ่านหุบเขา ผ่านป่าทึบเพียงอึดใจก็วิ่งออกจากมาจากเขตเขางูขาวแล้ว
เดี๋ยวนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เขาตาโตจ้องไปยังภาพตรงหน้า
ตรงนั้นมีวัวสองตัว ตัวหนึ่งเป็ลูกวัว สีดำปลอดทั้งตัว ขนมันขลับแวววาวดูคุ้นตาชะมัด มองยังไงก็เหมือนหวงหนิว เพียงแต่สีขนผิดไป
“มันนั่นเอง!”
ก็เพราะฉู่เฟิงเห็นกระเป๋าใบใหญ่ที่แขวนห้อยอยู่กับตัวมันเป็กระเป๋าสำหรับใส่เครื่องมือสื่อสารโดยเฉพาะ
“ไอ้วัวบ้านี่คงคิดจะเขมือบลูกไม้วิเศษตัวเดียวเลยเปลี่ยนสีขนเป็สีดำงั้นสิ” ฉู่เฟิงรู้สึกว่าหวงหนิวไม่มีเจตนาดี
แต่ว่า วัวั์สีดำอีกตัวนั่นมาอย่างไร?ฉู่เฟิงมองจากระยะไกล แต่แล้วก็รู้สึกว่า...นี่ก็คุ้นๆ แฮะ!
ทันใดนั้น เขาก็ตัวสั่นสะท้าน นึกขึ้นมาได้ทันทีเขาเคยเห็นวัวตัวนั้นจริงๆ ด้วย
“ตัวที่อยู่บนเขาคุนหลุนนั่นเอง!”ฉู่เฟิงมั่นใจว่าไม่ผิดตัว เหมือนกันเป๊ะๆ
มันเป็จามรีสีดำ ขนดำเป็เงาเลื่อมระยับดั่งผ้าแพร ร่างสูงสามเมตรกว่าฉู่เฟิงจดจำมันได้ไม่ลืมเลือนั้แ่แรก
ถึงแม้ว่าจะอยู่ค่อนข้างห่างแต่ว่าคุณสมบัติทางกายภาพของฉู่เฟิงเพิ่มพูนขึ้นมากไม่ว่าจะเป็การมองเห็นหรือการได้ยิน ล้วนดีเยี่ยมกว่าคนธรรมดาหลายเท่า
เขาได้ยินที่จามรีสีดำนั่นพูดภาษาคนอยู่รางๆ
อะไรกัน? ฉู่เฟิงเองก็ตะลึงงัน
สัตว์กลายพันธุ์ตัวหนึ่งพูดภาษามนุษย์ได้ นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้วอย่างนี้คือมัน...เป็เทพแล้วอย่างนั้นสิ!
เขาเคยได้ยินหวงหนิวบอกว่า ในโลกนี้หากเกิดเหตุการณ์ที่สัตว์กลายพันธุ์สามารถพูดภาษามนุษย์ได้เช่นนั้นจะเกิดเหตุพิสดารพันลึกอย่างแน่นอน
ต่อมาเขาเปลี่ยนตำแหน่งจากมุมนี้เขามองเห็นเทพวัชระที่ถูกโยนอยู่กลางกองหญ้า
มันทำให้ฉู่เฟิงคันหัวใจอย่างนี้มั่นใจได้เลยว่าเ้าวัวสีดำนี่ต้องร้ายกาจอย่างมาก สายมารตัวพ่อ
ก็ก่อนหน้านี้ หวงหนิวดักตีหัวขนาดนั้นยังไม่สามารถคว่ำเทพวัชระได้เลยคนที่ได้รับการเรียกขานว่ามีร่างะ ย่อมแข็งแกร่งอย่างไร้เทียมทาน
โดยเฉพาะเมื่อตอนที่เทพวัชระเข้าแย่งลูกสนสีม่วงทองนั่นเคยโดนลูกะุสาดใส่นับไม่ถ้วน แต่กลับปลอดภัยไร้าแเห็นได้ชัดว่าเป็กายเนื้อที่มหัศจรรย์อย่างยิ่ง!
ห่างออกไป วัวั์สีดำยกหัวขึ้น แล้วกวาดสายตาเฉยเมยมาทางฉู่เฟิง
ฉู่เฟิงหนาวเยือก ท่าทางจะถูกพบเข้าแล้ว จามรีตัวนี้ร้ายกาจอย่างยิ่งประสาทััเฉียบคม ห่างออกมาตั้งไกลยังซ่อนไม่มิด
แต่ว่า เขาก็ไม่ลุกขึ้น ยังไม่มีความคิดที่จะเปิดตัว
ฉู่เฟิงสงบจิตสงบใจ พิจารณาอย่างรอบคอบเ้าวัวั์สีดำนี่ออกมาจากเขาคุนหลุนได้อย่างไรกัน?
เพราะว่าหลังจากที่ฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนแปลงระยะทางระหว่างเทือกเขาคุนหลุนและไท่หังซานห่างกันร่วมห้าพันกิโลเมตรกระนั้นมันยังดั้นด้นมาถึงนี่ได้
เขาสงสัยอย่างมาก หรือว่าเ้าวัวั์สีดำตัวนี้ตามเขามา?
พอคิดดูให้ละเอียด ก็ไม่น่าจะใช่ ไม่อย่างนั้นก็น่าจะดึงเขาไว้ที่เขาคุนหลุนั้แ่แรก!
“มันกลายเป็เทพไปแล้ว อาจจะมาโดยบังเอิญมั้งหรือไม่ก็ได้ยินว่าที่เขาไท่หังซานมีลูกไม้วิเศษ เลยมาร่วมวงแย่งกับเขาด้วย?” ฉู่เฟิงเดามั่ว
ห่างออกไป หวงหนิวอย่างหงอย มันไม่อยากถูกคุมตัวกว่าจะหลุดออกมายังโลกนี้ได้นั้นไม่ง่ายเลย อุตส่าห์วาดหวังจะมาเป็เ้าพ่อที่นี่แต่ถ้าไม่สามารถตั้งตัวเป็ใหญ่ได้ แถมยังโดนพี่ใหญ่คุมตัวแจอย่างนี้มันน่าเบื่อเกินไปไหม
“เ้าคิดว่า ลูกไม้วิเศษที่แย่งชิงมาได้ตอนนี้เป็ของเ้าแล้วอย่างนั้นสิ?” วัวั์สีดำยังพร่ำพูดใส่มัน
หวงหนิวไม่ยอมรับ มันมั่นใจว่าถ้าไม่มีวัวั์สีดำตัวนี้ล่ะก็ลูกสนสีม่วงทองย่อมตกเป็ของมันอย่างแน่นอน
“น่าขัน มนุษย์พวกนั้นรวมทั้งเ้าคิดว่าสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติงั้นหรือจะมีใครรู้บ้างไหม วิบัติภัยมันเกิดได้ทุกเมื่อ” วัวั์สีดำสั่งสอนมัน
คือไร? หวงหนิวตะลึง ตาค้าง ไม่อยากจะเชื่อ
“เ้ารู้ไหมว่าโดยรอบนี้มีอะไรอยู่?ฝูงสัตว์กลายพันธุ์! พวกมันล้อมกรอบที่นี่อยู่นานแล้ว แต่ว่าพวกมันยังไม่รู้จักพวกมนุษย์ดีพอ จึงถือโอกาสนี้ ซุ่มสังเกตการณ์พวกเขารวมไปถึงพวกอาวุธยุทโธปกรณ์ด้วย”
ห่างออกไป ฉู่เฟิงเองก็ได้ยินแล้วเช่นกัน เขาสะดุ้งทันทีที่นี่มีสัตว์กลายพันธุ์จำนวนมากกำลังเฝ้ามองมนุษย์อยู่อย่างนั้นหรือ?
“ฉันสงสัยว่า เื้ัของสัตว์กลายพันธุ์ฝูงนี้มีตัวร้ายอันดับหนึ่งกำลังเฝ้ามองดูทุกการกระทำของเหล่ามนุษย์แล้วฉวยจังหวะนี้เคี่ยวกรำพวกสมุน” วัวั์สีดำเอ่ยขึ้นมาอย่างเชื่องช้า
สติปัญญาของสัตว์กลายพันธุ์สูงถึงขั้นนี้เลยหรือ?จับตาดูมนุษย์ ศึกษาค้นคว้า แล้วย้อนมาควบคุม?!
ฉู่เฟิงสะดุ้งในใจ หากสิ่งที่วัวั์สีดำพูดเป็จริงล่ะก็ผลที่ตามมาย่อมน่ากลัวอย่างยิ่งในอนาคตผู้แผ่นดินนี้จะเป็ใครก็ไม่อาจชี้ชัดได้แล้ว
เขานึกถึงเื่ที่หลินนั่วอีบอกเขาพวกสัตว์ที่กลายพันธุ์ล้วนแล้วแต่ฉลาดเป็อย่างยิ่งความสามารถในการเรียนรู้และความสามารถในการลอกเลียนร้ายกาจมากล้ำหน้ามนุษย์เสียอีก
ดูแล้วตอนนี้ ที่พวกสัตว์กลายพันธุ์ยังคงซุ่มตัวอยู่นั้นเป็เพราะว่าหลังจากที่เริ่มมีสติปัญญาพวกมันคงยังไม่เข้าใจมนุษย์อย่างถ่องแท้จึงเฝ้าดูอยู่ในเงามืด!
เมื่อคิดได้อย่างนี้ ก็เสียวสันหลังวาบต่อไปในอนาคตย่อมเกิดเื่ใหญ่อย่างแน่นอน!
หวงหนิวยังคงไม่ฟังอะไร สัตว์กลายพันธุ์เยอะขึ้นแล้วไงอ่ะหรือว่าด้วยความสามารถอย่างมันจะฝ่าวงล้อมออกไปไม่ได้อีกอย่างมันเขมือบลูกไม้ลงไปก่อนก็ได้นี่ เปลี่ยนร่างแล้วค่อยว่ากัน
“ไอ้ลูกวัวนี่ยังไม่เชื่ออีก ก็บอกแล้วไงว่าฉันช่วยชีวิตเ้าไว้ไม่อย่างนั้น เมื่อใดที่เปิดกล่องเหล็กนั่น เมื่อนั้นเ้าได้ตายทันที”วัวั์สีดำยื่นกีบออกมา ตบหัวมัน เหมือนกับกำลังสั่งสอน หากแท้จริงคือความเอ็นดู
หวงหนิวสงสัย มันวิ่งไปเอากล่องเหล็กออกมา เสียงตึงดังขึ้นพอกีบกระแทกลงไปปุ๊บ กล่องเหล็กที่ทำจากเหล็กกล้าก็ปริแยกปั๊บ
“หลบไป ข้างในมีสัตว์กลายพันธุ์อยู่ตัวหนึ่ง อันตราย”วัวั์สีดำร้องเตือน มันก้าวขึ้นหน้า พอกีบกระแทกลงกล่องเหล็กก็ะเิกระจายชิ้นเหล็กปลิวว่อน
ต้นไม้สีเขียวขจีเผยให้เห็นส่วนบนคือลูกสนสีม่วงทองที่แก่ได้ที่จนปริแตกข้างในมีเมล็ดสนที่ส่องประกายระยิบระยับราวอัญมณีกลิ่นหอมอบอวลโชยชาย
พรึ่บ!
แสงสีเงินสายหนึ่งพุ่งออกมา เร็วอย่างยิ่งจนมองตามไม่ทันหากไม่เตรียมป้องกันไว้ก่อน คงไม่แคล้วเพลี่ยงพล้ำ
ตึง!
วัวั์สีดำยกกีบขึ้นหนึ่งข้าง แล้วเตะออกไปทันที
พรึ่บ!
งูตัวเล็กสีขาวตัวยาวขนาดตะเกียบ ร่วงลงบนก้อนหินมันยกตัวขึ้นแล้วพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง รวดเร็วดุจสายฟ้าสีเงิน เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
เสียงปังดังขึ้น งูตัวเล็กถูกวัวั์สีดำเตะกระเด็นไปอีกครั้ง
มอ!
วัวั์สีดำร้องเสียงต่ำ แผ่รังสีกดดันอันน่ากลัว เอ่ยว่า“อย่าสำคัญตนผิด ฉันยั้งมือให้แล้วนะ”
งูน้อยสีเงินแลบลิ้นอย่างขัดใจ แต่สุดท้ายก็เกรงกลัวอำนาจของวัวั์สีดำมันเปลี่ยนร่างเป็แสงสีเงินแล้วเผ่นหนีไป
ห่างออกไป ฉู่เฟิงมองเห็นทั้งหมด เขาตะลึงงันหากว่าไม่เตรียมการป้องกันตอนก่อนเปิดกล่องล่ะก็ผลลัพธ์คงเลวร้ายจนเขาไม่กล้านึกถึง
ในที่สุดเขาก็รู้เสียทีว่าทำไมผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในรัศมีสิบเมตรของต้นไม้ต้นเล็กนั่นถึงตายเพราะต้องพิษก็ถึงกับมีงูสีขาวตัวเล็กพิษร้ายแรงคอยเฝ้า
“เห็นหรือยัง งูสีขาวตัวเล็กนั่นไม่ธรรมดาในหมู่สัตว์กลายพันธุ์เองก็เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลย หากโดนลอบกัดจริงๆ เ้าก็ไม่สามารถป้องกันได้”วัวั์สีดำสั่งสอนหวงหนิว
แน่นอน หวงหนิวใอย่างมาก
ห่างออกไป งูน้อยที่เผ่นหนีออกมาตัวนั้นแลบลิ้น พลางส่งเสียงประหลาด
“เหตุการณ์ไม่ดี พวกเรารีบหนี!” ตอนนี้วัวั์สีดำกลับมีท่าทีร้อนรน
รอบนอกเขางูขาวมีผู้คนมากมายล้วนแต่เป็คนของเทียนเสินเซิงอู้และโพธิจีนส์ ก่อนหน้านี้ไม่นานหลินนั่วอีออกคำสั่งไปหกเื่ หนึ่งในนั้นเป็คำสั่งถึงคนที่อยู่ด้านนอก
เธอจัดการอย่างระมัดระวัง ทางหนีทีไล่มีมากมาย
ในความเป็จริง ทางโพธิจีนส์เองก็เช่นกัน มีการเตรียมการอย่างแม่นยำทุกเส้นทางล้วนถูกปิด
บนยอดเขาลูกหนึ่ง ผู้าุโสองคนกำลังเดินหมาก ทั้งคู่ต่างก็ผมขาวโพลนแลดูใจดีอย่างยิ่ง
“ตกลงกันแล้วนะ เราสองคนห้ามลงมือเด็ดขาด ปล่อยให้เด็กๆ เขาชนกันไปถึงเวลานายอย่ามาอดใจไม่ได้ล่ะ” ผู้สูงวัยคนหนึ่งยิ้ม ใบหน้าอ่อนกว่าวัย
“วางใจได้ โพธิจีนส์ของฉัน ยกขึ้นได้ก็วางลงได้ ถ้าแพ้จริงๆลูกไม้นั่นก็ให้เทียนเสินเซิงอู้ของนายเอาไปได้เลย จะว่าไปแล้วทั้งนายทั้งฉันต่างก็ไม่ใช่คู่มือของพวกเทพวัชระนั่น” ผู้สูงวัยอีกคนหัวเราะร่า
พวกเขาสองคนมาจากฝ่ายตรงข้ามกันชัดเจนว่ามาจากเทียนเสินเซิงอู้และโพธิจีนส์ หากกำลังนั่งเดินหมากด้วยกัน
“ไม่ได้การ!”ผู้สูงวัยจากโพธิจีนส์เงยหน้าขึ้นฉับพลัน แสงสีเงินพุ่งจากดวงตาทั้งคู่
“แย่ล่ะสิ เื่ร้ายเกิดขึ้นแล้ว!” ผู้สูงวัยใบหน้าอ่อนเยาว์จากเทียนเสินเซิงอู้ลุกขึ้นอย่างใพลันหายใจติดขัด
“เร็วเข้า ถอยซะ ให้คนด้านในหนีออกมาให้หมด!”ผู้สูงวัยฝั่งโพธิจีนส์ะโลั่นๆ สั่นสะท้านไปทั่วแนวเขา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้