บทที่ 153 รู้จักกับสามโลก
เมื่อกี้ยังคุยกันดีอยู่เลย แต่นี่จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะฆ่าจะแกงกัน ทำเอาเย่จื่อเฉินใไปหมด
เขาหลบการจู่โจมของจินซานพ่าง โดยการไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงมุมห้อง
"นายทำอะไรเนี่ย!"
เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วด่าลั่น แค่พูดไม่เข้าหูกันนิดหน่อยก็ลงมือแล้ว เห็นแบบนี้เขาก็โกรธอยู่เหมือนกัน
"ทำไม!" พอนึกถึงว่าไม่สามารถกลับไปหาจักรพรรดิชิงิได้ จินซานพ่างก็ถลึงตาพูดพลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่เย่จื่อเฉิน "ถ้ามันไม่ใช่เพราะนาย ถ้าไม่ใช่เพราะนาย...ฉันจะฆ่านายซะ!"
"ให้ตาย ฉันไม่อยากลงไม้ลงมือกับนาย นายอย่าคิดว่าฉันเป็เด็กอ่อนหัดนะ!"
"งั้นนายก็ลองลงมือดูสิ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าเด็กอย่างนายมันจะมีปัญญาสักแค่ไหน!"
"นายเรียกร้องเองนะ"
พอสะบัดคอไปมาเล็กน้อยแล้ว เย่จื่อเฉินก็ยกเท้าขึ้นถีบทันที
เมื่อเห็นเท้า ชายอ้วนก็เผยรอยยิ้มสมเพชออกมา แล้วพุ่งเข้าใส่โดยไม่สนใจอะไร
การเผชิญหน้ากับคนอ่อนหัดที่เพิ่งจะได้เฉียดเข้าใกล้กายทิพย์ สำหรับคนที่มีพลังตี้เซียนอย่างเขานั้น
มันสบายมาก
อ้าว ไม่ใช่แล้ว
ทำไมเขาถึงได้กระเด็นออกมา?
โครม!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ภาพที่คิดไว้ไม่เกิดขึ้น ชายอ้วนล้มกระแทกพื้นอย่างแรง พร้อมกับทำหน้าไม่เข้าใจ
อะไรกันเนี่ย
เย่จื่อเฉินเขาเพิ่งจะเข้าใกล้กายทิพย์เองนะ ทำไมแม้แต่กายทิพย์ตนก็ยังสู้ไม่ได้อีก
สองมือกำหมัดแน่น ชายอ้วนหลับตาลงััพลังเซียนภายในร่างกาย
พรึบ!
ใบหน้าของเขาซีดขาวในทันที
ไม่มี!
หายไปหมดแล้ว!
ตอนนี้เขาไม่มีพลังิญญาอะไรเลย
เขานึกถึงคำพูดของท่านอาจารย์ในตอนนั้น ถ้าไม่ได้มีอะไรผิดปกติ พลังเซียนของเขาน่าจะโดนท่านอาจารย์ผนึกเอาไว้
เมื่อเห็นว่าชายอ้วนล้มกลิ้งไปเจ็ดแปดตลบ เย่จื่อเฉินถึงได้ล้วงมือสองข้างเข้ากระเป๋ากางเกง แล้วเดินเข้าไปหา
"เ้าอ้วน นายเป็หมาบ้าหรือไง!"
จินซานพ่างเห็นความโเี้ในดวงตาของเขา
ถ้าไม่ใช่เพราะเ้าเด็กตรงหน้าคนนี้ ตอนนี้เขาก็คงได้อยู่ที่วิหารชิงิ ฟังแม่บ้านร้องเพลง มีชีวิตที่สบายไปแล้ว
แต่ตอนนี้ วิหารชิงิก็กลับไปไม่ได้ แม้แต่พลังเซียนก็ยังไม่มี
"ยังมีหน้ามาว่าฉันอีกนะ" ชายอ้วนกัดฟันพูด แล้วลุกขึ้นยืน "ตอนนี้ฉันกลับวิหารชิงิไม่ได้แล้ว พลังเซียนก็โดนจักรพรรดิชิงิผนึกไว้...ฉัน..."
"แล้วนายจะเอาไง"
เย่จื่อเฉินมองตาขวาง
"ไม่เอาไง"
พลังเซียนไม่มีแล้ว จินซานพ่างในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดาทั่วไป
เขาไม่โง่ปีกกล้าขาแข็งกับเย่จื่อเฉินหรอก มันไม่มีผลดีอะไร ถ้าโดนทุบตีกลับมามันไม่คุ้มกันหรอก
อีกอย่างเขาเองก็ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ในโลกใบนี้ เขาต้องพึ่งพาเ้าเด็กคนนี้ถึงจะมีชีวิตอยู่ได้
ตัดสินใจซะ
ยอม!
ยอมเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า!
"พี่เย่ ท่านอาจารย์ของผมให้ผมมาอยู่กับพี่ที่โลกมนุษย์ ต่อไปนี้พี่ก็คือพี่ใหญ่ของผม"
ถ้าจะให้พูดเื่การปรับตัวไปตามสถานการณ์ เขานั้นถือว่าเป็ที่สอง และไม่มีใครกล้าขึ้นเป็ที่หนึ่งเลยล่ะ
ความต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับในตอนก่อนหน้านี้ ทำเอาเย่จื่อเฉินอึ้งไปทันที
"เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าพี่เย่?"
"ใช่ ต่อไปนี้พี่ก็คือพี่เย่ของผม ต่อไปนี้ลูกน้องอย่างผมคนนี้จะคอยคุ้มกันพี่ จะยอมตายในสนามรบ จะสู้สุดความสามารถ จะ..."
"พูดสิ พูดต่อไป"
"พี่ใหญ่ ความรู้ของผมมีขีดจำกัด สำนวนที่รู้ก็มีแค่ไม่กี่อัน"
จินซานพ่างก้มหน้าลงด้วยท่าทางหงอยๆ แล้วฉีกยิ้ม
"โอเค นายไม่ต้องมาประจบฉันแล้ว จักรพรรดิชิงิคิดจะทำอะไร ฉันก็ไม่อยากถามมาก ดูแล้วนายก็น่าสงสาร ในเมื่อจักรพรรดิชิงิให้นายมาอยู่กับฉัน งั้นฉันก็จะให้นายอยู่ด้วย ขอบอกประโยคหนึ่งเอาไว้ อยู่กับฉันนายสบายแน่นอน"
"มันแน่อยู่แล้ว คำพูดของพี่ใหญ่ ผมเชื่อ"
จินซานพ่างแต่งตั้งตัวเองเป็ลูกน้องจริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นานเขายังะโด่าปาวๆ อยู่เลย
"อืม นั่งลงเถอะ นายเล่าเื่ซานเซียนอะไรนั่นให้ฉันฟังหน่อย ว่าตกลงมันคืออะไร?"
"ซานเซียนน่ะเหรอ เื่นี้พูดไปแล้วก็ยาวนะ"
"นายก็พูดให้มันสั้นๆ สิ!"
เย่จื่อเฉินกลอกตาอย่างอารมณ์เสีย จินซานพ่างรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของพี่ใหญ่ จึงรีบพยักหน้าพร้อมกับยิ้มรับ
"ได้ งั้นผมจะพูดสั้นๆ ก็แล้วกัน"
ถึงจะบอกว่าพูดสั้นๆ แต่จินซานพ่างก็พูดอยู่ถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม ถึงได้คลายความสงสัยในใจของเย่จื่อเฉินและให้คำตอบที่กระจ่างชัดได้
อะไรคือซานเซียน
ก็คือคนธรรมดาที่ฝึกบำเพ็ญเพียรจนได้รับพลังเซียน และได้รับชื่อเรียกขานหลังจากที่ได้เป็เซียนแล้ว ซึ่งมันก็เหมือนกับผู้บำเพ็ญเพียรที่เห็นในนิยาย
สถานที่ที่เย่จื่อเฉินอยู่นั้นถูกเหล่าซานเซียนเรียกว่าโลกปัจจุบัน
เซียนในโลกปัจจุบันมีค่อนข้างน้อย จะมีซานเซียนบางกลุ่มเท่านั้นที่จะปล่อยให้เซียนไม่กี่คนอาศัยอยู่ในเมือง
เหล่าซานเซียนคนอื่นๆ ก็จะเลื่อนขั้นขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่ในแดนเซียนของซานเซียน
และซานเซียนก็จะแบ่งออกเป็หลายระดับเช่นกัน
ดวงจิต, ิญญา, กายทิพย์, ร่างเซียน, เง็กเซียน และเซียนแท้ (เ้าแห่งเซียน)
ส่วนระดับทั้งหมดจะแบ่งออกเป็ระดับต้น, กลาง, สูง และสมบูรณ์
ทั้งนี้์ นรก และซานเซียนจัดอยู่ในสามกลุ่มหลัก
ในโลกปัจจุบัน สามกลุ่มหลักนี้ก็จะมีกลุ่มที่มีความเชื่อเป็ของตัวเอง
พอนึกถึงจักรพรรดิชิงิ ไท่ไป๋จินซิงรวมถึงกลุ่มคนในนรก
ดูเหมือนว่าเขากำลังรับบทเป็สายลับของทั้งสามโลกอยู่
ผลงานชิ้นเอกเลย!
ภารกิจสายลับ กำลังจะเริ่มในเร็วๆ นี้
ส่วนอย่างอื่นน่ะเหรอ
ประโยคเดียวเลย
ไร้ประโยชน์สิ้นดี!
ทำไมถึงได้พูดแบบนี้ ก็เพราะว่าเย่จื่อเฉินเป็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง เขาไม่ได้มีเคล็ดลับวิชาอะไรที่กลุ่มซานเซียนพวกนั้นทิ้งเอาไว้ให้ฝึกฝน
แล้วก็ดูเหมือนว่าในแอปเถาเป่าจะไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้ด้วย
ส่วนเื่ที่สอง จินซานพ่างบอกว่าตอนนี้เขาอยู่ในร่างรากิญญา ซึ่งก็คือขั้นที่หนึ่งของซานเซียน
แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่าจะทำให้มันบรรลุขั้นเซียนได้ยังไง ดูเหมือนว่าจะต้องกินยาวิเศษระดับหกของไท่ซางเหล่าจวิน
ที่สำคัญที่สุดคือ...
เขาไม่ได้อยากเป็ซานเซียนอะไรนั่นสักนิด เขาก็แค่อยากจะหาเงินแบบสบายใจ แล้วมีชีวิตที่ดีอยู่บนโลกนี้ก็พอแล้ว
ถ้าจะให้ดีที่สุด ต่อไปนี้เวลาที่เป็สายลับก็จะต้องระวังตัวหน่อย ต้องกอบโกยผลประโยชน์ให้ได้เยอะๆ
พอกอบโกยมาได้เยอะแล้วก็รีบถอนตัวออกมา เขาเองก็ไม่อยากจมอยู่ในวังวนนี้นักหรอก
"พี่ใหญ่ พี่ใหญ่..."
จินซานพ่างโบกมือไปมาต่อหน้าเย่จื่อเฉิน เย่จื่อเฉินถึงได้ดึงสติกลับมา แล้วเลิกคิ้วพูดยิ้มๆ
"ไม่เลว เล่าได้ละเอียดดี"
"แหะๆ มันเป็สิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว"
จินซานพ่างหัวเราะเหมือนกับเด็ก เย่จื่อเฉินก็ไม่สามารถทำไม่ดีกับเขาได้ จึงได้ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา เตรียมจะเอาของจากเถาเป่าให้เขาเป็ของขวัญที่ได้เจอกัน
ติ๊ง!
ติ๊ง!
ติ๊ง!
เนื่องจากว่าตลอดทั้งหนึ่งอาทิตย์นี้ เย่จื่อเฉินอยู่ในอาการปิดกั้นตัวเอง เขาแทบจะตัดขาดกับทุกอย่างในโลกภายนอก ก็เลยไม่ได้แตะวีแชท
พอเข้าวีแชทมา ข้อความในโทรศัพท์ก็ทำเอาโทรศัพท์ของเขาแทบะเิ
มองดูข้อความในโทรศัพท์
ทั้งผู้เฒ่าจันทรา ยี่หนึงจินกุน องค์ชายสามนาจาต่างก็พากันส่งข้อความมาหาเขา
แต่อันที่ดึงดูดสายตาที่สุดคือข้อความของซุนหงอคง
าาวานร : สหาย ข้าจับปีศาจได้ตัวหนึ่ง
าาวานร : สหาย ข้าโดนเ้าพวกคนโง่เง่ากลุ่มหนึ่งทำร้าย
าาวานร : สหาย ข้าโดนคนที่ใส่ชุดสีฟ้าจับตัวมา
าาวานร : สหาย...
เมื่อเห็นข้อความบนหน้าจอ หัวใจของเย่จื่อเฉินก็เต้นรัวขึ้นมา
ทั้งอาทิตย์นี้เขามัวแต่คิดมากไปเรื่อยเปื่อย จนลืมลูกะเิเวลาอย่างซุนหงอคงไปเลย
ดูจากท่าทางแล้ว น่าจะต้องเกิดเื่แน่นอน
เย่จื่อเฉินจึงรีบตอบเขากลับไป แต่ข้อความนี้ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ ราวกับหล่นหายไปในทะเล
แย่แล้ว!