รถรับส่งเคลื่อนตัวมาถึงเฟิ่งเสียนเรียบร้อยแล้ว
เมืองเฟิ่งเสียนใหญ่เทียมซางตูไม่ได้เลย ทว่าก็ใหญ่กว่าเขตอันชิ่งมากอยู่ดี
สนามสอบของเซี่ยเสี่ยวหลานคือโรงเรียนเฟิ่งเสียนซื่อซานจง บ้านพักที่โรงเรียนจัดเตรียมให้อยู่ข้างซานจง [1] นั่นเอง เดินเท้าไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับนักเรียนคนอื่นแล้ว สภาวะการเตรียมสอบของเซี่ยเสี่ยวหลานช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน อาจารย์ใหญ่ซุนยินดีลงทุน ห้องที่จองให้ก็ไม่แย่ด้วย ห้องชุดอยู่ชั้นบนสุดของบ้านพักรับรอง เนื่องจากจำนวนคนเข้าพักน้อย ทั้งชั้นจึงเงียบสงบมาก
หลี่ต้งเหลียงเปิดห้องพักถัดไปเพิ่มไว้ตั้งนานแล้ว
ซุนเถียนรู้สึกะเืใจยิ่งนัก ญาติของนักเรียนเสี่ยวหลานมาเพื่ออยู่เป็เพื่อนในการสอบสินะ? ที่แท้นักเรียนเสี่ยวหลานไม่ได้มีเพียงญาติพี่น้องผู้ร้ายกาจ ยังมีญาติสนิทที่ห่วงใยนักเรียนเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่
มีผู้ชายสองคนอยู่ ซุนเถียนสบายใจขึ้นมาก
แต่ไหนแต่ไรเธอเป็คนไม่คิดมาก เซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่าเป็ญาติ เธอก็ไม่ได้สงสัยอะไร ทั้งที่หลี่ต้งเหลียงกับเก่อเจี้ยนมีสำเนียงต่างถิ่น เซี่ยเสี่ยวหลานจะพูดอะไรได้ การที่จวบจนตอนนี้อาจารย์ซุนยังไม่โดนหลอกลวง ปลอดภัยไร้ร่องรอย ต้องเป็เพราะทำดีได้ดีอย่างแน่นอน!
ทั้งสองคนออกเดินทางตอนบ่าย พอถึงเฟิ่งเสียน ดำเนินการลงทะเบียนเข้าพักเสร็จสิ้น ก็เป็เวลาใกล้ค่ำแล้ว
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ไปเที่ยวเตร่ ถ้ารู้ทั้งรู้ว่าพรุ่งนี้จะเข้าสอบ แต่ยังไปเดินเที่ยวรอบเมืองโดยไม่มีความจำเป็ นั่นคือการหาเื่ใส่ตัว พักอยู่ในบ้านพักดีๆ ก็พอแล้วไม่ใช่หรือ สถานที่อย่างเฟิ่งเสียนนี้ เธอไม่มีความหลังฝังใจอะไรเสียด้วย เดินเมื่อไรก็เหมือนกันทั้งนั้น การกระเสือกกระสนออกไปเตร็ดเตร่ยามค่ำคืน อาจเป็การสร้างปัญหาให้แก่ตนเองได้
พอรับประทานอาหารเสร็จ เซี่ยเสี่ยวหลานก็กลับห้องเพื่อพักผ่อนให้เร็วที่สุด
เพราะพรุ่งนี้เป็วันสอบ เธอจึงไม่ได้อ่านหนังสือนานเท่าไร สามทุ่มก็ล้างหน้าบ้วนปากและขึ้นเตียงแล้ว ขณะกึ่งหลับกึ่งตื่น เธอได้ยินว่าด้านนอกมีความเคลื่อนไหว เหมือนมีใครกรีดร้องอย่างน่าเวทนา แต่เซี่ยเสี่ยวหลานก็ทำเพียงพลิกตัวแล้วผล็อยหลับไปอีกครั้งเท่านั้น
เธอจะกังวลอะไร?
หลี่ต้งเหลียงกับเก่อเจี้ยนอยู่ห้องข้างๆ นี่เอง ทั้งสองปฏิบัติงานเหมาะสม เป็ไปไม่ได้ที่จะหลับไม่รู้เื่ทั้งสองคน ต้องมีหนึ่งคนคอยเฝ้ายามกะกลางคืนแน่นอน
ถ้ามีคนอยากก่อกวน ก็ต้องผ่านการคุ้มครองของหลี่ต้งเหลียงกับเก่อเจี้ยนก่อน สองคนนี้จะยกความปลอดภัยของเธอไว้เป็อันดับหนึ่งแน่นอน ในเมื่อพวกเขาไม่ได้รายงานเื่ราวแก่เธอ เซี่ยเสี่ยวหลานย่อมไม่กังวลโดยสิ้นเชิง
เธอนอนหลับสบาย ทว่าซุนเถียนที่อยู่ในห้องถัดไปกลับตื่นเพราะเสียงเคาะประตูเบาๆ
“คุณครูซุน คุณออกมาสักครู่ได้ไหมครับ?”
ซุนเถียนยังหลับไม่สนิท เธอจึงตื่นขึ้นมาในทันที
มีคนกำลังเคาะประตู?
นี่มันเป็ห้องชุดนะ ด้านนอกยังมีประตูอีกบานหนึ่ง ซุนเถียนจำได้ว่าลงกลอนประตูแล้ว เช่นนั้นทำไมมีคนเข้ามาได้อีก เธอสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย และกดเสียงลงให้ทุ้มต่ำพลางถามออกไป
“ใคร!”
“ครูซุน ผมเอง”
คราวนี้ซุนเถียนจำเสียงนั้นได้แล้ว สำเนียงแปร่งเช่นนี้ เป็ญาติของนักเรียนเสี่ยวหลานนั่นเอง
ซุนเถียนย่องเบาๆไปที่เปิดประตู หลี่ต้งเหลียงยืนอยู่ตรงนั้น ให้สัญญาณเธอว่าอย่าส่งเสียงปลุกเซี่ยเสี่ยวหลาน
“ครูซุน คุณช่วยมากับผมหน่อย”
สีหน้าของหลี่ต้งเหลียงเคร่งขรึมมาก ซุนเถียนจึงเชื่อฟังคำสั่งของอีกฝ่ายอย่างอดไม่ได้ เธอเองเป็คนไม่รู้เดียงสาจริงๆ ถูกผู้ชายเรียกออกจากห้องยามค่ำคืน ไม่เอะอะโวยวายเสียด้วย เหมือนกับที่เซี่ยเสี่ยวหลานกล่าวไว้ ถ้ามิใช่เพราะเป็คนคนจิตใจดีมีโชคอำนวย ซุนเถียนจะสามารถใช้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัยมาถึงตอนนี้ได้ที่ไหน
เก่อเจี้ยนยืนอยู่บนทางเดิน หน้าประตูของห้องชุด เมื่อเห็นหลี่ต้งเหลียงพาซุนเถียนออกมา เขาก็ปิดประตูห้องชุดอีกครั้ง
ั้แ่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ ไม่ได้รบกวนการพักผ่อนของเซี่ยเสี่ยวหลานแม้แต่น้อย
เก่อเจี้ยนเฝ้าหน้าประตู หลี่ต้งเหลียงกลับพาซุนเถียนไปยังห้องด้านข้าง พอซุนเถียนเข้าห้องก็อุดปากทันที ถึงจะกลืนเสียงอุทานร่ำร้องลงหมดได้ ที่แท้ภายในโถงรับแขกของห้องชุดที่อยู่ถัดจากห้องเธอ มีคนถูกจับมัดมือไพล่หลังรั้งคอ [2] โยนไว้ตรงนั้น ปากโดนปิด มือเท้าไม่อาจขยับเขยื้อน ใบหน้าบวมช้ำ ถึงกระนั้นซุนเถียนก็ยังคงจำอีกฝ่ายได้
“จ้าวกัง?!”
จ้าวกังมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร อีกทั้งเหตุใดจึงถูกคนจับมัดแ่าเช่นนี้?
หลี่ต้งเหลียงโล่งใจ
“ครูซุน คุณรู้จักจริงสินะ?”
เขากับศิษย์น้องอุตส่าห์เดาอยู่ตั้งนานสองนาน นึกว่าเป็คนที่บ้านฝานส่งมา แม้จะประหลาดใจเหมือนกันว่าทำไมส่งพวกขี้ขลาดตาขาวมาแก้แค้นคุณผู้หญิงเซี่ย
จ้าวกังไม่เห็นว่าซุนเถียนเข้ามาแล้ว ร้องอู้ๆ อี้ๆ สักพัก ปากโดนปิดไว้จึงพูดไม่เป็ภาษา คาดว่า้าร้องขอความช่วยเหลือ
ซุนเถียนสับสนงงงวย “ฉันรู้จักค่ะ เขาเป็ครูของโรงเรียนพวกเรา... แต่เวลานี้เขาควรอยู่ที่เขตอันชิ่งสิ”
เธอปฏิเสธจ้าวกังไปก่อนหน้านี้แล้ว และบอกเล่าเื่ราวแก่อาสะใภ้ด้วย ทำไมจ้าวกังยังปรากฏตัวในเมืองเฟิ่งเสียนได้? นี่ไม่ใช่สถานที่อื่นใด เป็บ้านพักที่เธอและเซี่ยเสี่ยวหลานพัก อีกทั้งถูกจับมัดไพล่หลัง ซุนเถียนแค่ซื่อ ทว่าไม่ได้เป็คนโง่
จ้าวกังทำเื่อะไรเลวร้ายอย่างแน่นอน!
หลี่ต้งเหลียงคลายความสงสัยให้กับเธอ “เมื่อครู่ผมได้ยินว่าห้องด้านข้างมีเสียงบางอย่างเคลื่อนไหว พอดูก็เห็นคนคนนี้กำลังใช้ลวดเหล็กแยงรูกุญแจห้องของพวกคุณ ห้องของหญิงสาวสองคน เขาที่ทำลับๆ ล่อๆ พยายามเปิดประตูคงไม่ใช่คนดีอะไร พวกเราเลยจับเขาไว้ ซ้อมไปหนึ่งยก เขาบอกว่าตัวเองคือครูของอันชิ่งเซี่ยนอีจง บอกว่ามาหาคนรักของเขา ผมจึงอยากให้คุณครูซุนตื่นมายืนยันตัวตนเสียหน่อย!”
ซุนเถียนแทบสิ้นสติ
จ้าวกังลักลอบพยายามเข้าห้องหญิงสาวกลางดึกเพื่ออะไรกัน?
และคนคนนี้มาเฟิ่งเสียนได้อย่างไร ทั้งยังรู้ที่พักกับห้องของพวกเธออีกด้วย บ้านพักมีคนมากมายขนาดนั้น จ้าวกังผ่านเข้ามาได้อย่างไร
เขามาเพื่อหาเธอหรือ?
ดึกดื่นค่ำมืด จะแอบเข้าไปในห้องเธอ จ้าวกังไม่ได้มีเจตนาดีแน่นอน!
ซุนเถียนนิสัยเหนียมอาย เวลานี้ยังถูกกระตุ้นจนโมโหโทโสได้
“ฉันไม่ใช่คนรักเขาค่ะ เขาแค่อยากตามมาเมืองเฟิ่งเสียน ไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไรอยู่!”
หลี่ต้งเหลียงหัวเราะหึหึ แปลว่าเ้าหมอนี่ไม่ได้พูดความจริง ถือว่าโดนน้อยไปแล้ว
“ครูซุน ผมรู้แล้วว่าจะทำอย่างไรดี คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ! โอ้ใช่ เื่นี้อย่าเพิ่งบอกเสี่ยวหลานดีกว่า พรุ่งนี้เธอต้องเข้าร่วมการสอบไม่ใช่หรือ?”
ต่อหน้าซุนเถียน หลี่ต้งเหลียงกับเก่อเจี้ยนไม่เรียก ‘คุณผู้หญิงเซี่ย’ เหมือนทุกที แบบนั้นมันพิกลเกินไป
ซุนเถียนพยักหน้าสุดแรง จ้าวกังพยายามคลานมาหาเท้าเธอ ซุนเถียนกัดฟันหันหลังหนีไป เธอจะใจอ่อนกับจ้าวกังไม่ได้ จับจ้าวกังไว้เป็สิ่งที่ถูกต้อง มีเื่ใดรอการสอบคัดเลือกรอบแรกเสร็จสิ้นแล้วค่อยว่ากัน พอซุนเถียนกลับไปดู รูกูญแจของประตูห้องมีร่อยรอยการงัดแงะจริง ซุนเถียนโกรธจนพูดไม่ออก—ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้มีญาติทั้งสองคนของนักเรียนเสี่ยวหลานอยู่ จ้าวกังลอบเข้าห้องตอนกลางคืน จะทำเื่อะไรลงไปบ้างนะ?
ซุนเถียนนึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเป็คนแบบนี้
เธอโทษตัวเองอีกครั้งว่าไม่กล้าหาญพอ หนังหน้าบางเกินไป ปล่อยให้จ้าวกังได้คืบจะเอาศอก
ในเมื่อไม่ชอบจ้าวกัง รีบบอกกับคนรอบข้างให้ชัดเจนั้แ่แรก ก็จะไม่ถูกจ้าวกัง ‘เอารัดเอาเปรียบ’ แบบนี้
จ้าวกังงัดประตูกลางดึกเพื่ออะไร ภายในห้องชุดมีเธอและนักเรียนเสี่ยวหลานพักอยู่ บางทีเป้าหมายของจ้าวกังอาจไม่ใช่เพื่อลอบเข้าห้องของเธอ แต่เป็ห้องของเซี่ยเสี่ยวหลาน
พอคิดว่ามีความเป็ไปได้นี้ ซุนเถียนก็ขยะแขยงจนอยากอาเจียน!
ครูบาอาจารย์ผู้ทรงเกียรติอย่างนั้นหรือ?
เดรัจฉานในคราบมนุษย์ชัดๆ
ยิ่งขบคิดยิ่งรู้สึกว่าการคาดเดานี้มีมูล มิเช่นนั้นทำไมจ้าวกังดึงดันจะมาเมืองเฟิ่งเสียนให้ได้แบบนี้? ตอนแรกอยากนำกลุ่มนักเรียน จากนั้นก็อ้างว่าจะมาเป็เพื่อนเธอ... หลังถูกปฏิเสธกลับแอบตามมาด้วยตนเองจนได้ เป้าหมายของจ้าวกังอาจไม่ใช่เธอั้แ่แรก... เป็นักเรียนเสี่ยวหลานต่างหาก
คนคนนี้ เขาคนนี้้าทำอะไรกันแน่?
ถ้าวันนี้เขาลอบเข้าห้องของเซี่ยเสี่ยวหลานสำเร็จ สิ่งที่เขาจะทำลายจนย่อยยับไม่ใช่แค่ชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ยังมีอนาคตของนักเรียนอีกด้วย!
เชิงอรรถ
[1]ซานจง คือ ชื่อย่อของโรงเรียนเฟิ่งเสียนซื่อซานจง
[2]五花大绑 มัดไพล่หลังรั้งคอ คือ วิธีการการมัดแบบหนึ่ง โดยคล้องเชือกรั้งคอจากด้านหลังและนำเชือกที่เหลือมัดแขนสองข้างพาดไพล่หลังไว้ วิธีการมัดนี้จะทำให้ผู้ถูกมัดขยับตัวได้ยาก