“อวี้จิ่น เล่ามาซิว่าวันนี้เ้าไปได้ยินข่าวใดมาบ้าง”หลิ่วจิ้งวางความกังวลจากเื่ใหญ่ที่หั่วอี้จะมาหานางคืนนี้ลงได้ ยามนี้จึงมีอารมณ์มาสนใจเื่อื่นๆที่เกิดภายในจวนแล้ว
อวี้จิ่นสะดุ้ง วันนี้ฮูหยินมีความคิดอ่านเปลี่ยนแปลงรวดเร็วนักเร็วจนนางรับไม่ทัน ได้แต่ยืนงงอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง ลืมตอบคำ
“เมื่อครู่มิใช่เ้ามาถามข้าว่ามีความคิดเห็นใดหรอกหรือเ้าไม่เล่าเื่ที่ไปได้ยินมาให้ข้าฟัง แล้วข้าจะคิดสิ่งใดได้เล่า?” หลิ่วจิ้งเอ่ยยิ้มๆ
“เอ่อ เอ่อๆ เป็ดังนี้เ้าค่ะวันนี้บ่าวได้ยินมาจากห้องครัวหลังว่าทุกคนกำลังสนใจเื่ที่ท่านแม่ทัพมอบหมายงานวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าให้ฮูหยินใหญ่รับผิดชอบ
คล้ายว่าคนที่เรือนของฮูหยินใหญ่เป็คนแพร่ข่าวนี้ออกมาเอง เห็นทีว่าฮูหยินใหญ่อดรนทนไม่ไหวอยากให้คนทั่วหล้ารู้ว่าท่านแม่ทัพให้ความสำคัญกับนางอย่างมากเช่นนั้นเ้าค่ะ”
อวี้จิ่นบอกข่าวที่นางได้ยินมาให้หลิ่วจิ้งฟังด้วยความไม่พอใจ
หลังจากฟังเื่ที่อวี้จิ่นได้ยินมาจนจบหลิ่วจิ้งแหงนหน้ามองดวงดาราบนนภากว้าง นิ่งคิดพักใหญ่ จึงค่อยๆ เอ่ยว่า “อวี้จิ่นเ้าเดาซิ อาหนูจะเลือกมาหาข้าเมื่อใด?”
หลิ่วจิ้งสอบถามอย่างมีความนัย อวี้จิ่นฟังแล้วรู้สึกสะท้านในใจ“ฮูหยิน ท่านคิดว่า…”
“คิดสิ่งใด ข้าจะไปมีความคิดใดได้ท่านแม่ทัพจัดการอย่างไรย่อมมีเหตุผลของเขาเอง มิใช่สิ่งที่ข้าสามารถคาดเดาได้”หลิ่วจิ้งขัดคำอวี้จิ่น
บางเื่เก็บไว้แต่ในใจเป็พอ ไม่จำเป็ต้องนำมาเปิดเผยในที่แจ้ง
หลิ่วจิ้งรู้เื่นี้จากหั่วอี้เป็คนแรกั้แ่ตอนเที่ยงแล้ว นางแค่คิดไม่ถึงว่านางจ้าวจะรีบปล่อยข่าวนี้ออกมาเพื่อข่มพวกนางในเรือนอื่นๆเมื่อชั่งน้ำหนักในใจมาหลายครา ที่สุดนางก็ตัดสินใจว่าจะร่วมมือกับอาหนูแล้ว
ทว่า การร่วมมือครั้งนี้ก็ต้องมีรูปแบบวิธีการนางตัดสินใจว่าจะร่วมมือกับอาหนูแต่ในทางหลักการเท่านั้น หาได้คิดจะร่วมลงมือตามความหมายนั้นจริงๆ
หลิ่วจิ้งกำลังคิดหาวิธีรับมือ จู่ๆ อวี้จิ่นก็เอ่ยขึ้นมาเบาๆ ว่า“ฮูหยิน ท่านมองทางนั้นเ้าค่ะ”
อวี้จิ่นพูดเสียงเบามาก เบาจนนางเกือบจะไม่ได้ยินชัดพอหันมองตามทางที่อวี้จิ่นชี้ไปก็เห็นอาหนูเดินนวยนาดมาทางนาง
เห็นชัดว่าอาหนูบรรจงแต่งตัวมาเป็อย่างดีค่ำมืดเพียงนี้แล้วนางยังแต่งเต็มยศมาทั้งตัวอาหนูสวมกระโปรงหลัวฉวินปักลายดอกบ๊วยประสานดอกบัววาดดอกบัวหนึ่งดอกไว้ที่หว่างคิ้วใบหลิวโค้งของนาง ยิ่งทำให้ดวงตาโตสดใสดั่งน้ำของนางแวววาวชวนหลงใหลเข้าไปอีก
“เป็นางปีศาจยั่วสวาทโดยแท้ ค่ำมืดป่านนี้แล้วยังจะแต่งตัวเช่นนี้อีกจะให้ผู้ใดดูกัน” อวี้จิ่นเอ่ยเยาะ
พอเห็นอาหนู อวี้จิ่นก็เกิดความคิดเป็ปรปักษ์กับนางโดยไม่รู้ตัวไม่คิดว่าเมื่อครู่ฮูหยินเพิ่งพูดถึงอาหนูอยู่ทีเดียว อาหนูก็มาเสียแล้วอวี้จิ่นรู้สึกนับถือที่ฮูหยินเดาได้แม่นยำนัก ทั้งสงสัยว่าอาหนูมาด้วยจุดประสงค์ใด
จนอาหนูเดินมาตรงหน้าหลิ่วจิ้ง อวี้จิ่นก็จงใจผลักหลิ่วจิ้งหนนึ่งให้หลิ่วจิ้งที่นั่งอยู่บนชิงช้าถูกแกว่งขึ้นไปอากาศ
อาหนูโค้งตัวคำนับหลิ่วจิ้งที่กำลังอยู่กลางอากาศอย่างฝืนใจเต็มทน
หลิ่วจิ้งรับการคารวะจากนางขณะอยู่บนชิงช้าด้วยอาการเฉยเมย
อวี้จิ่นก็ไม่มีทีท่าจะช่วยหลิ่วจิ้งดึงชิงช้าเอาไว้ปล่อยให้ชิงช้าแกว่งไปมา จนชิงช้าช้าลงเอง
หลิ่วจิ้งเอ่ยไปเรียบๆ ว่า“คืนนี้อาหนูก็สนใจมาชมจันทร์ที่สวนหลังจวนด้วยเช่นกันหรือ?”
“ฮูหยินมีอารมณ์สุนทรีจริงนะเ้าคะ อาหนูแค่นอนไม่หลับจึงออกมาเดินเล่นเท่านั้นแล้วเหตุใดดึกดื่นเช่นนี้ฮูหยินจึงยังอยู่ในสวนดอกไม้เล่าเ้าคะ”
เดิมทีอาหนูก็เพียงเสี่ยงโชค ลองเดินมาดูว่าจะได้พบกับหลิ่วจิ้งหรือไม่
วานนี้นางบอกเล่าความคิดของนางแก่หลิ่วจิ้งก่อนได้รับการตอบรับจากหลิ่วจิ้งนางก็ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องไปปรากฏตัวที่หอหั่วเยี่ยน
ทุกคนล้วนรู้ว่านางกับฮูหยินเป็ฝ่ายตรงข้ามกันการอยู่ใกล้ชิดกันอย่างไร้ความเป็ศัตรู เกรงจะเป็ที่สังเกตเอาได้ด้วยเหตุนี้นางจึงคิดจะมาเดินเล่นที่สวนหลังจวน หากสามารถพบกับฮูหยิน ‘โดยบังเอิญ’ ได้เป็ดีที่สุด
นึกไม่ถึงว่าเป็ดังที่นางคาดจริงๆนางมองเห็นมาแต่ไกลว่าฮูหยินกำลังอยู่ที่ชิงช้า เดิมทีนั้นนางยินดีนักแต่ไม่คิดว่าพอได้พบฮูหยินเข้าจริงๆ นางกลับยั้งปากชวนฮูหยินทะเลาะไม่ได้เสียนี่
เห็นทีว่าหาก้าจะเป็มิตรกับศัตรูของศัตรูก็เป็เื่ที่ยากยิ่ง
“อาหนู เ้าไม่รู้ เดิมทีท่านแม่ทัพรับปากว่าคืนนี้จะรีบกลับมาอยู่กับข้าคิดไม่ถึงว่าท่านแม่ทัพกลับคืนคำเสียแล้ว ข้าจึงนอนไม่หลับเช่นเดียวกับเ้าถึงมาผ่อนคลายที่สวนดอกไม้แห่งนี้”
หลิ่วจิ้งมองความฝืนใจของอาหนูออกนางย่อมไม่ปล่อยให้อาหนูอยู่เป็สุข จึงจงใจพูดใส่นาง
ได้ยินคำของหลิ่วจิ้ง อาหนูกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในทันใดสีหน้าร้อนรนนัก
เหตุใดจึงสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ได้เวลานี้เป็โอกาสทองที่จะร่วมมือกับฮูหยินเหตุใดพอได้พบกับฮูหยินก็กลับหาเื่ก่อไฟาขึ้นมาอีกแล้ว
อาหนูตำหนิตนเองอยู่ในใจ
หลิ่วจิ้งรู้อยู่แล้วว่าที่อาหนูออกมาคืนนี้จะต้องเป็เพราะได้ยินข่าวเื่ฮูหยินใหญ่ได้กลับมาคุมอำนาจจึงคิดจะร่วมมือกับนางให้เร็วยิ่งขึ้น เพียงแต่อาหนูยังคงยึดติดกับนิสัยเดิมๆของตนเกินไป จึงควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่ได้
หลิ่วจิ้งย่อมเดาแผนยืมมีดฆ่าคนของอาหนูได้แต่นั่นก็ต้องดูด้วยว่าท้ายที่สุดแล้วใครจะเป็คนบังคับมีดเล่มนี้อยู่ในมือและปลายมีดไปปักอยู่ที่ผู้ใด
อาหนูส่งสายตาให้จื่อเซียว เป็การบอกให้อีกฝ่ายไปคอยเฝ้าอยู่ข้างๆนางนึกว่าหลิ่วจิ้งจะเข้าใจความหมายของนาง โดยการแยกอวี้จิ่นออกไปด้วย
เื่ที่นางจะหารือกับหลิ่วจิ้งไม่ควรให้สาวใช้ข้างกายรู้รายละเอียดเสียเป็ดีเพราะหวาดระแวงจึงทำให้นางไม่อาจเชื่อใจผู้ใด
จื่อเซียวเดินแยกออกไปอย่างรู้ความประการแรกเพื่อไปคอยดูต้นทางให้พวกนาง ประการที่สองก็เพื่อไม่ให้ผู้คนเกิดความสงสัยและนางก็มองออกว่าอาหนูไม่เชื่อใจนาง
อาหนูรอสักพัก กลับเห็นว่าหลิ่วจิ้งไม่ได้คิดจะให้อวี้จิ่นแยกออกไปคิดเอ่ยปากเร่ง แต่ก็กลัวว่าอวี้จิ่นจะจับสังเกตได้ความระแวงของนางไม่ยอมให้นางบุ่มบ่ามลงมือเกินไป นางจึงทำได้เพียงส่งสายตาบอกหลิ่วจิ้ง
นางรู้ว่าด้วยความเฉลียวฉลาดของหลิ่วจิ้งย่อมต้องเข้าใจความหมายในสายตาของนาง
หลิ่วจิ้งรู้ว่าคืนนี้หาใช่โอกาสดีที่จะหารือกับอาหนูนางจ้าวเพิ่งกระจายข่าวออกมา และกำลังได้ใจจนลืมตัวแต่นางกลับมิได้ถูกความริษยาเข้ามาบดบังสติ
ด้วยเหตุนี้ นางไม่เพียงไม่อาจหารือลงลึกกับอาหนูที่นี่ หากอยู่ตรงนี้นานๆก็จะไม่เหมาะ นางจ้าวจะต้องส่งคนออกมาคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของนางและอาหนูใน่เวลาหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้มีเพียงอาหนูที่ถูกความริษยาครอบงำจิตใจจึงทำให้เสียเื่
“ในเมื่ออาหนูเองก็นอนไม่หลับ เช่นนั้นข้าก็จะยกชิงช้านี้ให้อาหนูไกวเล่นก็แล้วกันตอนข้ามายังสดชื่นอยู่เลย ไกวไปสองสามหนก็กลับรู้สึกง่วงเสียแล้ว ข้าขอตัวก่อนอาหนูไกวเล่นสักพัก กลับไปจะต้องนอนหลับสบายแน่”
หลิ่วจิ้งเอ่ยคำทิ้งเอาไว้ก่อนลุกขึ้นยื่นมือให้อวี้จิ่นอวี้จิ่นเข้าไปประคองนางอย่างว่องไว ว่าแล้วจากไปโดยไม่แม้จะหันหน้ากลับมา
ทิ้งอาหนูยืนอยู่หน้าชิงช้า นางโมโหจนผลักชิงช้าไปแรงๆ คราหนึ่งชิงช้าที่ไม่มีคนนั่งแกว่งสูงขึ้นไปบนอากาศ แล้วตกลงมาอย่างแรง เกือบจะชนหัวอาหนูดีที่นางนับว่าเป็คนมือเท้าว่องไวแม้จะกำลังโกรธเมื่อเห็นว่าชิงช้ากำลังเหวี่ยงกลับลงมา นางก้มหัวลงก็หลบพ้นแล้ว
นางนั่งลงยองๆ อยู่บนพื้นไปเสียเลย ไม่คิดจะขยับตัวอีก
จื่อเซียวเพิ่งจะเดินออกไปก็เห็นอวี้จิ่นประคองหลิ่วจิ้งเดินจากไปด้วย นางรู้สึกว่าไม่เข้าทียิ่งดูท่าอาหนูคงกระชับมิตรกับฮูหยินไม่ได้ นางคลึงแก้มที่เพิ่งถูกอาหนูตบมาตอนนี้ก็ยังเจ็บอยู่ไม่หายหวังว่าอีกประเดี๋ยวอาหนูอย่าได้คลุ้มคลั่งขึ้นอีกเป็ดี
_____________________________
