“วิธีค่อยเป็ค่อยไปก็คือให้ฮูหยินดื่มยาที่ข้าจัดให้วันละสามครั้งวิธีเร่งด่วนก็คือข้าจะฝังเข็มให้ฮูหยิน หลังจากฝังเข็มแล้วฮูหยินน่าจะตื่นขึ้นมาได้ขอรับ”
คล้ายว่าท่านหมอจินจะไม่ได้ััถึงความหนักหนาของสถานการณ์ในตอนนี้เขายังคงอธิบายอย่างค่อยเป็ค่อยไปตามลำดับวิธีเช่นแพทย์ตรวจวินิจฉัยโรค
ทั้งที่ใบหน้าของหั่วอี้ดำทะมึนดั่งฟ้ามืดก่อนพายุฝนจะมาถึง
เขาโกรธจนแสยะยิ้มออกมาย่างสามขุมเข้าไปหาท่านหมอจิน เดิมทีทั้งสองก็อยู่ใกล้กันอยู่แล้วเพียงสาวเท้ายาวๆ สามก้าวห้าก้าวเท่านั้น
เมื่อหั่วอี้เดินเข้ามาช้าๆ ท่านหมอจินก็เกิดความรู้สึกผิดปกติอย่างหนึ่งรู้สึกราวกับทุกก้าวที่ท่านแม่ทัพก้าวเดินกำลังเหยียบไปบนหัวใจเขา
เขาลุกพรวดพราดขึ้นมาจากตั่งวงกลมโดยไม่รู้ตัวมองท่านแม่ทัพด้วยความหวาดกลัว
ตอนนี้ท่านหมอจินเพิ่งรู้ว่ามิใช่ทุกคนจะยินยอมฟังเขาอธิบายต้นสายปลายเหตุของอาการเจ็บป่วยอย่างละเอียดแต่สิ่งที่บางคน้าก็คือข้อสรุป
เมื่อดูจากโทสะของท่านแม่ทัพแล้วสิ่งที่อีกฝ่าย้าก็คือข้อสรุปที่ว่านี่เอง
ท่านหมอจินรู้ว่าตนเองคิดผิดเสียแล้วไม่รอให้ท่านแม่ทัพเอ่ยปากจึงรีบพูดต่อไปว่า“ไม่ว่าจะเป็วิธีค่อยเป็ค่อยไปหรือวิธีเร่งด้วนล้วนไม่ส่งผลร้ายต่อร่างกาย เพียงแต่วิธีค่อยเป็ค่อยไปต้องใช้เวลาถึงสามวันห้าวันฮูหยินจึงจะได้สติส่วนวิธีเร่งด่วนนั้นฮูหยินน่าจะตื่นขึ้นได้ในทันทีเพียงแต่ฮูหยินอาจต้องเ็ปบ้างขอรับ”
“เ็ป? เ็ปอย่างไร?”ท่านหมอจินสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของแม่ทัพได้สำเร็จและไม่ได้เข้ามาหาเื่เขาอีก หากแต่ไปสนใจในอาการเจ็บป่วยของฮูหยินแทน
“ก็คือตอนที่ข้าฝังเข็มให้ฮูหยินนั้นต้องฝังอย่างน้อยเจ็ดเข็ม ยามฝังเข็มลงไป ฮูหยินก็จะต้องรู้สึกเจ็บขอรับ”
ท่านหมอจินพูดจบก็เปิดหีบยาแล้วหยิบเข็มเงินของเขาออกมา
พอป้าจ้าวและพวกของอิ๋งเหอที่อยู่ในห้องเห็นเข็มเงินที่ท่านหมอจินเอ่ยถึงต่างสูดหายใจลึกพร้อมกัน เพราะเข็มเงินเ่าั้ยาวเท่าฝ่ามือเห็นแล้วน่าสยดสยองนัก
อวี้จิ่นยิ่งร้อง ‘อ๊ะ’ ออกมาคำหนึ่ง นางเติบโตมาในวังหลวงแต่เล็ก แม้จะทำงานเป็สาวใช้แต่เพราะนางคอยอยู่ข้างกายองค์หญิงมาโดยตลอด และไม่เคยได้รับโทษหนักหนาอันใดทำให้นางมีความอดทนต่ำสักหน่อย
คิ้วของหั่วอี้ย่นเข้าหากันหลายครั้งเขาหันหลังกลับมามองฮูหยิน ไม่ได้เอ่ยปากใดๆ เพราะไม่อาจตัดสินใจได้
ท่านหมอจินมองทุกๆคนขณะถือเข็มเงินอยู่ในมือ รอให้ท่านแม่ทัพสั่งความ
ตอนที่เพิ่งสิ้นเสียงของท่านหมอจินหั่วอี้เกือบหลุดปากออกไปว่าให้ใช้วิธีเร่งด่วน
แต่เมื่อเขาเห็นท่าทีตื่นใของทุกคนรอบตัวก็กลับยั้งปากเอาไว้ไม่ส่งเสียง
หั่วอี้ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักในค่ายทหารมาั้แ่เล็กจนโตเขาจดจำความเ็ปจากาแบนผิวกายไม่ได้มานานแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่คิดว่าการฝังเข็มให้หลิ่วจิ้งจะมีปัญหาใดขอเพียงหลิ่วจิ้งฟื้นขึ้นมาเร็วที่สุดเป็พอ และเพื่อให้นางได้สติเร็วขึ้นวิธีเร่งด่วนจึงเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุด
ทว่าพอเห็นท่าทางของเหล่าสาวใช้และบ่าวชราที่อยู่โดยรอบเขาก็เกิดลังเลขึ้นมา เพราะท่าทางของพวกนางชัดเจนเหลือเกินสีหน้าตอนเห็นเข็มเงินนั้นหวาดกลัวราวกับเห็นผี
หั่วอี้รู้สึกว่าตัวเขาในวันนี้ไม่ใช่ตัวเขาเช่นในยามปกติอีกแล้วหากเป็เมื่อก่อนเขาจะต้องตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดเหมือนที่เคยทำตลอดมา มีหรือจะยอมเปลี่ยนใจเพราะเสียงร้องใของสตรีไม่กี่คน? แต่เวลานี้กลับนึกลังเลแม้แต่ตัวเขาเองยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าตนก็รู้จักสนใจความรู้สึกของผู้อื่นเป็ด้วย
หั่วอี้มองฮูหยินแล้วหันมองเข็มเงินในมือของท่านหมอจินกลับไปกลับมาหลายครั้งลังเลสักพักจึงเอ่ยกับท่านหมอจินว่า “ใช้วิธีค่อยเป็ค่อยไปเถิด!”
ทันใดนั้นเขาก็ไม่อยากเห็นฮูหยินต้องเ็ปจึงเปลี่ยนใจเลือกใช้วิธีค่อยเป็ค่อยไปแทน
ท่านหมอจินเมื่อได้รับคำสั่งของท่านแม่ทัพก็เก็บเข็มเงินในมือลงส่งสัญญาณให้สาวใช้เอาพู่กันกับหมึกมาเพื่อเตรียมเขียนใบสั่งยา
หั่วอี้ค่อยๆ นั่งลงข้างเตียง มองฮูหยินด้วยใจที่เ็ปเวลานี้เขาพลันรู้สึกว่าฮูหยินของตนเหมือนความลี้ลับอย่างหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะใคร่ครวญสักกี่ร้อยครั้งก็ยังไม่อาจเข้าใจได้
และด้วยเหตุนี้เองเขาจึงถูกหลิ่วจิ้งดึงดูดให้อยากพิชิตใจนาง ให้นางเปิดใจแก่เขา
ภายในห้องเงียบราวสายน้ำนิ่งพวกของป้าจ้าวเห็นท่านแม่ทัพมีสีหน้าไม่สบายใจก็ล้วนเงียบเสียงมิกล้าเอ่ยสิ่งใด
มีเพียงอวี้จิ่นที่หันมองหลิ่วจิ้งทีหันมองท่านแม่ทัพที คล้ายอยากเอ่ยคำแต่ยั้งเอาไว้
เมื่อท่านหมอจินเขียนใบสั่งยาเสร็จก็เป่าลมออกจากปากรอครู่หนึ่งจนหมึกแห้งแล้วจึงส่งให้อิ๋งเหอที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดกำลังจะบอกเื่ที่ต้องระวังในการต้มยา
ตอนนั้นเองอวี้จิ่นก็ตัดสินใจเข้าแลกสุดตัวนางก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ย่อตัวคารวะท่านแม่ทัพหนหนึ่งก่อนเอ่ยปากอย่างระมัดระวังว่า“ท่านแม่ทัพเ้าคะ บ่าวมีคำพูด ไม่ทราบว่าควรพูดหรือไม่เ้าค่ะ”
เพราะอวี้จิ่นพูดขึ้นมาความเงียบสงัดภายในห้องจึงสิ้นสุดลง
ท่านแม่ทัพจ้องนางอยู่พักใหญ่แต่ก็ยังมิออกปากเสียทีว่าอนุญาตหรือไม่จนใจของอวี้จิ่นเต้นรัวเป็กลองลั่น
“มีเื่ใดเล่า? ว่ามาเถิด เ้าอยากพูดสิ่งใด?”
ในที่สุดอวี้จิ่นก็ได้รับคำอนุญาตจากท่านแม่ทัพ
นางสะกดความหวั่นไหวในใจ ค่อยๆเรียบเรียงถ้อยคำอย่างระมัดระวัง “ท่านแม่ทัพเ้าคะบ่าวติดตามองค์หญิงมาั้แ่เล็ก จึงเข้าใจอุปนิสัยใจคอขององค์หญิงเป็อย่างยิ่งองค์หญิงไม่โปรดการเอาแต่นอนอยู่บนเตียงนิ่งๆ เป็ที่สุดเ้าค่ะ
แม้เวลานี้องค์หญิงจะไม่ได้สติแต่ท่านก็เห็นว่าที่หางตาของนางมีน้ำตา บางทีจิตใต้สำนึกขององค์หญิงยังคงตื่นอยู่เพียงแต่ตื่นขึ้นมาไม่ได้ พูดออกมาไม่ได้เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้บ่าวจึงขอบังอาจ ขอให้ท่านแม่ทัพยินยอมให้ท่านหมอจินใช้วิธีรักษาแบบเร่งด่วนจิตใต้สำนึกของบ่าวบอกว่าองค์หญิงจะต้องหวังให้ตนเองตื่นมาไวๆ เป็แน่เ้าค่ะ”
อวี้จิ่นรวบรวมความกล้าพูดไปจนจบในคราเดียวยืนอยู่ตรงนั้นด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็ส่ำรอฟังคำของท่านแม่ทัพ
ยามนี้นางเพิ่งรู้สึกตัวว่าแผ่นหลังของตนเต็มไปด้วยเหงื่อบนใบหน้าก็มีเม็ดเหงื่อเล็กๆ ผุดขึ้น
ทุกคนล้วนมองอวี้จิ่นด้วยสายตาแปลกประหลาดโดยเฉพาะอิ๋งเหอ
ด้วยเหตุที่ตลอดมานี้อวี้จิ่นเห็นหลิ่วจิ้งเป็ตัวแทนขององค์หญิงสำหรับนางแล้วหลิ่วจิ้งเป็คนตายคนหนึ่ง จึงไม่เคยมองหลิ่วจิ้งเป็นายของตน
หลิ่วจิ้งเองก็รู้ความคิดอ่านของอวี้จิ่นทำให้ยามปกติก็จะไม่ไปเรียกใช้นาง
มองเผินๆ แล้วหลิ่วจิ้งกับอวี้จิ่นคือนายและบ่าวแต่อิ๋งเหอซึ่งเป็คนที่คอยอยู่ข้างกายหลิ่วจิ้งกลับรู้ดีว่าอวี้จิ่นไม่ชื่นชอบองค์หญิงส่วนองค์หญิงก็คร้านจะสนใจนาง
แต่กลับไม่รู้ว่าเหตุใดอวี้จิ่นต้องเสนอให้ท่านแม่ทัพใช้วิธีเร่งด่วนรักษาหลิ่วจิ้งในเวลานี้ไม่ว่ามองอย่างไรก็รู้สึกว่าอวี้จิ่นไม่เหมือนก่อนเสียแล้ว
ท่านแม่ทัพที่อดทนฟังคำขอของอวี้จิ่นจนจบกลับไม่ตอบในทันใดหากแต่จับจ้องไปยังอวี้จิ่นด้วยสีหน้าถมึงทึงอย่างไม่เข้าใจ
มองนางพักหนึ่งท่านแม่ทัพจึงโน้มตัวลงมองฮูหยินที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะเอ่ยปากว่า“เ้าแน่ใจจริงหรือ?ว่าองค์หญิงไม่โปรดการเอาแต่นอนอยู่บนเตียง”
แม้ท่านแม่ทัพจะไม่ได้มองอวี้จิ่นหากแต่กำลังก้มหน้าลงมองคนบนเตียง แต่อวี้จิ่นก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังถามนาง
อวี้จิ่นพยักหน้าหนักแน่นเอ่ยอย่างมั่นใจว่า “เ้าค่ะ ข้ามั่นใจ”
หั่วอี้ไม่ได้ตอบคำ ยังคงจับจ้องเพียงหลิ่วจิ้ง
คนทั้งห้องต่างเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาอีกคราโดยเฉพาะท่านหมอจิน ใจคิดจะบอกกล่าวเื่ที่ต้องระวังเวลาต้มยาให้แก่อิ๋งเหอต่อ แต่กลับรู้สึกว่าเวลานี้เขาอย่าเพิ่งพูดจะดีกว่า
“เช่นนั้นก็ใช้วิธีเร่งด่วนเถิด!”ท่านแม่ทัพลุกขึ้น หันหน้ามาพูดกับท่านหมอจินอย่างหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำ
เมื่อได้รับความเห็นชอบจากท่านแม่ทัพอวี้จิ่นก็แอบถอนหายใจยาวๆ อยู่ในใจ
_____________________________