ไม่นานพวกเราทั้ง 3 คนก็มาถึงสถานที่ที่เงียบสงบ ที่นี่คือตรอกตรอกหนึ่ง หยางย่าซินมองฉัน และจูงโก่วหงหยุนพลางพูดด้วยสีหน้าสงบนิ่งว่า “มาสิ”
“อืม” ฉันพยักหน้าพลางพูด ลึกๆ แล้วในใจฉันก็มีความตื่นเต้นอยู่พักหนึ่ง ยังไงนี่ก็คือ 1 ชีวิตสุดท้ายของฉัน หากเสียไปฉันก็ถือว่าแพ้ไปเลย เป่ายิ้งฉุบของแบบนี้ ถึงจะเป็มือชั้นเซียน ก็ไม่สามารถรับประกันอัตราที่จะชนะได้ 100% เต็ม
ครั้งนี้ฉันยังคงจะชนะต่อได้ไหม? ลึกๆ แล้วในใจฉันล้วนไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อย
ในขณะเดียวกันฉันกับหยางย่าซินยกมือขึ้นพร้อมกัน หลังจากนั้นเตรียมเป่ายิ้งฉุบ ในเวลานี้ในหัวของฉันได้หมุนขึ้นอย่างรวดเร็ว จะออกกรรไกรหรือว่าออกกระดาษ? หยางย่าซินเป็มือชั้นเซียนคนหนึ่ง ซึ่งอัตราการออกค้อนของเขามีมากที่สุด แต่ทว่าเขาก็แพ้มาแล้วหนึ่งรอบ ไม่แน่ว่าคงจะไม่เป็อย่างนี้ งั้นก็ออกกระดาษแล้วกัน หากฉันออกกรรไกร ไม่แน่ว่าจะชนะเลยก็เป็ได้
ในที่สุด ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ค่อยๆ เหวี่ยงแขนลงมา โก่งหงหยุนที่อยู่ข้างๆ ก็ตื่นเต้นเป็ที่สุด เธอรู้ว่าจะชนะหรือแพ้อยู่ที่ครั้งนี้ หากหยางย่าซินแพ้แล้วล่ะก็จะต้องเสียสิทธิ์ในการเข้าการแข่งไปเลย
และถ้าฉันแพ้แล้วล่ะก็คงจะเป็เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้จะแพ้ในการแข่งรอบสุดท้ายไม่ได้
พวกเราสองคนยกแขนขึ้นพร้อมกัน หลังจากนั้นก็เหวี่ยงลงมาพร้อมกัน โชคชะตาขึ้นอยู่กับการตัดสินในครั้งนี้ พวกเราทั้งสองกั้นหายใจพร้อมกัน หลังจากนั้นพวกก็ออกกรรไกรพร้อมกัน!
ดูแล้วครั้งนี้ หยางย่าซินฉลาดขึ้นแล้ว ไม่ได้เลือกออกค้อนแล้ว แต่เลือกที่จะออกกรรไกร คล้ายกับว่าเขาคาดไว้แล้วว่าฉันจะออกกระดาษ
เสมอ เกมดำเนินต่อ!
ฉันทอดถอนหายใจลึกลง ในหัวก็ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้ฉันควรจะออกอะไรกันแน่? ในเมื่อออกกรรไกรไปแล้ว เช่นครั้งต่อไปก็ต้องออกอย่างอื่นแล้ว
ออกค้อนหรือว่าออกกระดาษ? หยางย่าซินได้ซึมซับเอาบทเรียนมาแล้ว แน่นอนว่าจะไม่ออกค้อน เช่นนั้นก็อาจจะออกกระดาษเหรอ? เมื่อฉันนึกถึงตรงนี้แล้วก็มีแสงแวบเข้ามาทันที มุมปากหยุดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มออกมา
แขนของพวกเราเหวี่ยงลงมาอีกครั้ง ครั้งนี้ฉันออกค้อน แต่ทว่าหยางย่าซินยังคงออกกรรไกร ฉันชนะแล้ว!
“นี่มันเป็ไปได้ยังไง?” หยางย่าซินมองฉันด้วยสีหน้าขาวซีด และโก่วหงหยุนที่อยู่ข้างๆ ยิ่งแทบจะเป็ลมล้มลงไป
“นายได้ซึมซับเอาบทเรียนที่พ้ายแพ้ในครั้งก่อนมาจริงๆ รอบแรกไม่ได้เลือกที่จะออกค้อน แต่เลือกออกกรรไกร นี่ไม่เลวเลย แต่ทว่าใน่รอบที่ 2 ได้เกิดข้อผิดพลาดอย่างหนึ่ง ซึ่งกรรไกรไม่อาจจะออกพร้อมกัน 2 รอบได้”
“ทำไมกรรไกรรออก 2 รอบไม่ได้ล่ะ?” หยางย่าซินมองฉันแล้วกัดฟันพูด
“ง่ายมาก เพราะว่ากรรไกรมีอัตราการชนะที่น้อยที่สุด ด้วยเหตุนี้นอกจากว่าไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ ถึงจะออกกรรไกรพร้อมกัน 2 รอบก็ได้” ฉันส่ายหน้าพลางพูด หลังจากนั้นหันหลังกลับแล้วไม่มองเขาอีก
เพราะว่าฉันกลัวความรู้สึกผิด ฉันได้ยึดเอาชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของเขาไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่มีชีวิตแล้ว อาจพูดได้ว่า ได้ถูกคัดออกจากเกมนี้แล้ว
เกมเป่ายิ้งฉุบแห่งความตายนี้ จักต้องมีเบี้ยที่เพียงพอ ถึงจะดำเนินต่อไปได้ และเมื่อกลายเป็ศูนย์แล้ว เช่นนั้นก็เท่ากับแพ้แล้ว
“ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนายจริงๆ ฉันคิดว่าจะสามารถจู่โจมเอาชนะนายได้น่ะ” หยางย่าซินยิ้มด้วยระทมทุกข์พลางพูด ร่างกายของเขาทรุดลงกับพื้น และโก่วหงหยุนที่อยู่ข้างๆ มองฉันด้วยความโกรธเคือง น้ำไหลออกมาจากดวงตาอย่างไม่หยุด ฉันรู้ว่าเธอต้องแค้นฉันแล้วแน่นอน
หยางย่าซินชำเลืองมองโก่วหงหยุนที่อยู่ข้างๆ ทีหนึ่ง หลังจากนั้นพูดอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า “อย่าโกรธแค้นจางเว่ยเลย เขาก็เหมือนกับฉัน พวกเราล้วนเป็เพียงเหยื่อของเกมนี้เท่านั้น”
“แต่ทว่านายจะทำยังไง? ตอนนี้นายไม่มีชีวิตแล้ว” โก่วหงหยุนร้องไห้พลางมอง หยางย่าซิน หยางย่าซินส่ายหน้าด้วยสีหน้าที่ขาวซีด แล้วพูดอย่างลำบากใจว่า “ไม่มีทางแล้ว ทำได้แค่ถอยออก ฉันแพ้แน่นอนแล้ว”
โก่วหงหยุนไม่พูดอะไร แต่กอดหยางย่าซินไว้แล้วร้องไห้ฟูมฟาย ั์ตาของหยางย่าซินก็มีแต่แสงระยิบระยับของน้ำตา ไม่นานเขาก็ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ มองฉันพลางพูดว่า “จางเว่ย ฉันแพ้ให้กับนาย ก็ไม่มีอะไรจะต้องพูดแล้ว”
“ฉันไม่มีทางที่จะเดินต่อไปได้อีกแล้ว จางเว่ย นายฉลาดอย่างนี้ จะต้องมีชีวิตรอดแน่นอน ถึงเวลานั้นต้องหาตัวฆาตกรเพื่อฉันให้ได้ และแก้แค้ให้ฉันด้วย” หยางย่าซินพูด
“ไม่มีปัญหา” ฉันชำเลืองมองไปด้านหลังพลางพูดด้วยความลำบากใจ หลังจากนั้นก็หันหลังจากไป ฉันกลัวเกรงว่าฉันจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้ ยังไงก็เป็
ความรู้สึกที่ผลักคนคนหนึ่งลงไปในนรก ช่างเ็ปเสียเหลือเกิน
ฉันกับหยางย่าซินไม่มีความแค้นอะไรกัน ถึงแม้จะเป็เพื่อนร่วมห้องกัน แต่ทว่าก็ไม่มีการคบค้าสมาคมอะไรกันระหว่างสองฝ่าย แต่ ณ เวลานี้เพื่อการเอาชีวิตรอด ฉันกลับผลักเขาลงไปในนรกอย่างเลี่ยงไม่ได้ เื่นี้สำหรับฉันแล้ว แน่นอนว่าเป็เื่ที่โเี้
เดินออกมาจากตรอกแล้ว จิตใจฉันรู้สึกกลัดกลุ้มเหลือเกิน ตอนนี้บ่าย 3 โมงแล้ว ท้องฟ้าก็สลัวมากแล้ว แต่เมื่อมองดูโทรศัพท์มือถือของตนเองแวบหนึ่ง ฉันยังคงฝืนคึกคักขึ้น เพราะว่าฉันยังไม่ชนะออกไป ฉันยัง้าอีก 1 ชีวิต
เบื้องหน้าฉันเหลือตัวเลือกเพียงแค่ 2 คน หวางเจิ้งและมี่เสี่ยวหยู่ สองคนนี้คือเป้าหมายต่อไปของฉัน ในสองคนนี้ หวางเจิ้งคนนี้ฉลาดมาก ฉันมองเขาไม่ออกจริงๆ
และมีเสี่ยวหยู่อีกคนก็ง่ายดายมาก เธอคือผู้ชายคนหนึ่งที่แต่งเป็ผู้หญิง รูปโฉมก็ถือว่างดงาม และก็ชอบหลอกล่อพวกสูงหล่อรวย รวมทั้งเมื่อก่อนยังเยาะเย้ยฉันบ่อยๆ
“งั้นก็ให้เธอเป็เหยื่อรายต่อไปของฉันแล้วกัน” ฉันมองโทรศัพท์มือถือพลางบ่นพึมพำ มนุษย์เมื่อถูกบีบให้ถึงทางตัน เช่นนั้นก็จะยอมสยบให้กับความกลัว และกระทำในเื่ที่คาดไม่ถึง
ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าฉันก็เป็คนเช่นนี้เหมือนกัน หากเป็เมื่อก่อน ฉันไม่มีทางคิดได้ว่าฉันจะฆ่าคนได้ แต่ทว่าตอนนี้ฉันจำเป็ต้องทำเช่นนี้ เพียงแค่ไปยึดเอาชีวิตของมี่เสี่ยวหยู่อีก 1 ชีวิต ฉันก็จะสามารถหลุดพ้นออกจากเกมนี้ได้แล้ว
“เธออยู่ที่ไหน? จะแข่งกับฉันไหม”
ไม่นานมี่เสี่ยวหยู่ก็ส่งข้อความมาว่า “ไม่น่ะ ฉันแข่งกับหวางเจิ้งแล้ว”
สีหน้าฉันค่อนข้างแย่ ดูแล้วในเวลาสั้นๆ นี้มี่เสี่ยวกับหวางเจิ้งไม่ได้ว่างเลย ในเมื่อเริ่มแข่งกันแล้ว หากเป็ตามนี้แล้วล่ะก็ผู้ชนะคนที่ 3 ก็ต้องเกิดขึ้นแล้ว สำหรับฉันมันคับขันเกินไปแล้วจริงๆ
คล้ายว่าฉันรู้สึกถึงแล้ว ความตายก็ยิ่งใกล้เข้ามา นึกถึงตรงนี้แล้วฉันกัดฟันมองโทรศัพท์มือถือแวบหนึ่ง หลังจากนั้นกลับมาที่บ้าน ตอนนี้ฉันไม่มีทางแม้แต่น้อยแล้ว
ตอนนี้หวางเจิ้งน่าจะเริ่มแข่งกับมี่เสี่ยวหยู่แล้ว ผู้ชนะคนที่ 3 ได้เกิดจากพวกเขา 2 คน คำพูดเช่นนี้ งั้นก็เหลือแค่ 1 โควต้าแล้วสิ
ซึ่งตอนนี้ฉันไม่มีทางออกแม้แต่น้อย นึกถึงตรงนี้ ฉันรู้สึกโมโหมาก ฉันนั่งอยู่บนเตียงและหยิบเข็มทิศไท่กงออกมา แล้วมองดูไปมา รูปแบบภายนอกของเข็มทิศไท่กงงามวิจิตร ใครจะเชื่อว่ามันเป็สิ่งของที่มีอายุมาแล้วหลายพันปีก่อน
แต่ว่าอู่อ๋องโค้นล้มโจ้วอ๋องนั้นก็เป็ประวัติศาสตร์เมื่อหลายพันปีก่อนแล้ว มองเข็มทิศไท่กงที่อยู่ในมือฉัน ฉันวางขยับไปมาอย่างระมัดระวัง แต่ขยับไปแล้วรอบหนึ่ง ฉันก็ไม่รู้ว่าใช้ยังไง
ของประเภทนี้อย่างเข็มทิศไท่กง เป็ของโบราณ คนปัจจุบันจะไม่รู้ว่าต้องใช้ยังไง ้ามีตัวอักษรและขีดระดับนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะล้วนเป็อักษรโบราณ
ฉันดูรอบหนึ่งแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะใช้อย่างไร ของสิ่งก็ไม่มีเอกสารอธิบายเหมือนกัน มองเข็มที่อยู่้าหมุนอย่างไม่หยุด ฉันลองขยับไปมาดูอย่างน่าสงสัย
ของประเภทนี้ควรจะใช้ยังไงกันแน่? นึกถึงจุดนี้ ฉันรีบเปิดคอมพิวเตอร์ ค้นหาวิธีการใช้เข็มทิศ ไม่นานฉันก็รู้วิธีการใช้เข็มทิศ
แต่ถึงจะเป็เช่นนี้ เมื่อมองอักษรโบราณมากมายที่อยู่ภายในเข็มทิศ ฉันยังคงปวดหัวเหลือเกิน ของอย่างเข็มทิศนี้น่ะล้วนเป็ของที่ในสมัยโบราณใช้ดูฮวงจุ้ย ้าแกะสลักจักรราศีของ์ จักร12ราศี ด้านของดาวหมีใหญ่ทั้ง 7และดาวร้าย
ของอย่างนี้ หากไม่มีประสบการณ์หลายสิบปี ก็ไม่มีทางดูออก ซึ่งนี่ทำให้ฉันมองเข็มทิศไท่กงที่อยู่ในมือด้วยสีหน้าที่แย่ หรือว่าของอย่างนี้ไม่มีประโยชน์เสียแล้ว
แต่ทว่า ในเมื่อเป็ของวิเศษที่สามารถพยากรณ์ความเจริญรุ่งเรืองและความเสื่อมโทรมของยุคสมัยได้ ไม่แน่ว่าจะมีคาถาอะไรอยู่ นึกถึงจุดนี้แล้ว ฉันก็รีบเปิดโทรศัพท์มือถือ แล้วโทรหาคุณย่าของฉัน
คนที่รับโทรศัพท์คือน้าของฉัน หลังจากที่ฉันบอกปัญหากับน้า คุณน้าปริปากพูดเบาๆ ว่า “จางเว่ย ของสิ่งนั้นเธออย่าเล่นมั่วๆ ล่ะ มันอันตรายมากน่ะ”
“น้า รีบบอกฉันหน่อย เข็มทิศไท่กงใช้ยังไงเหรอ” ฉันพูดกับน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
“เข็มทิศไท่กงเป็สิ่งที่สามารถทำนายอนาคตได้ แต่เพราะว่ามันมีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งเกินไป ทุกครั้งที่้าจะใช้ ล้วนต้องแลกด้วยอะไรบางอย่าง และสิ่งที่ให้มันพยากรณ์ยิ่งมีมากเท่าไหร่ ่ระยะห่างของเวลายิ่งมากเท่าไหร่ ฉะนั้นสิ่งที่ต้องแลกก็ยิ่งต้องมากขึ้น”
“เล่ากันว่า สำหรับเข็มทิศไท่กงสามารถพยากรณ์ความรุ่งเรืองและความเสื่อมโทรมของยุคสมัยหนึ่งได้ ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ในสมัยต่างๆ ล้วน้าที่จะได้เข็มทิศไท่กงมา เพื่อทำนายอนาคตของยุคสมัยของตน แต่ทว่า้าที่จะทราบอนาคตของยุคสมัยนั้นๆ จักต้องแลกด้วยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในสมัยราชวงศ์ชิง เข็มทิศไท่กงเคยถูกใช้ครั้งหนึ่ง และเื่นี้ก็นำพาให้มีคนมากมายต้องตาย”
“น้า ฉันไม่มีใจที่จะฟังน้าเล่าถึงประวัติศาสตร์ รีบบอกวิธีการใช้กับฉันหน่อย” ฉันพูดคำรามในโทรศัพท์ ในที่สุดคุณน้าก็บอกวิธีการใช้เข็มทิศไท่กงให้แกฉัน
ฉันวางโทรศัพท์มือถืออย่างตื่นเต้นดีใจ มองเข็มทิศที่อยู่ในมือ หลังจากนั้นก็กัดปลายนิ้วมือแล้วกดลงบนเข็มทิศ ทำตามวิธีการที่คุณน้าพูด และท่องคาถาสองสามประโยค หลังจากนั้นเข็มทิศไท่กงก็เริ่มดูดเืฉัน
ฉันรู้แล้ว ฉันถือว่าทำสำเร็จแล้ว
เข็มทิศไท่กงดูดเืฉันได้ ฉันถามคำถามยิ่งมาก เช่นนั้นเืที่ถูกดูดก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย ด้วยเหตุนี้คุณน้าพูดในโทรศัพท์ กำชับฉันว่าจงอย่าได้ถามปัญหาใหญ่ ๆ
เช่น ความเจริญรุ่งเรือง ความเสื่อมโทรมและการล้มสลายของยุคสมัยนี้ หรือฤดูร้อนที่แผดเผาจะกลายเป็ฤดูกาลหลักใหม่ไหมหรืออะไรประมาณนี้ หากฉันถามปัญหาเช่นนี้ เข็มทิศอันนี้ก็จะดูดเืฉันจดหมดตัว เพราะว่าทุกครั้งที่ทำนายยุคสมัย ล้วน้าการแลกเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่
แต่ทว่าโชคดีที่ฉันไม่ได้สนใจอนาคตของยุคสมัยนี้แม้แต่น้อย มองเืของฉันที่ถูกเข็มทิศไท่กงดูดอย่างไม่หยุด เวลานี้ฉันปริปากพูดอย่างช้าๆ ว่า “เข็มทิศไท่กง เธอบอกฉันหน่อยว่า จุดที่ทำให้ซูหย่าถึงแก่ความตายคืออะไร?”
หลังจากที่เข็มทิศไท่กงดูดเืของฉัน ด้านสีทองแดงทั้งแผ่นได้ปล่อยสีแดงอ่อนที่หน้าแปลกประหลาดแตกออกมา ทำให้เข็มทิศสีทองกลายเป็ทองแดงบริสุทธิ์จนแสบตาทันที และศูนย์กลางของเข็มทิศในเวลานี้ได้มีอักษรสีเื 1 ตัวนูนขึ้นมาอย่างช้าๆ ได้เขียนเป็ตัวอักษรว่าพิษที่เป็ตัวอักษรจีนตัวเต็มขึ้นมาตรงๆ