ความจริงแล้วในใจของตู้ซินถงยังอับอายอยู่เล็กน้อยที่เป็บุรุษแล้วยังแต่งกายเป็สตรี
หลังจากฟังประโยคนี้วินาทีนั้นจิตใจของเขาจึงตัดสินใจแล้ว เขาหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นปรายตามองนางด้วยความมาดร้าย
“ได้ได้ ความคิดเดียวกับข้า”
“ชิ…ไม่ดูเลยว่าตัวเ้านั้นเป็คนเช่นไรครึ่งบุรุษครึ่งสตรี ผู้ใดจะให้เ้ารับผิดชอบจริงๆ กัน”
ตู้ซินถงเงียบไปแล้วเบือนหน้าไป ไม่มองนางอีก บนใบหน้าที่มีความเกียจคร้าน ยามนี้เต็มไปด้วยความหม่นหมองและสิ้นหวัง…
เขาที่เป็เช่นนี้ทำให้จิตใจของหนิงเซียวอ่อนยวบ
แต่คำพูดก็ได้พูดออกไปแล้วคิดอยากจะดึงมันกลับ…ยาก ยาก ยาก
“ไปเถิดลงกันได้แล้ว งานเลี้ยงของฮูหยินเ้าเมืองกำลังจะเริ่มแล้ว”
กลับเป็ตู้ซินถงที่หลังจากหัวเราะเยาะตนเองแล้วขณะมองไปทางหนิงเซียงอีกครั้ง บนใบหน้าหล่อเหลากลับมานิ่งสงบ รวมถึงนิสัยนิ่งๆเฉื่อยชาด้วย
เขาที่เป็เช่นนี้จู่ๆ ก็ทำให้หนิงเซียงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา นางเม้มปาก ไม่พูดมากอีกทั้งสองคนลงจากรถไปด้วยกัน
เดินเข้าไปในจวนของฮูหยินเ้าของเรือนตลอดทางเดิน หนิงเซียงที่เดิมทีจะงดงามที่สุดตอนนี้กลับเปลี่ยนมาเป็ผู้ติดตามของตู้ซินถง
สายตาของทุกคนต่างมองไปยังตัวของตู้ซินถง
รูปร่างสูงโปร่งสีหน้าเ็า “นาง” ที่มีหน้าตาโดดเด่น ในวินาทีนี้ได้คว้าหัวใจของบุรุษทุกคนไปในชั่วพริบตา
เมื่อเห็นคิ้วเรียวยาวสวยทว่าสง่าประดับอยู่บนใบหน้าผิวขาวสะอาดนุ่มลื่นราวกับว่าหากถูกลมพัดจะแตกออกเป็เสี่ยงๆ ริมฝีปากสีสดยกมุมปากขึ้นคล้ายจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มปรายตาไปมองผู้ใดที่ถูกนางจดจ้อง ย่อมรู้สึกราวกับถูกกระชากิญญาออกไป
ดวงตาดุจดังอัญมณีสีแดงมีประกายแสงงดงามยั่วยวนคนความงามแปลกตากับเส้นผมยาวสีดำเงางามอย่างน่าประหลาด ทำให้คนคิดไปถึงดอกปี่อั้น [1]สีเืที่บานสะพรั่งอยู่บนหิมะ
ทั้งๆที่นางสวยถึงเพียงนี้ ทั้งยังสวมชุดคลุมหนังจิ้งจอกยาวขนมิงค์ ตรงเอวถูกรัดเข้าไปเอวของนางดูแล้วเล็กเพียงแค่ใช้มือเดียวทาบลงไปลมหายใจของเหล่าบุรุษเป็ไปตามการบิดของเอวเล็กๆ ของนาง ค่อยๆ หายใจแรงขึ้น…
สำหรับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้นางเหมือนจะััไม่ได้ ตอนที่เห็นฮูหยินเ้าเมืองจึงค่อยๆ ยกยิ้มบางั์ตาใสที่เหมือนย้อมสีเหลืองเปล่งประกายเอาไว้ราวกับน้ำในฤดูใบไม้ผลิผสมอยู่ในบ่อน้ำ เมื่อการผสมนั้นสลายไป เสียงลมหายใจจึงกลับมาดังอีกครั้ง
“เพล้ง…”
ในตอนนั้นเองที่มีจอกสุราในมือของคนตกลงมาแตกและคนคนนั้นยังจ้องหญิงงามตรงหน้านิ่ง
“งามงดงามจริงๆ คนที่งดงามเช่นนี้ ั้แ่เกิดมาข้ายังไม่เคยพบเจอมาก่อน…”คนคนนั้นพูดพึมพำกับตนเอง
ริมฝีปากอวบอ้วนเหมือนหัวหมูมีหยดน้ำที่น่าสงสัยไหลออกมา
แต่คนที่ถูกพูดถึงคนนั้นกลับเหมือนไม่รู้ตัวอย่างไรอย่างนั้น พอเห็นหน้าก็โปรยยิ้มมีเสน่ห์มาให้
“ซี๊ด…งาม…หญิงงาม…”
คนคนนั้นเดินเข้ามาหาโดยไม่คิดหวังจะเข้ามาจับมือของตู้ซินถงเอาไว้ ซึ่งคนที่จะถูกจับ กลับทิ้งไว้เพียงแผ่นหลังอันเ็าแก่เขาก่อนจะเดินตามหลังของหนิงเซียงเข้าไปข้างใน
หนิงเซียงมองความวุ่นวายที่คนทรงเสน่ห์คนนี้ก่อขึ้นด้วยรอยยิ้มก่อนจะมองไปทางฮูหยินเ้าเมือง
ฮูหยินคนนี้เหมือนจะน่าสนใจอยู่บ้าง ถึงได้ให้พวกนางที่เป็สตรีทั้งสองคนซึ่งยังไม่ได้ออกเรือนเดินผ่านห้องโถงที่เต็มไปด้วยบุรุษเข้ามา…
ดูเหมือนว่าฮูหยินคนนี้ จิตใจจะไม่ค่อยสงบนัก
ฮูหยินเ้าเมืองถูกสายตาที่มีนัยลึกซึ้งมองไปมีทีท่ากระอักกระอ่วนแล้วอธิบายออกมา
“อะแฮ่มเื่นี้ เดิมทีพวกเราเหล่าสตรีมีทางผ่านแยกกันโดยเฉพาะ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าใต้เท้าจะจัดงานเลี้ยงด้วย เฮ้อ เดิมทีนะ พวกข้าเปลี่ยนเวลางานเลี้ยงนี้แล้ว ผู้ใดจะคิดว่าใต้เท้าจะได้ยินผู้คนพูดกันว่าครั้งนี้แม่นางผู้ร่ำรวยสองคนจะมาดังนั้น…จึงต้องให้ทุกคนเข้ามาเยี่ยมเยียนในวันนี้…เพราะเช่นนั้นท่านใต้เท้าจึงจัดการรวมตัวนี้ขึ้น เส้นทางที่ต้องผ่านของพวกเรา จำต้องผ่านทางเส้นทางนี้ไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้”
ฮูหยินเ้าเมืองพูดมองไปทางตู้ซินถงอยู่ตลอดเวลา
ดูเหมือนว่านางเองก็จัดงานขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ
หนิงเซียงยิ้มอ่อน“ไม่โกรธหรอกเ้าค่ะ ไม่เป็อะไร เหล่าคุณชายพวกนี้ เพียง้าเจอแม่นางของข้ามิใช่หรือฮ่าๆ ไม่ปิดบังทุกคนนะเ้าคะ แม่นางของข้า ออกจากเรือนครั้งนี้ก็เพื่อมาเฟ้นหาสามี ความจริงแล้ว ฮูหยินให้แม่นางของข้าเผยหน้าตาออกมาเช่นนี้นับเป็เื่ดีนะเ้าคะจะได้เลือกคนได้ง่าย”
ฮูหยินเ้าเมืองเมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้นจึงถอนหายใจออกมา
สายตามองไปทางตู้ซินถงอีกครั้งในแววตาแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด
“เฮ้อหากต้องพูด ชุดของแม่นางอู๋ซวงพิเศษมากจริงๆ การแต่งหน้าในวันนี้หรือก็ยิ่งงดงาม ไม่ทราบว่าช่างทำเสื้อผ้าของพวกเ้าสองพี่น้องจะเปิดร้านเมื่อใดกัน พวกข้าเหล่าพี่น้องต่างรอคอยให้พวกเ้าเปิดร้าน โดยเฉพาะหรูฮูหยินนางยิ่งรอคอยมาก ลูกสาวทั้งหลายของนางต่างใกล้จะถึงวันมงคลแล้ว ตอนนี้กำลังหาอาภรณ์ดีๆพวกนี้ไปทั่ว พอดี เห็นเสื้อแบบนี้ของแม่นางอู๋ซวง ข้าเห็นแล้วชุดคลุมขนมิงค์ตัวนี้เหมาะสมกับรสนิยมของหรูฮูหยินมาก”
ที่ฮูหยินเ้าเมืองต้อนรับพวกหนิงเซียงไวเช่นนี้เพราะหนิงเซียงพูดจาสนุกสนาน สถานที่ใดมีนางอยู่ บรรยากาศย่อมไม่มีทางกร่อยอย่างแน่นอน
ความคิดของสตรีคนนี้เฉียบแหลมจัดการเื่ราวได้ราบรื่น รู้จักจังหวะไหนควรเข้าควรออกนี่คือสิ่งที่ทุกคนต่างได้รับรู้
สองแม้ตู้ซินถงจะไม่ชอบพูด แต่ทุกครั้งที่นางปรากฏตัว สายตาของทุกคนมักจะมองตาม
เหตุผลเพราะหนึ่งนางงดงามมากจริงๆ และท่าทางเอื่อยเฉื่อยเช่นนั้นช่างแฝงไปด้วยความงามที่เศร้าสร้อย
อีกอย่างสิ่งสำคัญที่สุด เสื้อผ้าบนตัวของนาง และการแต่งหน้าล้วนทำให้นางเป็สตรีที่น่าอิจฉานัก
จากสายตาของพวกนางณ ตอนนี้ เสื้อผ้าของทั้งสองคน มักจะแปลกใหม่โดดเด่นไม่เคยเห็นเสื้อผ้าเช่นนี้อยู่บนตัวของพวกเขามาก่อน
แค่เสื้อผ้าก็ช่างเถิดเครื่องประดับนั้น แล้วยังเครื่องประดับดอกไม้พวกนี้ ต่างเป็รูปแบบที่คนทางเขตเปียนโม่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ของรูปแบบใหม่ที่ทำให้เปิดหูเปิดตาเช่นนี้ภายในชั่วพริบตาก็คว้าใจของบรรดาสตรีชาวเปียนโม่ได้อย่างอยู่หมัด
ในใจของสตรีทุกคนต่างมีความฝันที่จะเป็องค์หญิงและความฝันนี้รวมถึงการมีเสื้อผ้าเครื่องประดับสวยงาม
หลังจากเห็นเสื้อผ้าเครื่องประดับรูปแบบแปลกใหม่บนตัวของตู้ซินถงทุกคนจึงเริ่มที่จะถามกันขึ้นมา
อย่างไรแม้ที่เขตเปียนโม่จะกว้าง แต่กว้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ครอบครัวของผู้ใดมีสิ่งของใหม่หรือรูปแบบใหม่ล้วนจะถูกทุกคนรู้หมด แต่รูปแบบบนตัวของทั้งสองคนนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวไหนๆของพวกนางจะรู้
หลังจากสอบถามไปแล้วตอนที่ได้รู้ว่าครอบครัวนี้ยังสร้างร้านค้าไม่เสร็จ ชื่อว่าร้านแหล่งรวมความงามสตรีเขตเปียนโม่ทุกคนต่างเริ่มรอคอยกับร้านนี้กันอย่างมาก
ในทุกๆครั้งหนิงเซียงจะค่อยๆ พูด พี่สาวของตนเองคนนั้นกำลังเริ่มเปิดตัวของพวกนี้
บางครั้งก็เผยความรู้ด้านความงามออกมายิ่งเป็เคล็ดลับที่ตู้ซินถงซึ่งเป็คนที่งดงามสะกดคนเช่นนี้ทั้งหมดนั้นเพราะในทุกวันจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านความงามคนนี้มาแต่งหน้าให้นาง
แม้แต่เสื้อผ้าบนตัวของนางและเครื่องประดับ ก็ล้วนแต่เป็ผู้เชี่ยวชาญคนนี้เป็คนออกแบบ
ในตอนนั้นทุกคนต่างเริ่มที่จะรอคอยร้านแหล่งรวมความงาม
อย่างไรหลายคนที่เปียนโม่ต่างไม่ได้ขาดแคลนเงินที่พวกนางขาดแคลนมีเพียงจะทำอย่างไรให้ผิวพรรณและการแต่งหน้าบำรุงใบหน้าให้ดีขึ้นกว่านี้ได้อย่างไรตอนนี้จู่ๆ ได้ยินคนพูดกันว่าสามารถทำให้ผิวน่าเกลียดของพวกนางเปลี่ยนมานุ่มชุ่มชื้น ลื่นมือ ยั่วยวนคน...
พวกนางเหล่าสตรีต่างตื่นเต้นกันทั่วจนกระทั่งมีความทะเยอทะยานอยู่สักหน่อย ยิ่ง้าให้เื่เช่นนี้มีเพียงตนเองที่สามารถเสพสุขไปกับมันได้จะดีมากที่สุด
หลังจากรับรู้ได้ถึงความทะเยอทะยานของคนพวกนี้หนิงเซียงจึงพูดเปิดเผยเื่นี้ออกมาในเวลาที่เหมาะสมว่าที่มาที่ไปของเพื่อนของนางคนนี้น่าใมาก มีความเกี่ยวข้องกับคนเบื้องบนโดยเฉพาะเ้านายที่อยู่เื้ัของนางยิ่งเป็คนมีที่มาที่ไปน่าใ แม้พวกนางทุกคนออกมายังสามารถพึ่งพาเ้านายที่อยู่เื้ัสตรีนางนี้ออกมาจัดการเื่ราวทุกอย่าง…
เกี่ยวกับที่มาที่ไปของพวกหนิงเซียงสองคนมีหลายคนคอยสืบหามาไม่น้อย แต่ข่าวคราวที่ได้มานั้น เพียงแค่ทำให้คนรู้สึกว่า คนเหล่านี้เป็คนที่มีภูมิหลัง
แม้เป็ใต้เท้าเ้าเมืองส่งคนไปสืบหาข่าวสิ่งที่ได้กลับมาเป็เพียงข้อมูลที่ไม่ชัดเจน คนพวกนี้ เหมือนจะมีภูมิหลังไม่น้อยอย่างไร คนประเภทนี้ขอแค่ไม่มาทำอะไรกับถิ่นของตน พวกเขาจะทำสิ่งใด นั่นถือเป็เื่ของพวกเขาแล้ว
ดังนั้นจึงมีฮูหยินเ้าเมืองเข้ามาเชื่อมสัมพันธ์ด้วยตนเองทั้งยังเชิญพวกหนิงเซียงให้เข้าสู่วงสังคมของเหล่าฮูหยิน
และนี่ก็หมายความว่าวงสังคมของฮูหยินจากครอบครัวที่ร่ำรวยแค่เขตเปียนโม่ได้รับสมาชิกใหม่สองคนเป็ที่เรียบร้อย
ยามทั้งสองคนเข้ามาในห้องรับแขกของบรรดาสตรีการแต่งตัวของตู้ซินถงดึงดูดสายตาของสตรีท่านหนึ่งในชั่วพริบตา
คนคนนี้คือหรูฮูหยินที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเขตเปียนโม่!
“ดีๆรูปแบบของชุดไม่เลวเลยจริงๆ การออกแบบเช่นนี้ แค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนของที่นี่และการเข้าคู่กันของสองสี ยิ่งดีเลิศนัก ไม่เลวๆ อาภรณ์ชุดนี้ข้าชอบนัก”
หรูฮูหยินมองทั้งหมดด้วยความพอใจนางจุ๊ปากออกมาด้วยความประหลาดใจ สนใจแต่มองเสื้อผ้าบนตัวของตู้ซินถงส่วนหน้าตาของนางจะเป็เช่นไร ได้ถูกนางเมินไปหมดแล้ว
สตรีที่งดงามราวดอกไม้ที่ยืนอยู่ข้างตัวนางดูแล้วเป็สตรีวัยแรกแย้มดึงแขนของหรูฮูหยินเอาไว้
“ท่านแม่คุณหนูเข้ามายังไม่ทันได้นั่ง เหตุใดท่านจึงได้รั้งเอาไว้ไม่ปล่อยเช่นนี้เล่า”
หรูฮูหยินหัวเราะดังลั่นและปล่อยชุดของตู้ซินถง
ตอนนี้เองที่นางได้เหลือบตาขึ้นมาพิจารณาคนคนนี้อย่างจริงจังงดงาม และเป็สตรีที่มีเสน่ห์มาก พอได้มองแม้แต่หรูฮูหยินก็อดจะชื่นชมไม่ได้
“คุณหนูอู๋ซวงใช่หรือไม่มิน่าเล่าหลังจากที่เ้ามา ล้วนมีคำเล่าลือเกี่ยวกับเ้าไปทั่ว ที่แท้คุณหนูก็มีค่าพอจะให้คนเล่าลือ เชิญคุณหนูอู๋ซวงทางนี้เ้าค่ะ”
ตู้ซินถงพยักหน้าหัวเราะเบาๆแต่ไม่ได้ส่งเสียง
กลับเป็หนิงเซียงที่รีบพูดแทรกขึ้นมา
“หรูฮูหยินใช่หรือไม่เ้าคะน้องสาวของข้าคนนี้เป็คนชอบเก็บตัวแต่กำเนิดแต่ไหนแต่ไรก็กักตัวอยู่ที่เรือนไม่เคยออกมาด้านนอก หากไม่ใช่คนในครอบครัวเร่งให้นางแต่งงานต้องให้ข้าพาออกมาสักหน่อย ไม่เช่นนั้นจะยังคงหมกตัวอยู่เป็แน่ท่านไม่ต้องไปพูดกับนางหรอกเ้าค่ะ มาถามนางเช่นครั้งนี้ นางก็ร้อนใจจนไม่รู้จะพูดอย่างไรยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเห็นคนร่ำรวยเช่นฮูหยิน นางยิ่งไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา มาๆพวกเรามาตรงนี้เถิด ยามแรก ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงอันแสนยิ่งใหญ่ของหรูฮูหยินนะเ้าคะจากที่ได้ยินมาสินค้าหนังของเปียนโม่ล้วนแต่เป็สินค้าผูกขาดของครอบครัวท่านไปเกือบครึ่งแล้ว”
เชิงอรรถ
[1] 彼岸花 ดอกฮิกันบานะหรือดอกพลับพลึงสีแดง
