หลิวสุ่ยเยว่ได้ยินก็หันมามองดูว่าผู้ใดกันที่เรียกขานนางด้วยชื่อจริง พอเห็นว่าเป็จื่อต้าหลง แววตานางก็อ่อนโยนขึ้นมาทันที
“เป็ท่านเองหรือ ต้าหลง….” หลิวสุ่ยเยว่กล่าว
ทั้งสองทักทายกันอย่างสนิทสนม ทำเอาชายรอบข้างต่างพากันอิจฉาจื่อต้าหลง ไอ้เ้านี่เป็ใครกันถึงสนิทกับนางฟ้าได้ถึงขนาดนี้ จื่อต้าหลงไม่สนใจเสียงรอบข้างยังคงคุยกับนางต่อไป จนกระทั่ง….
“หมายเลข 184 จื่อต้าหลงเชิญขึ้นเวที” ผู้คุมการประลองกล่าว
จื่อต้าหลงทะยานร่างด้วยวิชาตัวเบา เขาขึ้นไปบนเวทีโคจรพลังลมปราณ ฟาดฝ่ามือธรรมดาไปที่ กำแพงมรกต
“เปรี้ยงงง!!”
“30 คะแนน หมายเลข 184 ผ่าน”
หลังจากที่เขาลงมาจากเวทีประลอง เฉิงไฉเซียวกับลวี่เหรินก็เดินเข้ามาหา ทำให้สามหนุ่มได้รวมตัวกันอีกครั้ง
“เ้าทำได้ดีพอสมควรเลยนะ ต้าหลง” เฉิงไฉเซียวกล่าว
“ฮ่าๆๆ จริงๆข้าทำได้ดีกว่านี้อีกนะ ข้าแค่ไม่อยากโดดเด่นจนเกินไป” จื่อต้าหลงตอบ
“เ้าจะขี้ระแวงเกินไปมั้ย” ลวี่เหรินถามอย่างสงสัย
“ไม่หรอกข้าไม่ชอบความโดดเด่นเกินไปนัก มันรบกวนความสงบสุขของข้า” จื่อต้าหลงตอบยิ้มๆ
“เ้านี่ก็แปลกคนดีนะ” เฉิงไฉเซียวกล่าว
เวลาผ่านไป
เปรี้ยง!! 29 คะแนน หมายเลข 544 ลวี่เหรินผ่าน
เปรี้ยง 32 คะแนน หมายเลข 1,585 เฉิงไฉเซียวผ่าน
พวกเขาทั้งสามผ่านการทดสอบรอบที่สองไปได้อย่างง่ายดาย แต่มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ผ่าน เงื่อนไขในการทดสอบครั้งนี้คือ ต้องทำให้ได้ 10 คะแนนขึ้นไป จึงจะถือว่าผ่าน จากผู้คนนับหมื่นแสน เหลือเพียงแค่ไม่ถึง 1,000 คน เป็การทดสอบที่โหดร้ายมาก
การประลองรอบต่อไปจะเป็การต่อสู้ ตัวต่อตัวแล้ว โดยจะประลองพร้อมกันถึง 8 สนาม สนามละ 100 คน เพื่อค้นหา 8 อันดับแรกที่จะต้องประลองกันอีกที อย่างน้อยตอนนี้พวกจื่อต้าหลงก็ติดอันดับ 800 อันดับแรกแล้ว ถึงตกรอบไวก็ไม่มีอะไรน่าเกลียด
“เอาล่ะผู้ที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 800 คน เชิญมาหยิบป้ายประลอง” ผู้คุมการประลองกล่าวขึ้น
หลังจากที่จับเลือกสายกันแล้ว ถือว่ายังโชคดี ที่ไม่ได้สนามเดียวกัน การประลองรอบนี้จะเป็การประลองแบบแพ้คัดออก แต่ละสนามต้องประลองตัวต่อตัวกันถึง 9 รอบกว่าจะได้ผู้ชนะของสนามนั้น
การประลองจะเริ่มในวันพรุ่งนี้เพื่อให้เหล่ายอดยุทธได้พักฟื้นพลังร่างกาย พร้อมออกศึก 9 รอบติด
พวกจื่อต้าหลงพากันไปพักผ่อนในโรงเตี๊ยมที่ได้จองไว้ พวกเขาสั่งอาหารและสุรามาดื่มกินกัน
“พวกเ้าได้ลานประลองหมายเลขไหนกันบ้างรึ”
“ข้าได้หมายเลข 8” จื่อต้าหลงกล่าว
“ข้าได้ลานประลองหมายเลข 3” เฉิงไฉเซียวตอบ
“ส่วนข้าได้หมายเลข 2” ลวี่เหรินตอบ
“พรุ่งนี้ต้องต่อสู้ถึง 9 รอบติดพวกเ้าคิดเห็นอย่างไรบ้าง” จื่อต้าหลงถาม
“งานนี้ข้าว่าหนักเอาเื่อยู่นะ สู้ติดต่อโดยไม่พักถึง 9 รอบติด” เฉิงไฉเซียวตอบ
ลวี่เหรินนั่งจิบสุรากล่าวว่า “สิ่งที่ยากคือต้องสะสมพลังไว้สู้ในรอบต่อไปด้วย หากหมดแรงั้แ่รอบแรก รอบต่อไปคงจะไม่ดีนัก”
นับเป็เงื่อนไขที่ยากพอสมควร แต่พวกเขาก็พร้อมสู้เต็มที่
เช้าวันถัดมา ผู้เข้าแข่งต่างพากันไปที่สนามประลอง มีผู้คุมการสอบของทุกสนามทั้งหมด 8 คน และในเวทียังมีการวางข่ายค่ายกลเป็รูปโดมรอบลานประลอง เพื่อป้องกันผู้ชมการประลองอีกด้วย
จื่อต้าหลงไปยืนรอที่ลานประลองของตัวเอง ตอนนี้แต่ละสนามต่างก็เรียกผู้เข้าแข่งเพื่อขึ้นไปประลองกันหมดแล้ว
“ลานประลองหมายเลข 8 จื่อต้าหลง ปะทะ หวงเต้า!!” ผู้คุมแข่งกล่าว
หลังจากที่โดนเรียกชื่อ พวกเขาทั้ง 2 ก็ทะยานร่างขึ้นไปบนเวทีประลอง หวงเต้านั้นเป็ชายร่างใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้าม พลังบ่มเพาะของเขาอยู่ในขั้นลมปราณจิตขั้นที่สองเหมือนจื่อต้าหลง ดูเหมือนจะเป็สายต่อสู้ด้วยมือเปล่าเช่นเดียวกับจื่อต้าหลง
“เริ่มได้!!”
สิ้นเสียงกรรมการ หวงเต้าก็ทะยานร่างเข้ามา เขายิงหมัดแฝงลมปราณมาใส่จื่อต้าหลงในทันที จื่อต้าหลงโคจรลมปราณไปที่ฝ่ามือยืนรับหมัดตรงๆด้วยมือเดียว หมัดนี้แม้จะรุนแรง แต่ไม่อาจทำให้จื่อต้าหลงถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว วิชาเกราะกายาขั้นสูงทำให้เขาทรงพลังมากในด้านร่างกาย
หวงเต้าใมากที่หมัดของเขาถูกคู่ต่อสู้รับได้อย่างง่ายดาย เขาดีดตัวกลับหลังไปดูเชิงไม่ได้ผลีผลามเข้ามาเหมือนตอนแรกอีกแล้ว หลังจากยืนจ้องตากันสักพัก หวงเต้าก็บุกเข้ามาใหม่ เขาใช้เพลงหมัดประจำตระกูลเขา ระดมชกใส่จื่อต้าหลง
จื่อต้าหลงทั้งรับทั้งปัดหมัดของเขาได้ทุกหมัดอย่างง่ายดาย หวงเต้าใช้พลังไปมากมายก็มิอาจล้มคู่ต่อสู้ลงได้ ในที่สุดเขาก็เผยช่องโหว่ จื่อต้าหลงดวงตาเปล่งประกาย ยกขาเตะไปที่ก้านคอของหวงเต้า ทำให้เขาเซ เห็นดังนั้นจื่อต้าหลงก็รีบซ้ำทันที เขาปล่อยฝ่ามือัม่วงใส่หน้าอกหวงเต้าอย่างรวดเร็วเพียงฝ่ามือเดียวทำให้หวงเต้าบินลงสนามไปพร้อมกระอักเื
ผู้ชนะ!! จื่อต้าหลง!! ผู้คุมสอบประกาศชัยชนะให้จื่อต้าหลง
หลังจากชนะแล้วเด็กหนุ่มก็เดินลงจากเวที เพื่อรอการประลองรอบต่อไป เขาหันไปมองลานประลองอื่น แต่ละสนามก็สู้กันอย่างดุเดือดเช่นกัน เวลาผ่านไป ในที่สุดก็มาถึงรอบสองของจื่อต้าหลง
ลานประลองหมายเลข 8 จื่อต้าหลง ปะทะ หยางเทียน!! ผู้คุมการแข่งกล่าวเสียงดัง
หยางเทียนนั้นรูปร่างผอมบางใช้กระบี่เป็หลัก พลังบ่มเพาะระดับปราณจิตขั้นที่ 2 หลังจากที่ทั้งสองขึ้นมาบนลานประลอง ผู้คุมการประลองประก็ประกาศขึ้นมาว่า “เริ่มได้!!”
หยางเทียนชักกระบี่ออกจากฝักอย่างเชื่องช้า
“อาวุธเ้าล่ะ” เขาถามจื่อต้าหลงด้วยท่าทีหยิ่งผยอง
“อาวุธข้าก็คือตัวข้า” จื่อต้าหลงตอบยิ้มๆ
ทันใดนั้นหยางเทียน ก็พุ่งเข้ามาพร้อมแทงกระบี่ไปทางจื่อต้าหลง จื่อต้าหลงหลบกระบี่แรกได้ หยางเทียนรุกไล่อย่างต่อเนื่องด้วยเพลงกระบี่ของเขา เขาฟาดฟัน เสียบแทงด้วยเพลงกระบี่แฝงลมปราณมาทุกการโจมตี ทำให้จื่อต้าหลงต้องหลบอย่างต่อเนื่อง หยางเทียนเป็ฝ่ายบุกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว เขาใช้เพลงกระบี่ไปแล้วกว่า 100 กระบวนท่า แต่ก็ไม่อาจทำอะไรจื่อต้าหลงได้เลยแม้แต่นิดเดียว
จื่อต้าหลงรอจังหวะที่หยางเทียนเหนื่อยจากการโจมตี เขาโจมตีสวนไปด้วยฝ่ามือัม่วง กระบวนท่าแรก ัม่วงทะยานฟ้า เขาใช้พลังไปถึง 5 ส่วน ัม่วงออกศึกกระทบเข้าไปที่หน้าอกหยางเทียน หยางเทียนโดนโต้กลับอย่างรวดเร็วคิดจะหลบแต่ก็หลบไม่ทันแล้ว เขาจึงเอากระบี่มาป้องกัน
เปรี้ยง!! หยางเทียนโดนฝ่ามือัม่วงไปเต็มๆ เขากระเด็นไปพร้อมกระอักเื กระบี่ในมือปลิดปลิว เขาลงไปนั่งคุกเข่าไม่สามารถยืนขึ้นมาต่อสู้ได้อีก…
“สนามหมายเลข 8 ผู้ชนะ จื่อต้าหลง!!” ผู้คุมการประลองกล่าวเสียงดัง!!
หลังจากนั้นคู่ต่อสู้ที่จื่อต้าหลงพบเจอ ทั้ง 9 คนก็ไม่มีใครที่จะสู้กับเขาได้เลย และที่สำคัญเขาโจมตีเพียงแค่คนละ 1 ฝ่ามือเท่านั้น
ผู้ชนะแห่งลานประลองที่ 8 จื่อต้าหลงแห่งสำนักปลาทอง!!
เสียงเฮจากที่นั่งผู้ชมดังกระหึ่ม
“จื่อต้าหลงช่างร้ายกาจยิ่งนัก ถือเป็ม้ามืดของการประลองรอบนี้เลย” ชายคนนึงพูดขึ้น
“ทางด้านผู้ชนะของลานประลองหมายเลข 2 นามลวี่เหรินเองก็ไม่ธรรมดา เขาเองก็ชนะโดยแทบไร้รอบขีดข่วนเช่นกัน” ผู้ชมคนนึงกล่าวขึ้น
"ยังมี เฉิงไฉเซียวผู้ชนะของลานประลองที่ 3 อีก เ้าคนนี้วิธีต่อสู้ดุดันร้ายกาจ เพลงหมัดของเขาน่ากลัวมาก
ไหนจะแม่นางหลิวสุ่ยเยว่ ของลานประลองหมายเลข 5 อีก นางสามารถคว้าชัยมาได้อย่างง่ายดาย
การประลองยุทธรุ่นเยาว์แคว้นลี่ปีนี้ช่างดุเดือดยิ่งนัก น่าสนุก น่าสนใจจริงๆ" กลุ่มผู้ชมกล่าว
