เขติญญาตะวันออก คือพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในเขติญญา บัดนี้พบโชควาสนาอันหาได้ยาก มีผู้เข้มแข็งทั่วสารทิศมาชุมนุมกัน เพราะเขติญญาตะวันออกมีสุสานของผู้เข้มแข็งขั้นดารา์ที่วายชนม์ท่านหนึ่งปรากฏขึ้น ด้วยเหตุนี้ เมื่อกลุ่มอิทธิพลจำนวนมากในพื้นที่ขนาดใหญ่ของเขติญญาทั้งสี่ได้ยินข่าวก็พากันเคลื่อนไหว มาชุมนุมกันที่นี่ เพื่อส่วนแบ่งผลประโยชน์
นี่คือสุสานของผู้เข้มแข็งขั้นดารา์เชียวนะ ต้องมีสิ่งล้ำค่ามากมายแน่
ถึงขั้นได้พบโชควาสนาอันหาได้ยาก
ดังนั้น พวกเขาจะพลาดไม่ได้
วันนี้เขติญญาตะวันออกมีฝูงชนคลาคล่ำ ทว่ามีสองคนมาถึงที่นี่แต่เนิ่นๆ
“ไม่รู้ว่าพวกเชี่ยนเอ๋อร์จะมาหรือไม่”
เซียวเฉินพึมพำอยู่บนหอไจซิง พวกเขาแยกจากกันมาสามเดือนแล้ว ยังไม่มีข่าวคราวสักนิด ส่วนที่นี่มีอันตรายอย่างยิ่ง คิดถึงตรงนี้ ดวงตาก็ฉายแววกังวล
เสิ่นเล่ยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกวาดตามองเซียวเฉินแล้วเอ่ยเรียบๆ “กังวลไปก็ไม่มีประโยชน์”
เซียวเฉินยิ้ม
ความจริง ต่อให้ตนเองกังวลแล้วอย่างไรเล่า ตนเองค้นหามาครึ่งเดือนก็ยังไม่มีร่องรอยของพวกเขา กลับพบเสิ่นเล่ยแทน หลังจากคนทั้งสองได้ยินว่ามีสุสานของผู้เข้มแข็งปรากฏขึ้นที่เขติญญาตะวันออกจึงเดินทางมาด้วยกัน ขณะที่แสวงหาโชควาสนาก็คิดจะตามหาคนของสถานศึกษาชางหวงที่มาหาประสบการณ์ที่นี่ด้วย
ในเวลาเดียวกันนี้ มีเสียงอุทานดังมา
เซียวเฉินและเสิ่นเล่ยหันหน้าไปมองพร้อมกัน เห็นรถเทียมัพิภพขนาดั์คันหนึ่งแล่นมา บนนั้นมีคนจำนวนมากยืนอยู่
ผู้นำคือบุรุษหนุ่มคนหนึ่ง สวมชุดขาวยิ่งกว่าหิมะ รูปโฉมหล่อเหลา ดวงตาสีทองเปล่งประกายระยิบระยับ เจิดจรัสดุจดวงดารา ให้ความรู้สึกน่ากลัว รัศมีอันแข็งแกร่งทำให้ผู้คนไม่กล้าสบสายตา ประหนึ่งเขาเป็ราชันที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ก้มหน้ามองทวยราษฎร์ ทุกคนทางด้านหลังต่างมองบุรุษผู้นั้นอย่างเคารพนบนอบ ยิ่งบ่งชัดถึงฐานะของเขา
“คนสำนักเหยียนหยางของเขติญญาใต้มาแล้ว”
มีคนส่งเสียงอุทาน เขติญญาใต้มีกลุ่มอิทธิพลใหญ่ห้ากลุ่มปกครอง สำนักเหยียนหยางคือหนึ่งในบรรดานั้น
เห็นได้ถึงศักดิ์ฐานะของสำนักเหยียนหยางในเขติญญาใต้
ผู้มาอาจจะเป็โม่เส้าเยี่ยนเ้าสำนักน้อยของสำนักเหยียนหยาง มีคนมองบุรุษหนุ่มบนรถเทียมัพิภพแล้วดวงตาฉายแววตระหนก ทุกคนใและหลีกทางให้ ใบหน้าของโม่เส้าเยี่ยนบนรถเทียมัพิภพเผยรอยยิ้มผยอง
“อวดศักดามาก ถึงกับใช้ัพิภพลากรถ” เซียวเฉินหัวเราะเบาๆ
สมกับเป็บุตรหลานของกลุ่มอิทธิพลใหญ่ มือเติบจริงๆ
ทว่าเซียวเฉินเพิ่งเอ่ยจบ พลันรู้สึกได้ว่ามีรังสีเย็นเยียบส่งมา เซียวเฉินหันหน้าไปสบดวงตาสีทองคู่นั้น
เห็นสีหน้าโม่เส้าเยี่ยนเ็า จากนั้นรัศมีแข็งแกร่งก็ปกคลุมพวกเซียวเฉิน
เซียวเฉินขมวดคิ้ว รวบรวมพลังเสวียนในพริบตา แต่รัศมีของโม่เส้าเยี่ยนกลับสลายไป สุดท้ายยิ้มหยันให้เซียวเฉินราวกับกำลังเยาะเย้ยเขา
สายตาแบบนั้นทำให้สีหน้าเซียวเฉินอัปลักษณ์
ตนเองแค่พูดธรรมดาๆ ประโยคเดียวถึงกับถูกเยาะเย้ย นี่คือเื่ที่เขาทนไม่ได้
“เ้าหมายความว่าอย่างไร?”
เซียวเฉินเอ่ยวาจา น้ำเสียงแฝงความเย็นเยียบ สายตามองไปยังโม่เส้าเยี่ยนดุจกระบี่คมกล้า
เสิ่นเล่ยที่อยู่ด้านข้างก็มีสีหน้าไม่ค่อยดีเช่นกัน
ดวงเนตรงามมองคนบนรถเทียมแบบไม่มีความรู้สึกดีๆ เลยสักนิด
“เ้ากำลังพูดกับข้าหรือ?” โม่เส้าเยี่ยนยิ้มบางๆ มองเซียวเฉินอย่างไม่ใส่ใจ แต่เมื่อกวาดตาไปทางเสิ่นเล่ยแววตากลับเปลี่ยนไป
สาวงาม ไม่ว่าท่วงท่าหรือรูปโฉมล้วนเป็เอก
“ขอโทษเสีย”
เซียวเฉินมองโม่เส้าเยี่ยนแล้วเอ่ยอย่างเ็า เขาไม่สนว่าอีกฝ่ายเป็ใคร ในเมื่อล่วงเกินตนเองก็ต้องขอโทษ
ส่วนใบหน้าของโม่เส้าเยี่ยนยังมีรอยยิ้ม
“เ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอยู่กับใคร?”
เซียวเฉินเอ่ยเสียงเ็า “ข้าไม่สนว่าเ้าเป็ใคร และไม่สนว่าเ้าเป็ประมุขน้อยของกลุ่มอิทธิพลใด ในเมื่อเ้าหาเื่ข้าก็สมควรขอโทษข้า อย่างน้อยนี่คือการให้เกียรติกัน” ทุกคนที่มองพวกเซียวเฉินแบบเหยียดหยามดูแคลนถึงขั้นยังมีแววสงสาร
พวกเขาสองคนไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?
ถึงกับกล้ายั่วโทสะประมุขน้อยของสำนักเหยียนหยาง?
ศีรษะถูกประตูหนีบสินะ?
ถึงกับให้ประมุขน้อยของสำนักเหยียนหยางขอโทษพวกเขา? อย่าว่าแต่ยั่วโทสะเลย ถึงผู้อื่นฆ่าเ้าก็หาเป็ไรไม่
เพราะเื้ัของผู้อื่นคือสำนักเหยียนหยาง แล้วพวกเ้ามีอะไร?
หลบหลีกยังแทบไม่ทัน แต่พวกเ้ายังกล้าเสนอหน้า?
คงเบื่อชีวิตแล้วจริงๆ!
สีหน้าของโม่เส้าเยี่ยนแปรเปลี่ยนนิดๆ ใบหน้าที่มองเซียวเฉินประดับด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเอ่ยช้าๆ “เ้าอยากให้ข้าขอโทษ?”
พริบตาก็เปลี่ยนสีหน้าทันควัน “เ้ายังไม่คู่ควร ฉวยโอกาสที่ข้ายังไม่มีโทสะ ไสหัวไปให้พ้นจากสายตาข้า ไม่เช่นนั้นจะใช้โลหิตของเ้าปูถนนสายนี้ให้รถม้าข้าแล่น!” คำพูดของโม่เส้าเยี่ยนหยิ่งทะนง
เขาเป็ใคร ประมุขน้อยของสำนักเหยียนหยางกลุ่มอิทธิพลสูงสุดในเขติญญาใต้ มีศักดิ์ฐานะน่าเคารพถึงขั้นใด!
เขาคือผู้สืบทอดตำแหน่งประมุขในอนาคต แม้แต่ผู้าุโยังกริ่งเกรงเขาสามส่วน จู่ๆ ก็มีมดแมลงตัวหนึ่งพูดจาข่มขู่ในเขติญญาตะวันออก ทั้งยังจะให้เขาขอโทษ เป็เื่น่าขำเทียมฟ้าโดยแท้
“เ้าไสหัวไปได้แล้ว”
เอ่ยจบ โม่เส้าเยี่ยนจะหันกายจากไป แต่กลับถูกกระบี่เล่มหนึ่งขวางทาง
ตูม!
คมกระบี่ปักลงพื้น แผ่นดินะเื จากนั้นปริแตกเป็ทางยาว ตัวกระบี่คำราม แผ่ปราณกระบี่ไร้ที่สิ้นสุดดุจค่ายกลกระบี่นับหมื่น ปราณกระบี่พวยพุ่ง เบิกฟ้าในขณะนี้ดั่งแปลงกายเป็กระบี่เทพที่ทรงพลังสามารถสะบั้นทุกสิ่ง เื่นี้ทำให้คนสำนักเหยียนหยางทุกคนมีสีหน้าน่าเกลียด
ส่วนรอบด้านมีคนมามุงดูไม่น้อยเพราะความขัดแย้งของเซียวเฉิน เสิ่นเล่ย กับคนสำนักเหยียนหยาง
ทุกคนมองดูอยู่ไกลๆ เกรงว่าตนเองจะติดร่างแหไปด้วย
ยามที่เซียวเฉินลงมือขวางโม่เส้าเยี่ยน ทุกคนต่างสูดลมหายใจหนาวเหน็บ
เขาถึงกับลงมือจริงๆ! ลงมือกับคนของสำนักเหยียนหยาง!
ใช้กระบี่ขวางทาง ทรงพลังระดับใด!
ถึงขั้นมีคนไม่น้อยกำลังคาดเดาฐานะของพวกเซียวเฉิน คงไม่ใช่คนของกลุ่มอิทธิพลระดับสูงของเขติญญาตะวันออกหรอกนะ?
ไม่เช่นนั้น เหตุใดจึงกล้าขวางคนของสำนักเหยียนหยางต่อหน้าธารกำนัล
“บังอาจ!”
คนสำนักเหยียนหยางบริภาษอย่างเดือดดาล ปลดปล่อยพลังทั่วร่างออกมาทันที มีความสามารถขั้นเสวียนฟ้า ดวงตาคู่นั้นแทบพ่นไฟได้เหมือนย้อมด้วยหินหนืด แต่เซียวเฉินกับเสิ่นเล่ยกลับไม่เกรงกลัว คนทั้งสองเป็ผู้มีพร์ของสถานศึกษาชางหวง ย่อมมีความทะนงตน ชั่วขณะนี้สีหน้าของโม่เส้าเยี่ยนก็เปลี่ยนเป็เย็นเยียบ
พวกเขากล้าขวางทางตน?
ไม่รู้จักตายแท้ๆ
“ท่านอาซุน ฆ่าพวกเขาเสีย ทำให้พวกเขารู้ว่าสำนักเหยียนหยางเราไม่ใช่ว่าผู้ใดก็สามารถล่วงเกินได้!”
เสียงของโม่เส้าเยี่ยนเพิ่งสิ้นสุด ด้านหลังก็มีบุรุษวัยกลางคนก้าวออกมา มีความสามารถขั้นเสวียนฟ้าสองชั้นฟ้าระดับสูงสุด ซุนเซิ่งเสวียนคือหนึ่งในองครักษ์ของโม่เส้าเยี่ยน ความสามารถแข็งแกร่งและฝีมือไม่ธรรมดาในสำนักเหยียนหยาง
เห็นซุนเซิ่งเสวียนก้าวออกมา สะบัดมือลงโดยแรง
สายลมคลั่งม้วนตัวขึ้น พลังเสวียนเหิมเกริม มือเต็มไปด้วยแสงเสวียนอันน่าสะพรึงราวกับสังหารทุกสิ่งได้!
“รับความตาย!”
เซียวเฉินสืบเท้าขวางอยู่เบื้องหน้าของเสิ่นเล่ย สายตาเย็นเยียบ อีกฝ่ายล่วงเกินตนเองก่อน มิเพียงไม่ขอโทษ กลับหยามเกียรติตนเองต่างๆ นานา ตอนนี้ถึงขั้นใช้ผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนฟ้าลงมือสังหารตนเอง เซียวเฉินเกิดความชิงชังบุคคลเช่นนี้จากใจ หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ เซียวเฉินคงสับพวกเขาเป็ชิ้นๆ นานแล้ว
ตูม!
เซียวเฉินต่อยหมัดออก แผ่นดินะเื
หมัดนี้ เซียวเฉินออกสุดกำลังโดยไม่ยั้งมือ
ในเมื่อไม่ขอโทษ เช่นนั้นก็เอาคืน
ให้พวกเขารู้จุดจบของการล่วงเกินตนเอง!
ชั่วพริบตา ซุนเซิ่งเสวียนรู้สึกว่าแขนทั้งสองข้างเ็ปเหมือนหมัดนี้ต่อยลงบนแผ่นเหล็กก็มิปาน
เซียวเฉินพลิกมือรับลูกเตะของซุนเซิ่งเสวียนไว้ เร่งเร้าแรงัเถื่อนยุคกำเนิดโลก คว้าขาของซุนเซิ่งเสวียนฟาดลงพื้นอย่างแรง ได้ยินเสียงตูม ซุนเซิ่งเสวียนกระแทกพื้นเป็หลุมลึกภายใต้เรี่ยวแรงมหาศาล เซียวเฉินกลับไม่หยุดมือ สะบัดแขนฟาดซุนเซิ่งเสวียนกับพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ละครั้งฟาดจนเป็หลุมลึก
คนที่เห็นต่างอกสั่นขวัญแขวน
แม้แต่เสิ่นเล่ยก็หวาดกลัว
ซุนเซิ่งเสวียนถูกฟาดจนโลหิตไหลไม่หยุด ความสามารถขั้นเสวียนฟ้าสองชั้นฟ้าถึงกับถูกเซียวเฉินทรมานเยี่ยงสุนัข
นี่คือผู้มีความสามารถแข็งแกร่งเพียงใด!
“เขายังเป็คนอยู่หรือไม่?”
ทุกคนใจนลูกตาแทบร่วงพื้น ส่วนสีหน้าของโม่เส้าเยี่ยนก็อึมครึมจนน่ากลัว
สภาวะแข็งแกร่งมารวมตัวกันฉับพลัน