เกิดความโกลาหลไปทั่ว
ทุกคนมองไปที่หลัวเลี่ยด้วยความประหลาดใจ แปลกใจ และสนุกสนาน
ในทางกลับกัน คนของเผ่าัดูไม่พอใจ
“เ้า เ้าบังอาจท้าทายองค์หญิงสามที่มีพร์ที่สุดในเผ่าัของพวกเรา”
“ช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง มอบเขาให้ข้า ข้าจะจัดการเขาเอง”
“เอาชนะเขา! เอาชนะเขา!”
คนของเผ่าัโกรธมาก ราวกับว่าการที่หลัวเลี่ยท้าทายหลงเยียนหรันเป็การดูถูก
แม้ว่าคนรอบข้างจะไม่ได้พูดเกินจริง แต่พวกเขาทั้งหมดก็ยิ้มด้วยความหมายเดียวกัน พวกเขายังมองว่าแผนการของหลัวเลี่ยที่จะประลองกับหลงเยียนหรันเป็เื่ตลก นี่เป็การดูถูกตัวเองไม่ใช่หรือ?
มีเพียงหลงเยียนหรันเท่านั้นที่ยิ้มด้วยความโกรธ
“ั้แ่ข้าก้าวเข้าสู่โลกภพจิตั องค์หญิงอย่างข้าก็ไม่เคยได้ลิ้มรสรสชาติของความพ่ายแพ้เลยสักครา คนเช่นเ้าพยายามที่จะเอาชนะข้าหรือ ดี! วันนี้องค์หญิงเช่นข้าจะสั่งสอนเ้าเอง”
คิ้วของหลัวเลี่ยกระตุกเมื่อได้ยิน
เป็ที่รู้กันว่าเผ่าันั้นควบคุมภพจิตั ต่อให้เป็เทพก็ยังต้องไว้หน้าและปฏิบัติตามกฎของเผ่าั ดังนั้นเผ่าัจึงภูมิใจในตนเองมาก
เวทีัที่พวกเขาสร้างขึ้นในภพจิตั เป็การต่อสู้ของผู้มีวรยุทธ์ในระดับเดียวกันเสมอ
ไม่ว่าจะเป็ระดับใด ก็จะถูกระงับให้อยู่ในระดับขั้นพลังเดียวกัน มันเป็การต่อสู้ที่ยุติธรรม เพราะเหตุนี้ชัยชนะในโลกของภพจิตัจึงขึ้นอยู่กับพร์และการเรียนรู้อย่างแท้จริง
“ไม่เคยพ่ายแพ้? เ้าคงไม่ได้ประลองไปสองสามครั้งใช่ไหม” หลัวเลี่ยเย้าแหย่
เขาดูเหมือนคนโง่ และท่าทางของเขาที่ดูไม่เข้าใจโลกแห่งภพจิตัก็ทำให้เกิดเสียงหัวเราะ
“โง่เง่า!”
“บ้า!”
“นี่ยังเด็กอยู่หรือเปล่าถึงได้ไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าโอ้อวดว่าเขา้าใช้องค์หญิงสามสร้างชื่อให้ตัวเอง”
คนรอบข้างหลายคนหมดความสนใจ
ในตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันจะมีความน่าตื่นเต้นสักหน่อย แต่เ้ามีัอยู่ในเป้าคนนี้ดูจะไม่เข้าใจอะไรเลย ช่างน่าขันจริงๆ
หลงเยียนหรันยิ้มอย่างประชดประชัน และโบกมืออย่างไม่ตั้งใจ
แสงและเงาวูบวาบอยู่ข้างหลังนาง พลันใบบันทึกคะแนนของนางก็ปรากฏออกมา
ชนะหนึ่งร้อยสามสิบสองครั้งและแพ้ศูนย์ครั้ง
ในจำนวนทั้งหมดนั้น มีการต่อสู้ห้าสิบเอ็ดครั้ง ที่เป็การต่อสู้กับบุคคลผู้แข็งแกร่งที่มีระดับสูงกว่าที่ถูกลดระดับลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกัน
เมื่อหลัวเลี่ยเห็นใบบันทึกคะแนน เขาก็แอบคิดว่าหลงเยียนหรันนั้นน่าทึ่งมาก
บุคคลที่มีพลังระดับสูงนั้น แม้ลดระดับลงมาเหลือระดับเดียวกันแล้ว แต่การต่อสู้ย่อมแตกต่างจากการต่อสู้กับคนที่อยู่ในระดับเดียวกันอย่างสิ้นเชิง เพราะยิ่งระดับพลังสูงเท่าไร ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ก็จะมากขึ้นเท่านั้น พลังก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น และทักษะด้านต่างๆ เช่น การใช้พลังภายใน การประสานงานของร่างกาย ย่อมเหนือกว่ามาก ดังนั้นแม้จะถูกกดให้อยู่ในระดับพลังเดียวกันก็ยังถือว่าได้เปรียบอยู่ดี
เพราะเหตุนี้หลงเยียนหรันจึงจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน
บางคนเคยเห็นความน่ากลัวของหลงเยียนหรัน ซึ่งเป็ที่รู้กันว่านางยังมีชื่อที่รู้จักกันดีในโลกแห่งภพจิตั นั่นคือ...องค์หญิงสามผู้ไร้พ่าย!
“เ้าโง่เขลามาก และสำหรับคนเช่นเ้า ข้าไม่สนใจแม้แต่จะมองด้วยซ้ำ” หลงเยียนหรันเย้ยหยัน “แต่ในเมื่อนางใช้เ้า ชื่อของเ้าทำให้ข้าโกรธมาก ดังนั้นข้าคนนี้จะสั่งสอนให้เ้ารู้สึกเสียใจที่มาที่ภพจิตั และข้าจะบอกเ้าอย่างชัดเจนว่า ครั้งนี้ข้าคนนี้จะเอาชนะเ้า เพื่อให้เ้าไม่สามารถมีที่ยืนในโลกแห่งภพจิตันี้ได้”
หลัวเลี่ยลูบจมูกและยิ้ม “ได้สิ ถ้าข้าเอาชนะเ้าไม่ได้จริงๆ ข้าจะยอมโดนลงโทษ”
มุมปากของหลงเยียนหรันยกขึ้นเล็กน้อย และนางก็เชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “เ้ากลัวหรือ หึ! ชื่อที่ข้าคนนี้ตั้งให้ในตอนนั้นก็ถือว่าถูกแล้ว เ้านุ่มนิ่มตรงเป้านั้นเป็สิ่งที่ไร้ประโยชน์ที่สุด”
บางครั้งก็ไม่สามารถอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปได้
หลัวเลี่ยรู้สึกโกรธในใจเช่นกัน เมื่อถูกใครบางคนดูถูก เขาอยากจะตอกกลับจริงๆ แต่มันไร้ศักดิ์ศรีเกินไปที่จะด่าผู้หญิง ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเ็า “ข้า้ารับการสั่งสอนจากองค์หญิงสามจริงๆ หวังว่าเ้าจะแข็งแกร่งอย่างที่เ้าพูด”
“หลังจากถูกด่าไม่กี่ครั้ง ก็ทำตัวสุภาพเหมือนผู้ชาย คนงี่เง่า!” หลงเยียนหรันยังคงปากแข็ง พูดอย่างไร้ความปรานี
“องค์หญิงสามแห่งเผ่าัจงจำไว้” หลัวเลี่ยพูดอย่างเ็า “เ้าทำให้ข้าโกรธแล้ว”
หลงเยียนหรันจงใจยิ้มอย่างดูถูกเมื่อนางได้ยินคำพูดนี้
ผู้คนรอบข้างต่างหัวเราะออกมาเสียงดังเพราะตลกหลัวเลี่ย
หลัวเลี่ยหายใจเข้าลึกๆ และสงบใจลง การทะเลาะเบาะแว้งไม่มีประโยชน์ เริ่มลงมือเลยเถอะ
เขามองไปรอบๆ เห็นสนามประลองัในระยะไกล และเขาก็เดินไปทางนั้น
หลงเยียนหรันเม้มริมฝีปาก “กล้าที่จะไปจริงๆ”
บางคนติดตามชมด้วยความตื่นเต้น
สนามประลองัมีขนาดใหญ่มาก และเป็สถานที่สำหรับผู้ที่้าต่อสู้ในภพจิตั
แม้จะเป็เพียงสนามเดียว แต่ก็สามารถจัดการประลองได้หลายพันครั้งในเวลาเดียวกัน
สำหรับผู้เริ่มต้นเช่นหลัวเลี่ยที่ไม่มีสถิติ เขาต้องผ่านการทดสอบบางอย่างหาก้าเข้าสู่สนามประลองั แต่เนื่องด้วยคู่ต่อสู้ของเขาคือหลงเยียนหรัน ดังนั้นเขาจึงได้รับการยกเว้นจากทุกสิ่ง นอกจากนี้ผู้รับผิดชอบสนามประลองัยังเป็คนของเผ่าั เมื่อเห็นว่าชื่อของหลัวเลี่ยคือมีัอยู่ในเป้า เขาก็โกรธเช่นกัน แน่นอนว่า เขาหวังว่าหลงเยียนหรันจะสอนคนผู้นี้ที่ทำให้เผ่าัต้องอับอายได้
เมื่อเข้าสู่สนามประลองั ก็พบว่าเป็สถานที่ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
คนภายนอกไม่สามารถได้ยินเสียงภายในสนามประลองัได้ เป็เพราะมันถูกปกคลุมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภายนอก ทว่าภายในนั้นค่อนข้างครึกครื้น
เดิมทีโลกของภพจิตันั้นอิสระมาก แม้แต่ศักดิ์ศรีของขุนนางและสามัญชนก็สามารถปกป้องตนเองได้ จึงทำให้ผู้คนคลั่งไคล้ ดังนั้นการต่อสู้เป็สิ่งที่ง่ายที่สุดในการทำให้ผู้คนตื่นเต้น
สนามประลองัสามารถรองรับผู้คนนับล้านที่เข้าชมการต่อสู้ในเวลาเดียวกัน
ไม่ต้องแปลกใจ เพราะที่นี่ไม่ใช่โลกแห่งความจริง แต่เป็โลกระหว่างความจริงกับภาพลวงตา และแม้ว่าตัวตนของฝ่ายท้าดวลจะน่าทึ่ง แต่เผ่าัก็สามารถเปิดศึกพิเศษเพื่อผู้ชมได้ ซึ่งสามารถทำเงินได้เกือบครึ่งของพื้นที่ภพจิตั และผู้คนมากกว่าครึ่งของภพจิตัเอง ก็ดูการต่อสู้ผ่านการแพร่ภาพพิเศษ
ในขณะนี้มีการประลองมากกว่าสามร้อยสนามพร้อมกัน
การประลองเหล่านี้ทั้งหมดลอยอยู่ในอากาศ ปกคลุมด้วยพลังพิเศษ เป็พื้นที่อิสระ ผู้คนในสนามสามารถชมการประลองใดก็ได้ที่พวกเขา้า และพวกเขายังสามารถวางเดิมพันเพื่อเสี่ยงโชคได้อีกด้วย
“เ้าผู้ชายอ่อนแอ ถ้าเ้ายังเป็ผู้ชาย เลือกสนามัแท้จริงสิ” หลงเยียนหรันยังคงมีท่าทางที่หยิ่งผยอง
เมื่อคนที่ตามมาได้ยินคำพูดนั้น พวกเขาทั้งหมดก็แสยะยิ้ม และยังเป็รอยยิ้มที่น่ากลัว
เพราะทุกคนรู้ว่าหลัวเลี่ยมีความรู้ว่างเปล่าเกี่ยวกับโลกแห่งพบจิตั เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะดูบันทึกส่วนตัวของเขาอย่างไร และเขายิ่งไม่รู้ว่าการประลองในสนามประลองันั้นแตกต่างกันอย่างไร
สนามประลองนั้นมีสามประเภท
ประเภทแรกคือสนามัดิน สนามประเภทนี้แม้ว่าทั้งสองจะตายในการต่อสู้ พวกเขาก็จะไม่รู้สึกเ็ป และสามารถฟื้นคืนชีพ และต่อสู้ได้อีกครั้งโดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
ประเภทที่สองคือสนามัฟ้า สนามประเภทนี้ความเ็ปแท้จริงที่ได้รับจากการประลองคือครึ่งหนึ่งของการประลอง
ประเภทที่สามคือสนามัแท้จริง สนามประลองนี้จะเหมือนกับของจริงทุกประการ การาเ็หรือความเ็ปที่ได้รับเหมือนในความเป็จริง และความตายก็เหมือนกับถูกฆ่าจริง ดังนั้นจึงเป็ที่ยอมรับของนักรบตัวจริงมากที่สุด
ผู้คนหัวเราะ เพราะถ้าหลัวเลี่ยไม่เข้าใจและยอมรับข้อเสนอนี้ มันจะกลายเป็การวางยาตนเอง
ซึ่งในความเป็จริง หลัวเลี่ยก็ไม่เข้าใจจริงๆ
เขาตอบโดยไม่แม้แต่จะคิด “ได้ ถ้าเช่นนั้นก็เลือกสนามัแท้จริงเถิด”
หลงเยียนหรันยิ้ม และรอยยิ้มนั้นก็ไร้ความปรานีเล็กน้อย
คนจากเผ่าัยิ้ม และรอยยิ้มนั้นก็ป่าเถื่อนเล็กน้อย
คนดูยิ้ม และรอยยิ้มนั่นก็เยาะเย้ยเล็กน้อย
หลัวเลี่ยเป็คนเดียวที่ไม่เข้าใจ และเขาก็ไม่สนใจที่จะเข้าใจ เขาแค่คิดว่าในระดับเดียวกันนี้ จะมีใครในโลกนี้หรือไม่ที่จะเอาชนะเขาได้